สวัสดีครับ เจอกันอีกครั้งกับบันทึกการเดินทาง ที่จะพาคุณไปให้ถึงปลายฟ้า คราวนี้ บอกได้เลยว่า มาล้างแค้นคราวที่แล้ว ที่มาเที่ยวโดนแต่ฝน คราวนี้มาเที่ยวเอาให้สะใจ แถมขอชิงลงมือไปหนาวก่อนเพื่อนๆที่กทม. ก่อนนิสนึง แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้ไม่เป็นไปตามที่คาดอีกเช่นเคย 55+



    ในการเดินทางคราวนี้ ผมไปโดยเครื่องบินครับ แล้วเช่ารถขับเอา แต่ก็หาเส้นทางในการเดินทางสำหรับเพื่อนๆที่ไม่เช่ารถ หรือ เดินทางด้วยรถโดยสารมาฝากกันเช่นเคย ผมเดินทาง ศุกร์ที่ 11 – จันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2558 ครับ โดนคราวนี้มีแม่กับน้องสาวไปด้วย ซึ่งงานนี้ต้องอขงคุณทั้ง 2 คนที่คอยซัพพอร์ทเรื่องค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ครับ
    
        ส่วนรูปที่เอามาลงงวดนี้ เนื่องจากวันที่ไปเที่ยววันแรก ดันลืมกล้องไว้ที่โรงแรม เลยจะเป็นภาพจากโทรศัพท์มือถือ อาจจะมัวๆ กับที่ไปเที่ยว Night Safari   อาจจะดูมัวๆเนื่องจากกล้องที่ใช้เป็นกล้องรุ่นเก่า ยังไงขออภัยล่วงหน้าครับ เอาหล่ะ เรามาเริ่มเดินทางกันเลย

    คืนวันศุกร์ ผมออกเดินทางจาก ดอนเมือง – เชียงใหม่ครับ ขึ้นเครื่อง 21.25 ถึงเชียงใหม่ 22.30 โดยประมาณ แล้วก็เข้าที่พักครับ รูปภาพบนเครื่องบินขอไม่เอาลงนะคราวที่แล้ว ลงไว้เยอะละ กับคราวนี้รูปส่วนอื่นๆที่อยากจำนำเสนอ เพียบเลย

    เช้าวันเสาร์ ผมเดินทางไปรับรถเช่า ที่สนามบินเชียงใหม่ เวลา 10.30 น. แล้วก็ออกเดินทางไปดอยสุเทพ เพื่อสักการะก่อนที่จะเดินทางกันเล็กน้อย แล้วก็เดินทางต่อ เป้าหมายคือ ม่อนแจ่ม (รูปดอยอินทนนท์ขอไม่ลงเนื่องจากไปมาครั้งที่แล้ว เช่นกันครับ) สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลย ^^

http://ppantip.com/topic/34209895

     13.00 โดยประมาณ แล้วก็เดินทางต่อครับ เป้าหมายต่อไปเราคือ “ม่อนแจ่ม” ที่คราวที่แล้วตั้งเป้าจะไป แต่ไปไม่ถึง ซึ่งผมขับรถเอง ระหว่างทาง เจอกับอีก 1 ความฝันที่ผมอยากทำซักครั้ง คือ ฟาร์มสตรอเบอรี่ครับ ไม่ได้อยากเปิดฟาร์มนะ อยากเดินลงไปเก็บจากต้นสดๆ แล้วก็ล้าง ละกินเลย เด็กๆเคยมีคนบอกว่า ไปนอนใต้ต้นสตรอเบอรี่เลย เด็ด กิน ตอนโตก็มารับรู้ความจริงว่า ต้นสตรอเบอรี่บ้านไหนฟระ ไปนอนใต้ต้น แล้วเด็ดมากิน แหม่ พอคุยกะแม่ แม่บอกขากลับ เดี๋ยวแวะแล้วจะแวะซื้อด้วย OK จัดไป รอขากลับ มีหลายร้านมาก ริมทางเรียกได้ว่า ตั้งแต่ขับขึ้นเขามาก็มีเป็นหลัก 10 ร้านได้ที่มี แต่ที่เป็นจุดใหญ่ๆ ก็มีประมาณ 3-4 จุดได้ครับ ใครผ่านก็ลองแวะเอา

    15.00 น. ระหว่างทาง ก็ได้เจอกับ สวนพฤกศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งน้องสาวก็ชวนให้แวะครับ เพราะบอกว่า มีสะพานกระจกแบบที่เคยอ่านข่าวที่ประเทศจีนทำ เลย ok ลองแวะดูก่อนที่จะขึ้นม่อนแจ่ม คิดว่าจะได้ไปถ่ายรูปอาทิตสีส้มยอดดอยก็ไม่เลว แล้วเราก็เข้าไปครับเสียค่าเข้าคนละ ซาวบาท (20บาท)



        จากที่ดูในแผนที่ ก็มีจุดท่องเที่ยวหลายจุดเลย คาดว่าถ้ามาแต่เช้า น่าจะเที่ยวได้รอบ แต่พอเรามาก็บ่ายแก่ๆละ เลยไปได้แค่ 4 จุดโดยประมาณครับ แต่เริ่มต้น วนหาที่จอดรถเรียบร้อย เราจัดแถวๆจุดท่องเทียวจุดนึงครับ แวะถ่ายรูปนิดหน่อย เราก็ไปที่จุดขายก่อนเลยคือ สะพานบนยอดไม้ แวะเอารูปมาฝากกันก่อน






          เมื่อมาถึงเราก็เจอกับ นักท่องเที่ยวครับ เพียบเลยแล้วก็เลยมีการปล่อยเป็นเวลา ซึ่งเราไปจองตอนเวลา 15.30 โดยประมาณ แต่ได้เข้ารอบ 17.00 น. !!! โอ้วโนว ก็เลยคิดกะแม่กะน้องว่าเอาไงดี น้องสาวบอกให้เที่ยวที่นี่ละกัน เพราะม่อนแจ่มก็ไม่มีอะไรมาก พรุ่งนี้ก็ไปยอดอินทนนท์ แวะที่นี่ละกัน ใหม่กว่า ไม่เคยมา (อดไปม่อนแจ่มอีกละ) ซึ่งระหว่างช่วงที่รอ เราเลยไปดูในส่วนของ “สวนเรือนกระจก”ครับ



เจออุโมงค์ต้นไม้ก่อนเลย

ภายในโซนนี้ ก็จะเบ่งเป็นเรือนกระจกหลายๆห้อง แต่ละห้องก็จะปลูกต้นไม่แต่ละแบบ เช่น กระบองเพชร พืชกินแมลง ป่าร้อนชื้น หรือ ตระกูลใบบัวต่างๆครับ
จัดรูปไปยาวๆ



ไมยราบ น่ากลัวแต่สวย



หม้อข้าว หม้อแกง ลิง ใจอยากเห็นตอนมีแมลงตกลงไปนะ





ต้นไรไม่รุ แต่น่ากินดี





ขอลงรูปตัวเองซัก 1 รูป ^_^

        โดยองค์รวมแล้ว ก็สวยดีนะครับ แต่ผมว่า เหมือนขาดการดูแล อย่างโซนใบบัวก็เหมือนเน่าหมดละ โซนต้นไม้กินแมลงก็ดูไม่สวยต้นไม้แห้งไปเยอะ ถ้าดูแลน่าจะดีกว่านี้เยอะครับ และยังดีที่อากาศเย็น เลยไม่ค่อยน่าหงุดหงิด

        มาดูน้ำพุบริเวณหน้าสวนเรือนกระจกกัน  ถือว่าเป็นมุมที่สวยมากอีกมุมนึง ซึ่งฝั่งตรงข้าม เป็นเหมือนลานกิจกรรม ซึ่งวันที่ผมไปเป็นงานดนตรีในสวน แล้วก็มีอาหารขาย





สวยใช้ได้เลย บริเวณด้านหน้า อากาศก็ดี พอผมถ่ายรูปเสร็จหาไรกินแป๊ปเดียว น้ำพุก็ปิด โชคดีชะมัด

16.20 น. เดินทางกลับไปที่สะพาน ซึ่งไปถึง เค้าก็ปล่อยให้รอบผมเข้าไปแล้ว T_T เราก็รีบเดินเข้าไป พอเข้าไปไม่เท่าไหร่ ก็ปล่อยรอบ 17.30 ตามมาเลย โถ่ ไอ้เราก็อยากได้คนน้อยๆ มาดูภาพกัน




  ไหนกระจก นี่มันสะพานลูกกรงชัดๆ มีกระจกอยู่นิดนึง มัวๆ อีกต่างหาก แถมบางจุด เริ่มมีคนไปเขียนที่กระจกละด้วย ไรเนี่ย บอกตรงๆว่า ผิดหวังอย่างแรง ดูไม่มีไรเลย เสียเวลาในการไปม่อนแจ่มหมด ดีนะที่ได้ไปเดินสวนเรือนกระจก ไม่งั้นคงจะเซงน่าดู กลับกันเลยละกัน


กระจกที่ว่าครับ ยืนได้ไม่เกิน 4 คนนะ เดี๋ยวรับน้ำหนักไม่ไหว

เอาวิวที่สุดทางเดินมาฝาก
        
    Trip ครับ ใครที่สนใจอยากจะมาจริงๆ มีจุดที่น่าสนใจอยู่อีกหลายจุด อยากให้มาแต่เช้าไปถ่ายรูปม่อนแจ่มก่อนก็ได้ แล้วแวะตอนขากลับ ถ้ามีเวลาซักครึ่งวันนี่จะเที่ยวได้รอบ แต่ละจุด แนะนำให้เรารถไป เพราะจะมีจุดจอดรถใกล้ๆจุดเที่ยว แต่อย่างไรดูจำนวนนักท่องเที่ยววันที่มาด้วยนิดนึงครับ เดินหากันได้แหละนะ แต่ไกลหน่อย แถมลางลาดชันก็เยอะ เอารถไปน่าจะสบายกว่า

ขากลับตามที่บอกไว้ว่าจะแวะไปเด็ดสตรเบอรี่ซักหน่อย แต่ก็สะกิดใจเล็กๆ ไปดูรูปกัน






ว่าแล่ว -_-“ พญาไม้เถา แทบไม่มีลูกเลย ว่าล่ายๆ คือเรามาเย็น เลยโดนเด็ดไปหมดละหล่ะ เหลือคาต้นยังเป็นสีขาวๆอยู่เลย อดเก็บเลย (ถ้าใครมีที่ดีดี แนะนำด้วยนะครับจะรีบไปเลย อยากมาก ความฝันในวัยเด็กผม) แล้วเราก็จัดสตรอเบอรี่มา 1  กล่องกินแก้เซง ได้เจอผลิตภันฑ์จากสตรอเบอรี่หลายแบบเลยที่ร้าน ไม่ว่าจะเชื่อม อบแห้ง ไวน์ และที่สำคัญน่าจะเป็นวอทก้ากลิ่นสตรอเบอรี่ หอมมากแต่พอดีผมไม่กินเหล้าแฮะเลยไม่ได้ซื้อกลับมา เสร็จละก็แวะทานข้าว แล้วเข้าที่พัก

จบการเดินทางวันที่ 1 ครับ วันต่อไปจะได้ใช้กล้องดีดีละ

ฝากงานเก่าไว้ด้วยครับ
{จะพาหัวใจ ไปให้ถึงปลายฟ้า ตอนที่ 1} สะพายเป้สู่เกาะพยาม http://ppantip.com/topic/32634916
{จะพาหัวใจ ไปให้ถึงปลายฟ้า ตอนที่ 2} เดินไป กลิ้งกลับ ณ จันทบุรี http://ppantip.com/topic/32719533
{จะพาหัวใจ ไปให้ถึงปลายฟ้า ตอนที่ 3} มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ งานนี้มีรถขับ http://ppantip.com/topic/34209895