เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีงานเปิดตัวรถใหม่รุ่นใหม่ของค่ายนิสสันครับ นั่นก็คือ X-trail Hybrid
น่าจะเป็นรุ่นแรกของนิสสันไทยที่มาเล่นไฮบริด และน่าจะเป็น suv คันแรกด้วย เมื่อก้าวเข้าสู่สมรภูมิรบแล้ว การศึกย่อมไม่ง่าย
เพราะยังมีข้าศึกเจ้าตลาดคอยต้อนรับด้วยใบหน้าแสยะยิ้มรอเชือดอยู่ นั่นคือเหตุผลที่วันนี้ผมจะขออาสาฝ่าฝุ่นคลุกคลานล้มลุกเข้าไปรายงานการศึกในครั้งนี้ เทียบกันตัวต่อตัว จับรุ่นต่อรุ่นมาใส่กันในศึกนี้ สมรภูมิไฮบริดที่ดูท่าว่าจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้สงครามทุ่งกุรุเกษตรเลย
ผมเลยจับเอารถอีกสองรุ่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน แรงใกล้กัน ราคาพอกัน
และสองรุ่นที่เลือกมานั้นย่อมเป็นยี่ห้อยอดนิยมในหมู่ไฮบริดเช่นกัน มาวัดใจใจเลย ซึ่งสองเจ้าที่หยิบมาเทียบก็คือ
Honda Accord Hybrid และ Toyota Camry Hybrid ครับ
ยกที่ 1 : ดูเชิง
เรามาเริ่มกันที่สมรรถนะเครื่องใน เอ้ย! เครื่องยนต์ของรถกันครับ เริ่มที่หน้าใหม่อย่างนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด มาด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเร็ค อินเจคชั่น ซึ่งให้กำลังม้าถึง 144 แรง ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิตสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4400 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 41 แรงม้า และแรงบิด 160 นิวตันเมตร กำลังจะพุ่งไปถึง 179 แรงม้าเลยทีเดียว โดยนิสสันบอกว่า เมื่อรวมกับระบบคลัทซ์คู่อัจฉริยะนั้น จะช่วยถ่ายกำลังระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้า ซึ่งจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสุดๆ ถึง 120 กม./ชม ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมากเมื่อเทียบกับระบบไฮบริดรุ่นอื่นครับ
แอคคอร์ดนั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atlinson Cycle DOHC i-VTEC ที่ให้แรงม้าถึง 143 ตัว มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผนวกพลังแล้วจะได้พละกำลังความแรวงมากถึง 169 แรงม้า พร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนที่ฮอนด้าบอกว่าให้ประสิทธิภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าเดิม ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของระบบไฮบริดให้ดีกว่าเดิมครับ แต่แบตเตอรี่ก็อาจจะมีราคาแพงขึ้น นั่นก็ทำให้ต้นทุนของรถสูงขึ้นก็เป็นได้ครับ
โตโยต้าคัมรี่ ไฮบริด ค่อนข้างจะจัดเต็มในโหมดความแรง เพราะมาด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร Atlinson Cycle DOHC 16 วาล์ว ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมวาล์วแปรผัน Dual VVT-i ให้แรงม้า 160 แรงม้าที่ 5700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตรที่ 4500 รอบต่อนาที บวกผสานฟิวชั่นกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรแล้วจะมีพลังไปถึง 205 แรงม้า และแรงบิดถึง 270 นิวตันเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับพลังไฟในแบตเตอรี่แบบ Ni-MH ด้วย ถ้าพลังไฟเพียงพอให้ทำงานร่วมกันก็สามารถพุ่งทยานด้วยกำลังสองร้อยแรงม้าได้เลยครับ
ยกที่ 2 : ดักวงนอก
ฮอนด้า
แอคคอร์ดไฮบริดสองรุ่นนั้นจะใส่ไฟหน้าไม่เหมือนกัน รุ่น Tech จะเป็น LED ส่วนรุ่นธรรมดาจะไม่ใส่ไข่ ไม่ใช่แบบนั้น แต่จะเป็นไฟแบบโปรเจคเตอร์แทน ความแตกต่างอีกอย่างก็คือรุ่นแพงจะมีซันรูฟใส่มาให้ แต่ที่เหมือนกันก็คือ ทั้งสองรุ่นจะต่างจากรุ่นไม่ใช่ไฮบริดตรงไม่มีไฟตัดหมอกครับ
โตโยต้า
มาพร้อมกับไฟหน้าที่ปรับอัตโนมัติ มีไฟตัดหมอก ซึ่งมองภาพแล้วผมว่าโตโยต้าทำได้โฉบเฉี่ยวกว่าฮอนด้านะครับ
นิสสัน
เป็นการยากที่จะเทียบเอ็กซ์เทรลเข้ากับสองรุ่นก่อนหน้านี้ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าสวยในมาตรฐานของ SUV นะครับ ที่เห็นบนถนนในรุ่นก่อนก็โดดเด่นพอสมควรครับ รอบนี้มาพร้อมไฟหน้า LED ปรับอัตโนมัติรวมทั้งไฟเดย์ไลท์ในทุกรุ่นของไฮบริด ความอเนกประสงค์อย่างอื่นของ x-trail ก็จะมีประตูท้ายที่จะเปิดปิดอัตโนมัติ กระจกมองข้างแบบ hedted mirror และการตกแต่งใส่สัญลักษณ์นิดๆตรงกระจังหน้าและคิ้วขอบประตูที่ใส่สีโครมพิเศษ เป็นเอกลักษณ์ง่ายที่ผมชอบแฮะ อาจด้วยผมชอบสีฟ้าเฉดนี้เป็นทุนเดิมด้วยนะ
เดี๋ยวค่อยกลับมาต่อยกต่อไปนะครับ ขอตัวไปปั่นงานต่อ
กระทู้รับน้องไฮบริด เมื่อ nissan ก้าวสู่สมรภูมิสงครามรถ Hybrid ศึกครั้งนี้จะต่อกรได้หรือไม่
น่าจะเป็นรุ่นแรกของนิสสันไทยที่มาเล่นไฮบริด และน่าจะเป็น suv คันแรกด้วย เมื่อก้าวเข้าสู่สมรภูมิรบแล้ว การศึกย่อมไม่ง่าย
เพราะยังมีข้าศึกเจ้าตลาดคอยต้อนรับด้วยใบหน้าแสยะยิ้มรอเชือดอยู่ นั่นคือเหตุผลที่วันนี้ผมจะขออาสาฝ่าฝุ่นคลุกคลานล้มลุกเข้าไปรายงานการศึกในครั้งนี้ เทียบกันตัวต่อตัว จับรุ่นต่อรุ่นมาใส่กันในศึกนี้ สมรภูมิไฮบริดที่ดูท่าว่าจะยิ่งใหญ่ไม่แพ้สงครามทุ่งกุรุเกษตรเลย
ผมเลยจับเอารถอีกสองรุ่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน แรงใกล้กัน ราคาพอกัน
และสองรุ่นที่เลือกมานั้นย่อมเป็นยี่ห้อยอดนิยมในหมู่ไฮบริดเช่นกัน มาวัดใจใจเลย ซึ่งสองเจ้าที่หยิบมาเทียบก็คือ
Honda Accord Hybrid และ Toyota Camry Hybrid ครับ
ยกที่ 1 : ดูเชิง
เรามาเริ่มกันที่สมรรถนะเครื่องใน เอ้ย! เครื่องยนต์ของรถกันครับ เริ่มที่หน้าใหม่อย่างนิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด มาด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเร็ค อินเจคชั่น ซึ่งให้กำลังม้าถึง 144 แรง ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิตสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4400 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 41 แรงม้า และแรงบิด 160 นิวตันเมตร กำลังจะพุ่งไปถึง 179 แรงม้าเลยทีเดียว โดยนิสสันบอกว่า เมื่อรวมกับระบบคลัทซ์คู่อัจฉริยะนั้น จะช่วยถ่ายกำลังระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้า ซึ่งจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสุดๆ ถึง 120 กม./ชม ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมากเมื่อเทียบกับระบบไฮบริดรุ่นอื่นครับ
แอคคอร์ดนั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Atlinson Cycle DOHC i-VTEC ที่ให้แรงม้าถึง 143 ตัว มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผนวกพลังแล้วจะได้พละกำลังความแรวงมากถึง 169 แรงม้า พร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนที่ฮอนด้าบอกว่าให้ประสิทธิภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าเดิม ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของระบบไฮบริดให้ดีกว่าเดิมครับ แต่แบตเตอรี่ก็อาจจะมีราคาแพงขึ้น นั่นก็ทำให้ต้นทุนของรถสูงขึ้นก็เป็นได้ครับ
โตโยต้าคัมรี่ ไฮบริด ค่อนข้างจะจัดเต็มในโหมดความแรง เพราะมาด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร Atlinson Cycle DOHC 16 วาล์ว ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมวาล์วแปรผัน Dual VVT-i ให้แรงม้า 160 แรงม้าที่ 5700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตรที่ 4500 รอบต่อนาที บวกผสานฟิวชั่นกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรแล้วจะมีพลังไปถึง 205 แรงม้า และแรงบิดถึง 270 นิวตันเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับพลังไฟในแบตเตอรี่แบบ Ni-MH ด้วย ถ้าพลังไฟเพียงพอให้ทำงานร่วมกันก็สามารถพุ่งทยานด้วยกำลังสองร้อยแรงม้าได้เลยครับ
ยกที่ 2 : ดักวงนอก
ฮอนด้า
แอคคอร์ดไฮบริดสองรุ่นนั้นจะใส่ไฟหน้าไม่เหมือนกัน รุ่น Tech จะเป็น LED ส่วนรุ่นธรรมดาจะไม่ใส่ไข่ ไม่ใช่แบบนั้น แต่จะเป็นไฟแบบโปรเจคเตอร์แทน ความแตกต่างอีกอย่างก็คือรุ่นแพงจะมีซันรูฟใส่มาให้ แต่ที่เหมือนกันก็คือ ทั้งสองรุ่นจะต่างจากรุ่นไม่ใช่ไฮบริดตรงไม่มีไฟตัดหมอกครับ
โตโยต้า
มาพร้อมกับไฟหน้าที่ปรับอัตโนมัติ มีไฟตัดหมอก ซึ่งมองภาพแล้วผมว่าโตโยต้าทำได้โฉบเฉี่ยวกว่าฮอนด้านะครับ
นิสสัน
เป็นการยากที่จะเทียบเอ็กซ์เทรลเข้ากับสองรุ่นก่อนหน้านี้ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าสวยในมาตรฐานของ SUV นะครับ ที่เห็นบนถนนในรุ่นก่อนก็โดดเด่นพอสมควรครับ รอบนี้มาพร้อมไฟหน้า LED ปรับอัตโนมัติรวมทั้งไฟเดย์ไลท์ในทุกรุ่นของไฮบริด ความอเนกประสงค์อย่างอื่นของ x-trail ก็จะมีประตูท้ายที่จะเปิดปิดอัตโนมัติ กระจกมองข้างแบบ hedted mirror และการตกแต่งใส่สัญลักษณ์นิดๆตรงกระจังหน้าและคิ้วขอบประตูที่ใส่สีโครมพิเศษ เป็นเอกลักษณ์ง่ายที่ผมชอบแฮะ อาจด้วยผมชอบสีฟ้าเฉดนี้เป็นทุนเดิมด้วยนะ
เดี๋ยวค่อยกลับมาต่อยกต่อไปนะครับ ขอตัวไปปั่นงานต่อ