เฮลลโหล้ววววววววว
สวัสดีค่ะ สาวๆ และหนุ่มๆ ชาวพันทิปทุกคน
วันนี้เมย์มีสิ่งที่พิเศษมากๆ สิ่งหนึ่งในชีวิตของเมย์ มานำแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันเพลินๆ กัน
นั่นก็คือ ..... คืออออ ...... คือออออออ .........
"
WorkShop New face Beauty Blogger with Nivea "
แต่ช้าก่อน!! อย่าพึ่งกดปิดกระทู้กันนะคะ กิกิ
เพราะในกระทู้นี้เมย์ตั้งใจจะแชร์ความรู้สึกสิ่งที่เจอ และสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมครั้งนี้
ขอรับรองว่า มันไม่ได้มีแต่ รีวิว ผลิตภัณฑ์เฉยๆ อย่างที่หลายๆ คนอาจจะแอบคาดเดาอย่างแน่นอน!
ก่อนอื่นก่อนที่เมย์จะได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเดินเข้าไปในบริษัทนีเวียหรือinboxไปแล้วจะได้มาเลย
แต่มันจะต้องมีบททดสอบแน่นอน ! และเมย์ต้องขอขอบคุณความบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้แหละ
ที่ทำให้เมย์ได้ไปเจอ โครงการดีๆ ของนีเวีย ที่ต้องการจะหา บล็อกเกอร์หน้าใหม่
และประจวบเหมาะกับเมย์สนใจอยากมีโอกาสฝึกเพื่อเป็นบล็อกเกอร์ในอนาคตพอดิบพอดี
เมย์ก็เลยจัดการ ลงเข้าประกวดโครงการนี้ด้วยซะเลยย !!
ณ ตอนนั้น กติกาก็คือ ให้เราทำมินิรีวิวผลิตภัณฑ์ของนีเวีย ในแบบของเราเอง
ในเมื่อโจทย์มาแบบนี้ เมย์ก็ขอเป็นตัวเองแบบเต็มที่และเต็มเหนี่ยวที่สุด!!
วันที่รู้ผล เมย์กำลังอยู่ในรถส่วนตัวอยู่ในระหว่างทางกลับบ้าน เมย์ก็เปิดเฟสบุ๊คของนีเวียเพื่อจะดูการประกาศผล
เมย์นั่งไล่จนมาถึงรายชื่อผู้ที่ผ่านเข้ารอบ และไล่มาถึงคนที่ 8 และแล้วว มันก็คือ... เมย์ นั่นเอง!!
กรี้ดดดดดดดดดด!!! เมย์กรี้ดสนั่นลั่นรถ จนผู้ที่กำลังขับรถอยู่นั้นตกใจ (ฮ่าๆๆ แน่นอนสิจะไม่ตกใจได้ไงเล่นกรี้ดซะขนาดนั้น)
เมย์ดีใจมากกกก ถึงมากกกกที่สุด ดีใจมากชนิดกรี้ดไปร้องไห้ไป เฉกเช่นคนบ้า! >//////<"
และนี่ก็คือเพียงจุดเริ่มต้นแรกของสิ่งที่เมย์อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ได้สนุกและรู้สึกดีเหมือนกับที่เมย์รู้สึก
หลังจากที่เมย์รายงานตัวผู้ผ่านเข้ารอบเสร็จทางทีมงานก็ส่งรายละเอียดวันและเวลาร่วมกิจกรรมมาให้เมย์
ซึ่งในรายละเอียดกิจกรรมก็คือ…..
การได้ร่วม Workshop กับทางนีเวียเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ณ โรงแรม Pullman hotel Bangkok G นั่นเอง!!
บอกตรงๆ ตอนรู้นี่…เมย์กรี้ดหนักกว่าเดิมอีก กะดี๊กะด๊า หนักกว่าเดิมมาก และตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะได้ไปร่วมเวิร์คช้อปอย่างใจจดใจจ่อแบบสุดๆ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่ครั้งในชีวิตที่ได้จะโอกาสดีๆ ขนาดนี้อีก
ก่อนจะไปกล่าวถึงบรรยากาศของการเวิร์ดช้อปตลอดทั้ง 2 วัน 1 คืน เมย์ขอนำคลิปมินิรีวิวที่เมย์ได้ส่งประกวดให้เพื่อนๆ ได้ดูกันก่อน เผื่อเพื่อนๆ อยากเห็นคลิปมินิรีวิวที่เมย์ทำ (มโนไปก่อนนิสนึง อิอิ)
เกริ่นจุดเริ่มต้นซะเยอะแยะ เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปเริ่มงานกันเลยเถิดดดดด Let’s goooo!!!
ณ กิจกรรม Workshop วันที่ 1
กำหนดการคือจะต้องไปถึงโรงแรมตอน 9 โมงเช้า เมย์เลยออกเดินทางโดยใช้บริการ Grab Taxi แท็กซี่เพื่อเดินทางมายังโรงแรมให้ทัน เมย์ก้าวขาขึ้นรถพร้อมจะเดินทางไปยังโรงแรม พร้อมพกความตื่นเต้นไปอย่างเต็มเปี่ยม! (แทนที่มันจะมั่นใจเนอะ ฮ่าๆๆ) ออกเดินทางตอน 8.30 น. โดยประมาณ และขึ้นทางด่วนมาลงสีลม ซึ่งววันที่มาเป็นเช้าวันเสาร์สุขสันต์รถจึงไม่ติดเลยยยย ไม่ติดเลยจริงๆ นะ เพราะเมย์ออกมาตอน 8.30 แต่เมย์ถึงหน้าโรงแรมตอน 9 โมงตรงเด้ะๆ ! มหัศจรรย์สุดๆ!!
หลังจากจ่ายกะตังเสร็จสับเป็นจำนวนเงิน 220 บาท และค่าทางด่วนคือ 60 บาท เมย์ก็ก้าวขาลงจากรถพร้อมความคิดที่ว่า…เอาวะมาถึงที่นี่แล้วทั้งทีต้องเต็มที่ เอาวะ สู้!! และก็ลากกกระเป้าเดินเข้าโรงแรม พร้อมถามทางหาลิฟท์เพื่อจะขึ้นไปยังชั้นที่ 24 ที่เป็นบริเวณจัดงานทั้งหมดในตลอด 2 วัน 1 คืน
(ภาพนี้เมย์จะจิ๊กมาจากกูเกิ้ลนิสนึง เพราะตอนนั้นลืมถ่ายจริงๆ แฮ่ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://hotelaholics.blogspot.com/2013/06/pullman-g-hotel-bangkok-superior-room.html)
เมื่อลิฟท์หยุดและได้แสดงเลขว่าเรากำลังอยู่ชั้นที่ 24 ชั้นที่จัดกิจกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกตรงๆ แอบยืนหายใจยุหน้าลิฟท์นิสนึงแต่หายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเร็วแสงเพราะเขินพี่ที่ขึ้นมาด้วยกัน เพราะพี่เขาเป็นหนึ่งในทีมงานที่จัดงานนี้ (เขียนซะขนาดนี้ละถ้าพี่เขาได้อ่าน พี่เขาคงรู้ซะละ อุส่าแอบแท้ๆ ฮ่าๆๆ)
ออกจากหน้าลิฟท์ปุ๊ปก็เจอจออันนี้ปั๊บ
หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาในห้องขวามือมาภายในห้องมีโต๊ะกลมๆ ใหญ่ๆ ลักษณะเหมือนโต๊ะจีนแถวบ้านแต่โต๊ะที่นี่คลุมไปด้วยผ้าสีขาว และเก้าอี้สีขาว ดูสะอาดสบายตาน่ามอง และที่สำคัญมีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกันส่วนหนึ่งที่ได้มาถึงก่อนหน้าเมย์แล้ว พร้อมทุกคนนั่งคุยกันดูสนิทสนม ถ้าพูดตรงๆ ณ ขณะนั้นเมย์เกรงมากถึงมากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าคนที่ข้างหน้าเราเขาจะยินดีที่จะได้รู้จักกับเราเหมือนที่เรายินดีที่จะได้รู้จักกับทุกคนรึป่าว? แต่ขณะที่รู้สึกแบบนั้นก็มีพี่ๆ ได้มาคุยและทักทายเมย์พร้อมเอากระเป๋าไปจัดการเก็บให้และพี่เขาน่ารักมาก หลังจากนั้นเมย์ก็หายใจเฮือกใหญ่สุดๆ และเดินก้าวไปข้างหน้าตรงโต๊ะที่มีเพื่อนๆ ที่ผ่านเข้ารอบนั่งอยู่และเข้าไปขอนั่งด้วยและกล่าวคำสวัสดี ช่วงแรกสักประมาณ 10 นาทีแรกเกรงสุดๆ ไม่กล้าพูด ไม่กล้ามอง แต่ในใจลึกๆ ก็คิดว่า ถ้าตัวเราเองยังคงนั่งนิ่ง เงียบอยู่แบบนี้แล้วละก็…ตลอด 2 วัน 1 คืนที่จะอยู่กับทุกคน ณ ที่นี้เราคงไม่มีความสุขและไม่ได้อะไรเลยแม้นกระทั่งมิตรภาพเป็นแน่ๆ เมย์เลยตัดสินใจทัก พูด ค่อยๆ แหย่ๆ พูดทีละนิด จนในที่สุด ที่คนก็คุยกับเรา ตอนนั้นนะ รู้สึกดีใจสุดๆ เหมือนเราก้าวผ่านความกลัวอย่างหนึ่งไปได้แล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไปเปลี่ยนเสื้อที่พี่ๆ เตรียมไว้ให้
และเมื่อนาฬิกาบอกเวลา 10 โมงตรงทุกคนก็เคลื่อนย้ายไปยังห้องฝั่งซ้ายเพื่อเริ่มงานเวิร์คช้อป และละที่นั่งจะมีชื่อเฟสลุ๊คส่วนตัวของแต่ละคนอยู่เพื่อเป็นการบอกว่า ฉันได้นั่งตรงนี้และฉันอยู่ทีมนี้ บอกเลยว่า งานนี้นีเวียเขาไม่ได้มาเลนๆ นะคะ งานนี้มีการจัดทีมด้วยค่ะ และแน่นอนมันต้องมี 3 ทีมเช่นเดียวกับเดอะเฟสนั่นเอง และเมย์ก็ได้อยู่ทีมพี่ปอย #ทีมพี่ปอย พี่ปอยเป็นหนึ่งในทีมงานของกิจกรรมในครั้งนี้ พี่เขาเป็นผู้ใหญ่ไซต์น่ารัก ผมตรงยาว มีหน้าม้าเหมือนกับเมย์ ใส่แว่นสีดำ และจัดฟันเหมือนกับเมย์ และภายในทีมพี่ปอยก็มีลูกทีมอีก 5 คนซึ่งประกอบไปด้วย พี่มด พี่นท พี่นิ่ม(คุณแม่คนสวย) พี่ลูกหมู และสุดท้ายคือเมย์นั่นเอง และทีมเราก็ได้นั่งกลางห้องและเมย์ก็รั่งตรงกลางพอดีเลย
หลังจากหย่อนก้นลงบนเก้าอี้กิจกรรมแรกก็เริ่มต้น งานเริ่มด้วยความเรียบง่าย กันเองและเน้นความสนุก บรรยากาศไม่เครียดและไม่กดดันอย่างที่คิดเลย เริ่มต้นด้วยพี่รัน พี่ผู้ชายแต่งกายสุภาพหน้าตาดีด้วยรอยยิ้มที่สดใส พี่รันนี่ละที่เป็นคนทำให้เมย์ได้รู้และเข้าใจนีเวียมากขึ้น นีเวียต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมณี คนคิดค้นและสร้างนีเวียขึ้นมาคือ Beiersdoft และนีเวียก็เป็นแบรนด์แรกของเขาเช่นกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกที่เขาได้ให้กำเนิดมานั่นก็คือตัว nivea cream ตลับสีน้ำเงินครีมเข้มข้นเหนี่ยวสุดๆ แต่ก็บำรุงได้ดีสุดๆ แบบที่สุดจริงๆ เมย์เชื่อว่าแถบทุกคนต้องเคยใช้มัน ไม่ว่าจะโดนแม่บังคับก็ตามที
พี่รันแนะนำสินค้าต่างๆ ของทางนีเวีย ซึ่งต้องบอกเลยว่า ทางทีมงานนีเวียเขาทำงานหนักมากจริงๆ นะ จากที่ฟัง เขาดูใส่ใจฟังผู้บริโภคอย่างเราๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญแทบที่สุดสำหรับการทำแบรนด์ เพราะเราคือผู้บริโภคหรือเป้นลูกค้าของเขา ยิ่งถ้าเขาสามารถแก้ไขปัญหาในสิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เรียกร้องได้ ก็จะยิ่งเป้นผลดีที่ผลิตภัณฑ์และแบรนด์นั้นๆ มาก และนีเวียก็ได้พยายามแก้ไขในสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ จนเรียกได้ว่า แก้ไขได้สำเร็จด้วย! (ขอปรบมือดังๆ) เพราะจากปปัญหาเดิมที่นีเวียพบมาตลอดคงเป็นเรื่อง ครีมเหนี่ยว ซึ่ง ณ วันที่ได้มีโอกาสลองสินค้าแทบจะทุกตัวของนีเวียกล้าพูดอย่างเต็มปปากเลยจริงๆ ว่า ครีมเขาไม่เหนี่ยวแว้ววววววว!!!!! (ไม่เหนี่ยวแล้วเนี้ยไม่ได้หมายถึงทุกตัวไม่เหนี่ยวนะคะ เพราะบางผลิตภัณฑ์และบางสูตรเหนี่ยวนี่สิดี เช่นกระปุกน้ำเงินเป็นต้น) และนีเวียได้มีแคมเปญถ้าพิสูจน์ถ้าเหนี่ยวยินดีคืนเงินกับ 4 ผลิตภัณฑ์นี้
เมย์ได้ลองครีมเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รวมถึงคลีนซิ่งด้วย ซึ่งเมย์ใช้เองเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมย์ใช้สีม่วง ซึ่งสีที่อยู่ตามขวดของผลิตภัณฑ์นีเวียมีความหมายและแยกประเภททุกอัน เช่น สีม่วงเหมาะสำหรับผิวมันและมีสิว สีชมพูเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นเพียงความขาวเพียงอย่างเดียว และสีเขียวเหมาะสำหรับผู้ที่ผิวมันแถมมีสิวและที่สำคัญอยากขาวด้วย สูตรสีเขียวเหมาะสุดๆ และที่สำคัญ 0% แอลกอฮอล์ สะอาด ไม่เหนี่ยวหรือมันด้วย แต่มันเย็นๆ ได้ครบแถมปลอดภัยไว้ใจได้จริมๆ !
ส่วนตอนลองครีมนะ ขอสารภาพตรงๆ ตอนมาเมย์ลืมทาครีม แต่พอเริ่มเวิร์คช้อปรู้สึกคุ้มมากเพราะทาครีมไปเยอะมากชุ่มแขนสุดๆ เมย์ลองครีมที่แขนฝั่งซ้ายตั้งแต่หัวไหล่จรดปลายนิ้วจริงๆ และข้างขวาก็ไม่ได้ทาแต่อย่างใด มันเลยเปรียบเทียบได้ชัดมากๆ ว่าเราควรทาผิวทุกวันเพื่อดูแลผิวเราให้ดีที่สุดเพราะมันชึ่มชื้นอยู่ฝั่งเดียวจริงๆ ณ วันนั้น
นอกจากนั้นนีเวียก็มีโฟมและอื่นๆ อีกและอีกอันที่เด็ดก็คือครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดนีเวียไม่ต้องรอ 20 นาที !! ไม่ต้องรอในที่นี้คือ ทาเสร็จสามารถออกแดดได้เลย เพราะครีมกันแดดที่อยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่และในความจำของคนส่วนใหญ่รวมถึงเมย์จะทราบดีว่าดรีมกันแดดจะต้องทาก่อนออกไปเจอแดดเป็นเวลา 20 นาทีนั่นเอง
หลังจากกิจกรรมพาทที่ 1 เสร็จก็มาต่อด้วยพาทที่ 2 นั่นก็คือ บล็อกเกอร์ไทยตัวจริงจะมาแนะแนวเรานี่เอง และบล็อกเกอร์คนนั้นก็คือ พี่เจนเมคอัพ (Jane Makeup) นั่นเอง พี่เจนตัวจริงตัวเล็กจริงๆ และแนะแนวได้ดีมากๆ มีสาระ และสนุกสนาน เพลินจริงๆ เพราะพี่เขาพูดเก่งและเป็นตัวของตัวเองมากๆ พี่เจนทำให้เมย์เข้าใจอะไรมากขึ้นกับคำว่าบล็อกเกอร์ เข้าใจในหลายๆ สิ่งที่ไม่ค่อยเข้าใจ ได้รู้ถึงการทำงานของพี่เขา ดีใจจริงๆ ที่ได้พี่เจนมาแนะแนวในวันนั้น
พาทที่ 2 จบไป พาทที่ 3 ก็ตามมา นั่นก็คือ เว็บ Vanilla ได้มาแนะแนวเรานั่นเอง และในวันนั้นก็ทำให้รู้ว่า เจ้าของเว็บไม่ใช่คนไทย แต่เป็นหนุ่มญี่ปุ่นหน้าตาใจดีสุดๆ นั่นเอง!! จากส่วนนี้เมย์ได้รู้ถึงการทำงานของเว็บไซต์ความงาม ว่าการทำงานของเขาเป็นอย่างไร ขอบคุณมากๆ นะคะ
มาในส่วนพาทที่ 4 จะบอกว่าวันแรกนี้โปรแกรมเขาแน่นมากๆ จริงๆ มาถึงส่วนนี้ได้พี่ณิชชิเป็นกูรูด้านดิจิทอลโดยเฉพาะมาแนะนำในส่วนนี้ พี่ณิชชิมาในชุดเดรสเกาะอกและมีผ้าพันคอ (เมย์คิดว่างั้นนะ) ผมสั้น และโคตรเป็นตัวเอง พี่เขาทำให้เมย์เข้าใจโลกดิจิทอลมากขึ้นอีกระดับรู้ว่าควรจะทำอย่างไรให้เราสามารถมีโอกาสเป็นบล็อกเกอร์ได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา และผู้อ่านทุกคนว่าการเป็นตัวเรานั้นสามารถเข้าถึงใครได้บ้างเท่านั้นเอง
[SR] เมื่อฉันได้ร่วมทริปกับ NIVEA !!!
สวัสดีค่ะ สาวๆ และหนุ่มๆ ชาวพันทิปทุกคน
วันนี้เมย์มีสิ่งที่พิเศษมากๆ สิ่งหนึ่งในชีวิตของเมย์ มานำแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันเพลินๆ กัน
นั่นก็คือ ..... คืออออ ...... คือออออออ .........
" WorkShop New face Beauty Blogger with Nivea "
แต่ช้าก่อน!! อย่าพึ่งกดปิดกระทู้กันนะคะ กิกิ
เพราะในกระทู้นี้เมย์ตั้งใจจะแชร์ความรู้สึกสิ่งที่เจอ และสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมครั้งนี้
ขอรับรองว่า มันไม่ได้มีแต่ รีวิว ผลิตภัณฑ์เฉยๆ อย่างที่หลายๆ คนอาจจะแอบคาดเดาอย่างแน่นอน!
ก่อนอื่นก่อนที่เมย์จะได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าเดินเข้าไปในบริษัทนีเวียหรือinboxไปแล้วจะได้มาเลย
แต่มันจะต้องมีบททดสอบแน่นอน ! และเมย์ต้องขอขอบคุณความบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้แหละ
ที่ทำให้เมย์ได้ไปเจอ โครงการดีๆ ของนีเวีย ที่ต้องการจะหา บล็อกเกอร์หน้าใหม่
และประจวบเหมาะกับเมย์สนใจอยากมีโอกาสฝึกเพื่อเป็นบล็อกเกอร์ในอนาคตพอดิบพอดี
เมย์ก็เลยจัดการ ลงเข้าประกวดโครงการนี้ด้วยซะเลยย !!
ณ ตอนนั้น กติกาก็คือ ให้เราทำมินิรีวิวผลิตภัณฑ์ของนีเวีย ในแบบของเราเอง
ในเมื่อโจทย์มาแบบนี้ เมย์ก็ขอเป็นตัวเองแบบเต็มที่และเต็มเหนี่ยวที่สุด!!
วันที่รู้ผล เมย์กำลังอยู่ในรถส่วนตัวอยู่ในระหว่างทางกลับบ้าน เมย์ก็เปิดเฟสบุ๊คของนีเวียเพื่อจะดูการประกาศผล
เมย์นั่งไล่จนมาถึงรายชื่อผู้ที่ผ่านเข้ารอบ และไล่มาถึงคนที่ 8 และแล้วว มันก็คือ... เมย์ นั่นเอง!!
กรี้ดดดดดดดดดด!!! เมย์กรี้ดสนั่นลั่นรถ จนผู้ที่กำลังขับรถอยู่นั้นตกใจ (ฮ่าๆๆ แน่นอนสิจะไม่ตกใจได้ไงเล่นกรี้ดซะขนาดนั้น)
เมย์ดีใจมากกกก ถึงมากกกกที่สุด ดีใจมากชนิดกรี้ดไปร้องไห้ไป เฉกเช่นคนบ้า! >//////<"
และนี่ก็คือเพียงจุดเริ่มต้นแรกของสิ่งที่เมย์อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ได้สนุกและรู้สึกดีเหมือนกับที่เมย์รู้สึก
หลังจากที่เมย์รายงานตัวผู้ผ่านเข้ารอบเสร็จทางทีมงานก็ส่งรายละเอียดวันและเวลาร่วมกิจกรรมมาให้เมย์
ซึ่งในรายละเอียดกิจกรรมก็คือ…..
การได้ร่วม Workshop กับทางนีเวียเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ณ โรงแรม Pullman hotel Bangkok G นั่นเอง!!
บอกตรงๆ ตอนรู้นี่…เมย์กรี้ดหนักกว่าเดิมอีก กะดี๊กะด๊า หนักกว่าเดิมมาก และตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะได้ไปร่วมเวิร์คช้อปอย่างใจจดใจจ่อแบบสุดๆ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่รู้ว่าจะมีสักกี่ครั้งในชีวิตที่ได้จะโอกาสดีๆ ขนาดนี้อีก
ก่อนจะไปกล่าวถึงบรรยากาศของการเวิร์ดช้อปตลอดทั้ง 2 วัน 1 คืน เมย์ขอนำคลิปมินิรีวิวที่เมย์ได้ส่งประกวดให้เพื่อนๆ ได้ดูกันก่อน เผื่อเพื่อนๆ อยากเห็นคลิปมินิรีวิวที่เมย์ทำ (มโนไปก่อนนิสนึง อิอิ)
เกริ่นจุดเริ่มต้นซะเยอะแยะ เอาเป็นว่าตอนนี้เราไปเริ่มงานกันเลยเถิดดดดด Let’s goooo!!!
ณ กิจกรรม Workshop วันที่ 1
กำหนดการคือจะต้องไปถึงโรงแรมตอน 9 โมงเช้า เมย์เลยออกเดินทางโดยใช้บริการ Grab Taxi แท็กซี่เพื่อเดินทางมายังโรงแรมให้ทัน เมย์ก้าวขาขึ้นรถพร้อมจะเดินทางไปยังโรงแรม พร้อมพกความตื่นเต้นไปอย่างเต็มเปี่ยม! (แทนที่มันจะมั่นใจเนอะ ฮ่าๆๆ) ออกเดินทางตอน 8.30 น. โดยประมาณ และขึ้นทางด่วนมาลงสีลม ซึ่งววันที่มาเป็นเช้าวันเสาร์สุขสันต์รถจึงไม่ติดเลยยยย ไม่ติดเลยจริงๆ นะ เพราะเมย์ออกมาตอน 8.30 แต่เมย์ถึงหน้าโรงแรมตอน 9 โมงตรงเด้ะๆ ! มหัศจรรย์สุดๆ!!
หลังจากจ่ายกะตังเสร็จสับเป็นจำนวนเงิน 220 บาท และค่าทางด่วนคือ 60 บาท เมย์ก็ก้าวขาลงจากรถพร้อมความคิดที่ว่า…เอาวะมาถึงที่นี่แล้วทั้งทีต้องเต็มที่ เอาวะ สู้!! และก็ลากกกระเป้าเดินเข้าโรงแรม พร้อมถามทางหาลิฟท์เพื่อจะขึ้นไปยังชั้นที่ 24 ที่เป็นบริเวณจัดงานทั้งหมดในตลอด 2 วัน 1 คืน
(ภาพนี้เมย์จะจิ๊กมาจากกูเกิ้ลนิสนึง เพราะตอนนั้นลืมถ่ายจริงๆ แฮ่ๆ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ )
เมื่อลิฟท์หยุดและได้แสดงเลขว่าเรากำลังอยู่ชั้นที่ 24 ชั้นที่จัดกิจกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บอกตรงๆ แอบยืนหายใจยุหน้าลิฟท์นิสนึงแต่หายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเร็วแสงเพราะเขินพี่ที่ขึ้นมาด้วยกัน เพราะพี่เขาเป็นหนึ่งในทีมงานที่จัดงานนี้ (เขียนซะขนาดนี้ละถ้าพี่เขาได้อ่าน พี่เขาคงรู้ซะละ อุส่าแอบแท้ๆ ฮ่าๆๆ)
ออกจากหน้าลิฟท์ปุ๊ปก็เจอจออันนี้ปั๊บ
หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาในห้องขวามือมาภายในห้องมีโต๊ะกลมๆ ใหญ่ๆ ลักษณะเหมือนโต๊ะจีนแถวบ้านแต่โต๊ะที่นี่คลุมไปด้วยผ้าสีขาว และเก้าอี้สีขาว ดูสะอาดสบายตาน่ามอง และที่สำคัญมีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ผ่านเข้ารอบมาด้วยกันส่วนหนึ่งที่ได้มาถึงก่อนหน้าเมย์แล้ว พร้อมทุกคนนั่งคุยกันดูสนิทสนม ถ้าพูดตรงๆ ณ ขณะนั้นเมย์เกรงมากถึงมากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าคนที่ข้างหน้าเราเขาจะยินดีที่จะได้รู้จักกับเราเหมือนที่เรายินดีที่จะได้รู้จักกับทุกคนรึป่าว? แต่ขณะที่รู้สึกแบบนั้นก็มีพี่ๆ ได้มาคุยและทักทายเมย์พร้อมเอากระเป๋าไปจัดการเก็บให้และพี่เขาน่ารักมาก หลังจากนั้นเมย์ก็หายใจเฮือกใหญ่สุดๆ และเดินก้าวไปข้างหน้าตรงโต๊ะที่มีเพื่อนๆ ที่ผ่านเข้ารอบนั่งอยู่และเข้าไปขอนั่งด้วยและกล่าวคำสวัสดี ช่วงแรกสักประมาณ 10 นาทีแรกเกรงสุดๆ ไม่กล้าพูด ไม่กล้ามอง แต่ในใจลึกๆ ก็คิดว่า ถ้าตัวเราเองยังคงนั่งนิ่ง เงียบอยู่แบบนี้แล้วละก็…ตลอด 2 วัน 1 คืนที่จะอยู่กับทุกคน ณ ที่นี้เราคงไม่มีความสุขและไม่ได้อะไรเลยแม้นกระทั่งมิตรภาพเป็นแน่ๆ เมย์เลยตัดสินใจทัก พูด ค่อยๆ แหย่ๆ พูดทีละนิด จนในที่สุด ที่คนก็คุยกับเรา ตอนนั้นนะ รู้สึกดีใจสุดๆ เหมือนเราก้าวผ่านความกลัวอย่างหนึ่งไปได้แล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายไปเปลี่ยนเสื้อที่พี่ๆ เตรียมไว้ให้
และเมื่อนาฬิกาบอกเวลา 10 โมงตรงทุกคนก็เคลื่อนย้ายไปยังห้องฝั่งซ้ายเพื่อเริ่มงานเวิร์คช้อป และละที่นั่งจะมีชื่อเฟสลุ๊คส่วนตัวของแต่ละคนอยู่เพื่อเป็นการบอกว่า ฉันได้นั่งตรงนี้และฉันอยู่ทีมนี้ บอกเลยว่า งานนี้นีเวียเขาไม่ได้มาเลนๆ นะคะ งานนี้มีการจัดทีมด้วยค่ะ และแน่นอนมันต้องมี 3 ทีมเช่นเดียวกับเดอะเฟสนั่นเอง และเมย์ก็ได้อยู่ทีมพี่ปอย #ทีมพี่ปอย พี่ปอยเป็นหนึ่งในทีมงานของกิจกรรมในครั้งนี้ พี่เขาเป็นผู้ใหญ่ไซต์น่ารัก ผมตรงยาว มีหน้าม้าเหมือนกับเมย์ ใส่แว่นสีดำ และจัดฟันเหมือนกับเมย์ และภายในทีมพี่ปอยก็มีลูกทีมอีก 5 คนซึ่งประกอบไปด้วย พี่มด พี่นท พี่นิ่ม(คุณแม่คนสวย) พี่ลูกหมู และสุดท้ายคือเมย์นั่นเอง และทีมเราก็ได้นั่งกลางห้องและเมย์ก็รั่งตรงกลางพอดีเลย
หลังจากหย่อนก้นลงบนเก้าอี้กิจกรรมแรกก็เริ่มต้น งานเริ่มด้วยความเรียบง่าย กันเองและเน้นความสนุก บรรยากาศไม่เครียดและไม่กดดันอย่างที่คิดเลย เริ่มต้นด้วยพี่รัน พี่ผู้ชายแต่งกายสุภาพหน้าตาดีด้วยรอยยิ้มที่สดใส พี่รันนี่ละที่เป็นคนทำให้เมย์ได้รู้และเข้าใจนีเวียมากขึ้น นีเวียต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมณี คนคิดค้นและสร้างนีเวียขึ้นมาคือ Beiersdoft และนีเวียก็เป็นแบรนด์แรกของเขาเช่นกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกที่เขาได้ให้กำเนิดมานั่นก็คือตัว nivea cream ตลับสีน้ำเงินครีมเข้มข้นเหนี่ยวสุดๆ แต่ก็บำรุงได้ดีสุดๆ แบบที่สุดจริงๆ เมย์เชื่อว่าแถบทุกคนต้องเคยใช้มัน ไม่ว่าจะโดนแม่บังคับก็ตามที
พี่รันแนะนำสินค้าต่างๆ ของทางนีเวีย ซึ่งต้องบอกเลยว่า ทางทีมงานนีเวียเขาทำงานหนักมากจริงๆ นะ จากที่ฟัง เขาดูใส่ใจฟังผู้บริโภคอย่างเราๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญแทบที่สุดสำหรับการทำแบรนด์ เพราะเราคือผู้บริโภคหรือเป้นลูกค้าของเขา ยิ่งถ้าเขาสามารถแก้ไขปัญหาในสิ่งที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เรียกร้องได้ ก็จะยิ่งเป้นผลดีที่ผลิตภัณฑ์และแบรนด์นั้นๆ มาก และนีเวียก็ได้พยายามแก้ไขในสิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ จนเรียกได้ว่า แก้ไขได้สำเร็จด้วย! (ขอปรบมือดังๆ) เพราะจากปปัญหาเดิมที่นีเวียพบมาตลอดคงเป็นเรื่อง ครีมเหนี่ยว ซึ่ง ณ วันที่ได้มีโอกาสลองสินค้าแทบจะทุกตัวของนีเวียกล้าพูดอย่างเต็มปปากเลยจริงๆ ว่า ครีมเขาไม่เหนี่ยวแว้ววววววว!!!!! (ไม่เหนี่ยวแล้วเนี้ยไม่ได้หมายถึงทุกตัวไม่เหนี่ยวนะคะ เพราะบางผลิตภัณฑ์และบางสูตรเหนี่ยวนี่สิดี เช่นกระปุกน้ำเงินเป็นต้น) และนีเวียได้มีแคมเปญถ้าพิสูจน์ถ้าเหนี่ยวยินดีคืนเงินกับ 4 ผลิตภัณฑ์นี้
เมย์ได้ลองครีมเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รวมถึงคลีนซิ่งด้วย ซึ่งเมย์ใช้เองเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมย์ใช้สีม่วง ซึ่งสีที่อยู่ตามขวดของผลิตภัณฑ์นีเวียมีความหมายและแยกประเภททุกอัน เช่น สีม่วงเหมาะสำหรับผิวมันและมีสิว สีชมพูเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นเพียงความขาวเพียงอย่างเดียว และสีเขียวเหมาะสำหรับผู้ที่ผิวมันแถมมีสิวและที่สำคัญอยากขาวด้วย สูตรสีเขียวเหมาะสุดๆ และที่สำคัญ 0% แอลกอฮอล์ สะอาด ไม่เหนี่ยวหรือมันด้วย แต่มันเย็นๆ ได้ครบแถมปลอดภัยไว้ใจได้จริมๆ !
ส่วนตอนลองครีมนะ ขอสารภาพตรงๆ ตอนมาเมย์ลืมทาครีม แต่พอเริ่มเวิร์คช้อปรู้สึกคุ้มมากเพราะทาครีมไปเยอะมากชุ่มแขนสุดๆ เมย์ลองครีมที่แขนฝั่งซ้ายตั้งแต่หัวไหล่จรดปลายนิ้วจริงๆ และข้างขวาก็ไม่ได้ทาแต่อย่างใด มันเลยเปรียบเทียบได้ชัดมากๆ ว่าเราควรทาผิวทุกวันเพื่อดูแลผิวเราให้ดีที่สุดเพราะมันชึ่มชื้นอยู่ฝั่งเดียวจริงๆ ณ วันนั้น
นอกจากนั้นนีเวียก็มีโฟมและอื่นๆ อีกและอีกอันที่เด็ดก็คือครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดนีเวียไม่ต้องรอ 20 นาที !! ไม่ต้องรอในที่นี้คือ ทาเสร็จสามารถออกแดดได้เลย เพราะครีมกันแดดที่อยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่และในความจำของคนส่วนใหญ่รวมถึงเมย์จะทราบดีว่าดรีมกันแดดจะต้องทาก่อนออกไปเจอแดดเป็นเวลา 20 นาทีนั่นเอง
หลังจากกิจกรรมพาทที่ 1 เสร็จก็มาต่อด้วยพาทที่ 2 นั่นก็คือ บล็อกเกอร์ไทยตัวจริงจะมาแนะแนวเรานี่เอง และบล็อกเกอร์คนนั้นก็คือ พี่เจนเมคอัพ (Jane Makeup) นั่นเอง พี่เจนตัวจริงตัวเล็กจริงๆ และแนะแนวได้ดีมากๆ มีสาระ และสนุกสนาน เพลินจริงๆ เพราะพี่เขาพูดเก่งและเป็นตัวของตัวเองมากๆ พี่เจนทำให้เมย์เข้าใจอะไรมากขึ้นกับคำว่าบล็อกเกอร์ เข้าใจในหลายๆ สิ่งที่ไม่ค่อยเข้าใจ ได้รู้ถึงการทำงานของพี่เขา ดีใจจริงๆ ที่ได้พี่เจนมาแนะแนวในวันนั้น
พาทที่ 2 จบไป พาทที่ 3 ก็ตามมา นั่นก็คือ เว็บ Vanilla ได้มาแนะแนวเรานั่นเอง และในวันนั้นก็ทำให้รู้ว่า เจ้าของเว็บไม่ใช่คนไทย แต่เป็นหนุ่มญี่ปุ่นหน้าตาใจดีสุดๆ นั่นเอง!! จากส่วนนี้เมย์ได้รู้ถึงการทำงานของเว็บไซต์ความงาม ว่าการทำงานของเขาเป็นอย่างไร ขอบคุณมากๆ นะคะ
มาในส่วนพาทที่ 4 จะบอกว่าวันแรกนี้โปรแกรมเขาแน่นมากๆ จริงๆ มาถึงส่วนนี้ได้พี่ณิชชิเป็นกูรูด้านดิจิทอลโดยเฉพาะมาแนะนำในส่วนนี้ พี่ณิชชิมาในชุดเดรสเกาะอกและมีผ้าพันคอ (เมย์คิดว่างั้นนะ) ผมสั้น และโคตรเป็นตัวเอง พี่เขาทำให้เมย์เข้าใจโลกดิจิทอลมากขึ้นอีกระดับรู้ว่าควรจะทำอย่างไรให้เราสามารถมีโอกาสเป็นบล็อกเกอร์ได้ในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวเรา และผู้อ่านทุกคนว่าการเป็นตัวเรานั้นสามารถเข้าถึงใครได้บ้างเท่านั้นเอง