สวัสดีค่ะสาวๆห้องแป้ง   จขกท กลับมาวันนี้พร้อมกับการแต่งหน้าลุคที่สาวๆต่างประเทศฮิตกันเป็นอย่างมาก คือการติดขนตาฟูๆ และทำปากให้หนาอวบอิ่ม  
เนื่องจากมีน้องๆขอกันเข้ามาเยอะพอสมควร จขกท จะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เบ้าหน้าตัวเองจะรับได้ละกันนะคะ

****กระทู้นี้มีสปอนเซอร์นะคะ เนื่องจาก จขกท ได้มีโอกาสได้เข้ารับบริการจาก Doctor Grace Clinic

ก่อน แต่งหน้าขอเล่าก่อนนะคะ  จขกทแต่งหน้าบ่อย อาจจำทำให้ผิวถูกสัมผัสมาก ซึ่งเป็นเหตให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการฟิ้นฟูและดูแลบ้าง มีโอกาสได้เข้ารับการปรึกษาเรื่องความงามกับหมอเกรซที่ Doctor Grace Clinic ซึ่งที่นี่คุณหมอเค้าดังด้านฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ค่ะ ยืนยันได้จากการที่ทางคลินิกเพิ่งได้โล่จากอัลเลอแกน บ.โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ของอเมริกา ยกให้เป็น value customer แห่งปี2015กันเลยทีเดียว จขกทจึงไว้วางใจให้ที่นี่ดูแลค่ะ




คุณหมอเกรซ แนะนำให้จขกททำสองอย่างคือ การยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีล่าสุด และฉีดโบท๊อกซ์ค่ะ  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉีดโบท๊อก  อันเนื่องมาจากถึงเวลาอันสมควรแล้ว  อายุเข้าเลข3 มาแล้ว ขอลองสักครั้ง จึงได้นำประสบการณ์มาเล่าต่อค่ะ  

ตัว แรกที่เข้ารับการบริการ คือการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Exilis Elite เป็น การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency) ส่งผ่านพลังงานแบบเจาะจงอย่างต่อเนื่องที่ชั้นผิวหนัง ช่วยแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับ เข้ารูป
ความพิเศษของเครื่องนี้ก็คือ มันเป็นเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีMonopolar Radiofrequencyเหมือนเครื่องยกกระชับยี่ห้อหนึ่งที่ดังมากๆ แต่มันไม่ต้องซื้อช็อตไว้ยิงเหมือนเครื่องอื่นๆที่ทำให้ค่ารักษาพุ่งไปหลายหมื่นถึงแสนบาท การทำเจ้าเครื่องนี้จึงราคาไม่แพง เป็นที่นิยม และได้รับรางวัลการันตีมากมายจากต่างประเทศ


ดาราดังๆที่ต่างประเทศ เช่น คิม คาร์ดาเชี่ยน จอร์จ คลูนี่และภรรยา ก็ยังมีข่าวว่ามารับการรักษาด้วยเครื่องนี้กันด้วยค่ะ Exilis Eliteยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศอเมริกา ว่าช่วยในการยกกระชับ ลดริ้วรอย และลดเซลลูไลต์ได้ด้วยค่ะ

หน้าตาของเครื่องนั้น


จขกท ถามคุณหมอมาเป็นการส่วนตัวแบบบ้านๆว่า มันจะช่วยให้ผิวกระชับได้ไงคะ  คุณหมอตอบว่า คลื่นความร้อนมันจะทำให้ผิวชั้นในเกิดการกระตุ้น มีแผล ทำให้ผิวเร่งผลิตคอลลาเจน เหมือนเวลาเราโดนมีดบาดแล้วผิวมันรักษาตัวเองได้ รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ตามข้างล่างนี้เลยค่ะ เอามาจากblogของคุณหมอเกรซค่ะ





การใช้คลื่นความถี่วิทยุ หรือ Radiofrequencyเป็นหนึ่งในวิธีการกระตุ้นคอลลาเจ้นบนผิวมนุษย์โดยการสร้างความร้อนที่ผิวให้ถึงจุดที่ทำให้เกิดcollagen shrinkage ผลที่ได้ก็คือ ผิวจะมีความตึง ความยืดหยุ่นดีขึ้น ผิวไม่หย่อนคล้อย ถ้าเป็นบริเวณผิวหน้าที่มีช่วงแก้มย้อย หรือเหนียง หลังทำก็จะเห็นกรอบหน้าชัดเจนขึ้น เหนียงน้อยลง สามารถใช้ยกคิ้วและหางตาได้ ถ้าเป็นผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้หญิง จะทำให้ผิวหนังบริเวณแคมตึงขึ้น สีดำคล้ำจะกลายเป็นสีชมพู
เครื่องexilis eliteเป็นเครื่องrf(radiofrequency)แบบmonopolar หรือขั้วเดี่ยว ซึ่งจะสามารถส่งผ่านพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวได้ลึกกว่าrfแบบอื่นๆ จึงจะเห็นผลได้ชัดเจนกว่า อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์ของเครื่อง ที่จะช่วยป้องกันความร้อนที่ผิวไม่ให้สูงเกินไปจนเกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น อาการburn เหมือนmonopolar rfทั่วๆไป จึงสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ผลข้างเคียงต่ำ และไม่เจ็บ ไม่ร้อนเท่าเครื่องmonopolar rfอื่นๆค่ะ
มาถึงขั้นตอนการทำนะคะ ก่อนอื่นก็จะมีพนักงานมาทำความสะอาดหน้า รวมถึงบริเวณด้านหลังเราที่จะต้องติดแผ่นสื่อ เพื่อใช้ในการรักษา จขกทชอบที่พนักงานเค้าใส่ใจความสะอาดมากค่ะ ทุกครั้งก่อนจับหน้าเรา เค้าต้องล้างมือก่อนทุกครั้ง อีกทั้งตอนคลีนหน้ายังมีความละเอียด รู้สึกได้เลยว่าล้างหน้าได้หมดจดมากค่ะ อ่อลืมบอกไปค่ะ เจ้าเครื่องนี้มีคำแนะนำก่อนทำก็คือ ให้ดื่มน้ำมาก่อน เพราะเนื่องจากมีความร้อน อาจทำให้ร่างกายรู้สึกขาดน้ำได้ค่ะ และก่อนทำควรเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ จะได้ไม่ปวดฉี่ระหว่างทำค่ะ

ระหว่างทำเครื่อง Exilis Elite  เวลาที่สัมผัสลงบนผิวจะมีความรู้สึกอุ่นๆ ไม่ถึงกับทนไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่จะใช้ยกกระชับผิวแค่ครั้งละไม่กี่วินาที ไม่ทำให้รู้สึกแสบร้อนหรือระคายเคืองผิวแต่อย่างใด เหมือนนวดหน้าอุ่นๆ รู้สึกสบายมากจนเกือบหลับได้เลยค่ะ  วันรุ่งขึ้นก็มีผิวหน้าปกติ และจะเริ่มรู้สึกว่าหน้าเปล่งปลั่งขึ้นเรื่อยๆในวันถัดไป คุณหมอบอกว่า เจ้าเครื่องนี้ไม่ได้ไปเปลี่ยนหรือยุ่งเกี่ยวกับเม็ดสีที่ผิวแต่อย่างใดนะคะ  แต่ที่รู้สึกว่าหน้าขาวขึ้น ก็เพราะว่าผิวตึงขึ้นค่ะ คุณหมอเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือผิวที่เต่งตึงมีคอลลาเจ้นเยอะ ก็เหมือนลูกโป่งที่เป่าลมเข้าไปเต็มใบ สีจะอ่อนลง และเด้งมาก ถ้าลูกโป่งถูกปล่อยลมออกมาจนแฟบ สีก็จะเข้มขึ้น และไม่ยืดหยุ่นได้เหมือนเดิมค่ะ แสดงว่าที่เรารู้สึกว่าหน้าขาวขึ้นหลังทำ แปลว่าผิวเราเต่งตึงขึ้นแล้วค่ะ


การเข้ารับยกกระชับผิวต้องทำต่อเนื่อง 4 ครั้ง  ห่างกันครั้งละ  1  สัปดาห์ค่ะ จะเห็นผลในเรื่องความตึงที่3เดือนหลังทำครั้งสุดท้าย จขกทเพิ่งทำไปแค่ครั้งเดียว จึงต้องไปซ้ำอีกค่ะจึงจะเห็นชัดเจน
นวัตกรรมแบบเครื่องExilis Elite ยังถูกผลิตมาสำหรับทำยกกระชับผิวที่จุดซ้อนเร้นของผู้หญิงด้วยค่ะ ชื่อElite Intimate  ที่คลีนิคก็มีบริการสำหรับคุณผู้หญิงที่ใส่ใจผิวและความเต่งตึงของทุ่งดอก ลาเวนเดอร์เป็นพิเศษ ชอบอกเลยว่า หลังทำฟินมากๆ 55 คือมันเต่งตึง กระชับขึ้น ความคล้ำของน้องก็น้อยลงค่ะ ที่สำคัญ ไม่เจ็บเลยย
Exilis Eliteยังใช้สลายไขมัน กระชับสัดส่วนช่วงตัวได้ด้วยนะคะ แต่จขกทไม่ได้รับบริการเรื่องนี้ค่ะ
มาถึงการโบท๊อกค่ะ จขกท ใช้จิ้มที่ หางตา2 ข้างเพื่อลดตีนกา  ระหว่างคิ้ว และหน้าผากค่ะ โดยใช้ของเกาหลียี่ห้อNeuronox หลังทำคุณหมอมาอธิบายวิธีดูของแท้ให้ด้วยค่ะ ของแท้ที่ขวดจะมีตัวอักษรโฮโลแกรมเป็นลายสีรุ้งๆ ต้องเอียงๆขวดดูค่ะ จะเห็นคำว่า Medytox ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตนิวโรนอกค่ะ แอบสังเกตว่าที่คลินิกใช้เยอะมากก มีขวดเปล่าใสโหลไว้เต็มเลยค่ะ คุณหมอบอกอยากเอากลับไปดูที่บ้านก็ได้นะคะ 55

ก่อนทำคุณหมอจะมีการวิเคาระห์หน้าเราก่อน ว่าเหมาะกับการฉีดอย่างไร แบบไหน คิ้วทรงไหนดี อะไรงี้ค่ะ ซึ่งใช้เวลาวิเคราะห์ก่อนฉีดประมาณ5-10นาทีค่ะ  รีวิวระหว่างทำ ไม่เจ็บเลยค่ะ คุณหมอทำเร็วมาก น่าจะไม่เกิน10-15นาที ไม่ทันเจ็บเลย เสร็จแล้ว มือเบามาก หลังทำได้2อาทิตย์ทุกอย่างก็ตึงเป๊ะ ชอบมากค่ะ พอผิวดีแล้ว จะแต่งหน้าก็ง่ายขึ้น เรียบเนียนขึ้น แป้งติดดีขึ้นด้วยค่ะ

รูปสมัยก่อน ก่อนฉีดโบท็อก  ถ้าหยีตา กลีบเต็มพิกัดเลยค่ะ  ตอนถ่ายรูปจะไม่ยิ้มเพราะว่าจัดฟันรู้สึกอายๆ และกลีบที่หางตาด้วยนี่แหละ
แต่ชีวิตจริงก็มีการหัวเราะฉีกยิ้มเต็มพิกัด เคยมีคนทักแบบขำๆว่า เธอตีนกาเพียบนะ  เพื่อนอะขำแต่ จขกท ไม่ขำ



หลังฉีด 2 สัปดาห์ ยิ้มแล้วกลีบที่หางตาไม่ปรากฏ แต่ใต้ตายังมีถุงเพราะไม่ได้ฉีดใดๆ ยังอยากให้ตายิ้มไปพร้อมๆกับหน้าค่ะ ไมอยากให้ยิ้มแล้วตาแข็งทื่อ


ฉีกยิ้มขั้นสุด


ขมวดคิ้ว


ยักคิ้วเต็มขั้น
หลังจากฉีดโบท๊อกมา 2 สัปดาห์ ยิ้มแบบหยีตาก็ไม่มีรอยยับตีนกาเหมือนแต่ก่อนแล้ว  รวมทั้งรอยย่นที่หน้าผาก และระหว่างคิ้ว   แต่หน้าไม่ได้แข็งตายังยิ้มได้ เพราะ จขกท ยังมีถุงใต้ตาที่เวลายิ้มยังเป็นตายิ้มอยู่

เผื่อถาม คลีนิคอยู่ที่ รามคำแหง 65  จขกท เดินทางด้วยคลองแสนแสบ ลงท่าเรือท่า มหาดไทย  เดิน 100  ถึงคลีนิค  ถ้ารถส่วนตัวก็เข้าซอย รามคำแหง65 อยู่ปากซอยเลยค่ะ  

เอาละมาเข้าเรื่องแต่งหน้ากันดีกว่า


ลงรองพื้น estee สี 3w2 ให้ทั่วใหน้า แล้วเกลี่ยให้เนียนด้วยแปรงหรือ ฟองน้ำ


ปัดแป้งให้ทั่ว จขกท ใช้Beauty buffet


เขียนคิ้วตามรูปคิ้ว ด้วยEyebrown kit Mei linda


ไพรเมอร์เปลือกตาด้วย  Mac painpot


ใช้แค่สีน้ำตาลเนื้อด้าน สีเดียวคัดเบ้าเบาๆที่เบ้าตา เว้นช่วงเปลือกตาไว้ให้เป็นสีอ่อน


เขียนเส้นโคนขนตาบน ด้วยดินสอสีดำ  Mei Linda  ลุคนี้ไม่เขียนตาล่างนะคะ


ดัดขนตา ปัดมาสคาร่าบนล่าง


ติดขนตาปลอม เลือกที่ฟูแต่จับเป็นช่อ ไม่เอาบนแผงหนาพรืดนะคะ


คอนทัวที่สันจมูก และโหนกแก้มค่ะ  ด้วย  NYC


ปัดแก้ม Bobbibrown สี Poppy19  ค่ะ


เคล็ดไม่ลับการทำให้ปากดูพองหนา เห็นสาวฝรั่งทำกัน เลยอยากเล่นบ้าง


ผลออกมาปากบานสมใจเลยค่ะ  รีบทาลิปสติกเลย  ลิปตัวนี้ยังไม่มีขายนะคะ เป็นลิปตัวอย่างเขาให้มาลองสี


ถ่ายเซลฟี่หน่อย ทำหน้าทำตาแบบสาวฝรั่ง ที่ทำปากบานๆ แหม๋ทำไปได้


แอ๊คท่าซะหน่อย



เรียบร้อยค่ะ  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ฃ
หวังว่ากระทู้นี้คงประประโยชน์กับสาวๆที่หาความรู้เรื่องการเสริมความงาม จขกท ไม่ใช่ผู้รู้แต่อย่างใด  จขกท ได้รับข้อมูลมาจากคุณหมอโดยตรงเลยเอามาเล่าสู่กันฟังอีกทีค่ะ
บล็อกคุณหมอ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.doctorgraceclinic.com/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.facebook.com/doctorgraceclinic?__mref=message_bubble

ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ

**แก้ไขรูปภาพ