ผลงานของเชลซีในฤดูกาลนี้นับว่าเลวร้ายสุดๆ นับตั้งแต่โรมัน อับราโมวิช เข้ามาซื้อกิจการสโมสร แถมไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผลงานในยุคการทำทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ ชายผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรแห่งนี้มาอย่างมากมาย แถมพึ่งพาทีมชุดนี้คว้าแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาอีกด้วย จนในที่สุดเมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสโมสรเชลซีก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้แยกทางกับกุนซือหน้าเครียดแล้ว
ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากครั้งหนึ่งของเสี่ยหมีเลยทีเดียว ที่บอกแบบนี้ก็เพราะ มูรินโญ่ ไม่เหมือนผู้จัดการทีมคนก่อนหน้าที่เคยปลดออก เดอะสเปเชียลวัน มีเหล่าสาวกเชลซีไม่น้อยที่ให้การสนับสนุน ถึงแม้ว่าผลงานในสนามจะออกมาย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม ผิดกับผู้จัดการทีมอย่างราฟา เบนิเตซ ที่ถึงแม้จะพาทีมคว้าแชมป์มาได้ แต่เมื่อไหร่ที่ทีมแพ้ขึ้นมาเขาพร้อมจะโดนแฟนบอลถล่มได้ทันที
มูรินโญ่ ถือเป็นที่รักของเหล่าสาวกสิงห์บูล ไม่น้อยไปกว่าดิดิเย่ ดรอกบา, จอห์น เทอร์รี่ หรือแม้กระทั่งจานฟรังโก โซลา จากผลงานที่เขาฝากเอาไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกของสโมสรในรอบ 50 ปี นับเป็นผลงานที่เหล่าแฟนบอลยังไม่เคยลืมเลือน แต่การคว้าแชมป์มามากมายมันก็ไม่ได้การันตีถึงอาชีพการทำงานในฐานะผู้จัดการทีม เพราะเมื่อใดที่คุณทำผลงานย่ำแย่ ไม่สามารถรักษาความคงเส้นคงวาได้ คุณก็พร้อมที่จะโดนไล่ออก ไม่ว่าจะเคยได้แชมป์อะไรมาก็ตาม ไม่เชื่อลองถามคาร์โล อันเชลอตติ และโรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ได้เลย
แรงสนับสนุนการตัดสินใจของเสี่ยหมีแทบเรียกได้ว่ามีเพียงผลงานของสโมสรเท่านั้นเอง เนื่องจากมูรินโญ่ยังได้รับเสียงสนันสนุนจากแฟนบอลส่วนใหญ่อยู่ ยิ่งทุกครั้งที่ทีมลงสนามจะต้องได้ยินเพลงของมูรินโญ่ที่แฟนๆ แต่งให้ดังในสนามเสมอ ดังนั้นถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลออกมาว่าสโมสรสามารถกลับสู่ฟอร์มที่ดีขึ้นและไต่อันดับขึ้นมาจากก้นเหวได้สำเร็จ มันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้ามละ นั้นคือหายนะของเสี่ยหมีก็ว่าได้ เชื่อว่าเหล่าสาวกมูรินโญ่จะต้องออกมาถล่มเจ้าของสโมสรนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามใช่ว่าโรมันจะไม่ให้โอกาส เดอะสเปเชียลวัน ถ้านับเอาเฉพาะผลงานที่ย่ำแย่ปีนี้ เทียบกับผู้จัดการทีมที่ฝากผลงานไว้สุดห่วยคนอื่นๆ ของเชลซี อย่าง หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี หรืออังเดร วิลลาส-โบอาส แล้ว มูรินโญ่ถือได้ว่าได้รับโอกาสในการทำทีมนานกว่าคนอื่น พูดง่ายๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนปลดตั้งแต่แพ้ เซาแธมป์ตัน หรือ ลิเวอร์พูล คาบ้านไปนานแล้ว แต่จากอันดับที่มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน ทั้งๆ ที่แข่งมาเกือบจะครึ่งทางของฤดูกาลแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ยากจริงๆ
ถึงแม้จะน่าเห็นใจมูรินโญ่อยู่ไม่น้อย ที่อะไรๆ ในปีนี้ดูไม่เป็นใจเอาซะเลย การจะเป็นแชมป์นอกจากผู้เล่นจะต้องเก่ง แผนการเล่นต้องสุดยอด ยังต้องมีดวงมหาโชคที่ช่วยกันส่งเสริมไปถึงแชมป์ได้ แต่เชลซีดูไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย ผู้เล่นต่างฟอร์มตกพร้อมๆ กันหลายคน จนถึงขนาดมีทฤษฏีสมคบคิด ว่าน่าจะมีปัญหาภายใน เล่นไล่ผู้จัดการทีมหรือเปล่า มันเป็นได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะผู้เล่นที่น่าจะมีอิทธิพลต่อสโมสรเชลซีจริงๆ ก็น่าจะมีเทอรี่ กับอิวาโนวิช ที่อยู่กับทีมมานาน และมีอิทธิพลในห้องแต่งตัว 2 คนนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นศิทย์รักของมูรินโญ่เลยก็ว่าได้ ปัญหาในห้องแต่งตัวเชื่อว่ามูรินโญ่คุมได้อยู่ เพราะเชลซีไม่ใช่สโมสรรวมซูปตาแบบรีลมาดริด อย่างไรก็ตามถ้าคิดว่าจะมีปัญหากับบอร์ดบริหารแบบในสมัยยุคมืดที่โดนอัฟราม แกรนท์ พลักตกเก้าอี้แล้วนั่งแทน ก็อาจจะเป็นไปได้อยู่บ้าง แต่มันจะส่งผลถึงฟอร์มในสนามที่เละขนาดนี้เชียวเหรอ
เอาละงานหลังจากนี้คงไม่ใช่การควานหาตัว “คนทรยศ” ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลื่อยขาเก้าอี้มู เพราะเหตุการณ์มันจบที่มูรินโญ่โดนปลดไปแล้ว คงต้องยกให้เป็นปัญหาของผู้จัดการทีมคนใหม่ที่จะมาดูว่าผู้เล่นคนไหนจะได้ไปต่อบ้าง ก็ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจของโรมัน อับราโมวิช จะถูกต้องถูกเวลา เพราะในเวลานี้มันไม่สามารถหาคำตอบได้แล้วว่าถ้ามูรินโญ่คุมทีมต่อไป ทีมจะสามารถไต่อันดับขึ้นมาหรือลงไปเล่นแชมป์เปี้ยนชิพ คงมีแต่คำตอบที่รอจะตอบในอนาคตว่าเชลซีที่ไม่มีมูรินโญ่จะกลับมาได้ไหมมากกว่า
เชลซียังต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป้าหมายที่เสี่ยหมีตั้งเอาไว้นับจากวันแรกที่ซื้อสโมสรยังไม่ได้เฉียดเข้าใกล้เลย จำได้ว่าครั้งหนึ่งเสี่ยเคยบอกว่าจะทำทีมนี้ให้เทียบชั้นบาร์เซโลน่าหรือรีลมาดริด ทีมที่นักเตะทุกคนอยากไปเล่น ทีมที่มีลุ้นแชมป์ ทีมที่เวลาจับฉลากบอลยุโรปแล้วมีแต่คนไม่อยากจับเจอ จากวันนั้นถึงวันนี้จะ 12 ปี แล้ว ถึงเชลซีจะได้แชมป์มามากมาย แต่ดูแล้วทีมยังไปไม่ถึงระดับนั้นเลย วันนี้ดูเหมือนต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เดิมพันครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของเสี่ยหมี
ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากครั้งหนึ่งของเสี่ยหมีเลยทีเดียว ที่บอกแบบนี้ก็เพราะ มูรินโญ่ ไม่เหมือนผู้จัดการทีมคนก่อนหน้าที่เคยปลดออก เดอะสเปเชียลวัน มีเหล่าสาวกเชลซีไม่น้อยที่ให้การสนับสนุน ถึงแม้ว่าผลงานในสนามจะออกมาย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม ผิดกับผู้จัดการทีมอย่างราฟา เบนิเตซ ที่ถึงแม้จะพาทีมคว้าแชมป์มาได้ แต่เมื่อไหร่ที่ทีมแพ้ขึ้นมาเขาพร้อมจะโดนแฟนบอลถล่มได้ทันที
มูรินโญ่ ถือเป็นที่รักของเหล่าสาวกสิงห์บูล ไม่น้อยไปกว่าดิดิเย่ ดรอกบา, จอห์น เทอร์รี่ หรือแม้กระทั่งจานฟรังโก โซลา จากผลงานที่เขาฝากเอาไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกของสโมสรในรอบ 50 ปี นับเป็นผลงานที่เหล่าแฟนบอลยังไม่เคยลืมเลือน แต่การคว้าแชมป์มามากมายมันก็ไม่ได้การันตีถึงอาชีพการทำงานในฐานะผู้จัดการทีม เพราะเมื่อใดที่คุณทำผลงานย่ำแย่ ไม่สามารถรักษาความคงเส้นคงวาได้ คุณก็พร้อมที่จะโดนไล่ออก ไม่ว่าจะเคยได้แชมป์อะไรมาก็ตาม ไม่เชื่อลองถามคาร์โล อันเชลอตติ และโรแบร์โต ดิ มัตเตโอ ได้เลย
แรงสนับสนุนการตัดสินใจของเสี่ยหมีแทบเรียกได้ว่ามีเพียงผลงานของสโมสรเท่านั้นเอง เนื่องจากมูรินโญ่ยังได้รับเสียงสนันสนุนจากแฟนบอลส่วนใหญ่อยู่ ยิ่งทุกครั้งที่ทีมลงสนามจะต้องได้ยินเพลงของมูรินโญ่ที่แฟนๆ แต่งให้ดังในสนามเสมอ ดังนั้นถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลออกมาว่าสโมสรสามารถกลับสู่ฟอร์มที่ดีขึ้นและไต่อันดับขึ้นมาจากก้นเหวได้สำเร็จ มันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้ามละ นั้นคือหายนะของเสี่ยหมีก็ว่าได้ เชื่อว่าเหล่าสาวกมูรินโญ่จะต้องออกมาถล่มเจ้าของสโมสรนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามใช่ว่าโรมันจะไม่ให้โอกาส เดอะสเปเชียลวัน ถ้านับเอาเฉพาะผลงานที่ย่ำแย่ปีนี้ เทียบกับผู้จัดการทีมที่ฝากผลงานไว้สุดห่วยคนอื่นๆ ของเชลซี อย่าง หลุยส์ ฟิลิปเป สโคลารี หรืออังเดร วิลลาส-โบอาส แล้ว มูรินโญ่ถือได้ว่าได้รับโอกาสในการทำทีมนานกว่าคนอื่น พูดง่ายๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนปลดตั้งแต่แพ้ เซาแธมป์ตัน หรือ ลิเวอร์พูล คาบ้านไปนานแล้ว แต่จากอันดับที่มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้นเพียง 1 คะแนน ทั้งๆ ที่แข่งมาเกือบจะครึ่งทางของฤดูกาลแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ยากจริงๆ
ถึงแม้จะน่าเห็นใจมูรินโญ่อยู่ไม่น้อย ที่อะไรๆ ในปีนี้ดูไม่เป็นใจเอาซะเลย การจะเป็นแชมป์นอกจากผู้เล่นจะต้องเก่ง แผนการเล่นต้องสุดยอด ยังต้องมีดวงมหาโชคที่ช่วยกันส่งเสริมไปถึงแชมป์ได้ แต่เชลซีดูไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย ผู้เล่นต่างฟอร์มตกพร้อมๆ กันหลายคน จนถึงขนาดมีทฤษฏีสมคบคิด ว่าน่าจะมีปัญหาภายใน เล่นไล่ผู้จัดการทีมหรือเปล่า มันเป็นได้ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะผู้เล่นที่น่าจะมีอิทธิพลต่อสโมสรเชลซีจริงๆ ก็น่าจะมีเทอรี่ กับอิวาโนวิช ที่อยู่กับทีมมานาน และมีอิทธิพลในห้องแต่งตัว 2 คนนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นศิทย์รักของมูรินโญ่เลยก็ว่าได้ ปัญหาในห้องแต่งตัวเชื่อว่ามูรินโญ่คุมได้อยู่ เพราะเชลซีไม่ใช่สโมสรรวมซูปตาแบบรีลมาดริด อย่างไรก็ตามถ้าคิดว่าจะมีปัญหากับบอร์ดบริหารแบบในสมัยยุคมืดที่โดนอัฟราม แกรนท์ พลักตกเก้าอี้แล้วนั่งแทน ก็อาจจะเป็นไปได้อยู่บ้าง แต่มันจะส่งผลถึงฟอร์มในสนามที่เละขนาดนี้เชียวเหรอ
เอาละงานหลังจากนี้คงไม่ใช่การควานหาตัว “คนทรยศ” ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลื่อยขาเก้าอี้มู เพราะเหตุการณ์มันจบที่มูรินโญ่โดนปลดไปแล้ว คงต้องยกให้เป็นปัญหาของผู้จัดการทีมคนใหม่ที่จะมาดูว่าผู้เล่นคนไหนจะได้ไปต่อบ้าง ก็ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจของโรมัน อับราโมวิช จะถูกต้องถูกเวลา เพราะในเวลานี้มันไม่สามารถหาคำตอบได้แล้วว่าถ้ามูรินโญ่คุมทีมต่อไป ทีมจะสามารถไต่อันดับขึ้นมาหรือลงไปเล่นแชมป์เปี้ยนชิพ คงมีแต่คำตอบที่รอจะตอบในอนาคตว่าเชลซีที่ไม่มีมูรินโญ่จะกลับมาได้ไหมมากกว่า
เชลซียังต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป้าหมายที่เสี่ยหมีตั้งเอาไว้นับจากวันแรกที่ซื้อสโมสรยังไม่ได้เฉียดเข้าใกล้เลย จำได้ว่าครั้งหนึ่งเสี่ยเคยบอกว่าจะทำทีมนี้ให้เทียบชั้นบาร์เซโลน่าหรือรีลมาดริด ทีมที่นักเตะทุกคนอยากไปเล่น ทีมที่มีลุ้นแชมป์ ทีมที่เวลาจับฉลากบอลยุโรปแล้วมีแต่คนไม่อยากจับเจอ จากวันนั้นถึงวันนี้จะ 12 ปี แล้ว ถึงเชลซีจะได้แชมป์มามากมาย แต่ดูแล้วทีมยังไปไม่ถึงระดับนั้นเลย วันนี้ดูเหมือนต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง