คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 188
โอ๊ะ เราเข้าใจความหมายของ จขกท นะ
เราก็คิดเหมือนกันว่า
อะไรทำให้ผู้หญิงถึงต้องมองหาผู้ชายที่เหนือกว่าเสมอ
ขณะที่ผู้ชายก็มักมองหาผู้หญิงที่ไม่สูงกว่าเสมอ
จขกท ช่วยเสริมความคิดของเราด้วยการสรุปมันว่า ผู้หญิงติดกับการพึ่งพาผู้ชายหรือเปล่า
ดังนั้น ถ้าผู้หญิงพึ่งพาตัวเองได้ ก็ไม่แคร์
แต่ถ้าพึ่งพาตัวเองไม่ได้ก็จะกลับไปพึ่งพาผู้ชาย
แต่แล้วความรัก มันอยู่ที่ไหนกันในความสัมพันธ์
แม้แต่ตัวเราเองก็เป็นแบบนั้นนะ มองผู้ชายสูงกว่าเสมอ
เลยหาคู่ไม่ได้ เพราะใจก็คิดอคติไว้แล้วว่า อีกฝ่ายต้องดีกว่าเท่านั้น
ไม่ใช่ไม่มีผู้ชายดีกว่าสูงกว่านะ แต่เพราะที่ดีๆเขาก็มีคู่ไปหมดแล้วจร้าา
เราก็คิดเหมือนกันว่า
อะไรทำให้ผู้หญิงถึงต้องมองหาผู้ชายที่เหนือกว่าเสมอ
ขณะที่ผู้ชายก็มักมองหาผู้หญิงที่ไม่สูงกว่าเสมอ
จขกท ช่วยเสริมความคิดของเราด้วยการสรุปมันว่า ผู้หญิงติดกับการพึ่งพาผู้ชายหรือเปล่า
ดังนั้น ถ้าผู้หญิงพึ่งพาตัวเองได้ ก็ไม่แคร์
แต่ถ้าพึ่งพาตัวเองไม่ได้ก็จะกลับไปพึ่งพาผู้ชาย
แต่แล้วความรัก มันอยู่ที่ไหนกันในความสัมพันธ์
แม้แต่ตัวเราเองก็เป็นแบบนั้นนะ มองผู้ชายสูงกว่าเสมอ
เลยหาคู่ไม่ได้ เพราะใจก็คิดอคติไว้แล้วว่า อีกฝ่ายต้องดีกว่าเท่านั้น
ไม่ใช่ไม่มีผู้ชายดีกว่าสูงกว่านะ แต่เพราะที่ดีๆเขาก็มีคู่ไปหมดแล้วจร้าา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ผมไม่รู้จริงๆนะว่าผู้หญิงที่เขาเก่ง เขาเลี้ยงตัวเองได้ เขาเลยไม่ต้องมีผู้ชายในชีวิต
มันไปหนักกบาลข้างไหนของผู้ชายหรือ? เห็นกระแนะกระแหนผู้หญิงกันจั๊ง
ผู้หญิงอยากได้ผู้ชายหาเลี้ยงก็จิกกัดเขา ผู้หญิงหาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งผู้ชายก็จิกกัดเขา
สรุปคือพวกคุณมีอะไรดีบ้างครับนอกจากจิกกัดผู้หญิงไปวันๆ
ทำแล้วมันจะได้ดูขี้แพ้น้อยลงหรือไงครับ?
มันไปหนักกบาลข้างไหนของผู้ชายหรือ? เห็นกระแนะกระแหนผู้หญิงกันจั๊ง
ผู้หญิงอยากได้ผู้ชายหาเลี้ยงก็จิกกัดเขา ผู้หญิงหาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งผู้ชายก็จิกกัดเขา
สรุปคือพวกคุณมีอะไรดีบ้างครับนอกจากจิกกัดผู้หญิงไปวันๆ
ทำแล้วมันจะได้ดูขี้แพ้น้อยลงหรือไงครับ?
ความคิดเห็นที่ 12
ดิฉันก็คงเป็นคนนึงที่ จขกท. พูดถึงน่ะค่ะ เก่ง รวย หาเงินเองได้ (และขึ้นคานละ 55)
ตอบในฐานะผู้สไตล์นี้ ก็คิดหาน่ะค่ะ อยากมีคนมาข้างเคียงเหมือนคนทั่วไป แต่ที่ไม่หาหรือไม่มีก็เพราะ
- หาผู้ชายถูกใจไม่ได้ คนถูกใจไม่มาหา 55
- หาที่ถูกใจได้ วันนี้ดี วันหน้าไม่ดีหรือเปล่า ก็คิดนะ
- เพื่อนคุยน่ะ หาเพื่อนข้างๆ ตัว พี่น้องก็ได้
- ถ้าแต่งงานอยู่เป็นครอบครัวแล้ว ต้องทำหน้าที่แม่บ้าน ทำงานบ้าน ไม่อยากทำ
- ถ้ามีลูก ก็ต้องดูแลลูก ต้องลางานพาลูกไปหาหมอ
ที่สำคัญ การมีครอบครัว การมีลูก การเป็นแม่บ้านที่ดี มันขัดขวางความเจริญก้าวหน้าทางการงานค่ะ บางทีผู้หญิงเก่งๆ หาเงินได้เยอะๆ อยากจดจ่อชีวิตไปสู่การทำงาน การหาเงิน การเลื่อนขั้นตำแหน่งหน้าที่การงานมากกว่าค่ะ
ชีวิตระหว่างหาเงินเองจะมีความสุขกว่า การอยู่กับบ้านเลี้ยงลูก และรอรับเงินผัวน่ะค่ะ
ตอบในฐานะผู้สไตล์นี้ ก็คิดหาน่ะค่ะ อยากมีคนมาข้างเคียงเหมือนคนทั่วไป แต่ที่ไม่หาหรือไม่มีก็เพราะ
- หาผู้ชายถูกใจไม่ได้ คนถูกใจไม่มาหา 55
- หาที่ถูกใจได้ วันนี้ดี วันหน้าไม่ดีหรือเปล่า ก็คิดนะ
- เพื่อนคุยน่ะ หาเพื่อนข้างๆ ตัว พี่น้องก็ได้
- ถ้าแต่งงานอยู่เป็นครอบครัวแล้ว ต้องทำหน้าที่แม่บ้าน ทำงานบ้าน ไม่อยากทำ
- ถ้ามีลูก ก็ต้องดูแลลูก ต้องลางานพาลูกไปหาหมอ
ที่สำคัญ การมีครอบครัว การมีลูก การเป็นแม่บ้านที่ดี มันขัดขวางความเจริญก้าวหน้าทางการงานค่ะ บางทีผู้หญิงเก่งๆ หาเงินได้เยอะๆ อยากจดจ่อชีวิตไปสู่การทำงาน การหาเงิน การเลื่อนขั้นตำแหน่งหน้าที่การงานมากกว่าค่ะ
ชีวิตระหว่างหาเงินเองจะมีความสุขกว่า การอยู่กับบ้านเลี้ยงลูก และรอรับเงินผัวน่ะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 31
ทำไมต้องกระแนะกระแหน ไม่เข้าใจ
ความสำเร็จ ความสุขของชีวิตบางคนไม่ได้มาพร้อมกับ 'ผัว' นะคะ
ดูแลเอาใจใส่ เติมเต็ม ทำไมต้องให้ผู้ชายมาทำให้?
ในเมื่อทุกอย่างมันสามารถเติมเต็มได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องยึดติดอะไรกับคนอื่น
ผู้หญิงที่มีเงิน มีหน้าที่การงานที่ดี ชีวิตเค้าดีอยู่แล้ว
ถ้าไม่ได้ผู้ชายที่ดีเสมอกัน หรือดีกว่า จะมีไปทำไมล่ะคะ
ให้ชีวิตตกต่ำเหรอ? ไม่สุขสบายเหรอ?
ยกตัวอย่างง่ายๆเลย
สมมติผู้หญิงเงินเดือน 2 แสน
ผู้ชายเงินเดือน 5 หมื่น
ผู้หญิงจะไปกินข้าวมื้อละหมื่น ก็ทำได้ไม่เดือดร้อนตัวเองเท่าไหร่
แต่ผู้ชายที่รายได้น้อยกว่า เงื่อนไขต่างๆมันก็ตามมาเยอะ
ไลฟ์สไตล์ของสองคนมันก็แตกต่างกันละ
นี่ต่างหากที่ทำให้ต้องหาผู้ชายที่ฐานะดีกว่า หรือฐานะเสมอกัน
อีกอย่างผู้ชายสมัยนี้ หลายๆคนยังยึดติดกับค่านิยมโบราณ
เช่น ผู้ชายไม่ต้องทำงานบ้าน ผู้หญิงต้องทำ
ผู้ชายเจ้าชู้ได้ เที่ยวกลางคืนได้ เที่ยวอาบอบนวดได้ ผู้หญิงห้ามทำ
แล้วแบบนี้ ผู้หญิงเค้าจะเอามาให้เป็นภาระชีวิต ภาระทางความรู้สึกทำไม
ความสำเร็จ ความสุขของชีวิตบางคนไม่ได้มาพร้อมกับ 'ผัว' นะคะ
ดูแลเอาใจใส่ เติมเต็ม ทำไมต้องให้ผู้ชายมาทำให้?
ในเมื่อทุกอย่างมันสามารถเติมเต็มได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องยึดติดอะไรกับคนอื่น
ผู้หญิงที่มีเงิน มีหน้าที่การงานที่ดี ชีวิตเค้าดีอยู่แล้ว
ถ้าไม่ได้ผู้ชายที่ดีเสมอกัน หรือดีกว่า จะมีไปทำไมล่ะคะ
ให้ชีวิตตกต่ำเหรอ? ไม่สุขสบายเหรอ?
ยกตัวอย่างง่ายๆเลย
สมมติผู้หญิงเงินเดือน 2 แสน
ผู้ชายเงินเดือน 5 หมื่น
ผู้หญิงจะไปกินข้าวมื้อละหมื่น ก็ทำได้ไม่เดือดร้อนตัวเองเท่าไหร่
แต่ผู้ชายที่รายได้น้อยกว่า เงื่อนไขต่างๆมันก็ตามมาเยอะ
ไลฟ์สไตล์ของสองคนมันก็แตกต่างกันละ
นี่ต่างหากที่ทำให้ต้องหาผู้ชายที่ฐานะดีกว่า หรือฐานะเสมอกัน
อีกอย่างผู้ชายสมัยนี้ หลายๆคนยังยึดติดกับค่านิยมโบราณ
เช่น ผู้ชายไม่ต้องทำงานบ้าน ผู้หญิงต้องทำ
ผู้ชายเจ้าชู้ได้ เที่ยวกลางคืนได้ เที่ยวอาบอบนวดได้ ผู้หญิงห้ามทำ
แล้วแบบนี้ ผู้หญิงเค้าจะเอามาให้เป็นภาระชีวิต ภาระทางความรู้สึกทำไม
ความคิดเห็นที่ 14
ผู้ชายไม่ใช่ปัจจัย 4 ค่ะ ไม่มีก็ได้
เห็นตัวอย่างมาเยอะ ว่าแทนที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตมีความสุข กลับเพิ่มภาระขึ้นมากมาย
เราแค่ไม่อยากทำให้ชีวิตที่มันดีอยู่แล้ว มันหายไป
ถึงจะล้มก็ลุกใหม่ด้วยตัวเองได้ค่ะ
หมดเวลาให้ผู้ชายเปลี่ยนหลอดไฟให้
หมดเวลาให้ผู้ชายเป็นผู้นำแล้ว
หลังๆนี้ จะสังเกตุเห็นว่าผู้ชายลังเล โลเลมาก
ยังเด็ดขาดกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้
อย่าพึ่งมีใครเลยเน๊าะ
ไหนจะเห็นประเภทท้องแล้วทิ้ง
ไหนจะเห็นประเภทเกาะแหลก หลอกใช้
เห้ยยยย ,, เราว่าตอนนี้เรามีความสุข และยังไม่อยากรับความทุกข์เข้ามาค่ะ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เชื่อสนิทใจไปเลยค่ะว่าความรักมันกินไม่ได้
ก็ยังรอนะ รอวันที่จะเจอคนที่เข้ามาทำให้สุขเพิ่ม ไม่ใช่ทำให้ทุกข์เพิ่ม...
เห็นตัวอย่างมาเยอะ ว่าแทนที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตมีความสุข กลับเพิ่มภาระขึ้นมากมาย
เราแค่ไม่อยากทำให้ชีวิตที่มันดีอยู่แล้ว มันหายไป
ถึงจะล้มก็ลุกใหม่ด้วยตัวเองได้ค่ะ
หมดเวลาให้ผู้ชายเปลี่ยนหลอดไฟให้
หมดเวลาให้ผู้ชายเป็นผู้นำแล้ว
หลังๆนี้ จะสังเกตุเห็นว่าผู้ชายลังเล โลเลมาก
ยังเด็ดขาดกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้
อย่าพึ่งมีใครเลยเน๊าะ
ไหนจะเห็นประเภทท้องแล้วทิ้ง
ไหนจะเห็นประเภทเกาะแหลก หลอกใช้
เห้ยยยย ,, เราว่าตอนนี้เรามีความสุข และยังไม่อยากรับความทุกข์เข้ามาค่ะ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เชื่อสนิทใจไปเลยค่ะว่าความรักมันกินไม่ได้
ก็ยังรอนะ รอวันที่จะเจอคนที่เข้ามาทำให้สุขเพิ่ม ไม่ใช่ทำให้ทุกข์เพิ่ม...
ความคิดเห็นที่ 47
สมัยก่อนค่ะ ตอนยังสาวๆ หน้าที่การงานดี เงินเดือนก็ดี วันๆทำแต่งาน จนเติบโตในตำแหน่งงานระดับหนึ่ง
แต่ไม่ยักกะมีคนมาจีบ หรือมีมาจีบ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เอาเรา บางทีเราก็ไม่เอาเขา เหมือนคุยไปคุยมาแล้วไม่ใช่ หรือไม่ก็ มีแฟนแล้วแต่มาหลอกเรา อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ ส่วนมากผู้ชายที่เราเห็นว่าดีๆ เขาก็มีแฟนอยู่แล้ว
ก็เคยคิดว่า เออ อยู่เป็นโสดก็ได้วะ คือตอนนั้นคิดว่าตัวเองก็มีดีนะคะ ไม่ค่อยได้ย้อนมองดูนิสัยตัวเองหรอก ว่าทำไมเวลามีคนมาจีบเขาถึงถอยห่างจากเรา โทษแต่คนอื่น
คิดไปว่า "ฉันมีดีพอตัว ถ้าฉันหาผู้ชายที่เหมาะสมไม่ได้ฉันยอมขึ้นคาน"
ปัจจุบัน อายุอานามก็พอสมควร ก็มีแฟนแล้วนะคะ จนป่านนี้เพิ่งเจอคนที่คิดจะลงหลักปักฐานค่ะ จะมีลูกทันหรือเปล่าก็ไม่รู้
เลยย้อนมองดูตัวเอง ก็ตลกปนสมเพชกับความคิดตัวเองในสมัยก่อน
คือช่างไม่ประสีประสาอะไรเลยในเรื่องความรักและชีวิตคู่ คิดแต่ในวงกลมรอบตัวเราเอง ตั้งกรอบว่าความรักต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆที่มันไม่ได้มีสูตรสำเร็จอะไรเลยค่ะ มันขึ้นอยู่กับการปรับตัวเวลาที่เราเจอใครบางคนที่ใช่มากกว่า
ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปซะทุกอย่างนะคะ เพราะแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรยั่งยืนเลย
มันอยู่ที่ เรายังเป็นตัวของตัวเองได้ โดยที่เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และยอมเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างด้วยความเต็มใจเพื่อให้บางคนมีความสุข ต่างหากค่ะ
ถ้าหากตอนนี้ เรายังคิดแบบสมัยก่อน ป่านนี้ก็ไม่มีใครเอาเหมือนเดิมแหละค่ะ
อันนี้เป็นแค่เรื่องเล่ามุมหนึ่งจากคนๆหนึ่งเท่านั้นนะคะ สาวๆคนอื่นอาจจะไม่ใช่แบบนี้
แต่ไม่ยักกะมีคนมาจีบ หรือมีมาจีบ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เอาเรา บางทีเราก็ไม่เอาเขา เหมือนคุยไปคุยมาแล้วไม่ใช่ หรือไม่ก็ มีแฟนแล้วแต่มาหลอกเรา อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ ส่วนมากผู้ชายที่เราเห็นว่าดีๆ เขาก็มีแฟนอยู่แล้ว
ก็เคยคิดว่า เออ อยู่เป็นโสดก็ได้วะ คือตอนนั้นคิดว่าตัวเองก็มีดีนะคะ ไม่ค่อยได้ย้อนมองดูนิสัยตัวเองหรอก ว่าทำไมเวลามีคนมาจีบเขาถึงถอยห่างจากเรา โทษแต่คนอื่น
คิดไปว่า "ฉันมีดีพอตัว ถ้าฉันหาผู้ชายที่เหมาะสมไม่ได้ฉันยอมขึ้นคาน"
ปัจจุบัน อายุอานามก็พอสมควร ก็มีแฟนแล้วนะคะ จนป่านนี้เพิ่งเจอคนที่คิดจะลงหลักปักฐานค่ะ จะมีลูกทันหรือเปล่าก็ไม่รู้
เลยย้อนมองดูตัวเอง ก็ตลกปนสมเพชกับความคิดตัวเองในสมัยก่อน
คือช่างไม่ประสีประสาอะไรเลยในเรื่องความรักและชีวิตคู่ คิดแต่ในวงกลมรอบตัวเราเอง ตั้งกรอบว่าความรักต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆที่มันไม่ได้มีสูตรสำเร็จอะไรเลยค่ะ มันขึ้นอยู่กับการปรับตัวเวลาที่เราเจอใครบางคนที่ใช่มากกว่า
ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปซะทุกอย่างนะคะ เพราะแบบนั้นมันก็ไม่มีอะไรยั่งยืนเลย
มันอยู่ที่ เรายังเป็นตัวของตัวเองได้ โดยที่เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และยอมเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างด้วยความเต็มใจเพื่อให้บางคนมีความสุข ต่างหากค่ะ
ถ้าหากตอนนี้ เรายังคิดแบบสมัยก่อน ป่านนี้ก็ไม่มีใครเอาเหมือนเดิมแหละค่ะ
อันนี้เป็นแค่เรื่องเล่ามุมหนึ่งจากคนๆหนึ่งเท่านั้นนะคะ สาวๆคนอื่นอาจจะไม่ใช่แบบนี้
แสดงความคิดเห็น
ทำไมยุคสมัยนี้ผู้หญิงที่ทำงานเก่ง ฐานะดี ดูแลตัวเองได้ ถึงมักคิดว่าผู้ชายไม่จำเป็น ไม่ต้องมีแฟนก็ได้
มันไม่ใช่เรื่องของการเติมเต็มความรู้สึก การดูแล การเอาใจใส่ เติมความสุข ให้กันและกันหรอกเหรอ? เป็นเรื่องของจิตใจมนุษย์ขั้นพื้นฐาน ที่ไม่มีเรื่องของเงินมาเกี่ยวข้อง!!
(***ทั้งหมดนี้ในกรณีที่ผู้ชายเป็นคนใช้ได้ประมาณนึง มีความรับผิดชอบมีงานมีการทำ ไม่ใช่มาหลอกเอาเปรียบผู้หญิง หรือให้ผู้หญิงเลี้ยง แต่ผู้ชายอาจจะฐานะพอๆ กันหรือต่ำกว่า)
**เพิ่มเติม**
อ่านมาหลายๆ คอมเมนท์ ค่อนข้างได้คำตอบแล้วครับ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. ไม่ใช่ว่าผู้ชายไม่จำเป็น แต่ไม่อยากมีแฟน ชีวิตมีความสุขอยู่แล้ว ชีวิตคู่ไม่ใช่คำตอบ
2. ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่ "ถ้า" เจอไม่ดีก็อยู่คนเดียวดีกว่า (แบบหลังนี้ตอบเยอะมาก ไม่ดี เช่น ไม่เป็นผู้นำ เจ้าชู้ ตบตี ฯลฯ)
แต่เกือบทุกคนจะใช้คำว่า "ถ้า" เพราะเป็นการรอิงจากคนรอบตัว คนในครอบครัว หรือข่าวต่างๆ แต่ไม่ค่อยมีใครบอกว่ามาจากประสบการณ์ส่วนตัวเท่าไหร่ เหมือน "กลัว" ไว้ก่อน เลยไม่อยากมีดีกว่า ก็เห็นด้วยเพราะผู้ชายเลวๆ สมัยนี้ก็เยอะจริงๆ
**เพิ่มเติม 2**
บางคอมเมนท์ที่สงสัยว่าผมจีบผู้หญิงแบบนี้ไม่ติดเหรอ เลยมาโพสท์แขวะเค้า คำตอบคือไม่ใช่ประสบการณ์ส่วนตัวเลยสักนิด ที่ถามเพราะเห็นคำพูดแนวนี้เยอะมากก็แค่นั้นเอง! บางคำถามก็ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับตัวเองเสมอไปนะครับ