[CR] มาเลเซีย...เมื่อฉันอยากเป็น B A C K P A C K E R

21.10.2015 – 25.10.2015

          สวัสดีค่ะ พอดีเราและผู้ร่วมชะตากรรมอีก 2 คน มีโอกาสไปเที่ยวประเทศมาเลเซีย 3 เมือง (ปีนัง คาเมรอน กัวลาลัมเปอร์) 4 คืน 5 วัน เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบไม่พึงทัวร์ให้รับอ่านรับชมกัน ดองไว้ซะนานได้เวลาแล้ว เริ่มกันเลยเน๊อะ



ปีนัง ไม่ปีนี้จะปีไหน

          เนื่องจากว่าเห็นหลายๆคนแชร์กระทู้ปีนัง เลยอยากตาม ตามไปหา Street Art อยากไปถ่ายรูป กิเลสเกิด ตามรอยซิค่ะ แต่…ไม่ได้ไปปีนังที่เดียวนะคะ ตามที่บอกไปข้างต้น 3 เมืองนั้นเอง กลับมา กลับมาที่ปีนังกันก่อน เราเริ่มจองตั๋วเครื่องบินกันเกือบ 5 เดือนก่อนวันเดินทางได้ ไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไรเล๊ยยยย

วันแรก
21.10.2015
          ขึ้นเครื่องเวลา 06:00 ไปลงหาดใหญ่ ด้วยความที่ว่าช่วงที่เราไปนั้นโชคเข้าข้าง อากาศเป็นใจมากกกกกก #หมอกควันจากอินโด ทำให้เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ เลยต้องบินวนๆ ๆ เกือบ 45 นาที ณ เวลา 08:00 เครื่องบินก็สามารถลงจอดได้ ดีใจมาก หูอื้อหนักมาก



          จากนั้นก็ต่อแท็กซี่ไปที่วินรถตู้ เราได้รถเวลา 09:30 นั่งข้ามแดนไปมาเลเซียทางด่านสะเดา ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงถึงปีนัง โดยเวลาที่มาเลเซียจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมงค่ะ ลืมบอก...คนขับรถตู้บริการส่งถึงที่พักเลยค่ะ และนี่ก็ที่พวกของพวกเรา Noob Hotel



          เมื่อจัดการกับกระเป๋าที่หลับที่นอนเรียบร้อยแล้วเราก็เริ่มภารกิจทัวร์เมืองปีนังกันเล๊ยยยย จุดแรกที่เราไปนั้นก็คือ ตึก Komtar เพื่อหารถไปคาเมรอนพรุ่งนี้เช้า ซึ่งเราได้รถรอบ 11:30 หลังจากจองตั๋วเสร็จเรียบร้อยเราก็นั่งเมล์จะไปวัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si) แต่พวกเราดันไปขึ้นรถเมล์ CAT ซึ่งเป็นรถเมล์ฟรีจะวิ่งวนรอบเมือง ฮ่าๆ เลยถือโอกาสนั่งรอบเมืองแทน กลับมาที่ตึก komtar เปลี่ยนรถขึ้น 204 ราคา 2RM ไปวัด ตอนนี้เราขึ้นรถถูกแล้ว แต่…อีก 30 นาทีวัดจะปิด ลุ้นกันว่าจะไปทันไหม สุดท้ายก็ไม่ทันได้แต่มองทางเข้า แถมไม่ลงรถด้วยนั่งต่อไป Penang Hill สุดสายพอดี ด้วยความที่มีหมอกจางๆและควันพวกเราเลยตัดสินใจไม่ขึ้นรถรางไปบนยอด Penang Hill ถ่ายรูปเก็บบรรยายกาศด้านล่างแทน



          จากนั้นก็ขึ้นรถคันเดิมกลับ แต่ดันหลงทางไม่รู้ว่าต้องลงจุดไหน ด้วยความว่าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยนั่งมาจนสุดสายซึ่งเป็นท่าเรือเฟอร์รี่ถือโอกาสแวะซื้อ SIM กันเลย แล้วก็นั่งรถเข้าเมืองหาของกิน เข้าที่พัก เก็บแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้




วันที่สอง
22.10.2015
          เวลา 06:00 ณ ปีนัง ได้เวลาตื่นนอนทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ ทำอาหารเช้าทานกันเอง ที่พักมีครัวให้สามารถทำอาหารทานเองได้ อุปกรณ์ ของทุกอย่างมีให้พร้อม พอถึง 08:00 ได้เวลาออกจากที่พักตามล่าหา Street Art กัน เรามีเวลาทั้งหมด 3 ชั่วโมงสำหรับถ่ายภาพ Street Art ก่อนที่จะกลับที่พักเพื่อเก็บของไปคาเมรอน งานนี้เดินกันอย่างเดียวเลยค่ะ





Cameron Island เมืองแห่งตำนานจิม ทอมป์สัน

          หลังจากตระเวนถ่ายรูปกันก็ได้เวลากลับไปเก็บของแล้ว จากปีนังไปคาเมรอนใช้เวลาประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง ซึ่งไปถึงคาเมรอนก็เย็นมากแล้ว สำหรับที่พักคืนนี้อยู่ที่ Iris House Hotel เมือง Brinchang(บรินชาง) เกือบหลงกันอีกแล้วค่ะ คือ..ถ้ารถไม่จอดเติมน้ำมันก็จะนั่งยาวกันไปจนถึงเมือง Tanah Rata แน่นอน แค่ก้าวขาลงรถก็รับรู้ได้ถึงอากาศเย็นสบาย อากาศที่นี่ดีมาก ชอบบบบบมากๆเลยค่ะ ที่พักนี่ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมด้วย



          เข้าที่พักจัดแจงสัมภาระเสร็จแล้วเราก็ออกมาจองตั๋วรถเข้า KL กันค่ะ จากนั้นก็เหมารถแท็กซี่ชั่วโมงละ 25RM ขั้นต่ำ 3 ชั่วโมง จองรถเสร็จแล้วที่ลืมกันไม่ได้เลย คือ ของกิน!! มาที่คาเมรอนทั้งทีต้องห้ามพลาดกับเมนูนี้เลย “Steam boat” สุกี้หม้อไฟที่มีปล่องไฟสูงๆ จะว่าไปเหมือนท่อไอเสียรถนะเนี้ย ฮ่าๆ ส่วนรสชาตินั้นอร่อยใช้ได้เลยค่ะ



          หลังจากที่เราได้รถไป KL แล้ว เหมาแท็กซี่เสร็จ กินก็อิ่มกันแล้ว เราๆทั้ง 3 เลยเดินชมเมืองยามค่ำคืนสักแปป เจอคนไทยมาเที่ยวกันเยอะมากๆเลย มากันแบบแว๊นมอไซต์มาก็มี เจ๋งมาก

วันที่สาม
23.10.2015
          เวลา 07:00 ทานอาหารเช้าของทางโรมแรม 07:30 ได้เวลาที่เรานัดคุณลุงแท็กซี่มารับแล้ว มาตรงเวลามากๆ วันนี้เราขนสัมภาระไปด้วยเลยเพราะว่าเราจะให้คุณลุงไปส่งที่ท่ารถเมือง Tanah Rata กันค่ะ
          สำหรับทัวร์วันนี้เรามีเวลา 3 ชั่วโมงรวมเวลาเดินไปขึ้นรถแล้ว ที่แรกไร่ชา BOH ต่อด้วย Rose Valley และไร่ Straw Berry (เนื่องด้วยเวลาเรามีจำกัดเลยได้แค่ 3 ที่ไว้มีโอกาสค่อยไปใหม่เน๊อะ)






KL เมืองหลวงนี้ต้องตึกแฝด

          นั่งรถ หลับๆ ตื่นๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึง KLเมืองหลวงของมาเลเซียแล้ว จำไม่ได้ว่ารถจอดให้ลงไหน แต่ที่แน่ๆเราพักกันที่ Hotel ChinaTown Inn แค่ชื่อก็รู้แล้ว่าอยู่โซน China Town จำได้ว่าขึ้นรถไฟฟ้า LTR มาลงสถานี Pasar Seni แล้วเดินไปยังที่พัก ซึ่งเราจะพักที่นี่กัน 2 คืน



          เมื่อถึง KL ก็เกิดอาการหิวเนื่องจากเที่ยงเรายังไม่ได้กินอะไรกันเลยนี่ ก็เลยเดินออกมาหาของกิน เพื่อนแวะซักผ้าด้วย ไหนๆเพื่อนก็ซักผ้าแล้วแวะดูกันซะหน่อย จริงๆถ้าซักเยอะๆคุ้มมากๆ เพราะค่าซักก็แพงมากเหมือนกัน



          เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางไปที่ Merdaka Square (จตุรัสเมอร์ดกา) แต่คนมาเลเซียเค้าจะเรียกอีกกันอีกแบบไม่แน่ใจว่าเรียกอะไร ลืมไปแล้วววววววววว แต่เราเปิดหนังสือให้เค้าดูแทนเลยมาถูกที่ ฮ่าๆ จริงๆคนไทยมาเที่ยวกันเยอะมากๆ  เดินไปไหนก็เยอะคนไทย ทักทายกันบ้าง ยิ้มให้กันบ้าง



วันที่สี่
24.10.2015
          เวลา 07:45 เราก็ออกมาหาของกินแถวๆ China Town วันนี้เราจะไปถ้ำบาตู(Batu Cave) โดยจะต้องนั่งรถไฟฟ้า KTM ด้วยราคา 2RM ลงสถานี Batu Cave สุดสายพอดี เห็นบรรไดทางขึ้นก็เหนื่อยแล้ว




          จากนั้นเราก็นั่งรถไฟฟ้ากลับเข้าเมือง ตอนแรกที่ขึ้นรถไฟฟ้าไปถ้ำบาตูแอบสงสัยทำไมไม่เห็นมีผู้หญิงเลย หรือว่าบ้านเค้าไม่ให้ผู้หญิงทำงานนอกบ้านกัน ตอนลงรถไฟฟ้าเท่านั้นแหละได้คำตอบเลย คือเค้ามีขบวนของผู้หญิงให้ต่างหากนั้นเองค่ะ

          เข้าเมืองกัน….เราจะไปแหล่ง Shopping กันที่ Bukit Bintang จริงๆมีรถเมล์ฟรีไปนะ แต่เราไม่ขึ้นเพราะกลัวนั่งผิดอีก ฮ่าๆๆ จริงๆห้างแถวนี้ก็คล้ายสยามบ้านเราเลยค่ะ ส่วนราคาสินค้าก็ไม่ต่างกันมา อาจจะถูกกว่านิดหน่อยเพราะค่าเงิน



          Shopping แล้วเราก็เดินค่ะ ย้ำนะคะ เดิน!! เป็นกิโลเพื่อไปที่ Cocoa Boutique ซึ่งเป็นร้านช็อกโกแลตขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ ส่วนมากทัวร์มักจะมาลงค่ะ ในร้านก็จะมีช็อกโกแลตหลากหลายแบบ หลากหลายรสชาติมากๆเลยค่ะ อย่างเช่นรสพริก ตอนชิมจะไม่มีกลิ่นพริก แต่มีรสชาติออกเผ็ดนิดๆ



          หลังจากเดินกันมาไกลพอสมควร จากนั้นเราขึ้นรถไปที่นี่ ที่ๆเราต้องห้ามพลาด “ตึกแฝดปิโตรนาส” (Petronas Twin Towers) จริงๆเดินมาก็ได้นะ ใกล้กว่าตอนเดินจาก Bukit Bintang ไป Cocoa Boutique เยอะเลย

          ตึกแฝด…สวยจริงๆ จะสวยมากกว่านี้ถ้าไม่มีหมอกควัน #เสียใจ #ร้องไห้หนักมาก ผู้คนมาถ่ายรุปที่นี่กันเยอะมากกกกกก บางมุม บางจุดถึงกับต้องรอคิว รอจังหวะกันเลยทีเดียว




          ติดใจถ่ายกันตั้งแต่บ่าย 3 โมงจน 4 ทุ่มกว่าถึงกลับที่พักกัน ส่วนนี้รูปวิวหลังที่พัก “KL Tower”



วันที่ห้า
25.10.2015
          วันสุดท้ายที่มาเลเซีย เย็นนี้เราจะกลับกันแล้วววววววว เรามีเวลาเที่ยวกันแค่ช่วงเช้า เนื่องจากบ่ายๆเราต้องไปสนามบิน ที่สุดท้ายของวันนี้ขอร้องเพื่อนให้ไป อยากไปมากกกกกกก “มัสยิดปุตรา” มัสยิดสีชมพูนั้นเอง โดยพวกเราฝากกระเป๋าไว้ที่ KL Sentral แล้วนั่ง KLIA Trasit มาลงสถานี Putrajaya & Cyberjaya จัดแจงดูตารางรถไฟฟ้าพร้อมเสร็จสับ คือต้องให้ทันรอบนั้นอย่าเกินไม่งั้นจะไม่ทันเนื่องจากมีโอกาสตกเครื่องได้
          เมื่อมาถึงสถานี Putrajaya & Cyberjaya ก็ต่อรถเข้าไปที่มัสยิดกันเล๊ยยย จริงๆก็มีล็อกเกอร์ให้ฝากของเช่นกัน เศร้าแปปปปปป(เราไม่รู้ว่ามีไง เลยต้องเสียเวลาเสียตังย้อนกลับไปอีกรอบ)




          ในมัสยิดสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบมากๆ เรามาเพื่อสิ่งนี้จริง อ๋อๆๆ ของกินๆๆ ที่นี่มีปู มีกุ้งล็อบสเตอร์ราคาไม่แพง อย่าลืมไปทานนะคะ เพราะเราลืม ฮ่าๆ ลืมจริงๆ เราพลาดแล้ว พลาดกุ้ง ไม่พอ พลาดอีกคือ ลืมดูตารางรถออกจากมัสยิดไปสถานีรถไฟฟ้าก็เลยต้องนั่งรอไปอีกเกือบ 20 นาที และแล้วรถก็มา กลับไปเอากระเป๋า หาของกิน แล้วก็ไปสนามบินกลับประเทศไทยกัน

          จบแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ หวังว่าจะชอบและอยากออกเดินทางแบบพวกเราค่ะ ^^

สรุปค่าใช้จ่ายคราวๆ
ค่าที่พัก
          ปีนัง Noob hotel = 1140.96฿
          คาเมรอน ไฮแลนด์ Iris House Hotel = 1,808.74฿
          กัวลาลัมเปอร์ ไชน่า โฮเท็ล อินท์ = 2001.46฿ (2 คืน)
          รวมทั้ง 3 ที่ = 4951.16฿  
          ราคาต่อคน = 1650.39฿
ค่าเดินทาง
      ค่าเครื่องบินไปหาดใหญ่ = 985฿
      ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปวินรถตู้ = 250/3 = 83.33฿ -----> 84฿
      ค่ารถตู้จากหาดใหญ่ไปปีนัง = 400฿
          ค่าเครื่องบินกลับไทย = 1335฿
          ค่ารถอื่นๆ (ที่จำไม่ได้ ประมาณ) = 500฿
-------------------------------------------------------------------------------------
          ค่ารถไปคาเมรอน = 43RM
          ค่าทัวร์ 75/3 = 25RM
          ค่ารถไป KL = 35RM
          ค่า KL Express = 35RM
          คิดเป็นเงินไทย(138*8.58) = 1184.04฿    
          รวมค่าเดินทางทั้งหมด     = 4488.04฿
ค่าอาหาร
          ค่าอาหารและค่าอื่นๆ = 3000฿
          
รวมทั้งหมดของทริปนี้ = 9138.43฿
*อัตราแลกเปลี่ยน 8.58
ชื่อสินค้า:   มาเลเซีย, กัวลาลัมเปอร์, ปีนัง, คาเมรอน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่