สวัสดีครับกับกระทู้รีวิวครั้งที่สองในชีวิต การเสียเงินครั้งนี้เกิดจากความต้องการที่จะเล่นหนังจาก External HDD ออกทีวี หาข้อมูลไปๆมาๆจนได้พบกับเจ้าหนู NVIDIA SHIELD Android TV ครับ (ในที่นี้ขอเรียกสั้นๆว่า SHIELD TV ครับ)
ช่วงเเรกที่ทำการค้นหาก็พบว่ามีกล่องเเอนดรอยด์อยู่หลายยี่ห้อจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะสเปคเครื่องเเละฟังก์ชันไม่ต่างกันมากเท่าไร ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ตัดสินใจว่าจะเลือกสักรุ่นนึงมาใช้ ขอดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต เล่นเกม ดูบอลได้เป็นโอเค (ต้องบอกก่อนครับว่าผมเป็นคนชอบเล่นเกมมากโดยเฉพาะเกมเเอนดรอยด์เเละอีมูเลเตอร์ อิอิ
)
เเต่พอลองหาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศก็ได้ไปเจ๊อะกับ SHIELD TV เข้าให้ ซึ่งเท่าที่อ่านก็มีหลายๆท่านอวดสรรพคุณไว้เยอะทั้งราคาที่ไม่เเรง(ตอนนั้นยังไม่ได้เช็คราคาเครื่องหิ้ว) มาพร้อมจอย เเละจัดสเปค/ฟังก์ชันมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ(ตาวาวเลยสิผม
) จนสุดท้ายก็ห้ามใจไว้ไม่อยู่ต้องจัดจากร้านหิ้วมาหลังจากได้ไปเห็นคลิปรีวิวหลายๆคลิปรวมทั้งคลิปเล่นอีมูเลเตอร์ Dolphin ของ GameCube, Wii ได้ (บางเกมลื่นจนน่าพอใจ) เเละเเอบคิดเล็กๆว่ากล่องยี่ห้ออื่นๆผมไม่ค่อยกล้าลองใช้เพราะกลัวเรื่องสเปคที่อาจต่ำไปเเละเรื่องอายุการใช้งาน (ความเห็นส่วนบุคคลครับ)
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ SHIELD TV เป็นเครื่องเล่นเกมลูกผสมกับระบบเเอนดรอยด์ทีวี ซึ่งมีสเปคดังนี้ครับ
CPU : NVIDIA Tegra X1
GPU : 256-core Maxwell
RAM : 3GB
หน่วยความจำภายใน : 16GB, รองรับ microSD card มากสุด 128GB เเละรุ่น 500GB (Pro)
ระบบเสียง : 7.1 และ 5.1 surround sound ผ่าน HDMI, เล่น High-res audio ได้ที่ 24-bit/192kHz ผ่าน HDMI และ USB, สามารถเพิ่มความละเอียดเสียงให้เป็นระดับ 24-bit/192kHz เมื่อเล่นผ่าน USB
WiFi: 802.11ac 2x2 MIMO 2.4 GHz และ 5 GHz
Bluetooth : 4.1 รองรับ Bluetooth Low-Energy
(เครดิต : Droidsans)
ส่วนตัวเเล้วผมชอบการออกเเบบของทั้งตัวเครื่องเเละ Controller ครับดูเรียบง่ายเเต่ทันสมัย ตรงไฟเครื่องสีเขียวยิ่งทำให้เครื่องเด่นมากขึ้น รุ่นที่ผมเลือกจะเป็นตัว 16GB ครับเพราะเห็นว่าคงไม่ได้ใช้ความจำเต็มที่เทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้นของตัว Pro อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องมีดังนี้ครับ
- เครื่อง SHIELD TV x1
- SHIELD Controller x 1
- AC Adapter x 1 (เสียบไฟบ้านเราได้เลยครับ)
- สาย HDMI x 1
- สาย USB x 1
ในด้านการใช้งานผมขอเเบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆตามนี้ครับ : ระบบปฏิบัติการ, Controller เเละ อุปกรณ์เสริม, Multimedia เเละปิดท้ายด้วย Game ครับ
1. ระบบปฏิบัติการ
SHIELD TV ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV ซึ่งเปิดตัวมาเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมายังถือว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างใหม่ อาจยังมีเเอพที่รองรับไม่มากนักเเต่สิ่งที่จำเป็นเช่น File manager, Video player, YouTube เป็นต้นมีให้ใช้เเน่นอนครับ อีกสิ่งนึงที่ผมชอบคือการรองรับ Google Cast ทำให้ผมสามารถส่งภาพ, คลิปจากมือถือไปเเสดงบนหน้าจอได้ สะดวกดีครับ
คำอธิบายรูป : หน้าเมนูหลักของ Android TV
คำอธิบายรูป : หน้าเมนูหลักของ Android TV
คำอธิบายรูป : เมนูตั้งค่าของ Android TV
ในส่วนของ Google Play Store หน้าตาก็จะเป็นเอกลักษณ์ของ Android TV ซึ่งต่างจากเวอร์ชันเเอนดรอยด์ปกติที่เราใช้งานอยู่ประจำครับ ซึ่งบางเเอพที่ไม่รองรับอาจไม่ปรากฏเมื่อค้นหา เเต่เราสามารถทำการติดตั้งผ่าน Apk ได้หรือที่เรียกว่า Sideload ครับ
คำอธิบายรูป : หน้าตาของ Google Play Store บน Android TV
คำอธิบายรูป : เเอพที่ไม่รองรับเเละติดตั้งผ่านการ sideload สามารถเรียกดูได้ในเเอพ Sideload Launcher
2. Controller เเละ อุปกรณ์เสริม
ตัว Controller ที่เเถมมาให้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ปุ่มกดง่ายไม่เเข็ง เเละที่ถูกใจสุดๆคือมีช่องเสียบหูฟังซึ่งสามารถดูดเสียงทั้งหมดมาออกที่หูฟังได้ครับ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการใช้ Voice Search ผ่าน Controller ได้เช่นกัน
การใช้งานเเอพต่างๆผมควบคุมผ่าน Controller, Wireless mouse เเละเเอพ Remote บนมือถือครับ สำหรับผมถือว่าครอบคลุมการใช้งานได้ทุกด้านเเล้วครับ
คำอธิบายรูป : ขนาดของ Controller
คำอธิบายรูป : ช่องเสียบหูฟังเเละช่องสำหรับเสียบชาร์จบน Controller
ส่วนเรื่องความจำผมใช้ Micro SD ของ Strontium ความจุ 64GB เเล้วย้ายข้อมูลเเอพหนักๆลงไป (ณ ตอนนี้ยังมีปัญหาบางเเอพย้ายเเล้วข้อมูลไม่ไปแแต่คาดว่าจะมีการเเก้ไขใน Android M ซึ่งจะออกก่อนสิ้นปีนี้ครับ) ส่วนพวกไฟล์หนังต่างๆเชื่อมผ่าน External HDD ครับ สำหรับผมถือว่าค่อนข้างประหยัดเลยครับเมื่อเทียบกับการเพิ่มเงินเพื่อซื้อตัว Pro
3. Multimedia
สิ่งที่ผมใช้งานหลักๆมีดังนี้ครับ
- ดูหนัง, ฟังเพลงจาก External HDD
- ดูทีวีผ่านเเอพต่างๆ
- YouTube ทั้งบน SHIELD TV โดยตรงเเละเเบบ Cast
สำหรับเเอพที่ใช้บ่อยที่สุดคงเป็น Kodi ครับทั้งดูหนัง ฟังเพลง เเละดูทีวีครบทุกอย่างในเเอพเดียว เเต่จุดนี้ผมมองว่าไม่ค่อยต่างจากกล่องยี่ห้ออื่นครับเพราะยังไงก็น่าจะเป็นเเอพเเอนดรอยด์พื้นฐานที่เปิดได้ทุกกล่องอยู่เเล้ว
คำอธิบายรูป : ดูซีรีส์ผ่านเเอพ Kodi
คำอธิบายรูป : ดูรายการทีวีย้อนหลังผ่านเเอพ Kodi
คำอธิบายรูป : ดูทีวีผ่านเเอพ Pluto TV
คำอธิบายรูป : ดู YouTube
4. Game
เดินทางมาถึงหมวดที่ผมชอบมากที่สุดเเล้วครับฮ่าๆ ขอเเบ่งเป็น 4 ส่วนครับ คือ
- Game Stream จาก PC ที่ใช้การ์ดจอของ NVIDIA (ส่วนนี้ไม่ได้ลองเพราะไม่มี PC ที่รองรับครับ)
- GeForce NOW เป็นระบบ Cloud gaming ซึ่งจะเปิดให้ใช้ฟรี 3 เดือนเเรกหลังลงทะเบียน หลังจากนั้นมีค่าใช้จ่าย 7.99 $/เดือน สามารถปรับความละเอียดเเละ FPS ของการเล่นได้ ทดสอบกับเน็ตทรู 30 Mbps ค่อนข้างน่าพอใจครับ มีกระตุกบ้างบางเวลาเเต่โดยรวมถือว่าผ่านครับ
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างเกม GeForce NOW ที่มีให้เล่นฟรี 3 เดือน
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกม GeForce NOW (Darksiders II)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกม GeForce NOW (Street Fighter X Tekken)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกม GeForce NOW (GRID Autosport)
- เกมเเอนดรอยด์ ใช้งานได้ปกติครับเเต่คงไม่ได้เห็นประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเเอนดรอยด์ปกติมากนักเนื่องจากส่วนใหญ่ก็คงประมวลผลเกมได้ดีอยู่เเล้ว เเต่ถ้าให้ชมก็คงเป็นการเล่นเกมผ่านจอใหญ่ๆเเละได้ความละเอียดสูง บางเกมนี่เรียกได้ว่าน้องๆเกม Console เลยครับ
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกมเเอนดรอยด์ (Modern Combat 5: Blackout)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกมเเอนดรอยด์ (Portal)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกมเเอนดรอยด์ (This War of Mine)
- อีมูเลเตอร์ เป็นหมวดเกมที่ผมชอบมากเพราะเหมือนได้นำความทรงจำทั้งหมดในวันเด็กกลับมาอีกครั้ง บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมไม่เล่นบน PC ไปเลย ผมคงตอบว่าก็เล่นเหมือนกันครับเเต่เวลาเล่นผ่านทีวีเเล้วรู้สึกย้อนวัยกว่าครับอิอิ ทดสอบเล่นทั้งเกม PS1, PSP, GBC, GBA, NES เเละอีกมากถือว่าเล่นได้ดีทีเดียวครับโดยเฉพาะ PSP ทำได้เหนือกว่ารุ่นอื่นๆอยู่มากครับ อีมูเลเตอร์ที่ยังไม่ค่อยเสถียรเเต่ก็พอมีบางเกมที่เล่นได้คือ GameCube เเละ Wii เเต่ก็คงเพราะตัวอีมูเลเตอร์ยังคงอยู่ในขั้นตอนการทดสอบครับ สมบูรณ์เมื่อไหร่จะมาไฝว้อีกที
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นอีมูเลเตอร์ PPSSPP
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นอีมูเลเตอร์ ePSXe
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นอีมูเลเตอร์ Dolphin
สรุป
การใช้งานหลักๆผมคงเน้นไปที่เล่นเกมเเละดูหนัง, ทีวีครับ สำหรับผมคิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เเต่ถ้าหากเทียบกับเครื่อง Console ทั่วไปเเล้ว หากต้องการเล่นเกมเพียงอย่างเดียวเเนะนำให้ซื้อ Console ครับ เพราะเกมที่มีใน SHIELD TV คงไม่มีให้เลือกเยอะเท่า เเต่ก็ต้องเเลกด้วยเม็ดเงินละนะครับ ทั้งนี้ขอสรุปข้อดีกับข้อเสียเผื่อท่านที่กำลังตัดสินใจดังนี้ครับ
ข้อดี
- สเปคเเรง เล่นเกมเเละอีมูเลเตอร์ได้สบาย
- GeForce NOW เล่นได้ฟรีในช่วง 3 เดือนเเรก เเต่ราคาต่อเดือนก็ไม่ได้สูงจนเกินไป (ประมาณ 300 บาท)
- มีเกม Exclusive ซึ่งเล่นได้บน SHIELD เท่านั้น
- รองรับการเเสดงผล 4K (ทีวีผมไม่ถึงครับฮ่าๆ)
- รองรับ Google Cast
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่ากล่องเเอนดรอยด์ตัวอื่น เเละยังไม่มีขายในไทย
- ตัว 500GB (Pro) เคยมีปัญหาด้าน Hard Drive ทำให้ต้องเรียกคืน
- ไม่ได้เเถมรีโมทมาด้วย (กรณีนี้ผมขอบอกว่าใช้เเอพบนมือถือเเทนได้ 100% ครับ)
- Android TV ยังมีเเอพมาลงไม่ค่อยมากนัก
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่อ่านมาตั้งนานนะครับอิอิ สงสัยอะไรตรงไหนก็ถามได้เลยครับ
[CR] รีวิว NVIDIA SHIELD Android TV กล่องเเอนดรอยด์สำหรับคอเกมส์
ช่วงเเรกที่ทำการค้นหาก็พบว่ามีกล่องเเอนดรอยด์อยู่หลายยี่ห้อจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะสเปคเครื่องเเละฟังก์ชันไม่ต่างกันมากเท่าไร ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ตัดสินใจว่าจะเลือกสักรุ่นนึงมาใช้ ขอดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ต เล่นเกม ดูบอลได้เป็นโอเค (ต้องบอกก่อนครับว่าผมเป็นคนชอบเล่นเกมมากโดยเฉพาะเกมเเอนดรอยด์เเละอีมูเลเตอร์ อิอิ
เเต่พอลองหาข้อมูลจากเว็บต่างประเทศก็ได้ไปเจ๊อะกับ SHIELD TV เข้าให้ ซึ่งเท่าที่อ่านก็มีหลายๆท่านอวดสรรพคุณไว้เยอะทั้งราคาที่ไม่เเรง(ตอนนั้นยังไม่ได้เช็คราคาเครื่องหิ้ว) มาพร้อมจอย เเละจัดสเปค/ฟังก์ชันมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ(ตาวาวเลยสิผม
เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ SHIELD TV เป็นเครื่องเล่นเกมลูกผสมกับระบบเเอนดรอยด์ทีวี ซึ่งมีสเปคดังนี้ครับ
CPU : NVIDIA Tegra X1
GPU : 256-core Maxwell
RAM : 3GB
หน่วยความจำภายใน : 16GB, รองรับ microSD card มากสุด 128GB เเละรุ่น 500GB (Pro)
ระบบเสียง : 7.1 และ 5.1 surround sound ผ่าน HDMI, เล่น High-res audio ได้ที่ 24-bit/192kHz ผ่าน HDMI และ USB, สามารถเพิ่มความละเอียดเสียงให้เป็นระดับ 24-bit/192kHz เมื่อเล่นผ่าน USB
WiFi: 802.11ac 2x2 MIMO 2.4 GHz และ 5 GHz
Bluetooth : 4.1 รองรับ Bluetooth Low-Energy
(เครดิต : Droidsans)
ส่วนตัวเเล้วผมชอบการออกเเบบของทั้งตัวเครื่องเเละ Controller ครับดูเรียบง่ายเเต่ทันสมัย ตรงไฟเครื่องสีเขียวยิ่งทำให้เครื่องเด่นมากขึ้น รุ่นที่ผมเลือกจะเป็นตัว 16GB ครับเพราะเห็นว่าคงไม่ได้ใช้ความจำเต็มที่เทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้นของตัว Pro อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องมีดังนี้ครับ
- เครื่อง SHIELD TV x1
- SHIELD Controller x 1
- AC Adapter x 1 (เสียบไฟบ้านเราได้เลยครับ)
- สาย HDMI x 1
- สาย USB x 1
ในด้านการใช้งานผมขอเเบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆตามนี้ครับ : ระบบปฏิบัติการ, Controller เเละ อุปกรณ์เสริม, Multimedia เเละปิดท้ายด้วย Game ครับ
1. ระบบปฏิบัติการ
SHIELD TV ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV ซึ่งเปิดตัวมาเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมายังถือว่าเป็นระบบที่ค่อนข้างใหม่ อาจยังมีเเอพที่รองรับไม่มากนักเเต่สิ่งที่จำเป็นเช่น File manager, Video player, YouTube เป็นต้นมีให้ใช้เเน่นอนครับ อีกสิ่งนึงที่ผมชอบคือการรองรับ Google Cast ทำให้ผมสามารถส่งภาพ, คลิปจากมือถือไปเเสดงบนหน้าจอได้ สะดวกดีครับ
คำอธิบายรูป : หน้าเมนูหลักของ Android TV
คำอธิบายรูป : หน้าเมนูหลักของ Android TV
คำอธิบายรูป : เมนูตั้งค่าของ Android TV
ในส่วนของ Google Play Store หน้าตาก็จะเป็นเอกลักษณ์ของ Android TV ซึ่งต่างจากเวอร์ชันเเอนดรอยด์ปกติที่เราใช้งานอยู่ประจำครับ ซึ่งบางเเอพที่ไม่รองรับอาจไม่ปรากฏเมื่อค้นหา เเต่เราสามารถทำการติดตั้งผ่าน Apk ได้หรือที่เรียกว่า Sideload ครับ
คำอธิบายรูป : หน้าตาของ Google Play Store บน Android TV
คำอธิบายรูป : เเอพที่ไม่รองรับเเละติดตั้งผ่านการ sideload สามารถเรียกดูได้ในเเอพ Sideload Launcher
2. Controller เเละ อุปกรณ์เสริม
ตัว Controller ที่เเถมมาให้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ปุ่มกดง่ายไม่เเข็ง เเละที่ถูกใจสุดๆคือมีช่องเสียบหูฟังซึ่งสามารถดูดเสียงทั้งหมดมาออกที่หูฟังได้ครับ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการใช้ Voice Search ผ่าน Controller ได้เช่นกัน
การใช้งานเเอพต่างๆผมควบคุมผ่าน Controller, Wireless mouse เเละเเอพ Remote บนมือถือครับ สำหรับผมถือว่าครอบคลุมการใช้งานได้ทุกด้านเเล้วครับ
คำอธิบายรูป : ขนาดของ Controller
คำอธิบายรูป : ช่องเสียบหูฟังเเละช่องสำหรับเสียบชาร์จบน Controller
ส่วนเรื่องความจำผมใช้ Micro SD ของ Strontium ความจุ 64GB เเล้วย้ายข้อมูลเเอพหนักๆลงไป (ณ ตอนนี้ยังมีปัญหาบางเเอพย้ายเเล้วข้อมูลไม่ไปแแต่คาดว่าจะมีการเเก้ไขใน Android M ซึ่งจะออกก่อนสิ้นปีนี้ครับ) ส่วนพวกไฟล์หนังต่างๆเชื่อมผ่าน External HDD ครับ สำหรับผมถือว่าค่อนข้างประหยัดเลยครับเมื่อเทียบกับการเพิ่มเงินเพื่อซื้อตัว Pro
3. Multimedia
สิ่งที่ผมใช้งานหลักๆมีดังนี้ครับ
- ดูหนัง, ฟังเพลงจาก External HDD
- ดูทีวีผ่านเเอพต่างๆ
- YouTube ทั้งบน SHIELD TV โดยตรงเเละเเบบ Cast
สำหรับเเอพที่ใช้บ่อยที่สุดคงเป็น Kodi ครับทั้งดูหนัง ฟังเพลง เเละดูทีวีครบทุกอย่างในเเอพเดียว เเต่จุดนี้ผมมองว่าไม่ค่อยต่างจากกล่องยี่ห้ออื่นครับเพราะยังไงก็น่าจะเป็นเเอพเเอนดรอยด์พื้นฐานที่เปิดได้ทุกกล่องอยู่เเล้ว
คำอธิบายรูป : ดูซีรีส์ผ่านเเอพ Kodi
คำอธิบายรูป : ดูรายการทีวีย้อนหลังผ่านเเอพ Kodi
คำอธิบายรูป : ดูทีวีผ่านเเอพ Pluto TV
คำอธิบายรูป : ดู YouTube
4. Game
เดินทางมาถึงหมวดที่ผมชอบมากที่สุดเเล้วครับฮ่าๆ ขอเเบ่งเป็น 4 ส่วนครับ คือ
- Game Stream จาก PC ที่ใช้การ์ดจอของ NVIDIA (ส่วนนี้ไม่ได้ลองเพราะไม่มี PC ที่รองรับครับ)
- GeForce NOW เป็นระบบ Cloud gaming ซึ่งจะเปิดให้ใช้ฟรี 3 เดือนเเรกหลังลงทะเบียน หลังจากนั้นมีค่าใช้จ่าย 7.99 $/เดือน สามารถปรับความละเอียดเเละ FPS ของการเล่นได้ ทดสอบกับเน็ตทรู 30 Mbps ค่อนข้างน่าพอใจครับ มีกระตุกบ้างบางเวลาเเต่โดยรวมถือว่าผ่านครับ
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างเกม GeForce NOW ที่มีให้เล่นฟรี 3 เดือน
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกม GeForce NOW (Darksiders II)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกม GeForce NOW (Street Fighter X Tekken)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกม GeForce NOW (GRID Autosport)
- เกมเเอนดรอยด์ ใช้งานได้ปกติครับเเต่คงไม่ได้เห็นประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเเอนดรอยด์ปกติมากนักเนื่องจากส่วนใหญ่ก็คงประมวลผลเกมได้ดีอยู่เเล้ว เเต่ถ้าให้ชมก็คงเป็นการเล่นเกมผ่านจอใหญ่ๆเเละได้ความละเอียดสูง บางเกมนี่เรียกได้ว่าน้องๆเกม Console เลยครับ
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกมเเอนดรอยด์ (Modern Combat 5: Blackout)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกมเเอนดรอยด์ (Portal)
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นเกมเเอนดรอยด์ (This War of Mine)
- อีมูเลเตอร์ เป็นหมวดเกมที่ผมชอบมากเพราะเหมือนได้นำความทรงจำทั้งหมดในวันเด็กกลับมาอีกครั้ง บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมไม่เล่นบน PC ไปเลย ผมคงตอบว่าก็เล่นเหมือนกันครับเเต่เวลาเล่นผ่านทีวีเเล้วรู้สึกย้อนวัยกว่าครับอิอิ ทดสอบเล่นทั้งเกม PS1, PSP, GBC, GBA, NES เเละอีกมากถือว่าเล่นได้ดีทีเดียวครับโดยเฉพาะ PSP ทำได้เหนือกว่ารุ่นอื่นๆอยู่มากครับ อีมูเลเตอร์ที่ยังไม่ค่อยเสถียรเเต่ก็พอมีบางเกมที่เล่นได้คือ GameCube เเละ Wii เเต่ก็คงเพราะตัวอีมูเลเตอร์ยังคงอยู่ในขั้นตอนการทดสอบครับ สมบูรณ์เมื่อไหร่จะมาไฝว้อีกที
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นอีมูเลเตอร์ PPSSPP
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นอีมูเลเตอร์ ePSXe
คำอธิบายรูป : ตัวอย่างการเล่นอีมูเลเตอร์ Dolphin
สรุป
การใช้งานหลักๆผมคงเน้นไปที่เล่นเกมเเละดูหนัง, ทีวีครับ สำหรับผมคิดว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เเต่ถ้าหากเทียบกับเครื่อง Console ทั่วไปเเล้ว หากต้องการเล่นเกมเพียงอย่างเดียวเเนะนำให้ซื้อ Console ครับ เพราะเกมที่มีใน SHIELD TV คงไม่มีให้เลือกเยอะเท่า เเต่ก็ต้องเเลกด้วยเม็ดเงินละนะครับ ทั้งนี้ขอสรุปข้อดีกับข้อเสียเผื่อท่านที่กำลังตัดสินใจดังนี้ครับ
ข้อดี
- สเปคเเรง เล่นเกมเเละอีมูเลเตอร์ได้สบาย
- GeForce NOW เล่นได้ฟรีในช่วง 3 เดือนเเรก เเต่ราคาต่อเดือนก็ไม่ได้สูงจนเกินไป (ประมาณ 300 บาท)
- มีเกม Exclusive ซึ่งเล่นได้บน SHIELD เท่านั้น
- รองรับการเเสดงผล 4K (ทีวีผมไม่ถึงครับฮ่าๆ)
- รองรับ Google Cast
ข้อเสีย
- ราคาสูงกว่ากล่องเเอนดรอยด์ตัวอื่น เเละยังไม่มีขายในไทย
- ตัว 500GB (Pro) เคยมีปัญหาด้าน Hard Drive ทำให้ต้องเรียกคืน
- ไม่ได้เเถมรีโมทมาด้วย (กรณีนี้ผมขอบอกว่าใช้เเอพบนมือถือเเทนได้ 100% ครับ)
- Android TV ยังมีเเอพมาลงไม่ค่อยมากนัก
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่อ่านมาตั้งนานนะครับอิอิ สงสัยอะไรตรงไหนก็ถามได้เลยครับ