สวัสดีค่ะ ขอเริ่มต้นด้วยคำว่า เบื่อญี่ปุ่นมากกกกก ก.ไก่ ห้าสิบล้านล้านตัว เห็นกระทู้ญี่ปุ่นในพันทิพเราก้แสลงมาก
จะไปเที่ยวกันทำไมหนักหนา อิจฉาโวยยยยยย (อ้าว ได้ยินหรอ นี่พูดในใจนะ)
แล้วไง? แล้วเราก็ได้ไปไง 5555 อย่าเบ้ปากเป็นรุปสระอิสิ ก็มันไปง่ายหนินา
แต่เบื่อแล้วล่ะ โอซาก้า โตเกียว นารา ฮอกไกโด มันไม่คูล มันซ้ำ และคนไทยเดินราวกับพารากอน
เราต้องฮิป ชีวิตต้องมีรสชาติ เราต้องลองไปในที่ใหม่ๆ ไปที่ๆคนไทยยังไม่ค่อยไป
อย่าง ฟุคุอิ!!!!!!!!!!!!
เรามาเริ่มกันด้วยสำเนียงภาษาบ้านเค้ากันเลย
かたいけの? คาไต้เคะโนะ (สบายดีบ่)
เกริ่นด้วยข้อมูลอันดูมีความรู้
ฟุคุอิอยู่บริเวณเกาะฮอนชู เลียบไปตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นอาหารทะเลจะดังและสดมากกกก
จังหวัดฟุคุอิก็ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในขุมทรัพย์แห่งอาหารขั้นสุดยอดของประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ
อากาศที่ท้าทายสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในที่ๆมีหิมะตกหนักที่สุดในญี่ปุ่น
หนาวก็หนาวใจจะขา..ด... ซึ่งคนไทยเราชอบความหนาวอยู่แล้ว ก็แน่สิ บ้านเราแดดตากผ้า3นาทีแห้ง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบรส ทั้งออนเซนบุฟเฟ่ต์ หน้าผาเสียววัดใจ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่อันดับ3ของโลก
ทำให้ฟุกุอิถือเป็นหนึ่งในจังหวัดทีเด็ดที่ต้องไปเยือน
และก็นั่นแหล่ะขรั่บทั่นผู้ชม
นั่นทำให้ เราต้องไปเยือน หัวใจมันเรียกร้องงงง สองสาวออกท่องฟุคุอิ
กระทู้นี้ เราขอเน้นวิธีไป การเดินทาง อาหาร ของฝาก ไฮไลท์ที่เที่ยวนะคะ
มาเริ่มที่ เราเดินทางช่วงซากุระผลิบาน 31มีนา-5เมษา
อากาศกำลังดี 20 องศาเบาวๆ ลมแรง แต่ไม่หนาวมาก แต่ตอนกลางคืนนี่ อื้มหืม ใช้ได้เลยค่ะ หนาววูบๆ
ฟุคุอิ เอาจริงๆ คือ เน้นการท่องเที่ยวทางธรรมชาตินะคะ
ทริปของเรา เริ่มต้นที่ไหว้พระก่อนเลย
แต่ก่อนถึงวัดจะมีศาลเจ้า ชื่อ '' อะซุวะ 足羽神社'' คือเห็นแวบแรก แบบ.. ฉันต้องลงไปถ่ายสิ่งนี้ คือซากุระต้นนี้ดูอยู่มานานมาก
พอขับขึ้นมาเรื่อยๆจะเจอ’' วัดเอย์เฮจิ 永平寺''
เป็นวัดแบบพุทธเหมือนบ้านเรา พระที่นั่นเน้นการนั่งสมาธิ บรรยากาศในวัดสงบเงียบ ใครจะไปนั่งก็ได้ค่ะ เปิดให้เข้าตลอด
มีทัวร์แนะนำการอาศัพพำนักในวัดด้วยนะคะ(มีทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ) แต่ต้องโทรติดต่อไปทางวัดล่วงหน้า
ต่อด้วยพิพิทธภัณฑ์ไดโนเสาร์
ปลื้มปริ่มมาก คือเพิ่งผ่านพ้นช่วงหนังจูราสสิคเวิรล์เข้าโรงใหม่ๆ เรานี่อินสุดๆ เพราะทุกอย่างคือไดโนเสาร์ที่เราชอบตอนเด็กๆ
ทางเข้าจะเป็นโดม นู่นนนน เห็นอยู่ลิบๆ
มี7ชั้น บันไดเลื่อนเกร๋มากค่ะขึ้นยาวๆลงยาวๆไป
เข้ามาก็ป๊ะตัวใหญ่ๆนี่ต้อนรับเราอยู่ มันขยับได้อะแกรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร คือขยับเนียนมาก
ของแบบนี้ลองไปดูกันเองนะคะ ถ้าเดินได้อีกนิดนะ อื้มหืม
แล้วก็เดินรอบๆ มีทั้งฟอซซิลเอย ทั้งที่ค้นพบในญี่ปุ่น และต่างประเทศ เช่น ไดโนเสาร์ไทยก็มีค่ะ
สำหรับผู้พิการตาบอด ทางญีปุ่่นเค้าก็ใส่ใจ มีไดโนเสาร์ปั้นขึ้นมาให้สัมผัส ว่า รุปร่างมันเป็นอย่างไร...
มีห้องที่เค้าวิจัย ขัดฟอซซิลให้ดูด้วยค่ะ ว่าที่นี่ ของจริง!
และก็มาถึงห้องสำหรับผู้ที่รักในการช๊อป เด็กๆเพียบบบบ
วันที่ 2 เราไปadvanture ต่อกันที่หน้าผา '' โทจินโบ 東尋坊''
เป็นหน้าผาที่สูงชัน เกิดจากการกัดเซาะของทะเล ธรรมชาติล้วนๆ
อย่าใส่ส้นสูงมาเดินผาเชียว มันชันมาก เดินต้องระวัง กลัวตาย 5555
จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป เพราะความอันตรายของหน้าผาสูงชัน ทำให้คนญี่ปุ่นที่จิตตก มากระโดดฆ่าตัวตายก็มี
กลายเป็นสถานที่ท๊อปเทนในการโดด เอ้ย ไม่ช่ายยย ผุ้คนแถวนั้นก็ช่วยกันให้กำลังใจผู้ที่คิดสั้นกันไป
แต่หรับคนไทย หึหึหึ ไม่ต้องห่วง ถ้าเป็นบ้านเรา คงตั้งศาลตายายกันเรียบร้อยโรงเรียนจีนละ
ถ้ามีกล้องโปรมาคงจะสวย ถ่ายแบบพาโนโรมา360องศาไรงิ้ แต่นี่ง่อยมาก กลัวความสูงด้วย
ค่ะ มาต่อกันที่ออนเซนเนอะ
ที่บอกว่ามีออนเซนบุฟเฟ่ต์ คือมีค่ะ แต่รูปหายเกลี้ยงเลย
ซื้อตั๋วเข้าไป ลงบ่อไหนก็ได้ ไม่จำกัด มีหลากหลาย เอาให้ตัวเปื่อยกันไปเลย
และก็มีออนเซนแช่เท้าชื่อดัง ''อะวาระ ออนเซน あわら温泉 '' อันนี้ฟรีค่ะ
ถ้าหิวๆ ข้างๆออนเซนแช่เท้ามีร้านรวงอยู่ค่ะ ซื้ออาหารเข้าไปกินระหว่างแช่ก็ได้ ชิวไปอี๊ก
จากนั้น หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา ตล๊าดปลาอุรุชิ (โปรดใส่ทำนองเซเว่นเอง) ''Urushi-no-sato Kaikan さばえ市越前漆器会館''
ที่ต้องไปกินให้ได้คือ โอโรชิโซบะค่ะ ของขึ้นชื่อ และก็kaisen don ข้าวหน้าซีฟู๊ด
เติมพลังกันเรียบร้อย เราไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์แว่นตา ''Megane Museum ''
ซึ่งจังหวัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของ แว่นตาค่ะ
แว่นตาของจังหวัดฟุคุอิได้รับความนิยมจาก Market share95% ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
มีสตอรี่กันไป ตามสไตล์ญี่ปุ่น
แล้วก็การผลิตแว่นตาสมัยก่อน
เฟรมผลิตกรอบแว่นแบบอะลูมิเนียม เจ๋งอะ ไม่เคยคิดว่าตัดมาจากอันนี้เลย
ด้านล่างก็มีตัดแว่นแบบ made to order สั่งตัด ซึ่งพรีเมี่ยมจริงๆ แล้วของเค้าก็แพงสมราคาจริงค่ะคุณขาาา
ร้านของฝาก ขนมทุกชิ้นเป็นรูปแว่น คิ้วมากๆ
เรียนรู้กันแล้ว
ต่อไป เราไปพักตาพักใจกัน ดูวิวสวยๆ ที่ เรนโบว์ไลน์ '' Rainbow Line三方五湖 ''
สถานที่ชมวิวที่เห็นทะเลญี่ปุ่นอย่างจุใจ แต่วันที่เราไป ดัน...มืดครึ้ม...อึมครึม...
ทางขึ้นก็ ค่ะ เด็กๆ กระเช้าแบบนั่ง ไม่มีเข็ดขัดอะไรทั้งนั้น
คู่รักนิยมขึ้นไปคล้องแม่กุญแจ
ปารีสหลบไป เกาหลีชิดซ้าย ที่นี่คือของจริง งานแม่กุญแจก็ยังมา 555
คนญี่ปุ่นนิยมมาเขียนขอพรลงในแผ่นไม้ ซึ่งอธิฐานเสร็จก็โยนลงไปด้านล่าง ให้เติบโตเป็นต้นไม้ต่อไป
ขาลง บอกได้คำเดียว ก็เสียวค่ะ
งานรูปจบไปเรียบร้อยแล้ว ขอสรุป
ของฝากขึ้นชื่อ :
1.ปูเอย์จิเซน Echizen kani ปูขนที่ได้ชื่อว่า King Of Crab
ใครบอกว่าปูฮอกไกโดของแท้ พี่ว่าไม่ใช่ ของจริงอยู่นี่ค่าาาา ตัวนึงตก10,000++
และไม่ใช่ได้กินไก่กา ต้องไปแค่ช่วงธันวา ถึงแค่มีนาเท่านั้น
ของแบบนี้ต้องลิ้มลองเอง หวานนน ต่างกับปูไทยเรามาก
ปูเอย์จิเซนของแท้ต้องมีสายรัดสีเหลือง และมีเม็ดดำๆติดอยู่
2.กระดาษสาญี่ปุ่น
3.ตะเกียบทำมือ (สามารถไปทำได้ที่หมู่บ้านตะเกียบ แต่ไม่ได้ไปค่ะ เสียดายมากเลย)
4.แว่นตา ใครว่างๆ กระเป๋าหนักๆ ก็ไปจัดกันได้นะคะ แว่นตาทำมือนี่งานปราณีตต้องมาอะ
อาหารที่ต้องไปลิ้ม:
1.ปูเอย์จิเซน
2.ฮะจิบังราเมน 8
ของจริงอยู่ที่นู่นฮะ รสต่างกับไทยลิบ
3.โอโซโรชิโซบะ
4.ซาเก kokuryu, bon และอีกมากมาย พอดีไม่ค่อยกิน แนะนำไม่ได้
5.ซอสคัทสึด้ง หมูทอดราดซอส
การเดินทางในฟุคุอิ:
1.เช่ารถจะง่ายกว่า มีจีพีเอสด้วย เดินทางสะดวก
เพราะเนื่องจากฟุคุอิ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะค่อนข้างห่างกัน แบบ30นาที 20นาที โดยประมาณ
*เรนโบว์ไลน์ต้องเดินทางด้วยรถเท่านั้น
2.รถบัสโรงแรม จะมีshuttle bus รับส่งจากโรงแรมไปสถานี หรือบางทีก็รับพาไปเที่ยวที่ๆดัง ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรมค่ะ
3.รสบัส รถแท็กซี่
การเดินทางเข้าฟุคุอิที่แนะนำ:
1.ตอนเราไป ไปขึ้นรถไฟที่อุเมดะ โอซาก้า แล้วก็ไปเที่ยวที่เกียวโตแปปนึง แล้วค่อยเข้าฟุคุอิ
ใช้เวลาจากสถานีเกียวโตถึงสถานีฟุคุอิ ด้วยJR ThunderBird No.35
ใช้เวลาเดินทาง: 1ชม51นาที
2.เดินทางด้วยรถบัสฮันคิว(เดนเทสสึ)阪急バス㈱
ราคาตั๋วรถผู้ใหญ่ ไป-กลับ ท่านละ6480 เยน เด็กราคาครึ่งนึง 3240เยน
ตารางเดินรถ ใช้เวลาเดินทาง:3ชม30นาที
ขาไป จากสถานีโอซาก้าอุเมดะ大阪梅田 8:40 ไปยังสถานีฟุคุอิEast exit福井駅東口 12:10
ขากลับ จากฟุคุอิEast Exit福井駅東口17:30 ถึงโอซาก้า21:00
เก็บกระเป๋าที่ล็อกเกอร์เพื่อจะได้ไม่พะวง:
ที่สถานี 410เยน ไซส์ของsuit caseเก็บแต่ต้องระวังนะคะ มันเปิดปิดตามเวลารถไฟ
จบเพียงเท่านี้ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ
โดดงานทั้งที ต้องไปให้ไกล ไกลถึง. . . . . . . . . . . . . . . .ฟุคุอิ (รูปเยอะ)
จะไปเที่ยวกันทำไมหนักหนา อิจฉาโวยยยยยย (อ้าว ได้ยินหรอ นี่พูดในใจนะ)
แล้วไง? แล้วเราก็ได้ไปไง 5555 อย่าเบ้ปากเป็นรุปสระอิสิ ก็มันไปง่ายหนินา
แต่เบื่อแล้วล่ะ โอซาก้า โตเกียว นารา ฮอกไกโด มันไม่คูล มันซ้ำ และคนไทยเดินราวกับพารากอน
เราต้องฮิป ชีวิตต้องมีรสชาติ เราต้องลองไปในที่ใหม่ๆ ไปที่ๆคนไทยยังไม่ค่อยไป
อย่าง ฟุคุอิ!!!!!!!!!!!!
เรามาเริ่มกันด้วยสำเนียงภาษาบ้านเค้ากันเลย
かたいけの? คาไต้เคะโนะ (สบายดีบ่)
เกริ่นด้วยข้อมูลอันดูมีความรู้
ฟุคุอิอยู่บริเวณเกาะฮอนชู เลียบไปตามชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นอาหารทะเลจะดังและสดมากกกก
จังหวัดฟุคุอิก็ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในขุมทรัพย์แห่งอาหารขั้นสุดยอดของประเทศญี่ปุ่นด้วยนะคะ
อากาศที่ท้าทายสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในที่ๆมีหิมะตกหนักที่สุดในญี่ปุ่น
หนาวก็หนาวใจจะขา..ด... ซึ่งคนไทยเราชอบความหนาวอยู่แล้ว ก็แน่สิ บ้านเราแดดตากผ้า3นาทีแห้ง
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบรส ทั้งออนเซนบุฟเฟ่ต์ หน้าผาเสียววัดใจ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่อันดับ3ของโลก
ทำให้ฟุกุอิถือเป็นหนึ่งในจังหวัดทีเด็ดที่ต้องไปเยือน
และก็นั่นแหล่ะขรั่บทั่นผู้ชม
นั่นทำให้ เราต้องไปเยือน หัวใจมันเรียกร้องงงง สองสาวออกท่องฟุคุอิ
กระทู้นี้ เราขอเน้นวิธีไป การเดินทาง อาหาร ของฝาก ไฮไลท์ที่เที่ยวนะคะ
มาเริ่มที่ เราเดินทางช่วงซากุระผลิบาน 31มีนา-5เมษา
อากาศกำลังดี 20 องศาเบาวๆ ลมแรง แต่ไม่หนาวมาก แต่ตอนกลางคืนนี่ อื้มหืม ใช้ได้เลยค่ะ หนาววูบๆ
ฟุคุอิ เอาจริงๆ คือ เน้นการท่องเที่ยวทางธรรมชาตินะคะ
ทริปของเรา เริ่มต้นที่ไหว้พระก่อนเลย
แต่ก่อนถึงวัดจะมีศาลเจ้า ชื่อ '' อะซุวะ 足羽神社'' คือเห็นแวบแรก แบบ.. ฉันต้องลงไปถ่ายสิ่งนี้ คือซากุระต้นนี้ดูอยู่มานานมาก
พอขับขึ้นมาเรื่อยๆจะเจอ’' วัดเอย์เฮจิ 永平寺''
เป็นวัดแบบพุทธเหมือนบ้านเรา พระที่นั่นเน้นการนั่งสมาธิ บรรยากาศในวัดสงบเงียบ ใครจะไปนั่งก็ได้ค่ะ เปิดให้เข้าตลอด
มีทัวร์แนะนำการอาศัพพำนักในวัดด้วยนะคะ(มีทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ) แต่ต้องโทรติดต่อไปทางวัดล่วงหน้า
ต่อด้วยพิพิทธภัณฑ์ไดโนเสาร์
ปลื้มปริ่มมาก คือเพิ่งผ่านพ้นช่วงหนังจูราสสิคเวิรล์เข้าโรงใหม่ๆ เรานี่อินสุดๆ เพราะทุกอย่างคือไดโนเสาร์ที่เราชอบตอนเด็กๆ
ทางเข้าจะเป็นโดม นู่นนนน เห็นอยู่ลิบๆ
มี7ชั้น บันไดเลื่อนเกร๋มากค่ะขึ้นยาวๆลงยาวๆไป
เข้ามาก็ป๊ะตัวใหญ่ๆนี่ต้อนรับเราอยู่ มันขยับได้อะแกรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร คือขยับเนียนมาก
ของแบบนี้ลองไปดูกันเองนะคะ ถ้าเดินได้อีกนิดนะ อื้มหืม
แล้วก็เดินรอบๆ มีทั้งฟอซซิลเอย ทั้งที่ค้นพบในญี่ปุ่น และต่างประเทศ เช่น ไดโนเสาร์ไทยก็มีค่ะ
สำหรับผู้พิการตาบอด ทางญีปุ่่นเค้าก็ใส่ใจ มีไดโนเสาร์ปั้นขึ้นมาให้สัมผัส ว่า รุปร่างมันเป็นอย่างไร...
มีห้องที่เค้าวิจัย ขัดฟอซซิลให้ดูด้วยค่ะ ว่าที่นี่ ของจริง!
และก็มาถึงห้องสำหรับผู้ที่รักในการช๊อป เด็กๆเพียบบบบ
วันที่ 2 เราไปadvanture ต่อกันที่หน้าผา '' โทจินโบ 東尋坊''
เป็นหน้าผาที่สูงชัน เกิดจากการกัดเซาะของทะเล ธรรมชาติล้วนๆ
อย่าใส่ส้นสูงมาเดินผาเชียว มันชันมาก เดินต้องระวัง กลัวตาย 5555
จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป เพราะความอันตรายของหน้าผาสูงชัน ทำให้คนญี่ปุ่นที่จิตตก มากระโดดฆ่าตัวตายก็มี
กลายเป็นสถานที่ท๊อปเทนในการโดด เอ้ย ไม่ช่ายยย ผุ้คนแถวนั้นก็ช่วยกันให้กำลังใจผู้ที่คิดสั้นกันไป
แต่หรับคนไทย หึหึหึ ไม่ต้องห่วง ถ้าเป็นบ้านเรา คงตั้งศาลตายายกันเรียบร้อยโรงเรียนจีนละ
ถ้ามีกล้องโปรมาคงจะสวย ถ่ายแบบพาโนโรมา360องศาไรงิ้ แต่นี่ง่อยมาก กลัวความสูงด้วย
ค่ะ มาต่อกันที่ออนเซนเนอะ
ที่บอกว่ามีออนเซนบุฟเฟ่ต์ คือมีค่ะ แต่รูปหายเกลี้ยงเลย
ซื้อตั๋วเข้าไป ลงบ่อไหนก็ได้ ไม่จำกัด มีหลากหลาย เอาให้ตัวเปื่อยกันไปเลย
และก็มีออนเซนแช่เท้าชื่อดัง ''อะวาระ ออนเซน あわら温泉 '' อันนี้ฟรีค่ะ
ถ้าหิวๆ ข้างๆออนเซนแช่เท้ามีร้านรวงอยู่ค่ะ ซื้ออาหารเข้าไปกินระหว่างแช่ก็ได้ ชิวไปอี๊ก
จากนั้น หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา ตล๊าดปลาอุรุชิ (โปรดใส่ทำนองเซเว่นเอง) ''Urushi-no-sato Kaikan さばえ市越前漆器会館''
ที่ต้องไปกินให้ได้คือ โอโรชิโซบะค่ะ ของขึ้นชื่อ และก็kaisen don ข้าวหน้าซีฟู๊ด
เติมพลังกันเรียบร้อย เราไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์แว่นตา ''Megane Museum ''
ซึ่งจังหวัดนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของ แว่นตาค่ะ
แว่นตาของจังหวัดฟุคุอิได้รับความนิยมจาก Market share95% ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
มีสตอรี่กันไป ตามสไตล์ญี่ปุ่น
แล้วก็การผลิตแว่นตาสมัยก่อน
เฟรมผลิตกรอบแว่นแบบอะลูมิเนียม เจ๋งอะ ไม่เคยคิดว่าตัดมาจากอันนี้เลย
ด้านล่างก็มีตัดแว่นแบบ made to order สั่งตัด ซึ่งพรีเมี่ยมจริงๆ แล้วของเค้าก็แพงสมราคาจริงค่ะคุณขาาา
ร้านของฝาก ขนมทุกชิ้นเป็นรูปแว่น คิ้วมากๆ
เรียนรู้กันแล้ว
ต่อไป เราไปพักตาพักใจกัน ดูวิวสวยๆ ที่ เรนโบว์ไลน์ '' Rainbow Line三方五湖 ''
สถานที่ชมวิวที่เห็นทะเลญี่ปุ่นอย่างจุใจ แต่วันที่เราไป ดัน...มืดครึ้ม...อึมครึม...
ทางขึ้นก็ ค่ะ เด็กๆ กระเช้าแบบนั่ง ไม่มีเข็ดขัดอะไรทั้งนั้น
คู่รักนิยมขึ้นไปคล้องแม่กุญแจ
ปารีสหลบไป เกาหลีชิดซ้าย ที่นี่คือของจริง งานแม่กุญแจก็ยังมา 555
คนญี่ปุ่นนิยมมาเขียนขอพรลงในแผ่นไม้ ซึ่งอธิฐานเสร็จก็โยนลงไปด้านล่าง ให้เติบโตเป็นต้นไม้ต่อไป
ขาลง บอกได้คำเดียว ก็เสียวค่ะ
งานรูปจบไปเรียบร้อยแล้ว ขอสรุป
ของฝากขึ้นชื่อ :
1.ปูเอย์จิเซน Echizen kani ปูขนที่ได้ชื่อว่า King Of Crab
ใครบอกว่าปูฮอกไกโดของแท้ พี่ว่าไม่ใช่ ของจริงอยู่นี่ค่าาาา ตัวนึงตก10,000++
และไม่ใช่ได้กินไก่กา ต้องไปแค่ช่วงธันวา ถึงแค่มีนาเท่านั้น
ของแบบนี้ต้องลิ้มลองเอง หวานนน ต่างกับปูไทยเรามาก
ปูเอย์จิเซนของแท้ต้องมีสายรัดสีเหลือง และมีเม็ดดำๆติดอยู่
2.กระดาษสาญี่ปุ่น
3.ตะเกียบทำมือ (สามารถไปทำได้ที่หมู่บ้านตะเกียบ แต่ไม่ได้ไปค่ะ เสียดายมากเลย)
4.แว่นตา ใครว่างๆ กระเป๋าหนักๆ ก็ไปจัดกันได้นะคะ แว่นตาทำมือนี่งานปราณีตต้องมาอะ
อาหารที่ต้องไปลิ้ม:
1.ปูเอย์จิเซน
2.ฮะจิบังราเมน 8
ของจริงอยู่ที่นู่นฮะ รสต่างกับไทยลิบ
3.โอโซโรชิโซบะ
4.ซาเก kokuryu, bon และอีกมากมาย พอดีไม่ค่อยกิน แนะนำไม่ได้
5.ซอสคัทสึด้ง หมูทอดราดซอส
การเดินทางในฟุคุอิ:
1.เช่ารถจะง่ายกว่า มีจีพีเอสด้วย เดินทางสะดวก
เพราะเนื่องจากฟุคุอิ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งจะค่อนข้างห่างกัน แบบ30นาที 20นาที โดยประมาณ
*เรนโบว์ไลน์ต้องเดินทางด้วยรถเท่านั้น
2.รถบัสโรงแรม จะมีshuttle bus รับส่งจากโรงแรมไปสถานี หรือบางทีก็รับพาไปเที่ยวที่ๆดัง ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงแรมค่ะ
3.รสบัส รถแท็กซี่
การเดินทางเข้าฟุคุอิที่แนะนำ:
1.ตอนเราไป ไปขึ้นรถไฟที่อุเมดะ โอซาก้า แล้วก็ไปเที่ยวที่เกียวโตแปปนึง แล้วค่อยเข้าฟุคุอิ
ใช้เวลาจากสถานีเกียวโตถึงสถานีฟุคุอิ ด้วยJR ThunderBird No.35
ใช้เวลาเดินทาง: 1ชม51นาที
2.เดินทางด้วยรถบัสฮันคิว(เดนเทสสึ)阪急バス㈱
ราคาตั๋วรถผู้ใหญ่ ไป-กลับ ท่านละ6480 เยน เด็กราคาครึ่งนึง 3240เยน
ตารางเดินรถ ใช้เวลาเดินทาง:3ชม30นาที
ขาไป จากสถานีโอซาก้าอุเมดะ大阪梅田 8:40 ไปยังสถานีฟุคุอิEast exit福井駅東口 12:10
ขากลับ จากฟุคุอิEast Exit福井駅東口17:30 ถึงโอซาก้า21:00
เก็บกระเป๋าที่ล็อกเกอร์เพื่อจะได้ไม่พะวง:
ที่สถานี 410เยน ไซส์ของsuit caseเก็บแต่ต้องระวังนะคะ มันเปิดปิดตามเวลารถไฟ
จบเพียงเท่านี้ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ