โบยบินสู่ฟ้าใกล
โฉบกระชากเหยื่อเป็นชิ้นๆ
มันมาพร้อมกับความตาย
10 อันดับ เจ้าเวหาน่ากลัว
10.Common vampire bat
ราชันย์ดูดเลือดจากอเมริกาใต้ ค้างคาวที่น่ากลัวที่สุดแห่งยุค มันกินเลือดจากนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นเมนู
จอมโหดตัวนี้อาจมีจำนวนมากถึง 30-150 ตัวในหนึ่งฝูง อายุขัยของจอมโหดอาจยึนยาวถึง 12 ปี
9.crow
ราชันย์แห่งฟากฟ้า ผู้นำพาความตายจากปีกสีดำ อีกาถือเป็นนกที่ฉลาดมาก สามารถเรียนรู้การใช้เครื่องมือได้อย่างน่าทึ่ง
กำเนิดบนโลกนี้เมื่อ 17 ล้านปีก่อน ยามที่มันกระพือปีกแล้วจิกลงมา มันสามารถฆ่าได้แม้นกที่ใหญ่กว่า
บางครั้งถึงกับต่อสู้กับเหยี่ยว และเป็นนักกลยุทธ์ชั้นยอด สายพันธ์ใหญ่อย่างเรเวนยุโรป อาจยาวได้มากกว่า 60 เซนติเมตร
และกางปีกได้กว้างถึง 1.3 เมตร
8.Asian giant hornet
คู่ปรับตลอดกาลของตั้กแตนตำข้าว มีเหล็กในยาว 6 มิลลิเมตร ตัวอาจยาวถึง 7 เซนติเมตร มีปีกแลกปากที่แข็งแรง
เป็นนักล่าที่มีความสามารถในการล่าสูง และเชี่ยวชาญการโจมตีประสาน ต่อยักษ์เอเชียเพียงสามสิบตัว
อาจน้ำพาความหายนะมาถึงผึ้งทั้งรังได้ไม่ยากเย็น มันอาจบินได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อวัน และบินได้สูงจากพึ้นหลายเมตร
ความเร็วในการบิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทีเดียว
เคยมีเหตุการ์ณต่ออาละวาด ทำคนตายถึง 41 คน และบาดเจ็บร่วม 1600 คนมาแล้ว ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โต โดสพิษก็มากมายตามขนาดตัวด้วย
7.Arctic tern
เทพเจ้าแห่งการเดินทาง บินหลายหมื่นกิโลเมตรตั้งแต่ขั้วโลกเหนือยังขั้วโลกใต้ มีรายงานการเดินทาง 70,000 กิโลเมตร สำหรับอาร์คติกเทิร์น
ในไอสแลนด์ และ90000 กิโลเมตร ในเนเธอแลนด์ มันคือสุดยอดนักเดินทางในธรรม
ชีวิตของนางนวลแกลบ อาจ
เดินทางได้ร่วม 2 ล้านกิโลเมตร และนั่นทำให้อาร์คติกเทิร์นพิเศษและงดงาม ยาวกว่า 1 ฟุต กางปีกกว้างกว่า 2 ฟุต
6.Sunda flying lemur
บ่างอาศัยและหากินอยู่บนต้นไม้สูง และสามารถอาศัยได้ในป่าทุกสภาพ ไม่เว้นแม้กระทั่งป่าเสื่อมโทรม หรือตามเรือกสวนไร่นาที่มีการทำเกษตรกรรม บ่างเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถเดินบนพื้นดินได้ เมื่อตกลงพื้นจะรีบกระ
กระสนตัวเองปีนขึ้นสู่ต้นไม้ทันที เนื่องจากบ่างก็สามารถตกเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อชนิดต่าง ๆ ได้ ออกหากินในเวลากลางคืน โดยตอนกลางวันจะนอนหลับพักผ่อนตามยอดไม้หรือโพรงไม้ กินอาหารจำพวกพืช ได้แก่ ยอดไม้, ดอกไม้ เป็นหลัก แต่จากการศึกษาด้วยเครื่องติดตามตัวของบ่างที่เกาะชวา โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นพบว่า บ่างเป็นสัตว์ที่ช่างเลือกกิน โดยจะกินยอดไม้จากต้นไม้เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น และบ่างตัวเมียจะมีอาณาเขตการหากินที่ชัดเจน แน่นอน ส่วนตัวผู้จะไต่ต้นไม้และร่อนไปทั่ว บ่างสามารถร่อนจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นหนึ่งได้ไกลกว่ากระรอกบินมาก โดยใช้นิ้วและผังผืดเป็นตัวควบคุมความเร็วและระยะทางระหว่างร่อน ใช้เวลาตั้งท้องนานประมาณ 60 วัน ออกลูกครั้งละตัว เนื่องจากแม่บ่างสามารถรับน้ำหนักลูกได้เพียงคราวละตัว ลูกบ่างแรกเกิดมักมีการพัฒนาไม่มากนักคล้ายสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แม่บ่างจะเลี้ยงลูกไว้โดยให้เกาะที่ท้อง เวลาเกาะอยู่กับต้นไม้ ผังผืดระหว่างขาจึงทำหน้าที่เหมือนเปลเลี้ยงลูกเป็นอย่างดีคล้ายสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แม้ยามมีลูกอ่อน แม่บ่างก็ร่อนหาอาหารได้เหมือนเดิม โดยลูกบ่างจะยึดเกาะขนที่หน้าท้องแม่ไว้แน่น ลูกบ่างจะกินมูลของแม่ เนื่องจากภายในมีแบคทีเรียที่ช่วยในการย่อยอาหาร ขณะที่แม่บ่างเมื่อเลียตัวทำความสะอาดลูกอาจเลียฉี่ของลูกบ่างไปด้วย ลูกบ่างจะเกาะอาศัยอยู่กับแม่จนกว่าอายุได้ 2-3 ปี จึงแยกตัวออกไปหากินเองเป็นอิสระ จากนั้นแม่บ่างจึงจะมีลูกใหม่ แต่พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของบ่างยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัด
บ่าง เป็นสัตว์ที่มีเสียงร้องคล้ายเสียงคนร้องไห้ และความเป็นสัตว์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดและหากินในเวลากลางคืน จึงเป็นที่รับรู้กันดีของผู้ที่อาศัยอยู่ชายป่าหรือผู้ที่นิยมการผจญภัย ว่าเสียงร้องของบ่างน่ากลัวเหมือนผี
เมื่อพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า หรือ ยามโพล้เพล้ บ่างจะแสดงพฤติกรรมแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ จะออกมาจากที่หลบนอน แล้วห้อยตัวลงมาคล้ายค้างคาว โดยใช้เท้าหลังทั้งสองเกาะกิ่งไม้ แล้วทิ้งลำตัวห้อยลงมาในแนวดิ่ง ส่วนหัวและเท้าหน้าจะม้วนงอเข้าหาลำตัว (หากมองผิวเผินจะเหมือนค้างคาวแม่ไก่กำลังห้อยหัวมาก) พฤติกรรมนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ชัดเจน บ่างจะห้อยตัวเช่นนี้ไปจนกว่าแสงสุดท้ายจะลับขอบฟ้าไป แล้วจะปีนป่ายไปหาต้นไม้ต้นประจำในการร่อน มักจะเป็นต้นไม้ที่มีทรงพุ่มสูง ๆ ที่ยืนอยู่เดี่ยว ๆ เพราะจะทำให้มีพื้นที่ในการร่อนมาก
บ่างในบางครั้งอาจจะสับสนกับ กระรอกบิน ซึ่งที่จริงแล้วบ่างกับกระรอกบินเป็นสัตว์คนละอันดับกัน โดยภาษาใต้จะเรียกบ่างว่า "พะจง" หรือ "พุงจง" แต่ในภาษาเหนือและภาษาอีสานจะเรียกกระรอกบินว่า "บ่าง" จึงทำให้อาจเกิดความสับสนกัน
ในสำนวนไทยมีคำที่กล่าวเกี่ยวกับบ่างว่า บ่างช่างยุ มีความหมายเปรียบกับ คนที่ชอบยุแยงให้ผู้อื่นแตกแยกกัน
5.harpy eagle
MONSTER ON THE WING คำๆ นี้ คงเหมาะสมที่สุด สำหรับอินทรีฮาร์ปี นกล่าเหยื่อที่มีกรงเล็บอันตรายที่สุดของโลก
ด้วยความสูง 3.5 ฟุต ฆ่าสลอทตัวเมียที่อาจหนักกว่า 25 ปอนด์ ได้เป็นเรื่องปกติ แต่ที่น่ากลัวที่สุด
คือความเร็ว ถ้าใครๆ เคยจำสูตรพลังงานจลน์ได้ๆ จะรู้ว่าความเร็วมีความสำคัญมากกว่าน้ำหนักตัว
ในการคำนวณแรงปะทะ และแรงปะทะจากกรงเล็บของฮาร์ปีตัวโตเต็มวัย มีพลังงานจนล์เกินกว่าสองเท่าของไรเฟิลหนัก
นั่นแปลว่ามันสามารถฉีกแขนของมนุษย์ หรือใส่กรงเล็บแทงทะลุชุดเกราะเข้ามาฆ่าได้อย่างง่ายดาย
แรงบีบกรงเล็บของนกล่าเหยื่อพันธ์นี้ ก็มหาศาลเอามากๆ เสียด้วย จึงไม่แปลก ที่ชาวบ้านในป่าอะเมซอน
จะหวาดกลัวต่อกรงเล็บ ของนักฆ่าจากท้องฟ้าตัวนี้ ฆ่ากวาง จิ้งจอก+อาร์มาดิลโล่ได้ง่ายๆ
4.Rüppell's vulture
แร้งมรณะ จอมโหดจากแอฟริกา บินได้สูงถึงชั้นบรรยากาศระดับสตราโตสเฟียร์ที่ 11 กิโลเมตร หรือมากกว่า
แร้งรัพเพลล์ฺเป็นสัตว์ที่มีระบบเลือดผิดปกติ ทำให้สามารถเอึ้อมถึง เพดานบิน ที่สัตว์ส่วนใหญ่เอี้อมไม่ถึงได้โดยไม่ยาก แค่บิน
ขึ้นไปสูงๆ เพื่อหาซากจากระยะใกล วันหนึ่งอาจบินได้นับร้อยกิโลเมตร
3.Peregrine Falcon
พุ่งผ่านเวหามาในลำดับ 3 กับสัตว์ที่เร็วที่สุดในเวหา และเร็วที่สุดในโลก
เหยี่ยวเพเรกริน! ด้วยความเร็วในอากาศขณะพุ่งดิ่งที่ 200+ ไมล์/ชั่วโมง นั่นหมายถึงความเร็ว
ที่มากกว่ารถแข่งสูตรF1 ส่วนใหญ่เสียอีก กรงเล็บที่คมกริบ ความเร็วบนฟ้าที่ว่องใว
นอกจากนั้นยังเป็นนกล่าเหยื่อที่ปรับตัวได้เป็นเลิศ ทำให้ใครๆ ก็พากันยอมรับว่า เป็นนักลอบสังหารกลางเวหาที่
ร้ายกาจที่สุดตัวหนึ่ง นกที่เพเรกรินจับกินได้ทั่วโลก มีเกินกว่า 2000 สปีชีส์
ยาวได้เกิน 1 ฟุต อายุอาจยืนเกิน 20 ปี
2.Giant golden-crowned flying fox
จอมเขมือบบินได้ตัวยักษ์ ตัดฟ้ากลาวคืนด้วยปีกอันคม โกลดเด้นคราวน์ถือเป็นค้างคาวกินผลไม้ที่ทรงพลังและงดงาม
อาจตัดท้องฟ้าด้วยปีกอันคม บ้านของสัตว์สวยงามตัวนี้ อยู่ฟิลิปปินส์ฺ
1.Wandering albatross
กางปีกได้กว้างถึง 3.5 เมตร หนักได้ถึง 11 กิโลกรัม จึงไม่แปลก ที่แวนเดอริงอัลบาทรอสจะเป็นสุดยอดในหมู่นกทะเล
ตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมีย กินปลาและหมึกใต้นำเป็นอาหาร ผสมพันธ์ได้เมื่ออายุ 6 ปี และอาจมีอายุยืนเกิน 50 ปี
ยาวได้ถึง 4 ฟุต อาจเดินทาง 6000 กิโลเมตร ใน 12 วัน!
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Common_raven
https://en.wikipedia.org/wiki/Arctic_tern
http://www.arkive.org/common-vampire-bat/desmodus-rotundus/
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87
https://en.wikipedia.org/wiki/R%C3%BCppell%27s_vulture
http://www.arkive.org/peregrine-falcon/falco-peregrinus/
http://www.arkive.org/harpy-eagle/harpia-harpyja/
https://en.wikipedia.org/wiki/Giant_golden-crowned_flying_fox
https://en.wikipedia.org/wiki/Wandering_albatross
http://www.arkive.org/wandering-albatross/diomedea-exulans/
10 สุดยอดสัตว์บินน่าสนใจ
โฉบกระชากเหยื่อเป็นชิ้นๆ
มันมาพร้อมกับความตาย
10 อันดับ เจ้าเวหาน่ากลัว
10.Common vampire bat
ราชันย์ดูดเลือดจากอเมริกาใต้ ค้างคาวที่น่ากลัวที่สุดแห่งยุค มันกินเลือดจากนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นเมนู
จอมโหดตัวนี้อาจมีจำนวนมากถึง 30-150 ตัวในหนึ่งฝูง อายุขัยของจอมโหดอาจยึนยาวถึง 12 ปี
9.crow
ราชันย์แห่งฟากฟ้า ผู้นำพาความตายจากปีกสีดำ อีกาถือเป็นนกที่ฉลาดมาก สามารถเรียนรู้การใช้เครื่องมือได้อย่างน่าทึ่ง
กำเนิดบนโลกนี้เมื่อ 17 ล้านปีก่อน ยามที่มันกระพือปีกแล้วจิกลงมา มันสามารถฆ่าได้แม้นกที่ใหญ่กว่า
บางครั้งถึงกับต่อสู้กับเหยี่ยว และเป็นนักกลยุทธ์ชั้นยอด สายพันธ์ใหญ่อย่างเรเวนยุโรป อาจยาวได้มากกว่า 60 เซนติเมตร
และกางปีกได้กว้างถึง 1.3 เมตร
8.Asian giant hornet
คู่ปรับตลอดกาลของตั้กแตนตำข้าว มีเหล็กในยาว 6 มิลลิเมตร ตัวอาจยาวถึง 7 เซนติเมตร มีปีกแลกปากที่แข็งแรง
เป็นนักล่าที่มีความสามารถในการล่าสูง และเชี่ยวชาญการโจมตีประสาน ต่อยักษ์เอเชียเพียงสามสิบตัว
อาจน้ำพาความหายนะมาถึงผึ้งทั้งรังได้ไม่ยากเย็น มันอาจบินได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อวัน และบินได้สูงจากพึ้นหลายเมตร
ความเร็วในการบิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทีเดียว
เคยมีเหตุการ์ณต่ออาละวาด ทำคนตายถึง 41 คน และบาดเจ็บร่วม 1600 คนมาแล้ว ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โต โดสพิษก็มากมายตามขนาดตัวด้วย
7.Arctic tern
เทพเจ้าแห่งการเดินทาง บินหลายหมื่นกิโลเมตรตั้งแต่ขั้วโลกเหนือยังขั้วโลกใต้ มีรายงานการเดินทาง 70,000 กิโลเมตร สำหรับอาร์คติกเทิร์น
ในไอสแลนด์ และ90000 กิโลเมตร ในเนเธอแลนด์ มันคือสุดยอดนักเดินทางในธรรมชีวิตของนางนวลแกลบ อาจ
เดินทางได้ร่วม 2 ล้านกิโลเมตร และนั่นทำให้อาร์คติกเทิร์นพิเศษและงดงาม ยาวกว่า 1 ฟุต กางปีกกว้างกว่า 2 ฟุต
6.Sunda flying lemur
บ่างอาศัยและหากินอยู่บนต้นไม้สูง และสามารถอาศัยได้ในป่าทุกสภาพ ไม่เว้นแม้กระทั่งป่าเสื่อมโทรม หรือตามเรือกสวนไร่นาที่มีการทำเกษตรกรรม บ่างเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถเดินบนพื้นดินได้ เมื่อตกลงพื้นจะรีบกระกระสนตัวเองปีนขึ้นสู่ต้นไม้ทันที เนื่องจากบ่างก็สามารถตกเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อชนิดต่าง ๆ ได้ ออกหากินในเวลากลางคืน โดยตอนกลางวันจะนอนหลับพักผ่อนตามยอดไม้หรือโพรงไม้ กินอาหารจำพวกพืช ได้แก่ ยอดไม้, ดอกไม้ เป็นหลัก แต่จากการศึกษาด้วยเครื่องติดตามตัวของบ่างที่เกาะชวา โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นพบว่า บ่างเป็นสัตว์ที่ช่างเลือกกิน โดยจะกินยอดไม้จากต้นไม้เพียง 2-3 ชนิดเท่านั้น และบ่างตัวเมียจะมีอาณาเขตการหากินที่ชัดเจน แน่นอน ส่วนตัวผู้จะไต่ต้นไม้และร่อนไปทั่ว บ่างสามารถร่อนจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังต้นหนึ่งได้ไกลกว่ากระรอกบินมาก โดยใช้นิ้วและผังผืดเป็นตัวควบคุมความเร็วและระยะทางระหว่างร่อน ใช้เวลาตั้งท้องนานประมาณ 60 วัน ออกลูกครั้งละตัว เนื่องจากแม่บ่างสามารถรับน้ำหนักลูกได้เพียงคราวละตัว ลูกบ่างแรกเกิดมักมีการพัฒนาไม่มากนักคล้ายสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แม่บ่างจะเลี้ยงลูกไว้โดยให้เกาะที่ท้อง เวลาเกาะอยู่กับต้นไม้ ผังผืดระหว่างขาจึงทำหน้าที่เหมือนเปลเลี้ยงลูกเป็นอย่างดีคล้ายสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แม้ยามมีลูกอ่อน แม่บ่างก็ร่อนหาอาหารได้เหมือนเดิม โดยลูกบ่างจะยึดเกาะขนที่หน้าท้องแม่ไว้แน่น ลูกบ่างจะกินมูลของแม่ เนื่องจากภายในมีแบคทีเรียที่ช่วยในการย่อยอาหาร ขณะที่แม่บ่างเมื่อเลียตัวทำความสะอาดลูกอาจเลียฉี่ของลูกบ่างไปด้วย ลูกบ่างจะเกาะอาศัยอยู่กับแม่จนกว่าอายุได้ 2-3 ปี จึงแยกตัวออกไปหากินเองเป็นอิสระ จากนั้นแม่บ่างจึงจะมีลูกใหม่ แต่พฤติกรรมการผสมพันธุ์ของบ่างยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัด
บ่าง เป็นสัตว์ที่มีเสียงร้องคล้ายเสียงคนร้องไห้ และความเป็นสัตว์ที่มีหน้าตาน่าเกลียดและหากินในเวลากลางคืน จึงเป็นที่รับรู้กันดีของผู้ที่อาศัยอยู่ชายป่าหรือผู้ที่นิยมการผจญภัย ว่าเสียงร้องของบ่างน่ากลัวเหมือนผี
เมื่อพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า หรือ ยามโพล้เพล้ บ่างจะแสดงพฤติกรรมแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือ จะออกมาจากที่หลบนอน แล้วห้อยตัวลงมาคล้ายค้างคาว โดยใช้เท้าหลังทั้งสองเกาะกิ่งไม้ แล้วทิ้งลำตัวห้อยลงมาในแนวดิ่ง ส่วนหัวและเท้าหน้าจะม้วนงอเข้าหาลำตัว (หากมองผิวเผินจะเหมือนค้างคาวแม่ไก่กำลังห้อยหัวมาก) พฤติกรรมนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ชัดเจน บ่างจะห้อยตัวเช่นนี้ไปจนกว่าแสงสุดท้ายจะลับขอบฟ้าไป แล้วจะปีนป่ายไปหาต้นไม้ต้นประจำในการร่อน มักจะเป็นต้นไม้ที่มีทรงพุ่มสูง ๆ ที่ยืนอยู่เดี่ยว ๆ เพราะจะทำให้มีพื้นที่ในการร่อนมาก
บ่างในบางครั้งอาจจะสับสนกับ กระรอกบิน ซึ่งที่จริงแล้วบ่างกับกระรอกบินเป็นสัตว์คนละอันดับกัน โดยภาษาใต้จะเรียกบ่างว่า "พะจง" หรือ "พุงจง" แต่ในภาษาเหนือและภาษาอีสานจะเรียกกระรอกบินว่า "บ่าง" จึงทำให้อาจเกิดความสับสนกัน
ในสำนวนไทยมีคำที่กล่าวเกี่ยวกับบ่างว่า บ่างช่างยุ มีความหมายเปรียบกับ คนที่ชอบยุแยงให้ผู้อื่นแตกแยกกัน
5.harpy eagle
MONSTER ON THE WING คำๆ นี้ คงเหมาะสมที่สุด สำหรับอินทรีฮาร์ปี นกล่าเหยื่อที่มีกรงเล็บอันตรายที่สุดของโลก
ด้วยความสูง 3.5 ฟุต ฆ่าสลอทตัวเมียที่อาจหนักกว่า 25 ปอนด์ ได้เป็นเรื่องปกติ แต่ที่น่ากลัวที่สุด
คือความเร็ว ถ้าใครๆ เคยจำสูตรพลังงานจลน์ได้ๆ จะรู้ว่าความเร็วมีความสำคัญมากกว่าน้ำหนักตัว
ในการคำนวณแรงปะทะ และแรงปะทะจากกรงเล็บของฮาร์ปีตัวโตเต็มวัย มีพลังงานจนล์เกินกว่าสองเท่าของไรเฟิลหนัก
นั่นแปลว่ามันสามารถฉีกแขนของมนุษย์ หรือใส่กรงเล็บแทงทะลุชุดเกราะเข้ามาฆ่าได้อย่างง่ายดาย
แรงบีบกรงเล็บของนกล่าเหยื่อพันธ์นี้ ก็มหาศาลเอามากๆ เสียด้วย จึงไม่แปลก ที่ชาวบ้านในป่าอะเมซอน
จะหวาดกลัวต่อกรงเล็บ ของนักฆ่าจากท้องฟ้าตัวนี้ ฆ่ากวาง จิ้งจอก+อาร์มาดิลโล่ได้ง่ายๆ
4.Rüppell's vulture
แร้งมรณะ จอมโหดจากแอฟริกา บินได้สูงถึงชั้นบรรยากาศระดับสตราโตสเฟียร์ที่ 11 กิโลเมตร หรือมากกว่า
แร้งรัพเพลล์ฺเป็นสัตว์ที่มีระบบเลือดผิดปกติ ทำให้สามารถเอึ้อมถึง เพดานบิน ที่สัตว์ส่วนใหญ่เอี้อมไม่ถึงได้โดยไม่ยาก แค่บิน
ขึ้นไปสูงๆ เพื่อหาซากจากระยะใกล วันหนึ่งอาจบินได้นับร้อยกิโลเมตร
3.Peregrine Falcon
พุ่งผ่านเวหามาในลำดับ 3 กับสัตว์ที่เร็วที่สุดในเวหา และเร็วที่สุดในโลก
เหยี่ยวเพเรกริน! ด้วยความเร็วในอากาศขณะพุ่งดิ่งที่ 200+ ไมล์/ชั่วโมง นั่นหมายถึงความเร็ว
ที่มากกว่ารถแข่งสูตรF1 ส่วนใหญ่เสียอีก กรงเล็บที่คมกริบ ความเร็วบนฟ้าที่ว่องใว
นอกจากนั้นยังเป็นนกล่าเหยื่อที่ปรับตัวได้เป็นเลิศ ทำให้ใครๆ ก็พากันยอมรับว่า เป็นนักลอบสังหารกลางเวหาที่
ร้ายกาจที่สุดตัวหนึ่ง นกที่เพเรกรินจับกินได้ทั่วโลก มีเกินกว่า 2000 สปีชีส์
ยาวได้เกิน 1 ฟุต อายุอาจยืนเกิน 20 ปี
2.Giant golden-crowned flying fox
จอมเขมือบบินได้ตัวยักษ์ ตัดฟ้ากลาวคืนด้วยปีกอันคม โกลดเด้นคราวน์ถือเป็นค้างคาวกินผลไม้ที่ทรงพลังและงดงาม
อาจตัดท้องฟ้าด้วยปีกอันคม บ้านของสัตว์สวยงามตัวนี้ อยู่ฟิลิปปินส์ฺ
1.Wandering albatross
กางปีกได้กว้างถึง 3.5 เมตร หนักได้ถึง 11 กิโลกรัม จึงไม่แปลก ที่แวนเดอริงอัลบาทรอสจะเป็นสุดยอดในหมู่นกทะเล
ตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมีย กินปลาและหมึกใต้นำเป็นอาหาร ผสมพันธ์ได้เมื่ออายุ 6 ปี และอาจมีอายุยืนเกิน 50 ปี
ยาวได้ถึง 4 ฟุต อาจเดินทาง 6000 กิโลเมตร ใน 12 วัน!
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Common_raven
https://en.wikipedia.org/wiki/Arctic_tern
http://www.arkive.org/common-vampire-bat/desmodus-rotundus/
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87
https://en.wikipedia.org/wiki/R%C3%BCppell%27s_vulture
http://www.arkive.org/peregrine-falcon/falco-peregrinus/
http://www.arkive.org/harpy-eagle/harpia-harpyja/
https://en.wikipedia.org/wiki/Giant_golden-crowned_flying_fox
https://en.wikipedia.org/wiki/Wandering_albatross
http://www.arkive.org/wandering-albatross/diomedea-exulans/