ทั้งในพันทิปและเพจเกี่ยวกับซุปเปอร์ฮีโร่ใน facebook จะต้องมีคนออกมาบ่นว่าเมื่อไหร่ Marvel จะเลิกทำหนังโลกสวย ทำดราม่าฮาร์ดคอร์แบบ DC ดีกว่า บางคนก็อยากให้ทำหนังแบบคิดเยอะเหมือน Nolan ทำ Batman ไตรภาค
สำหรับผม ผมมองว่า Marvel มาถูกทางแล้วนะ คิดในแง่ของการตลาดก่อนเลย หนังโลกสวยอาจจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนบางกลุ่ม แต่ถ้าดูจากรายได้แล้ว หนังโลกสวยมันขายดีกว่าหนังเครียดๆฮาร์ดคอร์จริงๆ เข้าถึงกลุ่มคนดูได้หลากหลายกว่ามาก และยังสร้างภาคต่อได้ยาวกว่าเยอะ ดูจากหนังฮีโร่สมัยก่อน ก่อนที่ Marvel จะมาทำหนังของตัวเอง พวก X-Men, Spiderman ไตรภาค หรือ F4 นี่เป็นหนังฮีโร่แบบโลกไม่สวยมาก คนตายกันเป็นผักปลา จบตอนก็ฆ่าตัวร้ายทิ้ง ขนาดผมติดตามการ์ตูนฮีโร่มาตั้งแต่เด็ก ผมยังเกลียดเลย ทั้งเครียดทั้งน่าเบื่อ มัวแต่ปูดราม่าไปครึ่งเรื่องกว่าจะสู้กัน ไม่เหมือนหนัง Marvel ที่ต่อยตีกันไปเรื่อย สู้ไปขำไป มีดราม่าบ้างเล็กน้อยพอเป็นพิธี มันครบรสกว่า ได้หลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว ตอนจบจะฆ่าตัวร้ายก็ไม่ฆ่า มัวแต่โลกสวยกัน ปล่อยให้มันอยู่ต่อไปทำภาคใหม่ได้อีก ผมว่านี่แหละคือฮีโร่ตามแบบการ์ตูนคอมมิคจริงๆ ได้เห็นฮีโร่ตัวเดิมๆ ต่อยตีกับตัวร้ายตัวเดิมๆ ไปเรื่อยๆ แต่เปลี่ยนวิธีการสู้กันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่โผล่มาแล้วตายไป พอหมดมุขก็จับมารีบูทใหม่
อีกอย่างผมว่า Nolan ไม่เหมาะกับการทำหนังฮีโร่หรือหนังซีรีย์เรื่องยาวเลย มันไม่ใช่สไตล์แกอ่ะ สไตล์แกควรจะทำหนังแบบที่จบภายในเรื่อง ดูไปคิดไปแล้วเฉลยปมหมดในตอนท้ายเหมือน Memento, The Prestige, Inception, Interstellar มากกว่า อย่าง Batman Trilogy นี่ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ดีมากในเชิงของหนังที่ต้องใช้สมอง แต่ถ้ามองในแง่ของหนังฮีโร่มันไม่ใช่อ่ะ สุดท้ายก็ต้องมารีบูททำใหม่เพราะแกเล่นฆ่าตัวร้ายสำคัญๆทิ้งหมดทุกภาคเพื่อความเรียลความดาร์คของหนัง อย่าง Man of Steel นี่ก็เหมือนหมดมุขแล้ว พยายามจะนำความดาร์ค ความดราม่า ความสมจริง (?) ไปใส่ในหนังฮีโร่ ที่มันไม่ได้ดาร์คเท่า Batman สุดท้ายก็ออกมาครึ่งๆกลางๆ ไม่ดาร์ค ไม่ฮีโร่ ไม่สุดสักทาง แถมยังทำแยกจักรวาลกันระหว่างซีรีย์กับหนังอีก ยิ่งสร้างความสับสนให้กับคนดู ต้องมาทำความเข้าใจแยกกันทุกเรื่อง
หนังโลกสวยไม่ดีตรงไหน หรือหนังที่ดีจำเป็นต้องดูแล้วคิดมากอย่างเดียว ?
คิดว่า Marvel มาถูกทางไหม กับการทำหนังสไตล์โลกสวย หรือควรทำหนังโลกมืดแบบ DC จะดีกว่า ??
สำหรับผม ผมมองว่า Marvel มาถูกทางแล้วนะ คิดในแง่ของการตลาดก่อนเลย หนังโลกสวยอาจจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนบางกลุ่ม แต่ถ้าดูจากรายได้แล้ว หนังโลกสวยมันขายดีกว่าหนังเครียดๆฮาร์ดคอร์จริงๆ เข้าถึงกลุ่มคนดูได้หลากหลายกว่ามาก และยังสร้างภาคต่อได้ยาวกว่าเยอะ ดูจากหนังฮีโร่สมัยก่อน ก่อนที่ Marvel จะมาทำหนังของตัวเอง พวก X-Men, Spiderman ไตรภาค หรือ F4 นี่เป็นหนังฮีโร่แบบโลกไม่สวยมาก คนตายกันเป็นผักปลา จบตอนก็ฆ่าตัวร้ายทิ้ง ขนาดผมติดตามการ์ตูนฮีโร่มาตั้งแต่เด็ก ผมยังเกลียดเลย ทั้งเครียดทั้งน่าเบื่อ มัวแต่ปูดราม่าไปครึ่งเรื่องกว่าจะสู้กัน ไม่เหมือนหนัง Marvel ที่ต่อยตีกันไปเรื่อย สู้ไปขำไป มีดราม่าบ้างเล็กน้อยพอเป็นพิธี มันครบรสกว่า ได้หลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว ตอนจบจะฆ่าตัวร้ายก็ไม่ฆ่า มัวแต่โลกสวยกัน ปล่อยให้มันอยู่ต่อไปทำภาคใหม่ได้อีก ผมว่านี่แหละคือฮีโร่ตามแบบการ์ตูนคอมมิคจริงๆ ได้เห็นฮีโร่ตัวเดิมๆ ต่อยตีกับตัวร้ายตัวเดิมๆ ไปเรื่อยๆ แต่เปลี่ยนวิธีการสู้กันไปเรื่อยๆ ไม่ใช่โผล่มาแล้วตายไป พอหมดมุขก็จับมารีบูทใหม่
อีกอย่างผมว่า Nolan ไม่เหมาะกับการทำหนังฮีโร่หรือหนังซีรีย์เรื่องยาวเลย มันไม่ใช่สไตล์แกอ่ะ สไตล์แกควรจะทำหนังแบบที่จบภายในเรื่อง ดูไปคิดไปแล้วเฉลยปมหมดในตอนท้ายเหมือน Memento, The Prestige, Inception, Interstellar มากกว่า อย่าง Batman Trilogy นี่ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ดีมากในเชิงของหนังที่ต้องใช้สมอง แต่ถ้ามองในแง่ของหนังฮีโร่มันไม่ใช่อ่ะ สุดท้ายก็ต้องมารีบูททำใหม่เพราะแกเล่นฆ่าตัวร้ายสำคัญๆทิ้งหมดทุกภาคเพื่อความเรียลความดาร์คของหนัง อย่าง Man of Steel นี่ก็เหมือนหมดมุขแล้ว พยายามจะนำความดาร์ค ความดราม่า ความสมจริง (?) ไปใส่ในหนังฮีโร่ ที่มันไม่ได้ดาร์คเท่า Batman สุดท้ายก็ออกมาครึ่งๆกลางๆ ไม่ดาร์ค ไม่ฮีโร่ ไม่สุดสักทาง แถมยังทำแยกจักรวาลกันระหว่างซีรีย์กับหนังอีก ยิ่งสร้างความสับสนให้กับคนดู ต้องมาทำความเข้าใจแยกกันทุกเรื่อง
หนังโลกสวยไม่ดีตรงไหน หรือหนังที่ดีจำเป็นต้องดูแล้วคิดมากอย่างเดียว ?