นอกจากจะเป็นวันเอดส์โลกแล้ว ยังเป็นวันที่เราได้รับรู้อีกว่า “โรคเอดส์ มียาที่มีคุณสมบัติป้องกัน (เหมือนวัคซีน) แล้ว ซึ่งเรียกว่า “เพร็พ” และในประเทศไทยก็ได้มีการนำยาตัวนี้มาใช้แล้วด้วย
โดยศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ บอกว่ายาตัวนี้เรียกว่า “เพร็พ” (PREP) ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis คือ ยาต้านไวรัสก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ซึ่งต้องทานเป็นประจำทุกวัน
ยาตัวนี้ เหมาะสมกับบุคคลที่อยู่ในความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีค่อนข้างสูง เช่น บุคคลากรที่ต้องคลุกคลีกับผู้ป่วย หรือบุคคล (สามีภรรยา) ที่คู่รักมีผลเลือดต่าง หรือกลุ่มคนที่มีคู่หลายคน
ซึ่งการใช้ยาเพร็พ จะเป็นวิธีการป้องกันตนเองจากเชื้อเอชไอวีเท่านั้น โดยผู้ทานยาเพร็พต้องมีวินัยในการทานยาสูงมาก ๆ คือ ต้องทานยาตรงเวลาและสม่ำเสมอคล้าย เหมือนการทานยาคุมกำเนิดของผู้หญิง จึงจะให้ผลในการป้องกันและช่วยลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีได้
โดยผู้ที่จะทานยาเพร็พต้องได้รับการตรวจเลือดว่า ไม่มีการติดเชื้อเอชไอวี รวมทั้งตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไม่มีประวัติอาการแสดงที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อเอชไอวีเฉียบพลัน
คุณหมอยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ผู้ที่รับประทานยาเพร็พต้องมาตรวจเลือด เพื่อหาเชื้อเอชไอวีทุก 3 เดือน และไม่ควรมองว่าเพร็พเป็นวิธีแรกที่จะป้องกันเอชไอวี แต่ให้มองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ เมื่อทานควบคู่ไปกับการป้องกันด้วยวิธีอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ch3.sanook.com
Report by LIV Capsule
“เพร็พ” ยาป้องกันโรคเอดส์
โดยศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ บอกว่ายาตัวนี้เรียกว่า “เพร็พ” (PREP) ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis คือ ยาต้านไวรัสก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ซึ่งต้องทานเป็นประจำทุกวัน
ยาตัวนี้ เหมาะสมกับบุคคลที่อยู่ในความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีค่อนข้างสูง เช่น บุคคลากรที่ต้องคลุกคลีกับผู้ป่วย หรือบุคคล (สามีภรรยา) ที่คู่รักมีผลเลือดต่าง หรือกลุ่มคนที่มีคู่หลายคน
ซึ่งการใช้ยาเพร็พ จะเป็นวิธีการป้องกันตนเองจากเชื้อเอชไอวีเท่านั้น โดยผู้ทานยาเพร็พต้องมีวินัยในการทานยาสูงมาก ๆ คือ ต้องทานยาตรงเวลาและสม่ำเสมอคล้าย เหมือนการทานยาคุมกำเนิดของผู้หญิง จึงจะให้ผลในการป้องกันและช่วยลดโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีได้
โดยผู้ที่จะทานยาเพร็พต้องได้รับการตรวจเลือดว่า ไม่มีการติดเชื้อเอชไอวี รวมทั้งตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไม่มีประวัติอาการแสดงที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อเอชไอวีเฉียบพลัน
คุณหมอยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ผู้ที่รับประทานยาเพร็พต้องมาตรวจเลือด เพื่อหาเชื้อเอชไอวีทุก 3 เดือน และไม่ควรมองว่าเพร็พเป็นวิธีแรกที่จะป้องกันเอชไอวี แต่ให้มองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีประสิทธิภาพ เมื่อทานควบคู่ไปกับการป้องกันด้วยวิธีอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ch3.sanook.com
Report by LIV Capsule