บ้านผมอยู่กันหลายครอบครัว คือเป็นบ้านหลัง อยู่กันคนละห้องไป ห้องผม มีพ่อและผมอยู่กันสองคนเท่านั้น ทีนี้ ผมเห็นน้องแมววัด ต้องอยู่แต่ในกรง เพราะที่วัดมีทั้งสุนัข แมวโต เลี้ยงรวมๆ กัน แล้วกรง ก็อยู่ในศาลามืดๆ ปกติจะมีพี่ใจดี คอยมาเอาอาหารให้ (น้องแมว แม่เขาเสียแล้ว)
พี่เขาลงประกาศหาบ้าน ด้วยความสงสารน้องแมว (เห็นดวงตาของเขาด้วย) ก็เลยนัดกันมารับ แต่คุยกับพ่อแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมเคยเลี้ยงแมว แต่ตอนนั้นอยู่บ้านแฟน เรียกว่าก็พอมีประสบการณ์มาบ้าง แล้วก็ไม่ได้ติดขัดค่าใช้จ่ายอาหาร
ผมตั้งชื่อน้องแมวว่า "ข้าวสวย" ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่า น้องเป็นแมวเปรอะ น่าจะหาบ้านได้ยาก หรือกว่าจะหาได้ ก็ต้องสุ่มเสี่ยงการอยู่ในที่นั้น ซึ่งเต็มไปด้วยเชื้อโรค (เพราะมีทั้งสุนัข และแมว ที่คนไม่ต้องการเอามาปล่อย มีแอบมาปล่อยกลางคืน บางตัวตากฝน นอนตายตรงกองไม้ หรือ มาหลับตรงโกศกระดูกบ้าง)
วันแรกที่เอามา ผมก็แอบหวั่นใจเล็กน้อย เพราะคนในบ้าน บางคน ไม่ชอบแมวเลย คือมีอคติ เพราะ เคยมีแมวข้างบ้าน มาขอกินอาหาร ก็เลยจำใจเหมือนกึ่งเลี้ยง แต่ตัวนั้น เป็นตัวผู้ก็มาฉี่ใส่กองผ้า ทำนองนี้ แต่ตัวก่อนนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมนะ ผมไม่ได้เลี้ยง คุณอาท่านเลี้ยงเอามานอนด้วย แต่ลูกสะใภ้ไม่ค่อยพอใจ ด้วยปัญหาอย่างที่ได้เรียนไป ตอนนี้อาเสียแล้ว แมวตัวนั้นก็ได้ตายไป (มันกลับไปตายบ้านที่มันเคยอยู่)
ทีนี้ เขาก็มาพูดว่า คิดดีๆ ทำไมไม่เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ไป ผมก็บอกว่า ผมสงสาร ผมคิดว่า ถ้าเราจัดการดีๆ มีกระบะทราย เขาก็จะไม่ไปเรี่ยราด ผมเคยเลี้ยงนะ ลูกแมวที่เปลี่ยนสถานที่ ก็มีภาวะ ปรับตัว ผมพาไปหาหมอ พวกเขาก็คอยพูดว่า เลี้ยงพ่อตัวเองดีแล้วหรือยังจะมาเลี้ยงแมว ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่เราก็เลี้ยงพ่อเราดีนะ คือที่บ้านผมอยู่กันหลายคน หลังๆ เขามักจะมองผมด้วยสายตาแปลกๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ไม่คุยกับผมกันทั้งบ้านเลย แฟนผมก็ถามว่า ไม่ลองไปถามดูล่ะว่า ทำไมจากที่เคยหัวเราะเฮฮา กลายเป็นไม่คุยกัน ผมบอกแฟนว่า คงไม่ต้องหรอก ผมก็งงๆ ตัวผม ไปทำอะไรผิด หรือเป็นเพราะแมว พ่อผมพูดกับคนที่บ้านว่า เขาเอาแมวมาฝากเลี้ยง พอโต ก็ไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่ผมคิดว่า เราก็น่าจะมีสิทธิ์เลี้ยงนะ เพราะแมวผมอยู่แต่ในห้อง ไม่เคยปล่อยออกมาเดินเพ่นพ่าน เลี้ยงขับถ่ายกระบะทราย
ผมก็ไม่รู้ว่าการเอาแมวมาเลี้ยงไปจำกัดอิสระภาพของเขาหรือเปล่า จะมีคนที่ไม่อยากให้เลี้ยงพูดเข้าหูผมตลอด เช่น ถ้าเราไม่เอามาเลี้ยง คนอื่นก็เลี้ยง หรือ เราเลี้ยงไม่ได้หมดทุกตัวหรอก มันก็มีหมาแมวจร แมววัด เยอะแยะ เช่นเดิม คือ ผมไม่ใช่คนเมตตา ขนาดอุปการะทุกตัว แต่เมื่อเราเห็นตัวนี้ต่อหน้า ก็อยากรีบช่วยเขา ผมอาจจะคิดไม่ถูกต้องก็ได้มั้งครับ ทุกวันนี้ก็ยอมรับ ถ้าผมจะไม่มีญาติมาคุยดังเดิม ผมก็อยู่กับแมว เลี้ยงแมวเป็นเพื่อน เห็นเขามีความสุข เราก็ดีใจแล้ว
ปล ข้าวสวย ดื้อ ซน เอาแต่ใจมาก ถูกพ่อลงโทษด้วยการจับลงตะกร้า ผมคงต้องหาซื้อกรงให้เขา เพื่อความปลอดภัยของเขาด้วยตอนกลางคืน
คนที่บ้านไม่เข้าใจเรื่องการเอาแมวมาเลี้ยงครับ
พี่เขาลงประกาศหาบ้าน ด้วยความสงสารน้องแมว (เห็นดวงตาของเขาด้วย) ก็เลยนัดกันมารับ แต่คุยกับพ่อแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมเคยเลี้ยงแมว แต่ตอนนั้นอยู่บ้านแฟน เรียกว่าก็พอมีประสบการณ์มาบ้าง แล้วก็ไม่ได้ติดขัดค่าใช้จ่ายอาหาร
ผมตั้งชื่อน้องแมวว่า "ข้าวสวย" ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่า น้องเป็นแมวเปรอะ น่าจะหาบ้านได้ยาก หรือกว่าจะหาได้ ก็ต้องสุ่มเสี่ยงการอยู่ในที่นั้น ซึ่งเต็มไปด้วยเชื้อโรค (เพราะมีทั้งสุนัข และแมว ที่คนไม่ต้องการเอามาปล่อย มีแอบมาปล่อยกลางคืน บางตัวตากฝน นอนตายตรงกองไม้ หรือ มาหลับตรงโกศกระดูกบ้าง)
วันแรกที่เอามา ผมก็แอบหวั่นใจเล็กน้อย เพราะคนในบ้าน บางคน ไม่ชอบแมวเลย คือมีอคติ เพราะ เคยมีแมวข้างบ้าน มาขอกินอาหาร ก็เลยจำใจเหมือนกึ่งเลี้ยง แต่ตัวนั้น เป็นตัวผู้ก็มาฉี่ใส่กองผ้า ทำนองนี้ แต่ตัวก่อนนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมนะ ผมไม่ได้เลี้ยง คุณอาท่านเลี้ยงเอามานอนด้วย แต่ลูกสะใภ้ไม่ค่อยพอใจ ด้วยปัญหาอย่างที่ได้เรียนไป ตอนนี้อาเสียแล้ว แมวตัวนั้นก็ได้ตายไป (มันกลับไปตายบ้านที่มันเคยอยู่)
ทีนี้ เขาก็มาพูดว่า คิดดีๆ ทำไมไม่เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ไป ผมก็บอกว่า ผมสงสาร ผมคิดว่า ถ้าเราจัดการดีๆ มีกระบะทราย เขาก็จะไม่ไปเรี่ยราด ผมเคยเลี้ยงนะ ลูกแมวที่เปลี่ยนสถานที่ ก็มีภาวะ ปรับตัว ผมพาไปหาหมอ พวกเขาก็คอยพูดว่า เลี้ยงพ่อตัวเองดีแล้วหรือยังจะมาเลี้ยงแมว ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่เราก็เลี้ยงพ่อเราดีนะ คือที่บ้านผมอยู่กันหลายคน หลังๆ เขามักจะมองผมด้วยสายตาแปลกๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ไม่คุยกับผมกันทั้งบ้านเลย แฟนผมก็ถามว่า ไม่ลองไปถามดูล่ะว่า ทำไมจากที่เคยหัวเราะเฮฮา กลายเป็นไม่คุยกัน ผมบอกแฟนว่า คงไม่ต้องหรอก ผมก็งงๆ ตัวผม ไปทำอะไรผิด หรือเป็นเพราะแมว พ่อผมพูดกับคนที่บ้านว่า เขาเอาแมวมาฝากเลี้ยง พอโต ก็ไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่ผมคิดว่า เราก็น่าจะมีสิทธิ์เลี้ยงนะ เพราะแมวผมอยู่แต่ในห้อง ไม่เคยปล่อยออกมาเดินเพ่นพ่าน เลี้ยงขับถ่ายกระบะทราย
ผมก็ไม่รู้ว่าการเอาแมวมาเลี้ยงไปจำกัดอิสระภาพของเขาหรือเปล่า จะมีคนที่ไม่อยากให้เลี้ยงพูดเข้าหูผมตลอด เช่น ถ้าเราไม่เอามาเลี้ยง คนอื่นก็เลี้ยง หรือ เราเลี้ยงไม่ได้หมดทุกตัวหรอก มันก็มีหมาแมวจร แมววัด เยอะแยะ เช่นเดิม คือ ผมไม่ใช่คนเมตตา ขนาดอุปการะทุกตัว แต่เมื่อเราเห็นตัวนี้ต่อหน้า ก็อยากรีบช่วยเขา ผมอาจจะคิดไม่ถูกต้องก็ได้มั้งครับ ทุกวันนี้ก็ยอมรับ ถ้าผมจะไม่มีญาติมาคุยดังเดิม ผมก็อยู่กับแมว เลี้ยงแมวเป็นเพื่อน เห็นเขามีความสุข เราก็ดีใจแล้ว
ปล ข้าวสวย ดื้อ ซน เอาแต่ใจมาก ถูกพ่อลงโทษด้วยการจับลงตะกร้า ผมคงต้องหาซื้อกรงให้เขา เพื่อความปลอดภัยของเขาด้วยตอนกลางคืน