เพิ่งมีโอกาสได้ดู รายการ วู๊ดดี้  

หลังจากผ่านไป3ปี บี พีรพัฒน์ ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์ว่า "โดนโหวตให้ออก"  
โดยเขาพยายามจะอธิบายเหตุผลให้ดูเหมือนจากกันด้วยดี ด้วยการบอกว่า
"บี มีความสามารถที่โตเกินกว่าจะเป็นพวกเราcrescendo"

ทุกคนเลยโหวต บี ให้ออกจากวง

มันฟังดูซึ้งๆนะ
แต่ถ้าลองฟังจากเหตุการณ์ที่ผ่านไปสามปีหลังจากแยกวง บี เล่าเหตุการณ์ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลย ว่า
บี เห็นว่าคนอื่นต่างออกไปรับเล่นงานอื่นๆ ให้วงนั้น วงนี้ ทุกคนออกไปรับจ๊อบกันหมด


เขาก็เลยอยากออกไปรับงานบ้าง แต่ออกไปในฐานะ บี พีรพัฒน์ (ตอนนั้นยังเป็นหนึ่งในสมาชิกวงอยู่)
แต่เจ้าของร้านที่จ้างเขาไปร้อง ดันขึ้นป้ายว่า "วงcrescendo(ทั้งวง)"

ซึ่งหลังจากวันนั้น พี่ๆภายในวงก็รีบโทรเรียก บี ไปเคลียร์
เพราะไม่พอใจ ที่เอาชื่อวงไปหากิน

จากนั้นก็นำมาซึ่งการโหวตให้ออกจากวง
-------------------------------------------------
ในรายการวู้ดดี้ บอกไว้แค่นี้

แต่ช่วงที่แยกวงกันใหม่ๆ ผมก็สงสัยอยู่นานว่า ทำไมถึงแยกวง
ก็เชื่อไปตามๆ เขาว่า "บี ดังแล้วแยกวง"

บวกกับตอนนั้น หลังจากที่crescendo ได้นักร้องนำคนใหม่

ก็ออกเพลง "เหลิง" และเพลง "เห็นแก่ตัว" เพื่อต้องการสื่ออะไรบางอย่าง? รึป่าว ไม่ทราบ?


แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ทำให้รู้ คือ บี พีระพัฒน์ ไม่ใช่นักร้องที่ดังแล้วแยกวง อย่างที่ใครหลายคนคิด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้เป็นบทสัมภาษณ์ที่ผมถอดมาจากคลิปรายการวู๊ดดี้ เผื่อใครไม่อยากเปลืองเน็ท

บี: มันจะมีคำพูดอยู่คำนึง ที่เขาพูดๆ กันว่า "ดังแล้วแยกวง" แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผมโดนโหวตออกมาจากวง

วู้ดดี้ : เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อนหน้านั้น ?

บี: สี่คนเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้ว ร่วมกันมาอยู่แล้วตั้งแต่แรก และผมเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายที่เข้าไปแปะในวง
     นักดนตรีสี่คน มีแนวทางของตัวเองที่เข้มข้นมาก และพลังของเขามันเยอะมาก ผมจึงไม่สามารถสู้กับคนสี่คนได้

วู้ดดี้ :  แล้วเรื่องการไปรับงานเดี่ยวหละ?

บี: จริงๆแล้วทุกคนรับหมดนะ แล้วเราก็ไม่เคยมีข้อตกลงด้วยว่า "เห้ย ห้ามรับงาน"

วู้ดดี้ :  สมาชิกคนอื่น มือกลอง มือเบส รับงานได้หมด?

บี : ใช่ ตอนแรกผมไม่เคยรับงาน จนกระทั่งวันนึงผมรู้สึกว่า คนนู้น คนนี้ไปได้หมด วันนั้นผมรู้ว่า มันเริ่มไม่ค่อยแฟร์แล้ว
      ผมก็อยากมีอนาคตของผมบ้าง แล้วบางครั้งมันเริ่มรู้สึกไม่กลมเกลียวเกิดขึ้น
      แล้วมันมีงานนึงที่เป็นปัญหา เราไปร้องคนเดียวเสร็จ แต่ร้านเนี่ยดันไปขึ้นป้ายว่า Crescendo แล้วเพื่อนของเพื่อนไปเห็น ก็เลยโทรไปบอกที่วง  แล้วเขาก็ถามว่า เห้ย!แล้วทำไมไปใช้ชื่อวงหละ ทั้งที่ไปร้องคนเดียว  แต่จริงๆแล้วร้านเป็นคนเอาป้ายขึ้น เป็นชื่อ วงเอง ก็เลยเป็นชนวนเกิดขึ้น  เราก็เลยมานั่งประชุมกัน
  พวกเขาคนนึงพูดว่า  "เห้ย! กูทำงานกับเมิงแล้ว กูเหนื่อยหวะ" เขาพูดแบบนี้นำมาก่อนเลย
  จากนั้นก็เริ่มพูดมาเรื่อยๆ ว่า "เห้ย เราต้องการ ความเป็นวงนะ ไม่ได้อยากให้มีใครคนนึงแยกออกมา เดี่ยวๆ หรือล้ำหน้ากัน"
  สุดท้ายก็มาสรุปที่ว่า "คงต้องแยกกันนะ"

วู้ดดี้ : ในใจคุณยอมรับที่เขาพูดมั้ย?

บี: ผมไม่ยอมรับอะไรทั้งสิ้นเลย ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์มาก

วู้ดดี้ : คุณว่า เครสเซนโด้ ดังได้เพราะคุณมั้ย?

บี:  ผมว่าเราทุกคนมีส่วนเท่ากันหมด

วู้ดดี้ : ไปตามงานต่างๆ คุณสามารถร้องเพลงของเครสเซนโด้ได้มั้ย?

บี: ร้องได้ ไม่ผิด เพราะว่าเราแต่งมาด้วยกัน แล้วผมก็เป็นคนเขียนเนื้อและแต่งทำนองหลายๆเพลง

วู้ดดี้ : ทุกวันนี้ก็ยังคงร้องได้อยู่?

บี: ใช่ เราใช้ได้ และเขาก็ใช้ได้

วู้ดดี้ :  เรารู้สึกว่า เราเกลียดเพื่อนในวงมั้ย?

บี : ตอนแรก โกรธเกลียด
วู้ดดี้ :  เรียกว่า เลิกคบเลย อย่างงี้ดีกว่า?

บี : ก็เขาเลิกคบผมก่อน

//จากแหล่งผลักดันที่ต้องเอาชนะเพื่อนให้ได้ บีก็ตั้งหลักอีกครั้ง ด้วยการไปอยู่ค่ายใหม่ ภายใต้ชื่อ" บี พีรพัฒน์"
ซึ่งเพลงที่ทำให้เขากลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งนั่นก็ คือ เพลง"พูดตรงๆ" ซึ่งเป็นเพลงที่คุณบอย โกสิยพงษ์ เป็นคนแต่งให้ เขาคิดค่าจ้างแค่ น้ำอัดลมกระป๋องเดียว

อันนี้เป็นคลิป รายการย้อนหลังครับ
(หายากมาก เหมือนโดนตามเก็บ ตามลบ เพราะว่า googleเจอแต่Teaser หรือไม่ก็ตอน เฒ่าแก่น้อย แต่ช่วงรายการที่สัมภาษณ์ บี พีรพัฒน์ พูดถึงเครสเซนโด้ แทบจะโดนลบออกไปจากอินเตอร์เนทแทบทั้งสิ้น)
อันนี้เป็นอันที่ผม พอจะหามาได้
http://otv.co.th/play/775/%E0%B8%A7%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-5-20-%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-2556.html