..เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มาเยือนปิล๊อก ในระยะเวลาครั้งแรกกับครั้งที่2 ห่างกัน3วัน ครั้งแรกมาธุระ ครั้งนี้มากับครอบครัวครับ มีแม่ น้า หลาน พี่ น้อง 2 ครอบครัวทั้งที่เป็นคนกาญจน์ แต่ก็พึ่งเคยมาเป็นครั้งที่ 2 จุดมุ่งหมายแรกของทริปนี้คือทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา รร.บ้านห้วยเสือ อ.ทองผาภูมิครับ พอเสร็จจากงานบุญเราก็จะไปนอนกันที่ปิล๊อก กำหนดการเดินทางคือ เสาร์ที่ 5 ธันวา 58 ตรงกับวันพ่อครับ แต่ผมยกให้วันนี้เป็นวันแม่ เพราะพ่อเสียไป10ปีแล้ว T T เลยได้กราบแต่รูป เราออกเดินทางกันเวลา 0700 ว่าแล้วก็เดินทางกันเลยครับ เราใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงกว่าครับ เมื่อถึง รร.เราก็ร่วมกันปักต้นผ้าป่า ล่ะก็เตรียมนำถวาย ใช้เวลาอยู่ที่ รร.ประมาณชั่วโมงกว่า ทำบุญเสร็จกรวดน้ำรับพร อิ่มบุญล่ะก็เดินทางต่อล่ะครับ ผมแวะเติมน้ำมันที่ ปั้ม ปตท.ซึ่งเป็นปั้มสุดท้ายก่อนที่จะถึงปิล๊อกนะครับ แนะเพื่อนๆเติมน้ำมันเช็คสภาพรถให้พร้อม เสร็จแล้วก็เดินทางต่อเบยยถึงหมู่บ้านแล้วครับ เราพักกันที่บ้านริมน้ำ ราคา 1,000 บาท เตียง2ชั้น หลานขึ้นไปจองที่เรียบร้อย อิอิ เก็บของเสร็จเราก็เดินสำรวจพื้นที่ครับ มีร้านค้าไม่เยอะมากครับ เงียบสงบดี ตอนนี้เราก็เตรียมขึ้นไปเนินช้างศึกครับ ก่อนไปพี่สาวขอสักรูปเป้าหมายต่อไปคือขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่เนินช้างศึกครับ ถึงแล้วครับ ฟ้าใสๆ กับคนมหาศาลอยู่บนเนิน มีผู้คนขึ้นมากางเต็นท์เต็มพื้นที่เลยอ่ะ ผมถ่ายรูปวิวฝั่งนี้เพลิน หันมาอีกทีเมฆหมอกมหึมากำลังคืบคลานเข้ามาครับ วันนี้เราไม่เห็นพระอาทิตย์แน่ๆ เพราะเมฆเยอะมาก และมีฝนบางๆครับ โดยปกติที่ปิล๊อก หลังฝนตกจะมีหมอกครับ และผมก็เจอจริงๆเผลอแปบเดียวกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ววครับหมอกปกคลุมทั่วพื้นที่ วันนี้ไม่เห็นพระอาทิตย์ตกไม่เป็นไร เพราะผมได้สูดอากาศบริสุทธิ์ไปเต็มปอด ฟินดีจังครับ ระหว่างกำลังฟิน ท้องเจ้ากรรมก็ร้อง จ๊อกๆๆ อิอิ เราจึงพากันกลับมาที่หมู่บ้านอยากกินปูทะเล แต่หมด จึงกินข้าวไข่เจียว ไม่มีรูปนะครับ ช่วงกลางคืนอากาศเย็นสบายครับ ลมโชยๆ มีหมอกจางๆ ฟินฝุดๆ เดินเล่นคนเดียว คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยครับ คิดดีใจที่ได้พาแม่มาเที่ยว ทุกวันแม่เหนื่อย แต่วันนี้ได้เห็นรอยยิ้มของแม่ ผมก็ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของลูก อยู่ดีๆดราม่าซะงั้น เดินกลับห้องอาบน้ำนอนล่ะ พรุ่งนี้เช้าเราจะไปสูดหมอกที่เนินช้างศึกกันครับ ราตรีสวัสดิ์ต๊อด ต๊อด ต๊อด ต๊อดๆๆ 5555555 ไม่ต้องสงสัย เสียงนาฬิกาปลุกเวลาตีห้าครับ เรารีบทำภารกิจส่วนตัว ใส่เสื้อกันหนาวให้พร้อม เราจะขึ้นไปเนินช้างศึกกันครับอากาศดีมาก หมอกเต็มพื้นที่เลยครับช่วงเช้าไม่ได้เก็บรูปเยอะครับ ตั้งใจมาสูดหมอกเฉยๆ อิอิ ผมอยู่บนเนินช้างศึกสักพักครับ หลานๆเริ่มหิว คงจะตื่นไวเลยหิวเร็ว ก็กลับลงไปหาของกินในหมู่บ้านกันครับระหว่างนี้เราก็เดินดูของกันครับมีร้านเค๊กด้วยนะโปสการ์ดและของที่ระลึกครับโลชั่นพม่า ชุดนี้พี่สาวผมคอนเฟิร์มครับ ใช้แล้วดีจริง อิอิครอบครัวของผมครับป้าคนนี้ขายแกงหยวกครับ อาหารพม่า มีขนมพม่าด้วย ผมชิมแล้วอร่อยมากครับมีที่แขวนป้ายด้วยนะเดินเล่นถ่ายรูปกันเพลินแล้ว มองนาฬิกา 10โมงแล้ว เตรียมตัวเก็บของ เราจะเดินทางไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่นกันครับ ก่อนขึ้นรถผมเดินไปถ่ายรูปที่เหมืองปิล๊อกซึ่งเป็นเหมืองเก่า อยู่ติดกับหมู่บ้านเลยครับ เก่าและคลาสสิคมาก มีอาคารหลังเก่า และรถบรรทุกแร่จอดอยู่ครับ สภาพใช้งานไม่ได้แล้ว แต่รู้สึกอยากขับรถแบบนี้จัง เดินเล่นสักพักเสียงแม่เรียก บอกว่าเก็บของเสร็จแล้ว เราจึงเดินทางกันต่อครับถึงแล้วววว น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เส้นทางมาน้ำตกลาดชันและแคบ เพื่อนๆขับกันช้าๆอย่าประมาทนะครับ จุดนี้เราเสียค่าธรรมเนียมอุทยาน คนล่ะ 40 บาทครับ รถยนต์คันละ 30 บาท เจ้าหน้าที่จะให้บัตรเข้าอุทยาน เราต้องเก็บไว้ให้ดีนะครับ เพราะเราจะนำไปใช้เข้าจุดชมวิวเนินกูดดอยได้อีกครับชุดดำนี่คือครูแหวน วิถีอินดี้ครับ ผู้ชักชวนออกทริปในครั้งนี้ ใส่เสื้อสาวซิ่งวิ่งเด้า ใครกันคิดชื่อนี้น้ำใสและเย็นมากๆครับ เนื่องด้วยคนเยอะผมจึงเอารูปที่ผมมาครั้งล่าสุดเมื่อ4วันก่อนมาลงให้เห็นช่วงที่ไม่มีคนครับส่วนตัวผมชอบมากครับ สมบูรณ์และสวยงาม หลานๆได้เล่นน้ำสมใจก็เตรียมตัวกลับล่ะครับ จุดหมายต่อไป จุดชมวิวเนินกูดดอย ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิครับถ่ายรูปรวมญาติก่อน อิอิ ที่ทำการอุทยานจะเสียค่าธรรมเนียมอุทยานคนล่ะ 40 บาท รถยนต์ คันล่ะ 30 บาทครับ แต่เนื่องจากเราเสียค่าธรรมเนียมเข้าน้ำตกจ๊อกกระดิ่นแล้ว เราจึงนำบัตรเข้าอุทยานมาใช้ที่จุดชมวิวได้อีกครั้งครับ เท่ากับว่าเราเสียครั้งเดียวเข้าได้ 2 สถานที่ครับเราเดินไปจุดชมวิวเนินกูดดอยกันก่อนครับถ้าไม่มีหมอก เราจะมองเห็นได้ไกลเลยครับ จุดต่อไปคือเนินช้างเผือกครับจุดนี้เราจะเห็นเขาช้างเผือกที่นักเที่ยวขาลุยใฝ่ฝันจะขึ้นไปครับ แต่ช่วงนี้เจ้าหน้าที่แจ้งว่าช้างป่าช่วงเนินเขาเยอะ จึงยังไม่เปิดให้ขึ้นครับ สำหรับทริปนี่เราเดินทางกันมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว เราถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับทริปนี้ ได้ทั้งบุญ ได้ทั้งความสุขภายนอกและภายใน หวังว่าเพื่อนๆคงจะได้มาเยือนสักครั้งนะครับ จังหวัดกาญจนบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายเลยครับ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ สวัสดี..