ก่อนอื่นขอให้ความหมายของโรคดังนี้ครับ (เอามาจากอากู๋)
> Alopecia Areata โรคผมร่วงเป็นหย่อมที่ไม่ทราบสาเหตุ เกิดได้ทุกส่วนของร่างกายที่มีผมหรือขน อาจมีเพียงหย่อมเดียวหรือหลายหย่อมมารวมกัน
> ถ้าเกิดเป็นบริเวณกว้างทั่วศีรษะ เรียกว่า Alopecia totalis ซึ่งมีอาการรุนแรงกว่าขั้นแรก
> ถ้ามีขนบริเวณอื่น ทั่วร่างกายร่วงด้วย เช่น ขนคิ้ว ขนตา ขนตามตัว รักแร้ และหัวหน่าว เรียกว่า Alopecia universalis มีอาการรุนแรงกว่าขั้นก่อนเช่นกัน
(ในกระทู้นี้ขอกล่าวถึง 2 เพราะคิดว่ากำลังเป็นอยู่)
ผมกำลังป่วยเป็นโรคนี้อยู่ตอนนี้ก็เข้าปีที่ 4 แล้ว เริ่มรู้ตัวตอนบวชให้ชวดที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นปิดกลางเทอม ม.4 ระหว่างเทอม 1 และเทอม 2 - ปีที่ 1-3 รอยโรคที่มีให้เห็นพบตอนโกนหัวบวชหน้าไฟ เป็นวงที่ไร้รูขุมขนกลางศรีษะเท่าเหรียญบาท ผมให้ทางญาติดูบอกกันว่า"ไข่ดาว"เดี๋ยวก็หาย ผมก็ไม่ได้เอ้ะใจอะไร ผ่านไป 1 เดือน วงกลางศรีษะเริ่มกว้างขึ้น และระหว่าง 1 เดือนมีรอยเพิ่มตรงท้ายทอย ทั้งสองที่เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆและมีรอยโรคเพิ่มขึ้นทุกๆ ที่บนศรีษะ ผมเลยเลือกที่จะโกนทิ้งแล้วใส่หมวกแก๊บก่อนที่จะเปิดเทอม ... นั่นละครับใส่หมวกไปเรียน แปลกประหลาดกว่าชาวบ้านอยู่คนเดียว จึงไปหาหมอที่ รพ.วชิระ แรกการรักษาคือใช้เข็มฉีดยาเข้าไปหนังศรีษะ ถูกจิ้ม-ออกอยู่อย่างนั้น จุดละ 15-20 ครั้งได้ และเป็นหลายจุดมาก รักษาอยู่ได้ 2 อาทิต ไม่เห็นผลและ เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเดินทางไม่สะดวก จึงย้ายไปรักษาที่ รพ.ศิริราช คลินิคพิเศษ เปลี่ยนการรักษารคือทายาที่ชื่อ DCP (ถ้าผมจำไม่ผิด) เริ่มที่ความเข้มข้น 0.05%(ถ้าจำไม่ผิดอีกเช่นกัน เริ่มจากความเข้นข้นน้อยสุดเพื่อดู feedback ว่าเป็นยังไงบ้าง) ทั่วบนหนังศรีษะ ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงคือแสบร้อน ... รักษาแบบนี้และเพิ่มความเข้มข้นเรื่อยๆอยู่ 3 ปี ไม่เห็นผล
- ปีที่ 4 รพ.ศิริราช คลินิคพิเศษ หมอใหญ่บอกว่าได้รับการรักษาด้วยยาตัวนี้มานานพอและถึงความเข้มข้นสูงสุดของยาแล้วไม่เห็นผล จึงเปลี่ยนการรักษาด้วยยาทาน ยาตัวนี้คือ "สเตียรอยด์" ครับ ยารักษาทุกอาการ แต่ผลข้างเคียงในการรับยาไปปริมาณมากในอากู๋นะครับ หมอจึงจ่ายยา สเตียรอยด์ ให้ทานวันละ 12 เม็ด 3มื้อๆละ 4 เม็ดๆละ 5mg รวมเป็น 60mg per/day ผมรับยาปริมาณนี้อยู่ 2 เดือน เส้นผมขึ้นและดกดำ ดกทุกที่(ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ) หนวดเคราเฟิร์มเลยครับ แต่!ผลข้างเคียงที่ผมรู้สึกเองได้ตอนนั้นมีดังนี้ moonface(หน้าบวม แก้มนี่ป่องเป็นคนละคนเลยครับ) ,ผิวหนังที่เป็นข้อพับทั้งหลายมีรอยแตกจากการขยายตัวโดยเฉียบพลัน,ตาพร่ามัว,ปวดหลัง,สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นี่คือเท่าที่จำได้ ... พอเข้าเดือนที่ 3 หมอให้เริ่มลดยาเหลือ 40mg per/day คือวันละ 8 เม็ด เช้า 4 เย็น 4 ... เข้าเดือนที่ 4 เส้นผมยังคงดกและแข็งแรง ผลข้างเคียงดูบรรเทาลงจากเดิม หมอให้ลดเหลือวันละ 30mg per/day คือวันละ 6 เม็ด ...ลดลงที่ละเดือนๆ จนเหลือ 5mg คือ 1 เม็ด วันเว้นวัน เส้นผมเริ่มหลุดร่วงบางลงทุดวันๆ จนกลับมาเป็นแบบเดิม หัวโล้นใสหมวกไปเรียน ต่อมาก็ได้รับการรักษาเป็นยาเม็ดเช่นกัน แต่เปลี่ยนเป็นเม็ดสีเหลือง (จำชื่อยาไม่ได้ ขออภัยครับ) เดือนแรกที่รับยานี้มา หมอใหญ่จ่ายให้ทานอาทิตย์ละ 4 เม็ด มื้อเช้ามื้อเดียว ...เดือนที่2 หมอจ่ายยาเดิมให้ทานอาทิตย์ละ 3เม็ด มื้อเช้าเช่นกัน จนปัจจุบันนี้เข้าเดือนที่ 4แล้วก็ยังรับยาอาทิตย์ละ3เม็ดอยู่ ไม่มีอาการดีขึ้นให้เห็นแต่อย่างใด
*ข้างต้นคือประวัติการรักษาคร่าวๆ ไม่ได้ตรงเป้ะทุกอย่าง ปัจจุบันศึกษาอยู่ปี 2 แล้วครับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนแต่อย่างใด แต่คิดเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต
**รบกวนหมอ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้ หรือท่านที่เคยเป็นแล้วหาย หรือเป็นอยู่ มีข้อแนะนำและคำปรึกษาให้กับผมอย่างไรบ้าง
***ประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริง
(ท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือผมหรือสงสัยในข้อความบางตอน หรือขั้นตอนในการรักษา รบกวนแสดงความคิดเห็นในนี้หรือหลังไมค์ได้ครับ ผมพร้อมให้คำอธิบายโดยละเอียด)
ปล.อยากแท็กเพิ่ม แต่ตั้งในโทรศัพท์ ได้เท่านี้ครับ
(ขอความช่วยเหลือ,คำปรึกษา) Alopecial Areata > totalis เป็นมาเกือบจะเข้าปีที่ห้าแล้ว ยังไม่เคยได้ตั้งกระทู้ถามเลย
> Alopecia Areata โรคผมร่วงเป็นหย่อมที่ไม่ทราบสาเหตุ เกิดได้ทุกส่วนของร่างกายที่มีผมหรือขน อาจมีเพียงหย่อมเดียวหรือหลายหย่อมมารวมกัน
> ถ้าเกิดเป็นบริเวณกว้างทั่วศีรษะ เรียกว่า Alopecia totalis ซึ่งมีอาการรุนแรงกว่าขั้นแรก
> ถ้ามีขนบริเวณอื่น ทั่วร่างกายร่วงด้วย เช่น ขนคิ้ว ขนตา ขนตามตัว รักแร้ และหัวหน่าว เรียกว่า Alopecia universalis มีอาการรุนแรงกว่าขั้นก่อนเช่นกัน
(ในกระทู้นี้ขอกล่าวถึง 2 เพราะคิดว่ากำลังเป็นอยู่)
ผมกำลังป่วยเป็นโรคนี้อยู่ตอนนี้ก็เข้าปีที่ 4 แล้ว เริ่มรู้ตัวตอนบวชให้ชวดที่ต่างจังหวัด ตอนนั้นปิดกลางเทอม ม.4 ระหว่างเทอม 1 และเทอม 2 - ปีที่ 1-3 รอยโรคที่มีให้เห็นพบตอนโกนหัวบวชหน้าไฟ เป็นวงที่ไร้รูขุมขนกลางศรีษะเท่าเหรียญบาท ผมให้ทางญาติดูบอกกันว่า"ไข่ดาว"เดี๋ยวก็หาย ผมก็ไม่ได้เอ้ะใจอะไร ผ่านไป 1 เดือน วงกลางศรีษะเริ่มกว้างขึ้น และระหว่าง 1 เดือนมีรอยเพิ่มตรงท้ายทอย ทั้งสองที่เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆและมีรอยโรคเพิ่มขึ้นทุกๆ ที่บนศรีษะ ผมเลยเลือกที่จะโกนทิ้งแล้วใส่หมวกแก๊บก่อนที่จะเปิดเทอม ... นั่นละครับใส่หมวกไปเรียน แปลกประหลาดกว่าชาวบ้านอยู่คนเดียว จึงไปหาหมอที่ รพ.วชิระ แรกการรักษาคือใช้เข็มฉีดยาเข้าไปหนังศรีษะ ถูกจิ้ม-ออกอยู่อย่างนั้น จุดละ 15-20 ครั้งได้ และเป็นหลายจุดมาก รักษาอยู่ได้ 2 อาทิต ไม่เห็นผลและ เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเดินทางไม่สะดวก จึงย้ายไปรักษาที่ รพ.ศิริราช คลินิคพิเศษ เปลี่ยนการรักษารคือทายาที่ชื่อ DCP (ถ้าผมจำไม่ผิด) เริ่มที่ความเข้มข้น 0.05%(ถ้าจำไม่ผิดอีกเช่นกัน เริ่มจากความเข้นข้นน้อยสุดเพื่อดู feedback ว่าเป็นยังไงบ้าง) ทั่วบนหนังศรีษะ ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงคือแสบร้อน ... รักษาแบบนี้และเพิ่มความเข้มข้นเรื่อยๆอยู่ 3 ปี ไม่เห็นผล
- ปีที่ 4 รพ.ศิริราช คลินิคพิเศษ หมอใหญ่บอกว่าได้รับการรักษาด้วยยาตัวนี้มานานพอและถึงความเข้มข้นสูงสุดของยาแล้วไม่เห็นผล จึงเปลี่ยนการรักษาด้วยยาทาน ยาตัวนี้คือ "สเตียรอยด์" ครับ ยารักษาทุกอาการ แต่ผลข้างเคียงในการรับยาไปปริมาณมากในอากู๋นะครับ หมอจึงจ่ายยา สเตียรอยด์ ให้ทานวันละ 12 เม็ด 3มื้อๆละ 4 เม็ดๆละ 5mg รวมเป็น 60mg per/day ผมรับยาปริมาณนี้อยู่ 2 เดือน เส้นผมขึ้นและดกดำ ดกทุกที่(ไม่ได้ทะลึ่งนะครับ) หนวดเคราเฟิร์มเลยครับ แต่!ผลข้างเคียงที่ผมรู้สึกเองได้ตอนนั้นมีดังนี้ moonface(หน้าบวม แก้มนี่ป่องเป็นคนละคนเลยครับ) ,ผิวหนังที่เป็นข้อพับทั้งหลายมีรอยแตกจากการขยายตัวโดยเฉียบพลัน,ตาพร่ามัว,ปวดหลัง,สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นี่คือเท่าที่จำได้ ... พอเข้าเดือนที่ 3 หมอให้เริ่มลดยาเหลือ 40mg per/day คือวันละ 8 เม็ด เช้า 4 เย็น 4 ... เข้าเดือนที่ 4 เส้นผมยังคงดกและแข็งแรง ผลข้างเคียงดูบรรเทาลงจากเดิม หมอให้ลดเหลือวันละ 30mg per/day คือวันละ 6 เม็ด ...ลดลงที่ละเดือนๆ จนเหลือ 5mg คือ 1 เม็ด วันเว้นวัน เส้นผมเริ่มหลุดร่วงบางลงทุดวันๆ จนกลับมาเป็นแบบเดิม หัวโล้นใสหมวกไปเรียน ต่อมาก็ได้รับการรักษาเป็นยาเม็ดเช่นกัน แต่เปลี่ยนเป็นเม็ดสีเหลือง (จำชื่อยาไม่ได้ ขออภัยครับ) เดือนแรกที่รับยานี้มา หมอใหญ่จ่ายให้ทานอาทิตย์ละ 4 เม็ด มื้อเช้ามื้อเดียว ...เดือนที่2 หมอจ่ายยาเดิมให้ทานอาทิตย์ละ 3เม็ด มื้อเช้าเช่นกัน จนปัจจุบันนี้เข้าเดือนที่ 4แล้วก็ยังรับยาอาทิตย์ละ3เม็ดอยู่ ไม่มีอาการดีขึ้นให้เห็นแต่อย่างใด
*ข้างต้นคือประวัติการรักษาคร่าวๆ ไม่ได้ตรงเป้ะทุกอย่าง ปัจจุบันศึกษาอยู่ปี 2 แล้วครับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนแต่อย่างใด แต่คิดเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต
**รบกวนหมอ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้ หรือท่านที่เคยเป็นแล้วหาย หรือเป็นอยู่ มีข้อแนะนำและคำปรึกษาให้กับผมอย่างไรบ้าง
***ประสบการณ์ตรงจากชีวิตจริง
(ท่านใดมีความประสงค์จะช่วยเหลือผมหรือสงสัยในข้อความบางตอน หรือขั้นตอนในการรักษา รบกวนแสดงความคิดเห็นในนี้หรือหลังไมค์ได้ครับ ผมพร้อมให้คำอธิบายโดยละเอียด)
ปล.อยากแท็กเพิ่ม แต่ตั้งในโทรศัพท์ ได้เท่านี้ครับ