สวัสดีครับพี่ ป้า น้า อา แห่งห้องคนบ้ามือหมุนที่เคารพทุกๆท่าน
วันนี้ผมขอนำเสนอเลนส์ตัวเล็กๆแต่คุณภาพคับแก้วที่มาจากกล้องคอมแพคของรัสเซียตัวหนึ่งครับ
กล้องที่ผมกล่าวถึงก็คือ
SMENA 8M ซึ่งเป็นกล้อง 35mm จากโรงงาน
LOMO ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในยุทธภพ
จากข้อมูลบอกเราว่ากล้องรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1970 ถึง 1995 รวมระยะเวลาที่อยู่ในสายการผลิตนานถึง 25 ปี
นั่นหมายความว่ามันต้องมีอะไรดีๆเป็นแน่ ถึงได้อยู่ยงคงกระพันนานเช่นนี้
SMENA ในภาษารัสเซียหมายถึง
Young Generation หรือคนหนุ่มสาวครับ
เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นกล้องที่ผลิตมาเพื่อเอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ แต่บรรดาผู้สูงวัยก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้เช่นกัน
ไม่ได้มีข้อห้ามเอาไว้ในรัฐธรรมนูญสักกะหน่อย HA HA HA!!!
ข้อมูลยังบอกเราอีกว่ากล้องรุ่นนี้มีชื่อเสียงมากและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
เนื่องจากเราสามารถพบเห็นผู้ที่ใช้กล้องรุ่นนี้ได้ทั่วไปในรัสเซียและในประเทศซึ่งเป็นอดีตสหภาพโซเวียตทั้งหลาย
มันถูกผลิตขึ้น 5 Types และ 9 Subtypes ครับ ซึ่งทุกโมเดลใช้เลนส์รุ่นเดียวกันทั้งหมดคือ
TRIPLET T-43
ระยะทำการ 40mm เอฟกว้างสุดที่ 4.0 ครับ เลนส์ตัวนี้มี 8 เบลด ให้โบเก้กลมทุกค่าการรับแสง
ซึ่งกล้อง SMENA 8M แต่ละโมเดลจะเป็นอย่างไรก็อย่าไปใส่ใจครับ แตกต่างเพียงรายละเอียดเล็กน้อย
ส่วนเลนส์นั้นถึงแม้จะเป็นรหัสเดียวกัน แต่หน้าตาก็แตกต่างกันบ้าง บางรุ่นสีขาว บางรุ่นสีดำ อย่าไปสนใจเลย
เพราะมันคือตัวเดียวกัน ชิ้นเลนส์และการวางโครงสร้างต่างๆเหมือนกันทุกประการครับ
ซึ่งกล้องรุ่นนี้มีน้ำหนักเพียง 261 กรัมเท่านั้น เนื่องจากวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกโดยส่วนใหญ่
……………
……………
ผมตามหา
SMENA 8M ตัวนี้มานานครับ แต่ตัวที่สภาพเลนส์สวยๆมีราคารวมส่งต่ำสุดที่เคยพบเจอก็หนึ่งพันบาทขึ้นไปทั้งนั้น
ตังค์น่ะมี แต่ไม่อยากจ่ายเกินห้าร้อยเท่านั้นเองครับ
วันหนึ่งให้มีเหตุบังเอิญที่ทำให้ผมไปเจอะเจอเจ้า
Triplet T-43 ตัวนี้แบบมีเฉพาะตัวเลนส์ ไม่มีกล้องมาด้วย
ซึ่งถือเป็นโชควาสนาอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลามานั่งถอดเลนส์ แถมค่าส่งยังถูกลงอย่างมโหราฬ
โดยได้มาในราคารวมส่งเพียง
322 บาทเท่านั้นครับ
จัดแจงให้ช่างอ๋า มือวางอันดับหนึ่งของ
PK precission parts co,ltd เป็นผู้รับเหมางานตามระเบียบ
โดยสร้างแหวนหนุนขึ้นมาเพื่อจับประกบกับอแดปเตอร์ C-mount to M4/3เพื่อให้กลายเป็นเมาท์ M4/3 ครับ
ซึ่งช่างอ๋าใช้เวลาเพียง 5 นาที กับอีก 22 วินาทีเป็นอันเรียบร้อย
โดยปกติเลนส์
Triplet T-43 ตัวนี้ มีระยะ Minimum focus อยู่ที่ 1 เมตร
แต่ผมจัดการเอาตัวล๊อคโฟกัสด้านในเลนส์ออกไป ทำให้มันสามารถโฟกัสได้ใกล้ขึ้นอย่างมาก
โดยจากการทดลองพบว่ามันมีระยะ Minimum focus เหลือเพียงประมาณ 20cm. เท่านั้น
ทำการทดสอบโดยใช้กล้อง Panasonic G3 ความรู้สึกแรกก็คือ
“มันเท่ห์มากๆ” กระชากสายตาคนรอบข้างอย่างรุนแรง
น้ำหนักเบา เหมือนไม่ได้สวมใส่อะไรเลย HA HA HA!!!
องศาการรับภาพที่มาจากเลนส์ตัวนี้คือระยะ 40mm ทำให้จะเรียกว่าเป็นนอมอลเลนส์ก็ไม่ใช่ เลนส์มุมกว้างก็ไม่เชิง
เหมือนเป็นเลนส์ระยะ
“กระเทย” ครับ
แต่ถ้าเรียกให้ไพเราะและสุภาพก็ต้องบอกว่าเป็น
“เพศทางเลือก” ครับ เดี๋ยวน้องๆเค้าจะเคืองเอานะ HA HA HA!!!
คราวนี้มาดูเรื่องคุณภาพของไฟล์ที่ได้กันบ้างครับ
เมื่อใช้งานที่เอฟกว้างสุดนั้นไม่พบอาการฟุ้งแต่อย่างใด ถือว่าน่าแปลกใจครับ แต่ก็ไม่ได้คมมากนักถือว่าใช้งานจริงจังได้
และเมื่อเราหรี่ช่องรับแสงลงเพียงครึ่งสต๊อป จะเห็นว่าความคมชัดเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ดี
แต่เมื่อใช้ที่ F5.6 ขึ้นไปจนถึง F11 ภาพที่ได้จะมีความคมดีมาก แต่ยังคงความนุ่มละมุนตามสไตล์หลังม่านเหล็กชัดเจน
เพราะฉะนั้นการเล่นกับ
Triplet T-43 ตัวนี้ ต้องใช้ค่าการรับแสงที่ 5.6 ขึ้นไปนะครับ แล้วจะพบว่ามันยอดเยี่ยม
จนถึงขั้นต้องอุทานออกมาดังๆเป็นภาษารัสเซียว่า
“มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย!!!”
หากแต่ความคมนั้นจะคมบริเวณกลางภาพ ส่วนบริเวณขอบๆจะคลายความคมลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพแนวระนาบ
โดยจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อซูม 100% จากจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดครับ
หากเราทำการอัดขยายภาพในขนาดไม่เกิน 10x15 นิ้วจะมองไม่ออกครับ เชื่อผมสิ!!!
แต่ในสถานการณ์จริงการถ่ายภาพแนวระนาบจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนักครับ ยกเว้นช่างภาพแนวสถาปัตย์เท่านั้น
มาถึงเรื่องของ
“สีสัน” พบว่ามันให้คอนทราสท์ที่เข้มข้น แต่ไม่ถึงกับ
“จัด” มากนัก ตามสไตล์ LOMO ครับ
ให้สีสันที่สดใส เข้มข้น และเที่ยงตรงดีพอสมควร แต่ไม่มีแนว
“ฟรุ้งฟริ้ง” ให้เห็นสำหรับ T-43 ตัวนี้
การเล่นกับภาพย้อนแสงทำได้ดี เก็บรายละเอียดในส่วนสว่างได้แม่นยำ แต่ในส่วนที่อันเดอร์จะออกทึบๆเล็กน้อย
ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมแต่อย่างใดครับ
การถ่ายภาพในที่ร่มหรือไม่มีแสงแดดนั้น ภาพที่ได้ยังคงมีมิติที่ดีมากๆ ไม่รู้สึกว่าภาพมัน
“แบน” แต่อย่างใด
ในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างของแสงสูงมากกว่า 4 สต๊อป พบว่าในส่วนที่ได้รับแสงพอดีจะให้สีสันที่สดใส
แต่ในส่วนที่โอเวอร์จะขาวโพลนทีเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดครับ
เลนส์ดีๆหรือแพงๆรุ่นเก่าๆหลายตัวก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างของแสงสูงมากๆเข้าไว้ครับ
การเอาตัวล๊อคโฟกัสออกไป ทำให้ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ดีขึ้นมาก เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมันเป็นอย่างดี
ถือเป็นการทำลายข้อจำกัดบางประการของการถ่ายภาพด้วยเลนส์โมดิฟายที่มาจากกล้องคอมแพค
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีระ Minimum focus ที่ 1 เมตรเป็นส่วนใหญ่
โดยสรุปก็คือมันยอดเยี่ยมมากๆครับ เลนส์ตัวเล็ก องศารับภาพที่เหมาะกับการ
Snap เป็นอย่างยิ่ง
คุณภาพไม่แพ้เลนส์ราคาเทพๆทั้งหลาย อาจจะดีกว่าบางตัวด้วยซ้ำไป ทำหล่นหายก็ไม่ต้องคิดมาก
เวลาเมาเบียร์แล้วหลงลืมให้พรรคพวกไปเฉยๆก็ไม่ต้องเสียดาย แถมราคาถูกกว่าการไปเติมแก๊ส LPG แค่ครึ่งถัง
ถึงแม้เอฟกว้างสุดจะน้อยไปนิดหน่อย แต่ก็สามารถดัน ISO ช่วยได้สบายๆ
ภาพทั้งหมดผมใช้ค่า ISO 160 ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำที่สุดของกล้อง Panasonic G3 นะครับ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ผมไม่สงสัยอีกเลยว่าทำไมมันถึงอยู่ในสายพานการผลิตมาอย่างยาวนานถึง 25 ปีได้
“ก็เพราะมันยอดเยี่ยมจริงๆครับ!!!”
ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว เดินทางด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ
สวัสดี!!!
T-43 on M4/3
สวัสดีครับพี่ ป้า น้า อา แห่งห้องคนบ้ามือหมุนที่เคารพทุกๆท่าน
วันนี้ผมขอนำเสนอเลนส์ตัวเล็กๆแต่คุณภาพคับแก้วที่มาจากกล้องคอมแพคของรัสเซียตัวหนึ่งครับ
กล้องที่ผมกล่าวถึงก็คือ SMENA 8M ซึ่งเป็นกล้อง 35mm จากโรงงาน LOMO ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในยุทธภพ
จากข้อมูลบอกเราว่ากล้องรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1970 ถึง 1995 รวมระยะเวลาที่อยู่ในสายการผลิตนานถึง 25 ปี
นั่นหมายความว่ามันต้องมีอะไรดีๆเป็นแน่ ถึงได้อยู่ยงคงกระพันนานเช่นนี้
SMENA ในภาษารัสเซียหมายถึง Young Generation หรือคนหนุ่มสาวครับ
เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นกล้องที่ผลิตมาเพื่อเอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ แต่บรรดาผู้สูงวัยก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้เช่นกัน
ไม่ได้มีข้อห้ามเอาไว้ในรัฐธรรมนูญสักกะหน่อย HA HA HA!!!
ข้อมูลยังบอกเราอีกว่ากล้องรุ่นนี้มีชื่อเสียงมากและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
เนื่องจากเราสามารถพบเห็นผู้ที่ใช้กล้องรุ่นนี้ได้ทั่วไปในรัสเซียและในประเทศซึ่งเป็นอดีตสหภาพโซเวียตทั้งหลาย
มันถูกผลิตขึ้น 5 Types และ 9 Subtypes ครับ ซึ่งทุกโมเดลใช้เลนส์รุ่นเดียวกันทั้งหมดคือ TRIPLET T-43
ระยะทำการ 40mm เอฟกว้างสุดที่ 4.0 ครับ เลนส์ตัวนี้มี 8 เบลด ให้โบเก้กลมทุกค่าการรับแสง
ซึ่งกล้อง SMENA 8M แต่ละโมเดลจะเป็นอย่างไรก็อย่าไปใส่ใจครับ แตกต่างเพียงรายละเอียดเล็กน้อย
ส่วนเลนส์นั้นถึงแม้จะเป็นรหัสเดียวกัน แต่หน้าตาก็แตกต่างกันบ้าง บางรุ่นสีขาว บางรุ่นสีดำ อย่าไปสนใจเลย
เพราะมันคือตัวเดียวกัน ชิ้นเลนส์และการวางโครงสร้างต่างๆเหมือนกันทุกประการครับ
ซึ่งกล้องรุ่นนี้มีน้ำหนักเพียง 261 กรัมเท่านั้น เนื่องจากวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกโดยส่วนใหญ่
……………
……………
ผมตามหา SMENA 8M ตัวนี้มานานครับ แต่ตัวที่สภาพเลนส์สวยๆมีราคารวมส่งต่ำสุดที่เคยพบเจอก็หนึ่งพันบาทขึ้นไปทั้งนั้น
ตังค์น่ะมี แต่ไม่อยากจ่ายเกินห้าร้อยเท่านั้นเองครับ
วันหนึ่งให้มีเหตุบังเอิญที่ทำให้ผมไปเจอะเจอเจ้า Triplet T-43 ตัวนี้แบบมีเฉพาะตัวเลนส์ ไม่มีกล้องมาด้วย
ซึ่งถือเป็นโชควาสนาอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลามานั่งถอดเลนส์ แถมค่าส่งยังถูกลงอย่างมโหราฬ
โดยได้มาในราคารวมส่งเพียง 322 บาทเท่านั้นครับ
จัดแจงให้ช่างอ๋า มือวางอันดับหนึ่งของ PK precission parts co,ltd เป็นผู้รับเหมางานตามระเบียบ
โดยสร้างแหวนหนุนขึ้นมาเพื่อจับประกบกับอแดปเตอร์ C-mount to M4/3เพื่อให้กลายเป็นเมาท์ M4/3 ครับ
ซึ่งช่างอ๋าใช้เวลาเพียง 5 นาที กับอีก 22 วินาทีเป็นอันเรียบร้อย
โดยปกติเลนส์ Triplet T-43 ตัวนี้ มีระยะ Minimum focus อยู่ที่ 1 เมตร
แต่ผมจัดการเอาตัวล๊อคโฟกัสด้านในเลนส์ออกไป ทำให้มันสามารถโฟกัสได้ใกล้ขึ้นอย่างมาก
โดยจากการทดลองพบว่ามันมีระยะ Minimum focus เหลือเพียงประมาณ 20cm. เท่านั้น
ทำการทดสอบโดยใช้กล้อง Panasonic G3 ความรู้สึกแรกก็คือ “มันเท่ห์มากๆ” กระชากสายตาคนรอบข้างอย่างรุนแรง
น้ำหนักเบา เหมือนไม่ได้สวมใส่อะไรเลย HA HA HA!!!
องศาการรับภาพที่มาจากเลนส์ตัวนี้คือระยะ 40mm ทำให้จะเรียกว่าเป็นนอมอลเลนส์ก็ไม่ใช่ เลนส์มุมกว้างก็ไม่เชิง
เหมือนเป็นเลนส์ระยะ “กระเทย” ครับ
แต่ถ้าเรียกให้ไพเราะและสุภาพก็ต้องบอกว่าเป็น “เพศทางเลือก” ครับ เดี๋ยวน้องๆเค้าจะเคืองเอานะ HA HA HA!!!
คราวนี้มาดูเรื่องคุณภาพของไฟล์ที่ได้กันบ้างครับ
เมื่อใช้งานที่เอฟกว้างสุดนั้นไม่พบอาการฟุ้งแต่อย่างใด ถือว่าน่าแปลกใจครับ แต่ก็ไม่ได้คมมากนักถือว่าใช้งานจริงจังได้
และเมื่อเราหรี่ช่องรับแสงลงเพียงครึ่งสต๊อป จะเห็นว่าความคมชัดเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ดี
แต่เมื่อใช้ที่ F5.6 ขึ้นไปจนถึง F11 ภาพที่ได้จะมีความคมดีมาก แต่ยังคงความนุ่มละมุนตามสไตล์หลังม่านเหล็กชัดเจน
เพราะฉะนั้นการเล่นกับ Triplet T-43 ตัวนี้ ต้องใช้ค่าการรับแสงที่ 5.6 ขึ้นไปนะครับ แล้วจะพบว่ามันยอดเยี่ยม
จนถึงขั้นต้องอุทานออกมาดังๆเป็นภาษารัสเซียว่า “มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย!!!”
หากแต่ความคมนั้นจะคมบริเวณกลางภาพ ส่วนบริเวณขอบๆจะคลายความคมลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพแนวระนาบ
โดยจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อซูม 100% จากจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดครับ
หากเราทำการอัดขยายภาพในขนาดไม่เกิน 10x15 นิ้วจะมองไม่ออกครับ เชื่อผมสิ!!!
แต่ในสถานการณ์จริงการถ่ายภาพแนวระนาบจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนักครับ ยกเว้นช่างภาพแนวสถาปัตย์เท่านั้น
มาถึงเรื่องของ “สีสัน” พบว่ามันให้คอนทราสท์ที่เข้มข้น แต่ไม่ถึงกับ “จัด” มากนัก ตามสไตล์ LOMO ครับ
ให้สีสันที่สดใส เข้มข้น และเที่ยงตรงดีพอสมควร แต่ไม่มีแนว “ฟรุ้งฟริ้ง” ให้เห็นสำหรับ T-43 ตัวนี้
การเล่นกับภาพย้อนแสงทำได้ดี เก็บรายละเอียดในส่วนสว่างได้แม่นยำ แต่ในส่วนที่อันเดอร์จะออกทึบๆเล็กน้อย
ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมแต่อย่างใดครับ
การถ่ายภาพในที่ร่มหรือไม่มีแสงแดดนั้น ภาพที่ได้ยังคงมีมิติที่ดีมากๆ ไม่รู้สึกว่าภาพมัน “แบน” แต่อย่างใด
ในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างของแสงสูงมากกว่า 4 สต๊อป พบว่าในส่วนที่ได้รับแสงพอดีจะให้สีสันที่สดใส
แต่ในส่วนที่โอเวอร์จะขาวโพลนทีเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดครับ
เลนส์ดีๆหรือแพงๆรุ่นเก่าๆหลายตัวก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างของแสงสูงมากๆเข้าไว้ครับ
การเอาตัวล๊อคโฟกัสออกไป ทำให้ถ่ายภาพระยะใกล้ได้ดีขึ้นมาก เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมันเป็นอย่างดี
ถือเป็นการทำลายข้อจำกัดบางประการของการถ่ายภาพด้วยเลนส์โมดิฟายที่มาจากกล้องคอมแพค
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีระ Minimum focus ที่ 1 เมตรเป็นส่วนใหญ่
โดยสรุปก็คือมันยอดเยี่ยมมากๆครับ เลนส์ตัวเล็ก องศารับภาพที่เหมาะกับการ Snap เป็นอย่างยิ่ง
คุณภาพไม่แพ้เลนส์ราคาเทพๆทั้งหลาย อาจจะดีกว่าบางตัวด้วยซ้ำไป ทำหล่นหายก็ไม่ต้องคิดมาก
เวลาเมาเบียร์แล้วหลงลืมให้พรรคพวกไปเฉยๆก็ไม่ต้องเสียดาย แถมราคาถูกกว่าการไปเติมแก๊ส LPG แค่ครึ่งถัง
ถึงแม้เอฟกว้างสุดจะน้อยไปนิดหน่อย แต่ก็สามารถดัน ISO ช่วยได้สบายๆ
ภาพทั้งหมดผมใช้ค่า ISO 160 ซึ่งเป็นค่าที่ต่ำที่สุดของกล้อง Panasonic G3 นะครับ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ผมไม่สงสัยอีกเลยว่าทำไมมันถึงอยู่ในสายพานการผลิตมาอย่างยาวนานถึง 25 ปีได้
“ก็เพราะมันยอดเยี่ยมจริงๆครับ!!!”
ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัว เดินทางด้วยความไม่ประมาทเสมอครับ
สวัสดี!!!