ประกันแบบสะสมทรัพย์ เบี้ยประกันยอดรวมเมื่อจ่ายครบอยู่ที่ 2 ล้านกว่า ถ้ายกเลิกแบบไม่ให้ขาดทุน  ต้องรอปีที่ 10 (ต้องรอถึงปี พ.ศ. 2563 ซึ่งเหลืออีก 5 ปี) มีทางออกที่ดีกว่านี้ไหมครับ

รายละเอียด (แบบกระชับที่สุด) อยู่ในสปอยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือ เรื่องมันย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน พ่อกับแม่ (สูงอายุแล้ว) เค้าทำประกันฯ ให้ผมเป็นแบบจ่าย 6 ปีแรก แล้วรอครบ 14 ปี จ่ายเงินปันผลทุก 2 ปีเป็นจำนวน 6 ครั้ง

สาเหตุที่ทำคือ เพราะเค้าคิดในมุมของเค้าว่า เค้าต้องการนำเงินเย็นกระจายความเสี่ยงไปหลายๆ รูปแบบ
ช่วงที่ไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ก็เลยไปปรึกษา จนท.
ทาง จนท.ก็แนะนำมาเป็นประกันแบบสะสมทรัพย์ เค้าก็เลยเลือกตัวนี้

ผมมารู้อีกทีว่าเค้าทำประกันให้ผมเมื่อไม่นานมานี้เองครับ (รู้ครั้งแรก ตกใจครับ เพราะเคยอ่านผ่านๆ ใน pantip แต่ผมก็ยังไม่ได้ศึกษาเลยไม่ได้คิดอะไรมาก) แต่พอหลังจากศึกษาเบื้องต้น แล้วไปดูเล่มกรมธรรม์ทำให้ผมพบว่า ไม่เวิร์คเลยครับ เพราะเป้าหมายเพื่อการลงทุน ไม่ได้เพื่อประกันชีวิต (ก็ไม่เข้าใจว่า จนท.ทำไมถึงแนะนำ)

ผมสรุปได้ว่า เกิดจากความเข้าใจผิดของพ่อกับแม่ผมหลายอย่างเลยเกี่ยวกับประกันสะสมทรัพย์ (หลังจากที่ผมซักถามว่าทำไมถึงไปทำประกันแบบสะสมทรัพย์)

1.  คิดว่า เหมือนกับเงินฝากที่จะเอาเงินออกตอนไหนก็ได้ หรือตามช่วงเวลาที่กำหนดที่ไม่น่าจะนานมากนัก << ในความเป็นจริง คือ ประกันฯ ไม่ใช่ เงินฝาก)
2.  เห็นเงินปันผลเยอะ << ซึ่งในความเป็นจริง ตัวเลขมันแลดูเยอะเพราะรับปันผลทุก 2 ปีแต่พอหาร 2 คิดเป็นปันผลราย 1 ปีถือว่าได้น้อย
3.  เข้าใจผิด เกี่ยวกับศัพท์ที่ใช้ ระหว่างคำว่า เบี้ยประกัน กับ เงินเอาประกัน
     3.1  คิดว่า ได้เงินคืน 2 เท่าจากเบี้ยประกัน (2 ล้านกว่า) << ในความเป็นจริงคือ 2 เท่าจากเงินเอาประกัน (1 ล้านกว่า)
     3.2  คิดว่า ได้เงินเบี้ยประกันคืน << ในความเป็นจริงคือ เบี้ยประกันไม่ได้คืน แต่ได้คืน 2 เท่าจากเงินเอาประกัน
4.  จำนวนเงิน 1000 บาทที่เอามายกตัวอย่าง ทำให้ คิดว่า ได้เยอะ << ในความเป็นจริงคือ ต้องมองแบบร้อยละ แล้วจะเข้าใจว่าจริงๆ มันไม่ได้เยอะเลย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจงเป็นตัวเลขจริงที่คิดจากเงิน 2 ล้านกว่าให้เห็น

ก็ต้องโทษทางฝ่ายผมเองครับที่ไม่ศึกษาให้ดีเอง

พอผมชี้แจงข้อเท็จจริงที่เค้าเข้าใจผิดให้ฟัง เค้าก็มองในแง่ดีอีก เค้าบอกว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ก็ไม่เป็นไรหรอก แล้วเค้าก็บอกปลายเปิดกับผมว่า ถ้ายกเลิกแล้วคิดว่าเอาไปทำอะไรอย่างอื่นที่ดีกว่าก็ให้สิทธิ์ผมเต็มที่เลย
ผมก็เลยคิดว่า ไม่อยากเสียโอกาส อยากลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพกว่านี้ ก็เลยอยากจะยกเลิกครับ

เท่าที่ผมศึกษามาเบื้องต้น ลองคำนวนดูแล้ว สรุปได้ว่า ถ้ายกเลิกปีนี้ขาดทุนเกือบ 4 แสน จุดคุ้มทุนแบบไม่ขาดทุน (ไม่ได้กำไรเลย) คือ ปีที่ 10 (พ.ศ. 2563) ซึ่งเหลืออีก 5 ปี (เหมือนเอาเงินไปให้เค้าใช้ 10 ปี)

ทางออกที่ผมคิดคือ เอาออกมาในช่วงซักปีที่ 8 ขาดทุนประมาณ 1 แสนกว่าๆ  แล้วเอาเงินไปลงทุนด้านอื่นที่ทำกำไรมาโปะ 1 แสนกว่าๆ ที่ขาดทุนไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล...โชคดีที่เป็นเงินเย็น ไม่งั้นผมเครียดกว่านี้หลายเท่า

อยากจะรบกวนปรึกษา และขอคำแนะนำครับ
ขอบคุณครับ