สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิป ขอต้อนรับสู่การกลับมาของ Singapore ลัลล้า ค่ะ มาต่อกันตอนที่ 3 ตอน City Tour
(หลังจากดิฉันห่างหายจากงานเขียนไปนาน ร่วม 6 เดือน และรู้สึกว่า สิ่งที่ฉันทำมันยังไม่เสร็จสิ้น) หลังจากที่ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 เราได้เดินทางไป National Museum of Singapore, Universal Studio, Sentosa และได้ไปกินกัน ราวกับราชา ทั้งติ่มซำ ปู และ บักกุตเต๋ ได้เวลามาเผาผลาญกันแล้ว โดยดิฉันปล่อยโยมเพื่อนไปชอปปิ้ง ส่วนเจ้าแม่ตัวอาร์ทอย่างฉัน ขอเดินรอบๆเมือง อย่างไม่มีแผน แต่ก่อนที่จะเดินทาง ดิฉันกับเพื่อนมาแวะกันไปที่ Landmark ของประเทศสิงคโปร์ นั่นก็คือ เจ้าเมอร์ไลออน ที่ Merlion Park ว่ากันว่าถ้าใครมาที่สิงคโปร์แล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับเจ้าเมอร์ไลออน ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ
ที่นี่มีทั้งสิงโตตัวแม่และสิงโตตัวลูกนะคะ ใครชอบตัวไหนก็ถ่ายกันให้เต็มที่ค่ะ
ตึก Marina Bay ยามแดดเปรี้ยงๆ
หลังจากที่ถ่ายรูปกับเจ้าเมอร์ไลออนจนเสร็จ ดิฉันก็แยกย้ายกับเพื่อนและออกเดินทาง
ออกมาจาก Merlion Park ทาง Fullerton Bridge ดิฉันผ่าน โรงแรม Fullerton โรงแรม ห้าดาว เป็นที่แรกและได้พบกับสะพาน Cavenagh Bridge ซึ่งเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์และปัจจุบันเลิกใช้คมนาคมแล้วค่ะ
มุมนี้ถ่ายไม่ค่อยสวยเท่าไร The Fullerton Hotel
ที่ถ่ายรูปนี้มาเพราะชอบกลิ่นอายความเก่าค่ะ ด้านข้างของโรงแรม
สะพาน Cavenagh Bridge
เขาเลิกคมนาคมกันแล้วจริงๆนะคะ
ต่อมาทางแม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) ที่ย่าน Circular Quay และได้พบกับรูปปั้นของ Sir Stamford Raffles ค่ะ
ท่านผู้นี้ คนสิงคโปร์ยกย่องว่าเป็นบิดาของสิงคโปร์นะคะ เพราะเป็นผู้พัฒนาให้เกาะเล็กๆนี้
ใกล้ๆกัน มี Asian Civilization Museum อยู่ใกล้ๆ ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ มีรูปปั้นเหล็กอยู่หลายรูปปั้นด้วยกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่แสดงศิลปะและประวัติศาสตร์ของจีน
เสียดายที่ตอนนั้นเขาปิด ดิฉันจึงไม่ได้เข้าชม เพราะเขาเปิดวันอังคารและพฤหัส-อาทิตย์
ดิฉันเดินทางต่อมาสู่ The Art House ซึ่งเดิมที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของรัฐสภา แต่ปัจจุบันเป็นที่แสดงศิลปะ การแสดงดนตรีต่างๆ
ที่นี่มีจุดสำคัญที่ต้องมา ก็คือมีรูปปั้นช้างที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้มอบไว้ให้ ขณะที่ท่านได้เสด็จมาเยือนสิงคโปร์ครั้งแรกค่ะ เราจึงได้มาถ่ายรูปกับที่นี่
ดิฉันเดินออกมาสู่ถนนใหญ่ ก็ได้พบกับ Parliament House
หลังจากนั้น ดิฉันก็เริ่มหลงทาง ไม่รู้ว่าจะเดินไปตรงที่ใดต่อ เลยเอาเป็นว่า เดินตามถนนใหญ่ไปเรื่อยๆและกันค่ะ
และก็ได้พบกับ Supreme Court
หลังจากนั้น ชีวิตดิฉันก็สับสนแล้วหละค่ะ มือถือไม่มีอินเตอร์เน็ต หนังสือคู่มือเดินทางที่มีอยู่ก็บอกไม่ได้ละเอียดว่าจะต้องไปทางไหน
เอาหละวะ ถามทางเอา ไป MRT ที่ใกล้ที่สุดจากตรงนี้ ซึ่งก็คือ MRT City Hall ซึ่งข้างๆ City Hall ก็คือ St.Andrew's Cathedral เป็นสถานที่โบสถ์เก่าแก่ขณะนั้นกำลังมีงานอยู่ด้วย มีผู้คนมากมาย จึงไม่ได้เข้าไป
เดินไปเรื่อยๆ ดิฉันคิดถึงละครช่อง 5 เรื่องสงครามนางฟ้า จะมีตอนนึงที่ กัปตันหนิงนัดกับเชอร์รี่ไปกินข้าว และเชอร์รี่โทรไปบอกกับรินว่า กัปตันหนิงมีชู้ ให้มาที่ร้าน Chijmes ดิฉันจึงทำทริปเดินตามรอยละครกันนะตอนนั้น ถามทางไปเรื่อยๆ ว่าไป Chijmes ยังไง และก็มาถึงค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสถานี MRT City Hall
ที่นี่เป็นโบสถ์ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและโรงเรียนสตรีเก่า ที่ได้อนุรักษ์โบสถ์แห่งนี้เอาไว้อย่างดี
หลังจากนั้นดิฉันยังคงหลงทางเรื่อยๆ ยังถนน Stamford มาที่ War Memorial Park (ออกมาทางนี้ได้อย่างไร ยังคงสงสัย แต่นี่เป็น สถานที่อีกที่ที่ตั้งใจจะมาใน City Tour ครั้งนี้ ถือว่าโชคดี)
อนุสรณ์สงครามพลเรือน สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เอาหละค่ะ หลังจากที่เราเดินลากเท้ากันไปมาเกือบครึ่งวัน ร้อนก็ร้อน ท้องก็โหวงเหวง คงต้องไปหาที่พัก ใกล้ๆ มีสถานีรถไฟฟ้า MRT Esplanade ดิฉันจึงมุดมา MRT มา ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง Suntec City Mall ค่ะ ดิฉันไม่ได้มองหรือถ่ายรูปห้างใดๆ พุ่งตรงไปโซนร้านอาหารเป็นที่แรก
เรามากันที่ All Things Nice ที่ Suntec City Mall ค่ะ เป็นร้านขนมอารมณ์บัวลอย ลอดช่อง มาถึงสิงคโปร์แต่ยังไม่ได้กินลอดช่องสิงคโปร์ เหมือนมาไม่ถึงนะคะ
ลอดช่อง (Chendol) สิงคโปร์ น่ากินไหมคะ
ที่นี่ Suntec City Mall มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด คือ น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง หรือ Fountain of Wealth ซึ่งดิฉันโชคดีมากที่ไปทันเขาเล่นน้ำพุ เพราะตอนนั้นก็บ่ายกว่าๆแล้วค่ะ
หลังจากที่ท้องดิฉันมีอาหารตกถึงท้อง ดิฉันก็มีแรง เดินเล่นในห้างสักพัก แล้วจึงออกเดินทางต่อมายัง MRT Marina Bay แน่นอนว่า พิพิธภัณฑ์ใหม่แห่งหนึ่งที่น่าสนใจมาก และเรียกว่าเป็น The Must ของทริปนี้ คือ The Art Science Museum และ Exhibition หลักของวันนี้ก็คือ Dinosaurs Dawn to Extinction by Peter Trusler นักศิลปะชาวออสเตรเลียชื่อดัง ผู้ซึ่งสนใจ บรรพชีวินวิทยา (Paleontology) โดยพิพิธพัณฑ์ครั้งนี้ ก็ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ตั้งแต่แรกเริ่ม ไปจนสัตว์เหล่านั้นสูญพันธ์เลยทีเดียว
https://www.youtube.com/watch?v=aUteZvpzcQE
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดดีมากๆ และเกินค่าเงินที่ไปชมจริงๆ
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ เพื่อนก็ชอปปิ้งเสร็จ ส่วนดิฉันก็หิวมา เรามาพบกันที่ The Shoppes by Marina Bay Sand
มากันที่ Rasapura MASTERS by the Shoppes ซึ่งถ้าบ้านๆเราก็เรียกกันว่า Food Court แต่ระดับห้าง The Shoppes แล้วที่นี่ไม่ธรรมดา
เพราะว่า ร้านอาหารที่อยู่ใน Food Court ที่นี่ จัดว่าดังและรสชาติดีมากทีเดียว ดิฉันเลือกที่จะกินปลากระเบนย่าง (ซึ่งดิฉันเคยทานครั้งหนึ่งในมาเลเซีย จึงขอสั่งสักจาน)
น่ากินไหมละคะ ปลากระเบนย่าง
เดินเล่นในห้างสักพัก ดิฉันกับเพื่อนขึ้นไปที่ Sand Sky Park ชั้นที่ 57 ของ Marina Bay Sand เพื่อชมเมืองสิงคโปร์ยามค่ำคืน (กลัวความสูงไหม กลัว แต่ก็ขึ้นไปตั้งแต่ยังไม่มืดเลยค่ะ)
พระอาทิตย์กำลังตกดินค่ะทุกคน
จบแล้วค่ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตนะคะ
Singapore ลัลล้า ตอนที่ 3
(หลังจากดิฉันห่างหายจากงานเขียนไปนาน ร่วม 6 เดือน และรู้สึกว่า สิ่งที่ฉันทำมันยังไม่เสร็จสิ้น) หลังจากที่ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 เราได้เดินทางไป National Museum of Singapore, Universal Studio, Sentosa และได้ไปกินกัน ราวกับราชา ทั้งติ่มซำ ปู และ บักกุตเต๋ ได้เวลามาเผาผลาญกันแล้ว โดยดิฉันปล่อยโยมเพื่อนไปชอปปิ้ง ส่วนเจ้าแม่ตัวอาร์ทอย่างฉัน ขอเดินรอบๆเมือง อย่างไม่มีแผน แต่ก่อนที่จะเดินทาง ดิฉันกับเพื่อนมาแวะกันไปที่ Landmark ของประเทศสิงคโปร์ นั่นก็คือ เจ้าเมอร์ไลออน ที่ Merlion Park ว่ากันว่าถ้าใครมาที่สิงคโปร์แล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับเจ้าเมอร์ไลออน ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ
หลังจากที่ถ่ายรูปกับเจ้าเมอร์ไลออนจนเสร็จ ดิฉันก็แยกย้ายกับเพื่อนและออกเดินทาง
ออกมาจาก Merlion Park ทาง Fullerton Bridge ดิฉันผ่าน โรงแรม Fullerton โรงแรม ห้าดาว เป็นที่แรกและได้พบกับสะพาน Cavenagh Bridge ซึ่งเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์และปัจจุบันเลิกใช้คมนาคมแล้วค่ะ
ต่อมาทางแม่น้ำสิงคโปร์ (Singapore River) ที่ย่าน Circular Quay และได้พบกับรูปปั้นของ Sir Stamford Raffles ค่ะ
ใกล้ๆกัน มี Asian Civilization Museum อยู่ใกล้ๆ ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ มีรูปปั้นเหล็กอยู่หลายรูปปั้นด้วยกัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่แสดงศิลปะและประวัติศาสตร์ของจีน
ดิฉันเดินทางต่อมาสู่ The Art House ซึ่งเดิมที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของรัฐสภา แต่ปัจจุบันเป็นที่แสดงศิลปะ การแสดงดนตรีต่างๆ
ที่นี่มีจุดสำคัญที่ต้องมา ก็คือมีรูปปั้นช้างที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้มอบไว้ให้ ขณะที่ท่านได้เสด็จมาเยือนสิงคโปร์ครั้งแรกค่ะ เราจึงได้มาถ่ายรูปกับที่นี่
ดิฉันเดินออกมาสู่ถนนใหญ่ ก็ได้พบกับ Parliament House
หลังจากนั้น ดิฉันก็เริ่มหลงทาง ไม่รู้ว่าจะเดินไปตรงที่ใดต่อ เลยเอาเป็นว่า เดินตามถนนใหญ่ไปเรื่อยๆและกันค่ะ
และก็ได้พบกับ Supreme Court
หลังจากนั้น ชีวิตดิฉันก็สับสนแล้วหละค่ะ มือถือไม่มีอินเตอร์เน็ต หนังสือคู่มือเดินทางที่มีอยู่ก็บอกไม่ได้ละเอียดว่าจะต้องไปทางไหน
เอาหละวะ ถามทางเอา ไป MRT ที่ใกล้ที่สุดจากตรงนี้ ซึ่งก็คือ MRT City Hall ซึ่งข้างๆ City Hall ก็คือ St.Andrew's Cathedral เป็นสถานที่โบสถ์เก่าแก่ขณะนั้นกำลังมีงานอยู่ด้วย มีผู้คนมากมาย จึงไม่ได้เข้าไป
เดินไปเรื่อยๆ ดิฉันคิดถึงละครช่อง 5 เรื่องสงครามนางฟ้า จะมีตอนนึงที่ กัปตันหนิงนัดกับเชอร์รี่ไปกินข้าว และเชอร์รี่โทรไปบอกกับรินว่า กัปตันหนิงมีชู้ ให้มาที่ร้าน Chijmes ดิฉันจึงทำทริปเดินตามรอยละครกันนะตอนนั้น ถามทางไปเรื่อยๆ ว่าไป Chijmes ยังไง และก็มาถึงค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสถานี MRT City Hall
หลังจากนั้นดิฉันยังคงหลงทางเรื่อยๆ ยังถนน Stamford มาที่ War Memorial Park (ออกมาทางนี้ได้อย่างไร ยังคงสงสัย แต่นี่เป็น สถานที่อีกที่ที่ตั้งใจจะมาใน City Tour ครั้งนี้ ถือว่าโชคดี)
เอาหละค่ะ หลังจากที่เราเดินลากเท้ากันไปมาเกือบครึ่งวัน ร้อนก็ร้อน ท้องก็โหวงเหวง คงต้องไปหาที่พัก ใกล้ๆ มีสถานีรถไฟฟ้า MRT Esplanade ดิฉันจึงมุดมา MRT มา ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง Suntec City Mall ค่ะ ดิฉันไม่ได้มองหรือถ่ายรูปห้างใดๆ พุ่งตรงไปโซนร้านอาหารเป็นที่แรก
เรามากันที่ All Things Nice ที่ Suntec City Mall ค่ะ เป็นร้านขนมอารมณ์บัวลอย ลอดช่อง มาถึงสิงคโปร์แต่ยังไม่ได้กินลอดช่องสิงคโปร์ เหมือนมาไม่ถึงนะคะ
ที่นี่ Suntec City Mall มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด คือ น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง หรือ Fountain of Wealth ซึ่งดิฉันโชคดีมากที่ไปทันเขาเล่นน้ำพุ เพราะตอนนั้นก็บ่ายกว่าๆแล้วค่ะ
หลังจากที่ท้องดิฉันมีอาหารตกถึงท้อง ดิฉันก็มีแรง เดินเล่นในห้างสักพัก แล้วจึงออกเดินทางต่อมายัง MRT Marina Bay แน่นอนว่า พิพิธภัณฑ์ใหม่แห่งหนึ่งที่น่าสนใจมาก และเรียกว่าเป็น The Must ของทริปนี้ คือ The Art Science Museum และ Exhibition หลักของวันนี้ก็คือ Dinosaurs Dawn to Extinction by Peter Trusler นักศิลปะชาวออสเตรเลียชื่อดัง ผู้ซึ่งสนใจ บรรพชีวินวิทยา (Paleontology) โดยพิพิธพัณฑ์ครั้งนี้ ก็ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ตั้งแต่แรกเริ่ม ไปจนสัตว์เหล่านั้นสูญพันธ์เลยทีเดียว
https://www.youtube.com/watch?v=aUteZvpzcQE
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ เพื่อนก็ชอปปิ้งเสร็จ ส่วนดิฉันก็หิวมา เรามาพบกันที่ The Shoppes by Marina Bay Sand
มากันที่ Rasapura MASTERS by the Shoppes ซึ่งถ้าบ้านๆเราก็เรียกกันว่า Food Court แต่ระดับห้าง The Shoppes แล้วที่นี่ไม่ธรรมดา
เพราะว่า ร้านอาหารที่อยู่ใน Food Court ที่นี่ จัดว่าดังและรสชาติดีมากทีเดียว ดิฉันเลือกที่จะกินปลากระเบนย่าง (ซึ่งดิฉันเคยทานครั้งหนึ่งในมาเลเซีย จึงขอสั่งสักจาน)
เดินเล่นในห้างสักพัก ดิฉันกับเพื่อนขึ้นไปที่ Sand Sky Park ชั้นที่ 57 ของ Marina Bay Sand เพื่อชมเมืองสิงคโปร์ยามค่ำคืน (กลัวความสูงไหม กลัว แต่ก็ขึ้นไปตั้งแต่ยังไม่มืดเลยค่ะ)
จบแล้วค่ะ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตนะคะ