สวัสดีครับทุกท่าน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยสำหรับการตั้งกระทู้รีวิว รายละเอียดอะไรตกหล่นยังไงขออภัยด้วยนะคร้าบ
เกริ่นนิด... จริงๆไม่ได้คิดจะซื้อรุ่นนี้หรอกครับ อยากได้ดีไซน์แบบเจ้า Ridge Fab มากกว่า แต่ด้วยงบที่จำกัด เลยหันมาคว้ารุ่นนี้แทน (ตัดสินใจซื้อวินาทีสุดท้ายแบบกะทันหันจริงๆสำหรับรุ่นนี้ เนื่องจากงอนพ่อมหาจำเริญลาซา... ไม่ยอมให้ผมใช้โค้ดส่วนลดสักรุ่น ทั้งๆที่นั่งรอมันลดราคามาตั้งหลายวัน
เลยพุ่งไป TG Fone ทันที ไม่เอาก็ได้เว้ยส่วนลดเนี่ย!!)
หลังจากพุ่งตรงไปถึงร้านแล้ว เกิดอยากได้สีขาว.. ร้านนั้นก็ไม่มี ร้านนี้ก็ไม่เจอ ผมล่ะไม่เข้าใจ Wiko ทำไมไม่เอามาขายครับ ผมอยากได้รู้ไหม!!
สุดท้ายเลยตัดใจเอาสีดำมาครับ สะกดจิตตัวเองไปว่า
"มันสวย มันสวย มันสวย" จนควักเงินจ่ายไปในที่สุด (พนักงาน TG น่ารักมากครับ ขอโทษผมด้วยที่หาสีขาวให้ไม่ได้
)
เอาล่ะ เริ่มเลยดีกว่าครับ
ขอแจ้งล่วงหน้าว่าผมเป็นคนถ่ายรูปไม่เก่ง ใช้เทคนิคอะไรไม่เป็นเลย ถ้าถ่ายตัวเครื่องออกมาไม่ดีต้องขออภัยด้วยครับ ::: ภาพตัวเครื่อง ถ่ายโดยลูกรักเครื่องเก่า OPPO NEO R831 (5 MP) ส่วนภาพกล่องและอุปกรณ์ ถ่ายโดย Wiko Pulp Fab เอง ในสภาวะแสงน้อย (13 MP) ครับ
Unbox
กล่องของ Pulp Fab ใหญ่มากครับ พอๆกับตัวเครื่องเลย
อุปกรณ์ในกล่องมีตามนี้นะครับ
1. ตัวเครื่อง (ถ้าเปิดมาแล้วไม่มีแนะนำให้โวยวายดังๆหน้าร้านเลยครับ)
2. หูฟังแบบ In-Ear สีดำ พร้อมปุ่ม Play/Pause เพลง
3. ที่ชาร์จ ชนิดหัวกลม (ลำบากผมต้องหาตัวแปลงอีก =..=)
4. สาย USB พร้อมใช้ชาร์จแบต
5. ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วเลยไม่ได้ถ่ายครับ)
Design
ด้านหน้า เรียบๆ Panel จอแบบดำสนิทบนขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280*720 (HD) พร้อมปุ่มควบคุมอยู่บนจอ
ส่วนเหนือจอขึ้นไปนั้นมีโลโก้ Wiko อยู่ทางซ้าย ติดกันเป็น Proximity sensor ถัดมาทางขวาเป็นลำโพงสนทนา (เสียงดังโอเคดีครับ) และสุดท้ายเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 Megapixel ไม่มีแฟลชนะครับ (อะไรกัน ทำไมแพงกว่าตัว 3G แต่ดันไม่มีแฟลชกล้องหน้าครับ ทำไม!!!)
ด้านขวามือเป็นปุ่ม Volume และปุ่ม Power/ล็อคหน้าจอ ถัดมาล่างขวาเป็นร่องสำหรับงัดฝาหลัง เอาเป็นว่าแทบทุกอย่างมันมากองกันอยู่ฝั่งนี้ ด้านซ้ายเลยโล่งไป ไม่ได้ถ่ายมาครับ
ด้านบนมีเพียงช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 ส่วนด้านล่างลืมถ่ายมาครับ มีช่องเสียบ USB อยู่
ด้านหลังเป็นวัสดุคล้ายๆหนังเลยครับ จับแล้วไม่ลื่นมือดี มาพร้อมเลนส์กล้อง 13 Megapixel และไฟแฟลช ตรงกลางก็แปะโลโก้ Wiko ไว้เหมือนเดิม ถ้ายังดูไม่ออกว่าเครื่องนี้ยี่ห้ออะไรก็ให้มันรู้ไปสิ
Software
หน้าจอของตัวเครื่องก็จะเป็นแบบนี้ครับ จริงๆเริ่มต้นมาไม่ได้มี Facebook , Line พวกนี้มาให้นะ มาแบบ Pure Android + Google Apps เดิมๆเลย และไม่มี App Drawer ครับ โหลดอะไรมาก็ลงหน้าหลักหมดล่ะ อารมณ์ประมาณ iOS ของแอปเปิ้ลครับ น่าจะเคยเล่นกัน
เลื่อนหน้าจอจากด้านบนลงมาก็จะเจอ Notification bar ต่างๆ และขวามือบนสุดจะมีปุ่มให้เปิดการตั้งค่าครับ
อันนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นของเจ้า Pulp Fab ยืนยันว่าเจ้าตัวนี้ทำงานร่วมกับมังกรกินอมยิ้ม (Quad core ความเร็ว 1.2 Ghz) นะครับ ^^
แอบอยากกิน Marshmellow เบาๆ Wiko จะให้ไหมน้อ?
การตั้งค่าที่น่าสนใจอย่างอื่นก็เช่นเจ้านี่ครับ "หน้าจอสัมผัสอัจฉริยะ" ที่ให้เราวาดตัวอักษรตามที่กำหนดไว้ขณะหน้าจอล็อคอยู่ เพื่อเปิดคำสั่งหรือโปรแกรมได้ครับ
นอกจากนั้นยังมีการใช้ท่าทางต่างๆในการใช้มือถือ ตัวนี้เราจะเลือกใช้หรือไม่ใช้ตัวไหนก็ได้นะครับ
ปุ่มควบคุมบนหน้าจอก็เปลี่ยนได้นะ จะเอา Back ไว้ซ้าย Recent apps ไว้ขวา หรือว่าจะสลับกันก็ได้ตามแต่สะดวกเลย
Storage&Memory
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกคือเครื่องไม่ได้ลงแอปฯเพิ่มเติมใดๆไว้ทั้งสิ้น ดังนั้นความจำเครื่องที่เห็น 9.6 GB นั่นคือหลังจากที่ผมได้ลงแอปฯบางตัวไปแล้วนะ ความจำตอนเปิดเครื่องมาจริงๆ จาก Spec ที่ว่า Rom 16 GB จะเหลือให้คณใช้ได้จริงๆ 10.92 GB และยังสามารถใส่ Memory card เพิ่มได้อีกครับ
อ้อ รุ่นนี้รองรับ USB OTG นะ
มาดู Multitasking กันบ้าง สำหรับ Ram 2GB ที่ให้มาขอบอกว่าเหลือๆครับ ลองเปิดแอปฯอืดปราบเซียนอย่าง Facebook และ Line สลับไปมายังไม่เจออาการรีโหลดสักครั้ง จัดการแรมได้ดีทีเดียวครับ
Multimedia
ด้านการฟังเพลง ตัว Pulp Fab ก็มีเครื่องเล่นเพลงมาให้พร้อม แถมใช้งานคู่กับหูฟังที่แถมมาได้ดีอีกต่างหากและยังปรับ Equalizer ได้ตามใจเรา แบบนี้ไม่ต้องง้อ Google Play Music เลยครับ
วิดีโอก็รับชมได้สูงสุดที่ความละเอียด 720p ตามความละเอียดของหน้าจอเลย อย่างในภาพนี่ผมเปิดหนังทั้งเรื่อง เลื่อนแถบเวลาไป-มาได้ไม่มีกระตุกให้เห็น
วิทยุ FM ก็มีมาให้ไม่ต้องไปหาตามอินเทอร์เน็ต แต่ต้องเสียบหูฟังก่อนนะครับ
ส่วนเกมส์ เนื่องจากผมไม่ได้เป็นสายเกมเมอร์สักเท่าไหร่ เลยไม่ได้โหลดเกมแรงๆอะไรมาเล่น จะมีก็เจ้า Sonic Dash นี่ล่ะ เล่นลื่นสบายไม่หน่วงนะ ไว้เดี๋ยวถ้าใครอยากลองให้ทดสอบเกมแรงๆเดี๋ยวรอวันอังคารครับ จะไปนั่งสูบเน็ตแรงๆมาโหลดแล้วลองเล่นให้
Camera
อย่างที่บอกไปคือผมไม่มีความรู้เรื่องกล้องอะไรเท่าไหร่ เอาสรุปง่ายๆคือดูตามรูปละกันนะครับ กล้องหลังจะมีโหมดต่างๆมาให้ตามนี้ พร้อมถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดได้ที่ 1080p ครับ
ส่วนกล้องหน้า ไม่มีแฟลชและโหมด Auto Focus มาให้ แต่ก็ทดแทนด้วยโหมดหน้าสวย (Beauty Mode) และ Wide selfie มาให้ครับ
ทีนี้มาลองดูภาพถ่ายเทียบกล้องหน้ากับกล้องหลังดูครับ ส่วนตัวผมว่ากล้องหลังไม่แจ่ม สู้กล้องหน้าไม่ได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กล้องหลัง
กล้องหน้า
กล้องหลัง
กล้องหน้า
ส่วนนี่เป็นภาพจากกล้องหลังในสตอนกลางคืนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปิดแฟลช
เปิดแฟลช
ส่วนด้านแบตเตอรี่และการชาร์จนั้น
ผมชาร์จจาก 21% ไปถึงเต็ม 100%
ใช้เวลา 19.21 - 22.13 น. (ประมาณ เกือบ 3 ช.ม)
ส่วนความอึดในแต่ละวัน
วันนี้ผมเริ่มใช้แบตเตอรี่จาก 8.11 น. (96%)
การใช้งานคือเปิด Dtac 4G ตลอด (Dtac เจ๋งมากครับ 4G วิ่งในบ้านผมด้วย) สลับกับ Wifi บ้างทั้งวันถึงเวลา 17.00 น. แบตเตอรี่เหลือ 61% และสลับมาใช้ 3G ของ True-H เมื่อ 17.07 โดยใช้งานหนักกว่าช่วงแรก มีทั้งโหลดเกม เล่นเกม เล่นโซเชียล แชท และแสตนด์บานหน้าจอตลอดขณะพิมพ์กระทู้ผ่านแอปฯ Pantip Cafe ถึง ณ ตอนนี้ 20.39 น. แบตเตอรี่เหลือ 18% แล้วครับ
ปิดท้ายที่การใช้งาน 2Sim ซึ่งแน่นอนครับว่า ใช้ 3G/4G ได้ทีละซิมเท่านั้น ถ้าซิมใดเปิดใช้งานอยู่ อีกซิมจะถูกตัดเป็น 2G โดยอัตโนมัติครับ
จบแล้วครับสำหรับรีวิว Wiko Pulp Fab 4G วันนี้
กับค่าตัว 4,990 บาท ผมถือว่าคุ้มมากทีเดียว ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องกล้องหลัง เน้นเอามาใช้งานโซเชียล ท่องเว็บ หรือเล่นเกมส์เบาๆแก้เบื่อ จัดตัวนี้ได้เลยครับ ส่วนตัวค่อนข้างเชื่อใจใน Wiko จากการศึกษาข้อมูลผู้ใช้มาเกือบเดือน หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันที่ศูนย์ฯในเร็วๆนี้นะครับ
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
[CR] รีวิว Wiko Pulp Fab 4G :: คุ้มค่าราคาดี ทายาทพี่ชายตระกูล Ridge
เกริ่นนิด... จริงๆไม่ได้คิดจะซื้อรุ่นนี้หรอกครับ อยากได้ดีไซน์แบบเจ้า Ridge Fab มากกว่า แต่ด้วยงบที่จำกัด เลยหันมาคว้ารุ่นนี้แทน (ตัดสินใจซื้อวินาทีสุดท้ายแบบกะทันหันจริงๆสำหรับรุ่นนี้ เนื่องจากงอนพ่อมหาจำเริญลาซา... ไม่ยอมให้ผมใช้โค้ดส่วนลดสักรุ่น ทั้งๆที่นั่งรอมันลดราคามาตั้งหลายวัน เลยพุ่งไป TG Fone ทันที ไม่เอาก็ได้เว้ยส่วนลดเนี่ย!!)
หลังจากพุ่งตรงไปถึงร้านแล้ว เกิดอยากได้สีขาว.. ร้านนั้นก็ไม่มี ร้านนี้ก็ไม่เจอ ผมล่ะไม่เข้าใจ Wiko ทำไมไม่เอามาขายครับ ผมอยากได้รู้ไหม!!
สุดท้ายเลยตัดใจเอาสีดำมาครับ สะกดจิตตัวเองไปว่า
"มันสวย มันสวย มันสวย" จนควักเงินจ่ายไปในที่สุด (พนักงาน TG น่ารักมากครับ ขอโทษผมด้วยที่หาสีขาวให้ไม่ได้ )
เอาล่ะ เริ่มเลยดีกว่าครับ ขอแจ้งล่วงหน้าว่าผมเป็นคนถ่ายรูปไม่เก่ง ใช้เทคนิคอะไรไม่เป็นเลย ถ้าถ่ายตัวเครื่องออกมาไม่ดีต้องขออภัยด้วยครับ ::: ภาพตัวเครื่อง ถ่ายโดยลูกรักเครื่องเก่า OPPO NEO R831 (5 MP) ส่วนภาพกล่องและอุปกรณ์ ถ่ายโดย Wiko Pulp Fab เอง ในสภาวะแสงน้อย (13 MP) ครับ
Unbox
กล่องของ Pulp Fab ใหญ่มากครับ พอๆกับตัวเครื่องเลย
อุปกรณ์ในกล่องมีตามนี้นะครับ
1. ตัวเครื่อง (ถ้าเปิดมาแล้วไม่มีแนะนำให้โวยวายดังๆหน้าร้านเลยครับ)
2. หูฟังแบบ In-Ear สีดำ พร้อมปุ่ม Play/Pause เพลง
3. ที่ชาร์จ ชนิดหัวกลม (ลำบากผมต้องหาตัวแปลงอีก =..=)
4. สาย USB พร้อมใช้ชาร์จแบต
5. ฟิล์มกันรอย (ติดมาแล้วเลยไม่ได้ถ่ายครับ)
Design
ด้านหน้า เรียบๆ Panel จอแบบดำสนิทบนขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280*720 (HD) พร้อมปุ่มควบคุมอยู่บนจอ
ส่วนเหนือจอขึ้นไปนั้นมีโลโก้ Wiko อยู่ทางซ้าย ติดกันเป็น Proximity sensor ถัดมาทางขวาเป็นลำโพงสนทนา (เสียงดังโอเคดีครับ) และสุดท้ายเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 Megapixel ไม่มีแฟลชนะครับ (อะไรกัน ทำไมแพงกว่าตัว 3G แต่ดันไม่มีแฟลชกล้องหน้าครับ ทำไม!!!)
ด้านขวามือเป็นปุ่ม Volume และปุ่ม Power/ล็อคหน้าจอ ถัดมาล่างขวาเป็นร่องสำหรับงัดฝาหลัง เอาเป็นว่าแทบทุกอย่างมันมากองกันอยู่ฝั่งนี้ ด้านซ้ายเลยโล่งไป ไม่ได้ถ่ายมาครับ
ด้านบนมีเพียงช่องเสียบแจ็คขนาด 3.5 ส่วนด้านล่างลืมถ่ายมาครับ มีช่องเสียบ USB อยู่
ด้านหลังเป็นวัสดุคล้ายๆหนังเลยครับ จับแล้วไม่ลื่นมือดี มาพร้อมเลนส์กล้อง 13 Megapixel และไฟแฟลช ตรงกลางก็แปะโลโก้ Wiko ไว้เหมือนเดิม ถ้ายังดูไม่ออกว่าเครื่องนี้ยี่ห้ออะไรก็ให้มันรู้ไปสิ
Software
หน้าจอของตัวเครื่องก็จะเป็นแบบนี้ครับ จริงๆเริ่มต้นมาไม่ได้มี Facebook , Line พวกนี้มาให้นะ มาแบบ Pure Android + Google Apps เดิมๆเลย และไม่มี App Drawer ครับ โหลดอะไรมาก็ลงหน้าหลักหมดล่ะ อารมณ์ประมาณ iOS ของแอปเปิ้ลครับ น่าจะเคยเล่นกัน
เลื่อนหน้าจอจากด้านบนลงมาก็จะเจอ Notification bar ต่างๆ และขวามือบนสุดจะมีปุ่มให้เปิดการตั้งค่าครับ
อันนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นของเจ้า Pulp Fab ยืนยันว่าเจ้าตัวนี้ทำงานร่วมกับมังกรกินอมยิ้ม (Quad core ความเร็ว 1.2 Ghz) นะครับ ^^
แอบอยากกิน Marshmellow เบาๆ Wiko จะให้ไหมน้อ?
การตั้งค่าที่น่าสนใจอย่างอื่นก็เช่นเจ้านี่ครับ "หน้าจอสัมผัสอัจฉริยะ" ที่ให้เราวาดตัวอักษรตามที่กำหนดไว้ขณะหน้าจอล็อคอยู่ เพื่อเปิดคำสั่งหรือโปรแกรมได้ครับ
นอกจากนั้นยังมีการใช้ท่าทางต่างๆในการใช้มือถือ ตัวนี้เราจะเลือกใช้หรือไม่ใช้ตัวไหนก็ได้นะครับ
ปุ่มควบคุมบนหน้าจอก็เปลี่ยนได้นะ จะเอา Back ไว้ซ้าย Recent apps ไว้ขวา หรือว่าจะสลับกันก็ได้ตามแต่สะดวกเลย
Storage&Memory
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกคือเครื่องไม่ได้ลงแอปฯเพิ่มเติมใดๆไว้ทั้งสิ้น ดังนั้นความจำเครื่องที่เห็น 9.6 GB นั่นคือหลังจากที่ผมได้ลงแอปฯบางตัวไปแล้วนะ ความจำตอนเปิดเครื่องมาจริงๆ จาก Spec ที่ว่า Rom 16 GB จะเหลือให้คณใช้ได้จริงๆ 10.92 GB และยังสามารถใส่ Memory card เพิ่มได้อีกครับ
อ้อ รุ่นนี้รองรับ USB OTG นะ
มาดู Multitasking กันบ้าง สำหรับ Ram 2GB ที่ให้มาขอบอกว่าเหลือๆครับ ลองเปิดแอปฯอืดปราบเซียนอย่าง Facebook และ Line สลับไปมายังไม่เจออาการรีโหลดสักครั้ง จัดการแรมได้ดีทีเดียวครับ
Multimedia
ด้านการฟังเพลง ตัว Pulp Fab ก็มีเครื่องเล่นเพลงมาให้พร้อม แถมใช้งานคู่กับหูฟังที่แถมมาได้ดีอีกต่างหากและยังปรับ Equalizer ได้ตามใจเรา แบบนี้ไม่ต้องง้อ Google Play Music เลยครับ
วิดีโอก็รับชมได้สูงสุดที่ความละเอียด 720p ตามความละเอียดของหน้าจอเลย อย่างในภาพนี่ผมเปิดหนังทั้งเรื่อง เลื่อนแถบเวลาไป-มาได้ไม่มีกระตุกให้เห็น
วิทยุ FM ก็มีมาให้ไม่ต้องไปหาตามอินเทอร์เน็ต แต่ต้องเสียบหูฟังก่อนนะครับ
ส่วนเกมส์ เนื่องจากผมไม่ได้เป็นสายเกมเมอร์สักเท่าไหร่ เลยไม่ได้โหลดเกมแรงๆอะไรมาเล่น จะมีก็เจ้า Sonic Dash นี่ล่ะ เล่นลื่นสบายไม่หน่วงนะ ไว้เดี๋ยวถ้าใครอยากลองให้ทดสอบเกมแรงๆเดี๋ยวรอวันอังคารครับ จะไปนั่งสูบเน็ตแรงๆมาโหลดแล้วลองเล่นให้
Camera
อย่างที่บอกไปคือผมไม่มีความรู้เรื่องกล้องอะไรเท่าไหร่ เอาสรุปง่ายๆคือดูตามรูปละกันนะครับ กล้องหลังจะมีโหมดต่างๆมาให้ตามนี้ พร้อมถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดได้ที่ 1080p ครับ
ส่วนกล้องหน้า ไม่มีแฟลชและโหมด Auto Focus มาให้ แต่ก็ทดแทนด้วยโหมดหน้าสวย (Beauty Mode) และ Wide selfie มาให้ครับ
ทีนี้มาลองดูภาพถ่ายเทียบกล้องหน้ากับกล้องหลังดูครับ ส่วนตัวผมว่ากล้องหลังไม่แจ่ม สู้กล้องหน้าไม่ได้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนนี่เป็นภาพจากกล้องหลังในสตอนกลางคืนครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนด้านแบตเตอรี่และการชาร์จนั้น
ผมชาร์จจาก 21% ไปถึงเต็ม 100%
ใช้เวลา 19.21 - 22.13 น. (ประมาณ เกือบ 3 ช.ม)
ส่วนความอึดในแต่ละวัน
วันนี้ผมเริ่มใช้แบตเตอรี่จาก 8.11 น. (96%)
การใช้งานคือเปิด Dtac 4G ตลอด (Dtac เจ๋งมากครับ 4G วิ่งในบ้านผมด้วย) สลับกับ Wifi บ้างทั้งวันถึงเวลา 17.00 น. แบตเตอรี่เหลือ 61% และสลับมาใช้ 3G ของ True-H เมื่อ 17.07 โดยใช้งานหนักกว่าช่วงแรก มีทั้งโหลดเกม เล่นเกม เล่นโซเชียล แชท และแสตนด์บานหน้าจอตลอดขณะพิมพ์กระทู้ผ่านแอปฯ Pantip Cafe ถึง ณ ตอนนี้ 20.39 น. แบตเตอรี่เหลือ 18% แล้วครับ
ปิดท้ายที่การใช้งาน 2Sim ซึ่งแน่นอนครับว่า ใช้ 3G/4G ได้ทีละซิมเท่านั้น ถ้าซิมใดเปิดใช้งานอยู่ อีกซิมจะถูกตัดเป็น 2G โดยอัตโนมัติครับ
จบแล้วครับสำหรับรีวิว Wiko Pulp Fab 4G วันนี้
กับค่าตัว 4,990 บาท ผมถือว่าคุ้มมากทีเดียว ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องกล้องหลัง เน้นเอามาใช้งานโซเชียล ท่องเว็บ หรือเล่นเกมส์เบาๆแก้เบื่อ จัดตัวนี้ได้เลยครับ ส่วนตัวค่อนข้างเชื่อใจใน Wiko จากการศึกษาข้อมูลผู้ใช้มาเกือบเดือน หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันที่ศูนย์ฯในเร็วๆนี้นะครับ
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ