สวัสดีครับ
วันนี้จะขอรีวิวการเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบพึ่งพาเทคโนโลยี Google Map และ App มือถือ Android ครับ ติดตามกันได้เลยครับ (ทุกรูปในรีวิวนี้จบหลังกล้องครับ ใช้วิธีปรับ Mode ปรับ ISO ตอนถ่ายรูป บางรูปก็ถ่ายด้วยมือถือ Note4 ครับ)
ทีมา :
เนื่องจากผู้ปกครองผมอยากจะไปเที่ยวฮ่องกง แต่หลังจากที่เราหาข้อมูลกรุ๊ปทัวร์หลายๆ แบบแล้ว รู้สึกว่าน่าจะไปกันเองดีกว่า ก็เลยมาวางแผนเดินทางกัน โดยอาศัยเทคโนโลยีช่วย รีวิวนี้จะแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้ครับ
1. การเตรียมตัวเดินทาง
2. การเตรียมแผนที่ My Map ใน Google Map
3. Application ที่ใช้ช่วยในการเดินทาง
4. รีวิวร้านอาหารและการเดินทาง
5. คำแนะนำ
1. การเตรียมตัวเดินทาง
ฮ่องกงเป็นประเทศที่คนไทย สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ (30 วัน) โดยไม่ต้องขอวีซ่า เราได้ซื้อหนังสือและค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เพื่อเตรียมตัวเดินทาง โดยข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารรวมถึงรูปแบบการเดินทางส่วนใหญ่จะได้มาจาก
http://www.hongkongfanclub.com และ
http://www.hongkongpackage.net เป็นหลักครับ ขอบคุณ admin และสมาชิกทั้งสองเว็บด้วยครับ
หลังจากสรุปข้อมูลทั้งหลาย เราก็กำหนดวัน-เวลาเดินทาง จองที่พัก และตั๋วเครื่องบิน พร้อมทั้งซื้อตั๋ว Octopus (สะดวกมาก สำหรับการเดินทางระบบสาธารณะในฮ่องกง) และซื้อตั๋วกระเช้านองปิง และบิ๊กบัสทัวร์ (รถทัวร์สองชั้นชมเมือง สามารถลงและขึ้นรถตามจุดต่างๆ บนเส้นทางที่เราเลือกได้) และซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับการเดินทางด้วยมือถือ Samsumg Galaxy Note4 ทริปนี้ครับ
เดี๋ยวนี้เราสามารถซื้อตั๋วสถานที่เที่ยวต่างๆ จากไทยได้เลยครับ ซื้อผ่าน agency ราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ข้อดีคือไม่ต้องไปรอคิวและสามารถวางแผนเดินทางได้ตามเวลา แต่การไปซื้อที่นั่นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมาก เพราะเจ้าหน้าที่ขายตั๋วพูดอังกฤษได้ (เก่งกว่าเราอีก.....ฮา) ยกเว้นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่งที่ต้องเข้าคิวนานมากๆ
พระเอกในการเดินทางทริปนี้ Discover Hong Kong Internet SIM (5days : 1.5GB)
สรุปว่าผมเตรียมการเดินทางดังนี้
1. กำหนดวัน-เวลาเดินทางและที่พัก
2. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
3. ซื้อซิมมือถือ Discover Hong Kong ของ CSL (4G) 5 days : 1.5GB
4. ซื้อตั๋วกระเช้านองปิง (สะดวกและคนต่อแถวน้อยกว่าไปซื้อตั๋วที่โน่น แต่ถ้าเจอช่วงคนเยอะ ก็รอเป็นชั่วโมงเหมือนกันครับ ตั๋วออนไลน์เดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็ซื้อได้)
5. ซื้อบัตร Octopus (จริงๆ ไปซื้อที่สนามบินก็ได้ครับ ถึง arrival hall แล้วจะมีบูทเห็นชัดเจน เวลาคืนบัตรก็มาที่นี่ล่ะ)
6. ซื้อตั๋วบิ๊กบัสทัวร์ สายสีเขียว (ก่อนซื้อควรตรวจสอบสภาพอากาศครับ พยากรณ์อากาศฮ่องกงค่อนข้างแม่น
http://www.hko.gov.hk/wxinfo/currwx/fnd.htm โดยเฉพาะใกล้ๆ วัน ถ้าฝนตกก็ไม่ควรขึ้นบิ๊กบัส เพราะชั้นสองไม่มีหลังคา และน้ำจากพื้นชั้นสองจะไหลมาเลอะเทอะชั้นล่าง – โดนมาแล้ว 5555)
อ้อ......แลกเงินไว้ด้วยนะครับ
2. การเตรียมแผนที่ My Map
สำหรับทริปนี้ เราจะใช้ My Map และมือถือ Galaxy Note 4 เป็นผู้ช่วยการเดินทางครับ (ใช้รุ่นอื่นก็ได้ แต่ผมมีรุ่นนี้อ่ะ) เริ่มต้นปักหมุดกันเลย Log In เว็บ Google Map ผ่านทางคอมพิวเตอร์ครับ โดยใช้ user / pass เดียวกับ G Mail ครับ
หลังจากเข้าสู่หน้า Google Map แล้ว คลิกที่ My Map แล้ว create new map ครับ ตั้งชื่อตามใจชอบเลยครับ
สามารถ ซูมเข้า-ออก และเลื่อนแผนที่ไปยังสถานที่ที่ต้องการ กดปุ่มปักหมุด แล้วไปจิ้มลงบนแผนที่ เพื่อใส่รายละเอียด แล้วกด บันทึก ครับ หรือจะคลิกจุดที่มีบนแผนที่อยู่แล้ว และกด add to my map ก็ได้ครับ ข้อควรระวังคือ หากใช้การค้นหาจุดใน Google Map ควรให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นยังคงเปิดอยู่ หรืออยู่ถูกตำแหน่งจริงๆ ผมใช้วิธี street view ดู หรือหาข้อมูลที่ชัดเจนจากรีวิวครับ
สามารถกดรูปปากกา เพื่อแก้ไขชื่อ เพิ่มรายละเอียด เพิ่มลิงค์ ซึ่งผมใช้ลิงค์ไปที่รีวิวของสถานที่นั้นๆ จากเว็บต่างๆ ที่ค้นมา และกดรูปถังสี ทางด้านซ้ายเพื่อแก้สัญลักษณ์และสีครับ
เสร็จแล้วจะได้ แผนที่แบบนี้ครับ
เมื่อเตรียมแผนที่เสร็จแล้ว ก็ sign off แล้วลองไปเปิด Google Map บนมือถือดูครับ กดรายการเมนู มุมบนซ้าย ถ้าไม่มีชื่อแผนที่แบบรูปข้างล่าง ให้กดที่สถานที่ของคุณครับ แล้วเลือกแผนที่ที่เราสร้างไว้ขึ้นมา
จะได้แผนที่เหมือนที่เราสร้างไว้บนคอมฯ ครับ เราสามารถให้ Google Map นำทางได้โดย คลิกเลือกหมุดที่ปักไว้ แล้วกดสอบถามเส้นทาง
สามารถเลือกปลายทาง โดยเลือกตำแหน่งบนแผนที่ และสามารถเลือกรูปแบบการเดินทางและเส้นทางได้ด้วยครับ
3. Application ที่ใช้ในการเดินทาง
นอกจากนี้แล้ว ยังมี App ต่างๆ ที่ช่วยให้การเดินทางในฮ่องกงเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ผมลงไว้ในมือถือ เพื่อใข้ในการเดินทางครั้งนี้ก็มี
1. แปลภาษา : พูดไทย แปลเป็นเสียงจีน
2. Super Rich : อัตราแลกเปลี่ยนเงิน
3. MTR Mobile : ระบบ MTR รถบัส ทางเข้าออกสถานี บริการในสถานี ทางเข้าออกคนพิการ ห้างร้านค้าบริเวณสถานี ฯลฯ ครบวงจรระบบ MTR ที่คนฮ่องกงใช้งานกันครับ
4. Big Bus Tour : แอพบอกรายละเอียด Big Bus ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งฮ่องกง
5. Hong Kong Tour : แนะนำที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง
6. Mobile Bus Info NG : เส้นทางรถเมล์ในฮ่องกง ค้นหาสถานที่เพื่อเดินทาง
7. Discover HK : ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก ห้างสรรพสินค้า
8. MTR Tourist : แผนที่และข้อมูล MTR สำหรับนักท่องเที่ยว
9. Starbuck HK : ที่ตั้งร้านสตาร์บัคส์และเวลาเปิด-ปิด
10. Wifi Analyser : ค้นหา Wifi (Internet SIM สามารถเล่นฟรี Wifi ได้ด้วยครับ)
แอพที่ผมได้ใช้งานจริงๆ ก็คือ
1. MTR Tourist แผนที่และข้อมูล MTR สำหรับนักท่องเที่ยว
ในแอปจะมีแผนที่ MTR (ซูมได้) สามารถวางแผนเดินทาง และสอบถามสถานี MTR เส้นทาง และเวลาในการเดินทาง (มีริวิใช้งานตอนเดินทางจริงครับ)
2. Mobile Bus Info NG เส้นทางรถเมล์ในฮ่องกง ค้นหาสถานที่เพื่อเดินทาง
3. Starbuck HK ที่ตั้งร้านสตาร์บัคส์และเวลาเปิด-ปิด
4. บันทึกการเดินทาง (ที่เน้นการกินและไหว้พระ)
ทริปนี้เราวางแผนเดินทางไว้เยอะมาก แต่เอาเข้าจริงไปได้ประมาณ 60% ของที่วางไว้ก่อนไป เพราะปวดขา และต้องปรับแผนเพราะกระเช้านองปิงปิดปรับปรุง สรุปแล้วได้ไปตามรายการข้างล่างนี้
วันแรก
เริ่มต้นที่อินเตอร์เน็ทเช็คอินของสายการบิน HK Airlines โดยใช้ booking number นามสกุล/ชื่อ ระบุสนามบินที่เดินทาง (ใช้ได้เฉพาะตั๋วที่ขึ้นต้นด้วยเลข 851 / ไม่สามารถใช้กับตั๋วกรุ๊ปทัวร์ได้)
ไป drop กระเป๋าที่สุวรรณภูมิ แถว K (ประมาณประตู 5-6) ตรวจสอบ gate number ควรเผื่อเวลาสักหน่อย และกรอกเอกสาร immigration ให้พร้อมก่อนเข้าไป เพราะคนรอ immigration ค่อนข้างเยอะ ถึงแม้จะเป็นเช้าตรู่ก็ตาม และจะได้มีเวลาเช็คราคา duty free ก่อนเดินทางด้วยครับ
HK Airlines นั่งสบายดี แต่ก็เก่าพอควร มีจอทีวีส่วนตัว และจอยสติ๊ก แจกหูฟังให้พร้อมทิชชู่เปียก ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลงได้ แต่ถ้าไม่เป็นภาษาจีนก็อังกฤษ หูฟังบนเครื่องเป็นแบบ 2 ขั้ว ใช้กับโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ช่องเสียบหูฟังอยู่ตรงที่พักแขน
อาหารบนเครื่องก็ปานกลางครับ พนักงานไม่ค่อยเน้นขายของเท่าไหร่ ประกาศแล้วเดินรอบเดียวจบ แล้วแอร์จะแจกเอกสารเข้าเมืองให้กรอกบนเครื่อง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ต้อง
เพิ่มเวลาท้องถิ่นปลายทางอีก 1 ชั่วโมง การตรวจคนเข้าเมืองที่ฮ่องกงเร็วมากๆ ที่เคยกังวลว่าจะช้า จะถามนู่นนี่ ไม่ถามเลยครับ ยื่น passport กับเอกสารเข้าเมือง เขาเอาไป scan แล้ว print กระดาษใบเล็กๆ ให้ใบนึงเป็นอันเสร็จ ตอนเข้าไปกะคร่าวๆ ว่าคนเป็นร้อย แต่เจ้าหน้าที่ก็มีหลายคน สรุปแล้วใช้เวลาประมาณ 10 นาทีครับ (แอบบอกว่าขาออกในไทยนานกว่าเยอะ)
ออกจาก immigration มาก็รับกระเป๋าแล้วก็ตรงมาจะเจอบูทขายตั๋ว Airport Express และ Octopus ผมเดินไปซื้อตั๋ว Airport Express – Group of 2 Single Journey ได้ตั๋ว 2 ใบราคา 140 hkd ครับ
ได้ตั๋วแล้ว เดินออกมาที่ arrival hall ก็จะมีอีกบูทนึง ใหญ่กว่า แต่คนเยอะกว่าด้วย ใกล้ๆ กันมีตู้ขายบัตรอัตโนมัติ และทางเดินเข้าไปขึ้นรถไฟครับ
มีป้ายบอกเวลารอรถ และสถานีที่จะจอด
ภายในรถนั่งสบายดี มีที่วางกระเป๋าใบใหญ่ๆ และที่ชาร์จโทรศัพท์ด้วย
ถึงสถานี Kaoloon ก็เดินออกมารอลิฟท์เพื่อไปขึ้น shuttle bus ฟรีไปแถวโรงแรมครับ ดูสถานที่ที่รถผ่านแต่ละสายได้ที่นี่
http://www.mtr.com.hk/en/customer/services/complom_free_bus.html จะมีเจ้าหน้าที่บอกเราว่าไปขึ้นสายต่างๆ ตรงประตูไหน เอากระเป๋าโหลดไว้ใต้ท้องรถ แล้วเดินขึ้นได้เลย ภายในรถก็คล้ายๆ รถเมล์ ป.อ. บ้านเราครับ รถขับมันส์ดี เพราะมีโค้ง มีเลี้ยวเยอะ และก็ทางแคบๆ คนขับเก่งมาก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ถึงจุดจอดที่ 4 แถวๆ โรงแรม Kaoloon Hotel / the Peninsula แต่ไม่ได้พักที่นั่นหรอก ลากกระเป๋าเดินไปอีกนิดนึง
เดี๋ยวไปต่อตอนที่ 2 กันนะครับ
เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเองด้วย Google Map และ App มือถือ (ธ.ค. 2015) by Jo Geo11 (ตอนที่ 2)
http://ppantip.com/topic/34548286
[CR] เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเองด้วย Google Map และ App มือถือ (ธ.ค. 2015) by Jo Geo11 (ตอนที่ 1)
วันนี้จะขอรีวิวการเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเอง แบบพึ่งพาเทคโนโลยี Google Map และ App มือถือ Android ครับ ติดตามกันได้เลยครับ (ทุกรูปในรีวิวนี้จบหลังกล้องครับ ใช้วิธีปรับ Mode ปรับ ISO ตอนถ่ายรูป บางรูปก็ถ่ายด้วยมือถือ Note4 ครับ)
ทีมา :
เนื่องจากผู้ปกครองผมอยากจะไปเที่ยวฮ่องกง แต่หลังจากที่เราหาข้อมูลกรุ๊ปทัวร์หลายๆ แบบแล้ว รู้สึกว่าน่าจะไปกันเองดีกว่า ก็เลยมาวางแผนเดินทางกัน โดยอาศัยเทคโนโลยีช่วย รีวิวนี้จะแบ่งเป็นหัวข้อดังนี้ครับ
1. การเตรียมตัวเดินทาง
2. การเตรียมแผนที่ My Map ใน Google Map
3. Application ที่ใช้ช่วยในการเดินทาง
4. รีวิวร้านอาหารและการเดินทาง
5. คำแนะนำ
1. การเตรียมตัวเดินทาง
ฮ่องกงเป็นประเทศที่คนไทย สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ (30 วัน) โดยไม่ต้องขอวีซ่า เราได้ซื้อหนังสือและค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เพื่อเตรียมตัวเดินทาง โดยข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารรวมถึงรูปแบบการเดินทางส่วนใหญ่จะได้มาจาก http://www.hongkongfanclub.com และ http://www.hongkongpackage.net เป็นหลักครับ ขอบคุณ admin และสมาชิกทั้งสองเว็บด้วยครับ
หลังจากสรุปข้อมูลทั้งหลาย เราก็กำหนดวัน-เวลาเดินทาง จองที่พัก และตั๋วเครื่องบิน พร้อมทั้งซื้อตั๋ว Octopus (สะดวกมาก สำหรับการเดินทางระบบสาธารณะในฮ่องกง) และซื้อตั๋วกระเช้านองปิง และบิ๊กบัสทัวร์ (รถทัวร์สองชั้นชมเมือง สามารถลงและขึ้นรถตามจุดต่างๆ บนเส้นทางที่เราเลือกได้) และซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับการเดินทางด้วยมือถือ Samsumg Galaxy Note4 ทริปนี้ครับ
เดี๋ยวนี้เราสามารถซื้อตั๋วสถานที่เที่ยวต่างๆ จากไทยได้เลยครับ ซื้อผ่าน agency ราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ข้อดีคือไม่ต้องไปรอคิวและสามารถวางแผนเดินทางได้ตามเวลา แต่การไปซื้อที่นั่นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมาก เพราะเจ้าหน้าที่ขายตั๋วพูดอังกฤษได้ (เก่งกว่าเราอีก.....ฮา) ยกเว้นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมบางแห่งที่ต้องเข้าคิวนานมากๆ
พระเอกในการเดินทางทริปนี้ Discover Hong Kong Internet SIM (5days : 1.5GB)
สรุปว่าผมเตรียมการเดินทางดังนี้
1. กำหนดวัน-เวลาเดินทางและที่พัก
2. จองตั๋วเครื่องบินและที่พัก
3. ซื้อซิมมือถือ Discover Hong Kong ของ CSL (4G) 5 days : 1.5GB
4. ซื้อตั๋วกระเช้านองปิง (สะดวกและคนต่อแถวน้อยกว่าไปซื้อตั๋วที่โน่น แต่ถ้าเจอช่วงคนเยอะ ก็รอเป็นชั่วโมงเหมือนกันครับ ตั๋วออนไลน์เดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็ซื้อได้)
5. ซื้อบัตร Octopus (จริงๆ ไปซื้อที่สนามบินก็ได้ครับ ถึง arrival hall แล้วจะมีบูทเห็นชัดเจน เวลาคืนบัตรก็มาที่นี่ล่ะ)
6. ซื้อตั๋วบิ๊กบัสทัวร์ สายสีเขียว (ก่อนซื้อควรตรวจสอบสภาพอากาศครับ พยากรณ์อากาศฮ่องกงค่อนข้างแม่น http://www.hko.gov.hk/wxinfo/currwx/fnd.htm โดยเฉพาะใกล้ๆ วัน ถ้าฝนตกก็ไม่ควรขึ้นบิ๊กบัส เพราะชั้นสองไม่มีหลังคา และน้ำจากพื้นชั้นสองจะไหลมาเลอะเทอะชั้นล่าง – โดนมาแล้ว 5555)
อ้อ......แลกเงินไว้ด้วยนะครับ
2. การเตรียมแผนที่ My Map
สำหรับทริปนี้ เราจะใช้ My Map และมือถือ Galaxy Note 4 เป็นผู้ช่วยการเดินทางครับ (ใช้รุ่นอื่นก็ได้ แต่ผมมีรุ่นนี้อ่ะ) เริ่มต้นปักหมุดกันเลย Log In เว็บ Google Map ผ่านทางคอมพิวเตอร์ครับ โดยใช้ user / pass เดียวกับ G Mail ครับ
หลังจากเข้าสู่หน้า Google Map แล้ว คลิกที่ My Map แล้ว create new map ครับ ตั้งชื่อตามใจชอบเลยครับ
สามารถ ซูมเข้า-ออก และเลื่อนแผนที่ไปยังสถานที่ที่ต้องการ กดปุ่มปักหมุด แล้วไปจิ้มลงบนแผนที่ เพื่อใส่รายละเอียด แล้วกด บันทึก ครับ หรือจะคลิกจุดที่มีบนแผนที่อยู่แล้ว และกด add to my map ก็ได้ครับ ข้อควรระวังคือ หากใช้การค้นหาจุดใน Google Map ควรให้แน่ใจว่าสถานที่นั้นยังคงเปิดอยู่ หรืออยู่ถูกตำแหน่งจริงๆ ผมใช้วิธี street view ดู หรือหาข้อมูลที่ชัดเจนจากรีวิวครับ
สามารถกดรูปปากกา เพื่อแก้ไขชื่อ เพิ่มรายละเอียด เพิ่มลิงค์ ซึ่งผมใช้ลิงค์ไปที่รีวิวของสถานที่นั้นๆ จากเว็บต่างๆ ที่ค้นมา และกดรูปถังสี ทางด้านซ้ายเพื่อแก้สัญลักษณ์และสีครับ
เสร็จแล้วจะได้ แผนที่แบบนี้ครับ
เมื่อเตรียมแผนที่เสร็จแล้ว ก็ sign off แล้วลองไปเปิด Google Map บนมือถือดูครับ กดรายการเมนู มุมบนซ้าย ถ้าไม่มีชื่อแผนที่แบบรูปข้างล่าง ให้กดที่สถานที่ของคุณครับ แล้วเลือกแผนที่ที่เราสร้างไว้ขึ้นมา
จะได้แผนที่เหมือนที่เราสร้างไว้บนคอมฯ ครับ เราสามารถให้ Google Map นำทางได้โดย คลิกเลือกหมุดที่ปักไว้ แล้วกดสอบถามเส้นทาง
สามารถเลือกปลายทาง โดยเลือกตำแหน่งบนแผนที่ และสามารถเลือกรูปแบบการเดินทางและเส้นทางได้ด้วยครับ
3. Application ที่ใช้ในการเดินทาง
นอกจากนี้แล้ว ยังมี App ต่างๆ ที่ช่วยให้การเดินทางในฮ่องกงเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ผมลงไว้ในมือถือ เพื่อใข้ในการเดินทางครั้งนี้ก็มี
1. แปลภาษา : พูดไทย แปลเป็นเสียงจีน
2. Super Rich : อัตราแลกเปลี่ยนเงิน
3. MTR Mobile : ระบบ MTR รถบัส ทางเข้าออกสถานี บริการในสถานี ทางเข้าออกคนพิการ ห้างร้านค้าบริเวณสถานี ฯลฯ ครบวงจรระบบ MTR ที่คนฮ่องกงใช้งานกันครับ
4. Big Bus Tour : แอพบอกรายละเอียด Big Bus ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งฮ่องกง
5. Hong Kong Tour : แนะนำที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง
6. Mobile Bus Info NG : เส้นทางรถเมล์ในฮ่องกง ค้นหาสถานที่เพื่อเดินทาง
7. Discover HK : ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก ห้างสรรพสินค้า
8. MTR Tourist : แผนที่และข้อมูล MTR สำหรับนักท่องเที่ยว
9. Starbuck HK : ที่ตั้งร้านสตาร์บัคส์และเวลาเปิด-ปิด
10. Wifi Analyser : ค้นหา Wifi (Internet SIM สามารถเล่นฟรี Wifi ได้ด้วยครับ)
แอพที่ผมได้ใช้งานจริงๆ ก็คือ
1. MTR Tourist แผนที่และข้อมูล MTR สำหรับนักท่องเที่ยว
ในแอปจะมีแผนที่ MTR (ซูมได้) สามารถวางแผนเดินทาง และสอบถามสถานี MTR เส้นทาง และเวลาในการเดินทาง (มีริวิใช้งานตอนเดินทางจริงครับ)
2. Mobile Bus Info NG เส้นทางรถเมล์ในฮ่องกง ค้นหาสถานที่เพื่อเดินทาง
3. Starbuck HK ที่ตั้งร้านสตาร์บัคส์และเวลาเปิด-ปิด
4. บันทึกการเดินทาง (ที่เน้นการกินและไหว้พระ)
ทริปนี้เราวางแผนเดินทางไว้เยอะมาก แต่เอาเข้าจริงไปได้ประมาณ 60% ของที่วางไว้ก่อนไป เพราะปวดขา และต้องปรับแผนเพราะกระเช้านองปิงปิดปรับปรุง สรุปแล้วได้ไปตามรายการข้างล่างนี้
วันแรก
เริ่มต้นที่อินเตอร์เน็ทเช็คอินของสายการบิน HK Airlines โดยใช้ booking number นามสกุล/ชื่อ ระบุสนามบินที่เดินทาง (ใช้ได้เฉพาะตั๋วที่ขึ้นต้นด้วยเลข 851 / ไม่สามารถใช้กับตั๋วกรุ๊ปทัวร์ได้)
ไป drop กระเป๋าที่สุวรรณภูมิ แถว K (ประมาณประตู 5-6) ตรวจสอบ gate number ควรเผื่อเวลาสักหน่อย และกรอกเอกสาร immigration ให้พร้อมก่อนเข้าไป เพราะคนรอ immigration ค่อนข้างเยอะ ถึงแม้จะเป็นเช้าตรู่ก็ตาม และจะได้มีเวลาเช็คราคา duty free ก่อนเดินทางด้วยครับ
HK Airlines นั่งสบายดี แต่ก็เก่าพอควร มีจอทีวีส่วนตัว และจอยสติ๊ก แจกหูฟังให้พร้อมทิชชู่เปียก ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลงได้ แต่ถ้าไม่เป็นภาษาจีนก็อังกฤษ หูฟังบนเครื่องเป็นแบบ 2 ขั้ว ใช้กับโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ช่องเสียบหูฟังอยู่ตรงที่พักแขน
อาหารบนเครื่องก็ปานกลางครับ พนักงานไม่ค่อยเน้นขายของเท่าไหร่ ประกาศแล้วเดินรอบเดียวจบ แล้วแอร์จะแจกเอกสารเข้าเมืองให้กรอกบนเครื่อง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ต้องเพิ่มเวลาท้องถิ่นปลายทางอีก 1 ชั่วโมง การตรวจคนเข้าเมืองที่ฮ่องกงเร็วมากๆ ที่เคยกังวลว่าจะช้า จะถามนู่นนี่ ไม่ถามเลยครับ ยื่น passport กับเอกสารเข้าเมือง เขาเอาไป scan แล้ว print กระดาษใบเล็กๆ ให้ใบนึงเป็นอันเสร็จ ตอนเข้าไปกะคร่าวๆ ว่าคนเป็นร้อย แต่เจ้าหน้าที่ก็มีหลายคน สรุปแล้วใช้เวลาประมาณ 10 นาทีครับ (แอบบอกว่าขาออกในไทยนานกว่าเยอะ)
ออกจาก immigration มาก็รับกระเป๋าแล้วก็ตรงมาจะเจอบูทขายตั๋ว Airport Express และ Octopus ผมเดินไปซื้อตั๋ว Airport Express – Group of 2 Single Journey ได้ตั๋ว 2 ใบราคา 140 hkd ครับ
ได้ตั๋วแล้ว เดินออกมาที่ arrival hall ก็จะมีอีกบูทนึง ใหญ่กว่า แต่คนเยอะกว่าด้วย ใกล้ๆ กันมีตู้ขายบัตรอัตโนมัติ และทางเดินเข้าไปขึ้นรถไฟครับ
มีป้ายบอกเวลารอรถ และสถานีที่จะจอด
ภายในรถนั่งสบายดี มีที่วางกระเป๋าใบใหญ่ๆ และที่ชาร์จโทรศัพท์ด้วย
ถึงสถานี Kaoloon ก็เดินออกมารอลิฟท์เพื่อไปขึ้น shuttle bus ฟรีไปแถวโรงแรมครับ ดูสถานที่ที่รถผ่านแต่ละสายได้ที่นี่ http://www.mtr.com.hk/en/customer/services/complom_free_bus.html จะมีเจ้าหน้าที่บอกเราว่าไปขึ้นสายต่างๆ ตรงประตูไหน เอากระเป๋าโหลดไว้ใต้ท้องรถ แล้วเดินขึ้นได้เลย ภายในรถก็คล้ายๆ รถเมล์ ป.อ. บ้านเราครับ รถขับมันส์ดี เพราะมีโค้ง มีเลี้ยวเยอะ และก็ทางแคบๆ คนขับเก่งมาก ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ถึงจุดจอดที่ 4 แถวๆ โรงแรม Kaoloon Hotel / the Peninsula แต่ไม่ได้พักที่นั่นหรอก ลากกระเป๋าเดินไปอีกนิดนึง
เดี๋ยวไปต่อตอนที่ 2 กันนะครับ
เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเองด้วย Google Map และ App มือถือ (ธ.ค. 2015) by Jo Geo11 (ตอนที่ 2)
http://ppantip.com/topic/34548286