สวัสดีค่ะ เรากับแฟนอายุ 20 ปีเท่ากันค่ะ เราขอแทนชื่อเราว่าปลา และขอแทนชื่อแฟนว่า สิงค์นะคะ เราคบกันมา 3 ปีแล้ว เรารักกันนะคะไม่เคยนอกใจกันมีทพะเลาะกันบ้างแต่ไม่เคยมีเรื่องมือที่ 3
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทางบ้านของสิงค์รับรู้ค่ะว่าเราคบกัน แต่ทางบ้านของปลาไม่ได้รับรู้เพราะปลาไม่กล้าบอก เพราะสิงค์เป็นอิสลาม เหตุที่ไม่กล้าบอกเพราะก่อนหน้าที่ปลาจะมาคบกับสิงค์ ปลาก็ได้คบกับแฟนเก่าที่เป็นอิสลามค่ะ ก็เลิกกันเพราะด้วยความเป็นเด็ก ทะเลาะกัน งอลกัน จบเลิกรากันไปและแม่ของปลาก็พูดย้ำเสมอว่า "แม่ไม่ปลื้ม อยากให้มีแฟนศาสนาเดียวกันจะได้ไม่ยุ่งยากและเราก็จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา" อันนี้ปลาต้องขอโทษแทนแม่ของปลานะคะ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่เพราะถ้าหากว่าแต่งงานกันเหมือนกับเราไม่รู้เค้า เค้าไม่รู้เรา มันจะยุ่งยากประมาณนี้ มาเข้าเรื่องกันต่อค่ะ แรกๆที่ปลาไปบ้านของสิงค์ พ่อแม่ของสิงค์ก็ดีกับปลานะคะ และทุกครั้งที่ปลาซื้อข้าวไปกินที่บ้านสิงค์ ปลาจะถามสิงค์ทุกครั้งว่า "ปลาเอาหมูเข้าไปกินในบ้านได้เปล่า" สิงค์ก็จะตอบว่าได้ทุกครั้ง สิงค์บอกว่าที่บ้านไม่เคร่ง ปลาก็เอาเข้าไปกิน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตลอดเวลาที่ปลาเอาหมูเข้าไปกินในบ้านของสิงค์นั้น สิงค์เริ่มจะป่วยบ่อยๆ ไม่สบาย ปวดขา ปวดแขน บางครั้งก็ปวดกามที่ปาก และมีอาการเกร็งจนเข้าโรงพยาบาล หยุดเรียนเป็นอาทิตย์ ปลาก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงจะไม่สบายตามธรรมดาของคน ปลาก็เอาหมูเข้าไปกินที่บ้านของสิงค์เรื่อยๆ ล่าสุดประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา สิงค์มีอาการปวดหัวกัดลิ้นตัวเองและชักจนต้องหามเข้าโรงพยาบาล ถามสิงค์ว่าทำไมถึงเป็นได้ทั้งๆที่ร่างกายก็สมบูรณ์แข็งแรง สิงค์บอกแค่ว่า ปวดหัว เครียด พอออกจากโรงพยาบาล แม่ของสิงค์ก็ได้พาไปหาหมอดู และหมอดูหรือพ่อแก่ปลาก็ไม่แน่ใจได้พูดขึ้นว่า "นับถือศาสนาอะไร" สิงค์ตอบว่าอิสลาม แล้วท่านก็บอกว่า "เจ้าบ้านของคืออิสลามเหมือน ไปทำผิด ผิดมาก เจ้าบ้านเค้าไม่ยอม เอาสิ่งที่เจ้าบ้านรับไม่ได้เข้ามาในบ้าน แรกๆเจ้าบ้านเค้าเตือนแล้ว ไม่สำนึก ไม่คิดให้ดี ถ้าว่ายังทำอยู่อีก เค้าคงจะทำหนักกว่านี้ แล้วเอาอะไรที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสนาอิสลามเข้าบ้านบ้าง" สิงค์ก็บอกไปว่า บางครั้งแฟนก็เอาหมูเข้ามากินในบ้านเพราะแฟนเป็นไทยพุทธ แล้วท่านก็บอกว่า "ถ้ากินให้กินนอกบ้านได้มั้ย ตัวของปลาเองเข้ามาได้ แต่อย่านำหมูเข้าบ้าน เพราะเจ้าบ้านเค้าไม่ชอบและไม่ยอม" คือนาทีนั้นปลารู้สึกผิดมาก ไม่คิดโทษสิงค์เลยที่ให้เอาเข้าบ้านได้ โทษตัวเองว่าทำให้แฟนเป็นอะไรต่างๆนานา แม่ของสิงค์ก็โกรธเรานะ แต่ก็ไม่นานทุกอย่างเข้าสู่สภาพปกติ ปลาก็ไม่เอาหมูเข้าไปกินอีกเลย ปลาเริ่มเคร่งครัด อาการของสิงค์ก็หายดี เหมือนปลิดทิ้งเลย หน้าตาดูสดใสขึ้น ปลาก็ดีใจนะคะ แต่อีกเรื่องที่ยังกังวลคือถ้าหากเราต้องมาอยู่กินกันจริงๆ ปลาไม่อยากเปลี่ยนศาสนา ไม่เปลี่ยนนามสกุล ปลาคงต้องโกหกแม่เรื่องศาสนาที่สิงค์นับถือ แต่ถ้าหากต้องอยู่กินกันจริงๆ ปลาคงต้องให้สิงค์มาอยู่บ้านปลา และก็ยังกังวลเรื่องลูก ไม่รู้พ่อแม่ของสิงค์จะยอมรึเปล่า มันคิดยากนะคะการที่คน 2 คน ต่างศาสนาแล้วมารักกัน แต่ปลาก็ยังคงคิดว่า ความรักไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา อยู่ที่ปลากับสิงค์มากกว่า ขอคำแนะนำด้วยนะคะว่าปลาตัวทำตัวยังไงกับครอบครัวของสิงค์
แฟนเกือบตายเพราะเรา ความรักต่างศาสนา
ตลอดเวลาที่ผ่านมาทางบ้านของสิงค์รับรู้ค่ะว่าเราคบกัน แต่ทางบ้านของปลาไม่ได้รับรู้เพราะปลาไม่กล้าบอก เพราะสิงค์เป็นอิสลาม เหตุที่ไม่กล้าบอกเพราะก่อนหน้าที่ปลาจะมาคบกับสิงค์ ปลาก็ได้คบกับแฟนเก่าที่เป็นอิสลามค่ะ ก็เลิกกันเพราะด้วยความเป็นเด็ก ทะเลาะกัน งอลกัน จบเลิกรากันไปและแม่ของปลาก็พูดย้ำเสมอว่า "แม่ไม่ปลื้ม อยากให้มีแฟนศาสนาเดียวกันจะได้ไม่ยุ่งยากและเราก็จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา" อันนี้ปลาต้องขอโทษแทนแม่ของปลานะคะ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่เพราะถ้าหากว่าแต่งงานกันเหมือนกับเราไม่รู้เค้า เค้าไม่รู้เรา มันจะยุ่งยากประมาณนี้ มาเข้าเรื่องกันต่อค่ะ แรกๆที่ปลาไปบ้านของสิงค์ พ่อแม่ของสิงค์ก็ดีกับปลานะคะ และทุกครั้งที่ปลาซื้อข้าวไปกินที่บ้านสิงค์ ปลาจะถามสิงค์ทุกครั้งว่า "ปลาเอาหมูเข้าไปกินในบ้านได้เปล่า" สิงค์ก็จะตอบว่าได้ทุกครั้ง สิงค์บอกว่าที่บ้านไม่เคร่ง ปลาก็เอาเข้าไปกิน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือตลอดเวลาที่ปลาเอาหมูเข้าไปกินในบ้านของสิงค์นั้น สิงค์เริ่มจะป่วยบ่อยๆ ไม่สบาย ปวดขา ปวดแขน บางครั้งก็ปวดกามที่ปาก และมีอาการเกร็งจนเข้าโรงพยาบาล หยุดเรียนเป็นอาทิตย์ ปลาก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงจะไม่สบายตามธรรมดาของคน ปลาก็เอาหมูเข้าไปกินที่บ้านของสิงค์เรื่อยๆ ล่าสุดประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา สิงค์มีอาการปวดหัวกัดลิ้นตัวเองและชักจนต้องหามเข้าโรงพยาบาล ถามสิงค์ว่าทำไมถึงเป็นได้ทั้งๆที่ร่างกายก็สมบูรณ์แข็งแรง สิงค์บอกแค่ว่า ปวดหัว เครียด พอออกจากโรงพยาบาล แม่ของสิงค์ก็ได้พาไปหาหมอดู และหมอดูหรือพ่อแก่ปลาก็ไม่แน่ใจได้พูดขึ้นว่า "นับถือศาสนาอะไร" สิงค์ตอบว่าอิสลาม แล้วท่านก็บอกว่า "เจ้าบ้านของคืออิสลามเหมือน ไปทำผิด ผิดมาก เจ้าบ้านเค้าไม่ยอม เอาสิ่งที่เจ้าบ้านรับไม่ได้เข้ามาในบ้าน แรกๆเจ้าบ้านเค้าเตือนแล้ว ไม่สำนึก ไม่คิดให้ดี ถ้าว่ายังทำอยู่อีก เค้าคงจะทำหนักกว่านี้ แล้วเอาอะไรที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสนาอิสลามเข้าบ้านบ้าง" สิงค์ก็บอกไปว่า บางครั้งแฟนก็เอาหมูเข้ามากินในบ้านเพราะแฟนเป็นไทยพุทธ แล้วท่านก็บอกว่า "ถ้ากินให้กินนอกบ้านได้มั้ย ตัวของปลาเองเข้ามาได้ แต่อย่านำหมูเข้าบ้าน เพราะเจ้าบ้านเค้าไม่ชอบและไม่ยอม" คือนาทีนั้นปลารู้สึกผิดมาก ไม่คิดโทษสิงค์เลยที่ให้เอาเข้าบ้านได้ โทษตัวเองว่าทำให้แฟนเป็นอะไรต่างๆนานา แม่ของสิงค์ก็โกรธเรานะ แต่ก็ไม่นานทุกอย่างเข้าสู่สภาพปกติ ปลาก็ไม่เอาหมูเข้าไปกินอีกเลย ปลาเริ่มเคร่งครัด อาการของสิงค์ก็หายดี เหมือนปลิดทิ้งเลย หน้าตาดูสดใสขึ้น ปลาก็ดีใจนะคะ แต่อีกเรื่องที่ยังกังวลคือถ้าหากเราต้องมาอยู่กินกันจริงๆ ปลาไม่อยากเปลี่ยนศาสนา ไม่เปลี่ยนนามสกุล ปลาคงต้องโกหกแม่เรื่องศาสนาที่สิงค์นับถือ แต่ถ้าหากต้องอยู่กินกันจริงๆ ปลาคงต้องให้สิงค์มาอยู่บ้านปลา และก็ยังกังวลเรื่องลูก ไม่รู้พ่อแม่ของสิงค์จะยอมรึเปล่า มันคิดยากนะคะการที่คน 2 คน ต่างศาสนาแล้วมารักกัน แต่ปลาก็ยังคงคิดว่า ความรักไม่ได้เกี่ยวกับศาสนา อยู่ที่ปลากับสิงค์มากกว่า ขอคำแนะนำด้วยนะคะว่าปลาตัวทำตัวยังไงกับครอบครัวของสิงค์