ท้องก่อนแต่ง สังคมไทยสมัยใหม่ สุดฮอตฮิต!!!!!

โลกเราสมัยนี้มันไวต่อการรับข่าวสาร  จะขอกล่าวถึง ข่าวที่เป็นอยู่ ท้องก่อนแต่ง
โอเค  การที่ผู้หญิงคนนึงตั้งครรภ์นั้นมันเป็นเรื่องหน้ายินดี  ขอแสดงความยินดีด้วยคุณแม่คนใหม่

เข้าประเด็นเลยละกัน
          หลายคนมองว่ามันไม่เหมาะไม่ควรสำหรับสังคมไทย   วัฒนธรรมไทย  ประเพณีไทย  ใช่นับวันมันจะยิ่งหายไปทุกที
แต่ดั่งเดิมการท้องก่อนแต่งคือเรื่องที่น่าอับอายสำหรับพ่อแม่พี่น้องวงศาคนาญาติ   แต่ ณ ปัจจุบันมันไม่ใช่แล้ว  เค้าจะท้อง เออก็เรื่องของเค้าสิ  เผือกเรื่องเค้าทำไม  เค้ามีปัญญาเลี้ยงลูกเค้า  ไอ้พิธีแต่งงานมันก็เป็นอะไรทำขึ้นเพื่อความสิ้นเปลือง  อวดอ้าง  ไม่เห็นมีใครบอกว่าพิธีแต่งงานจะเป็นเครื่องยืนยันว่าสามีภรรยาจะรักกันจนแก่เฒ่าจนตายจากกัน   โอเค  ที่กล่าวมาไม่มีอะไรที่ผิด    

          เราแค่จะบอกว่า   วัยรุ่นทั้งหลาย   หากเข้ามาอ่าน   อยากบอกว่า  ตามกระแสที่รู้กันอยู่เรื่องท้องก่อนแต่งนั้น  อยากให้ตระหนักไว้ว่า  คนทุกคนแยกแยะว่าสิ่งใดควรและไม่ควร  ทุกคนมีสมองของตัวเอง  หากคุณมีความพร้อมคุณมีหน้าที่การงาน  หากจะท้องก่อนแต่งหรือไม่จัดพิธีเลยก็ได้มันเรื่องของคุณจริงไหม  ถ้าพ่อแม่คุณโอเคก็ทำไปเถอะ   ลูกโตแล้วค่อยแต่งก็ยังไม่สาย    แต่หากวันนี้คุณยังขอเงินพ่อแม่ใช้เอาตัวไม่รอด  ถึงแม้จะเจอผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ  แต่ถ้าอะไรหลายอย่างยังไม่เอื้ออำนวย  ก็ควรป้องกันดูแลตัวเองให้ดี  หันมองหน้าพ่อแม่ว่าท่านโอเคไหม  ถ้าหากเราจะท้องทั้งๆที่ไม่ได้แต่งงาน  ท่านยินดีกับการกระทำเราไหม  

          อย่ามัวแต่คิดว่าเดียวนี้ใครๆก็ท้องแล้วถึงแต่งทั้งนั้น    มันเป็นเรื่องปกติ    แต่เราเชื่อว่ามีผู้หญิงอีกหลายคนที่อยากมีวันชื่นคืนสุข    อยากมีภาพแห่งความรักประทับใจไว้ดู   พ่อแม่หลายท่านก็คงอยากเห็นลูกเข้าพิธีแต่งงาน  มากกว่าเห็นลูกท้องโดยที่ยังไม่แต่ง  

          พิธีแต่งงานมันไม่จำเป็นหรอกต้องอรังการงานสร้าง    แต่ลองคิดดูว่าทำไมถึงยังมีพิธีแต่งงานละ   มันอาจเป็นเพราะมันคือสิ่งที่ถูกต้องหรือป่าว  บางคนก็ไม่ได้จัดงานอะไรแค่ให้ผู้ใหญ่สองฝ่ายมาพบกันรับรู้โอเค จบ  มันก็ไม่ยากนะ  

           ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันทั้งนั้น
เช่น  คุณทำงานเก็บเงินมั่นคง  แล้วคุณก็ท้องก่อนแต่ง  ยินดีทั้งสองฝ่าย โอเคจบ
        แต่โอกาสที่คุณจะเจอคนที่ดีมีความรับผิดชอบนั้นก็ยากอยู่   หากคุณท้องทั้งๆที่ยังไม่แต่ง   ต่อไปในอนาคต  คุณแน่ใจมัยว่า คุณจะไม่พูดคำนี้   "ที่คุณยอมแต่งงานกับฉันเพราะคุณเห็นแก่ลูกใช่ใหม   ที่คุณทำทั้งหมดเพียงเพราะคุณต้องแสดงความรับผิดชอบใช่ใหม คุณไม่ได้รักฉันจริงๆหรอก"     เวลาผู้หญิงงี่เง่าขึ้นมามันโคตรพูดไม่รู้เรื่อง   เรื่องนี้ประสบพบเจอในบรรดาเพื่อน จขกท  เองนี้ละ    

แต่ยังไงการท้องก็เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับบางคน  ไม่ใช่ทุกคน  เชื่อไหมละ     คนที่เจอคู่แท้ก็ดีไป   มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือร้ายแรงอะไร   แต่ก็ไม่ควรทำตาม เพราะถ้าพ่อแม่ไม่เข้าใจเรา  ก็เท่ากับเราทำร้ายความรู้สึกท่าน    ถ้าพ่อแม่คุณโอเคในทุกเรื่องก็ยินดีด้วยจบ   แต่ทำอะไรก็นึกถึงพ่อแม่ก่อนนะ

            เห็นคนอื่นยินดีสมหวัง  ถ้าเราทำมั้งมันอาจไม่น่ายินดีก็ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ขอแสดงความคิดเห็นในแบบกลางๆ นะครับ กรณีของ กก นั้นน่าจะเป็นกรณีศึกษาที่ดีในสังคมไทยเราต่อไป  เนื่องจากปัจจุบันมีค่านิยมการท้องก่อนแต่งงานกันมากขึ้น และมีความคิดเห็นที่หลากหลายแตกต่างกันไป ทั้งสนับสนุน ต่อต้าน และเฉยๆ
ก่อนอื่นเลยผมขอแยกให้เห็นความแตกต่างระหว่างคำ 3 คำที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้นะครับ นั่นคือคำว่า “พร้อม” “พลาด” และ “แพลน” (Planed) ครับผม

ในกรณีของ กก. นั้นกลุ่มคนที่แสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลย....กก อายุ 27 ปีแล้ว เธอมีความพร้อม มีฐานะทางสังคม หาเลี้ยงตัวเองได้ กลุ่มนี้จะอยู่ในกลุ่มที่คิดว่า กก. นั้น “พร้อม” ครับ

ถัดมากลุ่มคนที่ต่อต้าน แอนตี้ กก. จากกรณีที่ท้องก่อนแต่งนั้น จะอยู่ในกลุ่มที่เป็นพวกที่ถือว่า กก. “พลาด” ครับ
ส่วนค่านิยมที่ให้แต่งงานก่อน มีความพร้อมจากทุกด้าน และเลือกที่จะตั้งท้อง ผมขอจัดให้อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “แพลน” นะครับ  
ถ้าเราสังเกตุดีๆ เราจะเห็นว่า กรณีของกก. จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า “พลาด” แต่ “พร้อม” ครับผม แม้ว่าเธอจะไม่ได้ “แพลน” ไว้เลยก็ตาม สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ ไม่ขาว ไม่ดำ ไปสุดทาง ก็เพราะว่าคุณ กก. นั้น พร้อมนั่นเอง แต่ถ้าถามว่า หากย้อนเวลากลับไปได้ เพื่อความสบายใจของครอบครัว สังคมหมู่มาก ประเพณีไทยที่ดีงาม เธอเองก็คงอยาก “แพลน” ที่จะท้องโดยแต่งงานอย่างถูกต้องเสียก่อน   เพื่อความสบายใจของครอบครัวเธอเอง (คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พ่อแม่ของเธอ คงไม่อยากให้เธอท้องก่อนแต่งในสภาพนี้)

สิ่งที่ทำให้ กก. รอดตัวจากสถานการณ์นี้ไปได้ เพราะว่าเธอนั้น “พร้อม” และมีความเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ สามารถรับผิดชอบผลของการกระทำที่เกิดขึ้นได้ และมีฐานะทางครอบครัวที่โอเค .......แต่ถึงกระนั้น ก็อาจไม่ได้สร้างความยินดีให้กับทุกฝ่ายได้อย่างเพียงพอ...อย่างน้อยที่สุด ก็พ่อแม่ของเธอเอง คงไม่ได้เห็นด้วยกับการกระทำตรงนี้ซะเท่าไหร่นัก จริงไหมครับ?

นั่นเป็นที่มาของคำว่า “แพลน (Planed)” ซึ่งในตัวมันเอง รวมความหมายถึง ความพร้อมในศักยภาพของการทำมาหาเลี้ยงตัวเอง และความพร้อมของสังคมรอบตัว ความเต็มใจที่จะท้อง และการรับรู้ของสังคมโดยรอบ ซึ่งเป็น ideal ของประเด็นนี้

สังเกตุได้ว่าสามีทางพฤตินัยของคุณ กก.นั้นก็พยายามที่จะบอกกับสื่อว่าได้มีการ “หมั้น” ล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว  ทำไมคุณสามีทางพฤตินัยของ กก. จึงกล่าวย้ำในประเด็นนี้ เพราะเขาต้องการแสดงให้สังคมเห็นว่าเขานั้น ไม่ได้ “พลาด” แต่ “แพลน” เอาไว้แล้วต่างหากครับ (ซึ่งก็เก็บเอาไปคิดต่อ ว่าหมายความตามนั้นจริงๆ หรือเป็นการแก้ต่าง ก็ว่ากันไป)

สุดท้ายสรุปว่ากรณีของ กก. นั้นไม่อาจกล่าวได้ว่าเธอผิด เพราะเธอพร้อม (พร้อมเพราะโตแล้ว, มีการมีงาน เลี้ยงดูตัวเองได้ ฯลฯ) แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าเธอถูกร้อยเปอร์เซนต์ (วัดจากความพึงพอใจของ ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่ตัวเธอเอง ถ้ามีโอกาสย้อนเวลากลับไปได้) สถานการณ์มันเป็นสีเทาๆ ครับ
ความคิดเห็นที่ 7
ใช่ค่ะ หนูอยู่ ม.4 รู้สึกว่า เราเป็นคนไทยมีวัฒนธรรม และประเพณีไทยเป็นของตัวเอง ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนไทยก็ ไม่ควรมีความเชื่อและความคิดที่ว่า "ดูแลตัวเองได้แล้ว จะท้องตอนไหนก็ได้ทำอะไรก็ได้" เพราะมันไม่ถูกต้องอยู่ดี การแต่งงานคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดค่ะสำหรับหนู ถ้าคนเรายังคิดแบบนี้ ต่อไป ความเป็นไทยและประเพณีไทยมันก็จะด้อยลงเพราะความคิดของคนไทยเองทั้งนั้น คนแบบนี้มีมากขึ้นทุกวัน คนที่เป็นแบบนี้ก็ต้องพูดอยู่แล้วว่าตัวเองก็ไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน แล้วทำไมไม่คิดบ้างว่า มันคือสิ่งที่ผิดพลาด ไม่พูดกับคนอื่นว่า อย่าเอาเยี่ยงอย่างบ้างล่ะ มีประเพณีก็ต้องทำให้มันถูกต้องกันไป อย่าปลูกฝังวัยรุ่นไทยแบบนี้เลยค่ะ ยิ่งมีความคิดแบบนี้กันมากขึ้น วัยรุ่นและคนเหล่านั้นก็จะคิดว่าตัวเองไม่ผิดอะไรคิดว่าตัวเองนั้นมีความถูกต้องมากขึ้น หนูรู้นะคะว่าในความคิดแบบนั้น มันต้องมีความ "ไม่พร้อม" แฝงอยู่ค่ะ ในส่วนลึกของพ่อแม่ ก็ไม่ได้มีความยินดีในเรื่องแบบนี้กันสักเท่าไหร่หรอกค่ะ หนูก็คือ วัยรุ่นไทยคนนึงนะคะ ที่คิดว่า เรื่องแบบนี้ "ไม่ถูกต้องค่ะ" แต่บางทีหนูก็เห็นสังคมบางกลุ่มก็ตั้งใจที่จะไม่แต่งงาน และอยู่กินกันแบบนั้นไปเลย หนูก็ว่ามันคือความตั้งใจของเค้าเอง คงไม่ผิด แต่สำหรับหลายๆ ตัวอย่างที่เกิดขึ้น มันชัดเจนอยู่แล้วว่า มัน "ไม่ใช่ความตั้งใจ" หนูไม่อยากให้วัยรุ่นคนอื่นเห็นชอบแบบนี้เลยค่ะ เจ้าของกระทู้คิดแบบหนูเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่