.
จากกระทู้เรื่องฟันครั้งที่แล้วของผม ที่ได้ตั้งในวันที่ ๑๘ ตุลาคม
จากการกลับมาระบมปวดฟันกันอีกครั้ง
และก็มีการบวมของเหงือกจนสัมผัสได้
และก็ได้หายไปในวันที่ ๒๐ ตุลา ซึ่งผมได้เข้าไปบันทึกอาการกันเอาไว้ในกระทู้เดียวกันนั้น
ในเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
ผมได้มีการสัมผัสได้ถึงการบวมของเหงือก
ก็จึงได้ลองเอานิ้วไปสัมผัสดู เจอการบวมตั้งแต่ฟันกรามที่หายไปทั้งซี่
มีการบวมไปจนถึงฟันกรามซี่ในสุด
แต่ไม่มีอาการปวดฟัน และไม่ได้เจ็บปวดตรงเหงือกที่บวมเลย
( ผมก็จำไม่ได้และพึ่งรู้เมื่อกี้ว่า ครั้งที่แล้วมันบวมยาวในด้านขวา )
( แต่ครั้งนี้มันมาบวมยาวในด้านซ้าย ที่ฟันกรามหายไปทั้งซี่แล้ว )
ผมก็เริ่มสงสัยว่าตรงเหงือกที่บวมมันมีหนองอยู่ข้างใน
ตามที่ทันตแพทย์หรือท่านผู้รู้ทั้งหลายได้บอกกันเอาไว้จริงหรือเปล่า
ผมก็จึงได้เข้ายืนส่องดูตรงกระจกที่แขวนเอาไว้
พอเอานิ้วดึงข้างปากและส่องกระจกไป
ก็จึงได้เห็นว่ามีสีที่เหมือนหนองอยู่ในเหงือกจริง ๆ ด้วย
เป็นวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสี่หรือห้ามิลลิเมตร
ซึ่งผมได้อมน้ำเกลือมาประมาณสองหรือสามปี
ก็ไม่รู้ว่ามันมีสีเหมือนหนองเกิดขึ้นมาในเหงือกได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ในอีกด้านหนึ่ง
เหงือกเหนือฟันกรามที่แตกด้านขวา
มันก็มีจุดหนองเหมือนหัวสิวเล็ก ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งมิลลิเมตร
พอผมแปรงฟันในช่วงกลางวันมันก็ได้แตกไป
พอวันต่อมามันก็โผล่ขึ้นมาใหม่ ให้ได้เห็นกันอีกครั้ง
......................................................
( เพิ่มเติมเสริมข้อความใหม่ในวัน ๑๗ ธันวา ๒๕๕๘ )
.
เย็น ๆ หรือค่ำนี้ จะขยายความเรื่อง
หลังจากที่ผมเอาเข็มทิ่มจิ้มเข้าไปในเหงือกด้านขวา
ผ่านไปหนึ่งวันหรือสองสามวัน
เหงือกด้านในฟันมันเจ็บปวดและบวมเกือบครึ่งปาก
แต่สามารถหายเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็วมาก
ด้วยยาเทพ ฤทธิ์น้ำเกลือ
.
วันนี้ไปหาภาพเก่า ๆ ต้นฉบับของผม
ที่ไม่มีหินปูนเกาะมาให้ดูกันก่อน
ส่วนการอธิบายเรื่องที่เหงือกบวมครึ่งปาก
และสามารถหายเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็วมากด้วยยาเทพ ฤทธิ์น้ำเกลือ
ผมขอเลื่อนออกไปเป็นวันพรุ่งนี้
และอาจจะไม่ได้มีการโชว์ภาพหนองในเหงือกด้านซ้ายให้ได้ชมกัน
เพราะต้องรอดูอาการมันไปก่อน
...
ที่มีหลายท่านสงสัยถามกันมาว่าแล้วหินปูนที่ฟันกรามด้านล่างล่ะ
ตอบได้ว่ามันก็มีเท่าที่เห็นอยู่แค่ตรงกลางของฟันกราม
ส่วนด้านล่างตรงโคนของฟันมันไม่เห็นมีเลย
.
นี่ไง ดูดิ ไม่เห็นมีหินปูนเกาะเลยแม้แต่น้อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#. มีหนองในเหงือกที่บวมจากการอมน้ำเกลือเพื่อแก้ปวดฟัน อย่างที่ทันตแพทย์หรือผู้รู้ทั้งหลายได้บอกเอาไว้จริง ๆ ด้วย
จากกระทู้เรื่องฟันครั้งที่แล้วของผม ที่ได้ตั้งในวันที่ ๑๘ ตุลาคม
จากการกลับมาระบมปวดฟันกันอีกครั้ง
และก็มีการบวมของเหงือกจนสัมผัสได้
และก็ได้หายไปในวันที่ ๒๐ ตุลา ซึ่งผมได้เข้าไปบันทึกอาการกันเอาไว้ในกระทู้เดียวกันนั้น
ในเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
ผมได้มีการสัมผัสได้ถึงการบวมของเหงือก
ก็จึงได้ลองเอานิ้วไปสัมผัสดู เจอการบวมตั้งแต่ฟันกรามที่หายไปทั้งซี่
มีการบวมไปจนถึงฟันกรามซี่ในสุด
แต่ไม่มีอาการปวดฟัน และไม่ได้เจ็บปวดตรงเหงือกที่บวมเลย
( ผมก็จำไม่ได้และพึ่งรู้เมื่อกี้ว่า ครั้งที่แล้วมันบวมยาวในด้านขวา )
( แต่ครั้งนี้มันมาบวมยาวในด้านซ้าย ที่ฟันกรามหายไปทั้งซี่แล้ว )
ผมก็เริ่มสงสัยว่าตรงเหงือกที่บวมมันมีหนองอยู่ข้างใน
ตามที่ทันตแพทย์หรือท่านผู้รู้ทั้งหลายได้บอกกันเอาไว้จริงหรือเปล่า
ผมก็จึงได้เข้ายืนส่องดูตรงกระจกที่แขวนเอาไว้
พอเอานิ้วดึงข้างปากและส่องกระจกไป
ก็จึงได้เห็นว่ามีสีที่เหมือนหนองอยู่ในเหงือกจริง ๆ ด้วย
เป็นวงกลมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณสี่หรือห้ามิลลิเมตร
ซึ่งผมได้อมน้ำเกลือมาประมาณสองหรือสามปี
ก็ไม่รู้ว่ามันมีสีเหมือนหนองเกิดขึ้นมาในเหงือกได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ในอีกด้านหนึ่ง
เหงือกเหนือฟันกรามที่แตกด้านขวา
มันก็มีจุดหนองเหมือนหัวสิวเล็ก ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งมิลลิเมตร
พอผมแปรงฟันในช่วงกลางวันมันก็ได้แตกไป
พอวันต่อมามันก็โผล่ขึ้นมาใหม่ ให้ได้เห็นกันอีกครั้ง
......................................................
( เพิ่มเติมเสริมข้อความใหม่ในวัน ๑๗ ธันวา ๒๕๕๘ )
.
เย็น ๆ หรือค่ำนี้ จะขยายความเรื่อง
หลังจากที่ผมเอาเข็มทิ่มจิ้มเข้าไปในเหงือกด้านขวา
ผ่านไปหนึ่งวันหรือสองสามวัน
เหงือกด้านในฟันมันเจ็บปวดและบวมเกือบครึ่งปาก
แต่สามารถหายเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็วมาก
ด้วยยาเทพ ฤทธิ์น้ำเกลือ
.
วันนี้ไปหาภาพเก่า ๆ ต้นฉบับของผม
ที่ไม่มีหินปูนเกาะมาให้ดูกันก่อน
ส่วนการอธิบายเรื่องที่เหงือกบวมครึ่งปาก
และสามารถหายเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็วมากด้วยยาเทพ ฤทธิ์น้ำเกลือ
ผมขอเลื่อนออกไปเป็นวันพรุ่งนี้
และอาจจะไม่ได้มีการโชว์ภาพหนองในเหงือกด้านซ้ายให้ได้ชมกัน
เพราะต้องรอดูอาการมันไปก่อน
...
ที่มีหลายท่านสงสัยถามกันมาว่าแล้วหินปูนที่ฟันกรามด้านล่างล่ะ
ตอบได้ว่ามันก็มีเท่าที่เห็นอยู่แค่ตรงกลางของฟันกราม
ส่วนด้านล่างตรงโคนของฟันมันไม่เห็นมีเลย
.
นี่ไง ดูดิ ไม่เห็นมีหินปูนเกาะเลยแม้แต่น้อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้