เล่าประสบการณ์ ฝ่าหลายด่าน ออกจาก สนามบินคันไซ ญี่ปุ่น ไปให้ทันขึ้น รถไฟเที่ยวสุดท้าย Last train / Kansai Airport

เล่าประสบการณ์ ฝ่าหลายด่าน ออกจาก สนามบินคันไซ ญี่ปุ่น  ไปให้ทันขึ้น รถไฟเที่ยวสุดท้าย Last train / Kansai Airport

รูปใบไม้แดง  ที่ Eikando Temple , Kyoto , Japan


ผมหาข้อมูลในเนต  แนะนำให้นอนในสนามบิน รอรถไฟ เช้ามืด
แต่ ข้อมูลในเนต สรุปว่า คนส่วนมาก นอนไม่หลับ  หลับไม่ยาว

22:50 น. สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน XJ 610 ถึงสนามบินนานาชาติคันไซ  
บินขึ้น ล่าช้าจากดอนเมือง หลายสิบนาที
แต่กัปตัน ทำให้ ไปถึง จุดหมาย เหลือความล่าช้า 10 นาที

23:00น. ทะยอยเดินออกจากเครื่องบิน

ด่านแรก ในการ ที่จะให้ทัน ขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย
ก่อนเดินทาง ผมยอมที่จะไม่ ทำเวบเช็คอิน บัตรโดยสารแอร์เอเชียX
เพราะ ที่นั่ง ที่โชว์ หน้าเวบเช็คอิน  ของผม คิอ  ที่นั่ง ริมหน้าต่าง  2x A  

ผม เลยยอมไป เข้าแถวยาว เสียเวลาที่ดอนเมือง  ขอ ที่นั่งริมทางเดิน และ ใกล้ประตู
โชคดี ที่ เจอเจ้าหน้าที่ ใจดี ออกบัตรโดยสาร ริมทางเดิน และ ใกล้ประตู ให้

การเดินออกจากเครื่องบิน ไปยัง อาคารผู้โดยสาร ที่ สนามบินคันไซ
ทำได้แค่ เดินเร็วๆ เพราะ ต้องระวัง เด็กๆ ที่แม่จูงลูก , ระวัง กระเป๋าสัมภาระท่านอื่น

23:11 น.
ผมอยู่ใน รถไฟฟ้า ที่วิ่งระหว่าง อาคารผู้โดยสาร1 และ อาคารผู้โดยสาร2

ด่านที่สอง คือ การเข้าไปในรถไฟฟ้า เป็น คนแรกๆ
หมายความว่า คุณจะได้ลง เป็นคนท้ายๆ ถ้าคุณอยากเดินไปให้ถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ก่อนใคร
ให้ ขึ้นรถไฟฟ้า เป็นคนท้ายๆ เพื่อ ออกจากรถไฟฟ้า เป็นคนแรกๆ

แต่ ครั้งนี้ ผมเข้าไปใน รถไฟฟ้า คนแรกๆ
คิดอย่างไร ไม่รู้ , คิดว่า รถไฟฟ้า จะเปิดให้ออก ในประตู อีกด้าน
เช่น เข้าประตูขวา ( แต่ ผมคิดไปเองว่า ) ออกประตูซ้าย
ผมเลย ออกจากรถไฟฟ้า เป็นคนท้ายๆ

ด่านที่สาม
ผม ไปถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง
เข้าแถว เป็น ลำดับที่ ประมาณ 40
นั่น หมายความว่า  คนที่ลงจาก รถไฟฟ้า ก่อนผม บางส่วน
เดินไปถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ก่อน

ด่านที่สี่
ผม ไม่โหลดกระเป๋า
เพราะ ขั้นตอนนี้ ผมกะเกณฑ์อะไรไม่ได้
ผม เลยยอมไม่โหลดกระเป๋า  เอาสัมภาระไปเท่าที่จำเป็น ไม่เกิน 7 กก.

ปกติ เวลาเรา ออกบัตรโดยสาร ที่เคาน์เตอร์ดอนเมือง
เจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสารที่ดอนเมือง จะขอให้ เรายก กระเป๋าขึ้นชั่ง บนสายพานโหลดกระเป๋า
แม้ว่า เราไม่โหลดก็ตาม
เพื่อ ดูว่า น้ำหนักกระเป๋า ของเรา เกิน 7 กก. หรือไม่
บางท่าน อาจจะไม่ถูกสุ่มตรวจน้ำหนักกระเป๋า ในขั้นตอนนี้

และ ตอนที่นั่งรอ หน้าGate , เจ้าหน้าที่หน้าGate จะเดินมาถาม มาดู ว่า
มีใคร ทำเวบเช็คอิน  ไม่โหลดกระเป๋า ซึ่ง หมายความว่า
กระเป๋า ยังไม่ถูกตรวจสอบ น้ำหนัก ที่ เคาน์เตอร์ออกบัตรโดยสาร
เขาจะสังเกต ขอดู จาก บัตรโดยสาร ด้วย

แต่ถ้าใคร ออกบัตรโดยสาร ที่เคาน์เตอร์ ( ไม่ได้ทำเวบเช็คอิน+พิมพ์มาจากบ้าน )
เจ้าหน้าที่หน้าGate จะมองว่า กระเป๋า ควรจะถูกตรวจน้ำหนักที่ เคาน์เตอร์ ออกบัตรโดยสารแล้ว , เจ้าหน้าที่หน้าGate ก็จะไม่สนใจ สุ่มตรวจกระเป๋า คนที่ (เจ้าหน้าที่หน้าGateคิดว่า) น่าจะผ่านขั้นตอนนี้มาแล้ว

ด่านที่ห้า
ผม ไม่แน่ใจ ว่า ก่อนหน้านี้ มีใคร เดินพ้น ด่านศุลกากร ออกไปหรือยัง
แต่ จังหวะนั้น ผมไปถึง ด่านศุลกากร เป็น คนที่สาม
เดินออก ช่องเขียว ไม่ต้องสำแดง

แต่ คราวนี้  ยิ่งรีบ ยิ่งเจอ
การอาการ ร้อนรน เร่งรีบ กึ่งวิ่งกึ่งเดิน ไปยัง ทางออก ด่านศุลกากร
ประกอบกับ ผู้โดยสาร ท่านอื่น ไปรอ รับกระเป๋า กันทั้งนั้น
ด่านศุลกากร ประมาณ 7 - 8 ช่อง จึงว่าง และ ยังว่างงาน

เจ้าหน้าที่ เลย ขยัน  ขอตรวจ สัมภาระของผม
ผม คิดในใจว่า  ตรู ไม่ทัน รถไฟเที่ยวสุดท้ายแน่ๆ

เจ้าหน้าที่ศุลกากร ถามว่า
ไม่มีสัมภาะ ที่ต้องไปรับที่สายพานเหรอ
มากี่วัน
มาทำไม

เอา เมนูสิ่งของต้องห้าม มาให้ดู
ผมรู้อยู่แล้ว ว่า ผมไม่มี ไม่พกพา สิ่งของต้องห้าม
แต่ ผมก็ต้อง ทำใจเย็น ค่อยๆ ไล่ดูเมนู

ที่จริง ผมไม่ต้องดูเมนู แล้ว พูดว่า Nothing เลยก็ได้
แต่ เดี๋ยว เจ้าหน้าที่ศุลกากร จะสงสัย ถ้าผมปฏิเสธเร็วเกินไป

เจ้าหน้าที่ ถาม ย้ำแล้ว ย้ำอีก ว่า มีอะไรตามเมนูนี้ไหม
แถมยัง ชี้ไปที่ รูปปืน ย้ำที่รูปปืน ว่า พกพาปืน มาด้วยไหม
แหม! ไม่อยากพาดพิง ไปที่ ข่าวดัง ที่ คนไทย พกพา อาวุธปืน เข้าประเทศญี่ปุ่น
เลย ทำให้ เขา ต้องเข้มงวด เป็นพิเศษ เรื่อง อาวุธปืน

เขา ขอ เปิดกระเป๋า

เขาคลี่ ถุงเท้ายาว แบบ ถุงเท้านักบอล ที่ ผมม้วนกลมๆ
เขา คลี่ออก ดูว่า ม้วนๆ ห่ออะไร ไว้หรือเปล่า

เขาคลี่ เสื้อยืดกันหนาวแขนยาว ที่ ผมม้วนกลมๆ แบบ แท่งโรตี
ออกดู ว่า ผมม้วนซ่อนอะไร ไว้ไหม

เขาล้วง ไปที่ พื้นด้านในกระเป๋า ดูว่า มีช่องลับ ลวง พราง อะไร ในกระเป๋าไหม
เขาเปิดดู กระเป๋าอีกซีก
มี ซองพลาสติก แบบใส ขนาดครึ่งกะดาษเอสี่  บรรจุ ยาต่างๆ เช่น พารา ยาลดน้ำมูก ยาพื้นฐานต่างๆ แต่ เขาไม่สนใจ คงเพราะ มันใส  เห็นทะลุหมดแล้ว

แต่ เขาเปิดดู ที่บรรจุแว่นกันแดด ยี่ห้อดัง  , ที่บรรจุแว่น  ตัวมัน อันใหญ่  เขาเลย ค้นดู ว่า  มี ซอก หลืบ อะไรไหม นอกจาก แว่นกันแดด

กว่า จะผ่าน ขั้นตอนนี้ , หายใจ ไม่ทั่วท้อง  
กลัวไปขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายไม่ทัน
คือ ถึงแม้ ไปขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายไม่ทัน ก็ยัง มี Midnight Bus เป็นตัวสำรอง
แต่ รถบัส จอดไกลจากโรงแรมมาก และ ต้องดึกขึ้นไปอีก , ไม่อยาก เผชิญชะตากรรม กับ แท๊กซี่ยามวิกาล
ถ้า ผมทัน รถไฟเที่ยวสุดท้าย , โรงแรม อยู่ใกล้ สถานีรถไฟมากๆ
มันจะง่ายต่อชีวิต ได้เข้านอนไวขึ้น

พอ เจ้าหน้าที่ กล่าวขอบคุณ , ปิดกระเป๋าเสร็จ
จะรออะไรอีกล่ะ , ผม วิ่งเลยครับ
ก่อนหน้านี้ ผมแค่ กึ่งเดิน กึ่งวิ่ง
แต่ ตอนนี้ ผมวิ่งโชว์ ให้ เจ้าหน้าที่ศุลกากร ทั้ง 7 -8 ช่อง ที่ว่างอยู่ และ คงมอง การถูกค้น ของผมอยู่
วิ่งให้เขาเห็นว่า ผมรีบจริงๆ นะ

พอ ออกมายัง อาคารผู้โดยสาร
ผมขึ้นบันไดเลื่อน ไปชั้นบน
เดินข้ามไปอาคารสถานีรถไฟ

แต่ ไปโผล่ ลานจอดรถ
ก็แค่ เดินเลี้ยวขวา ไปที่สถานีรถไฟ
ตัวสถานีรถไฟ อยู่แนวเดียวกับ สายพานรับกระเป๋า

ถ้าออกจาก ด่านศุลกากร แล้ว เลี้ยวขึ้นบันไดตัวขวา จะเดินทะลุไปถึง สถานีรถไฟ
ถ้าออกจาก ด่านศุลกากร แล้ว เลี้ยวขึ้นบันไดตัวซ้าย จะเดินทะลุไปถึง ลานจอดรถ

แต่ ทั้งลานจอดรถ และ สถานีรถไฟ มันก็อยู่ติดกันนั่นแหละครับ
เขียนไว้เป็นข้อมูลให้ละเอียดๆ เพราะ ทุกนาที มีความหมายมาก ในการไปขึ้น รถไฟเที่ยวสุดท้ายให้ทัน ครับ

พอถึง ช่องขายตั๋ว งง ล่ะสิ
ทั้งที่ ทำการบ้านมาแล้ว ว่า กดปุ่ม จ่ายราคา 920 เยนเลย
ไม่ต้องสนใจอะไร  จ่ายไปเเลย 920 เยน
แต่ นาทีนั้น ป้ายสถานีต่างๆ มันเป็นงูกินหาง
อยากให้แน่ใจว่า ราคาค่าโดยสาร มันยังไม่เปลี่ยนแปลง
อยากให้แน่ใจว่า เราซื้อตั๋ว ไม่ผิด

มี เจ้าหน้าที่รถไฟ อยู่ตรงนั้น  ผมเลยให้เจ้าหน้าที่รถไฟ กดซื้อตั๋วให้
คือ นาที นี้แล้ว  ช้าไม่ได้อีกแล้ว  พลาดไม่ได้อีกแล้ว
ตั๋วรถไฟ  พิมพ์ เวลา 23:33 น.



พอ สอดตั๋วเข้าเครื่อง ผ่านเข้าไปในชานชาลา
รถไฟเที่ยวสุดท้าย แล่นมาเทียบชานชาลา พอดี

เพื่อ ความชัวร์ , ทั้งที่ มันมีขบวนนี้ ขบวนเดียว
ถามดีกว่า , ถาม คุณป้าสองคน ชาวญี่ปุ่น ที่กำลัง จะก้าวเข้าโบกี้รถไฟ
เธอส่ายหน้าๆ โบกมือ ไม่ๆ
ซวยแล้วกู  ไม่ใช่รถไฟขบวนนี้ เหรอ

หันไป เจอ เจ้าหน้าที่รถไฟ ยืนอยู่ ข้างหลัง
ผมเลยถามเขา เขาบอก คันนี้แหละ ขึ้นเลย

พอขึ้นไปนั่ง , เพื่อความชัวร์ ถาม ผู้ชายญี่ปุ่น ในนั้นอีกรอบ
ว่า รถไฟคันนี้ ไป สถานี Shin Imamiya ไหมครับ
เขาตอบ ใช่
เฮ้อ โล่ง อก

รถไฟ Nankai ถึงสถานี  Shin Imamiya เที่ยงคืนครึ่ง



มีผู้โดยสาร ลงสถานีนี้ 4 - 5 คน



เจ้าหน้าที่สถานี  มากดลิฟท์ให้ เชิญลง , เขาจะได้ ปิดสถานี กลับบ้าน พักผ่อน



ผม สอดตั๋วรถไฟ  ออกมา หันไปถ่ายรูป  
พอสิ้นเสียงชัตเตอร์ , ไฟแดง กากบาท ที่เครื่อง  ก็ดับลง , ได้เวลาปิดสถานี



ผม ออกจาก สถานี Shin Imamiya เป็น คนสุดท้าย




แล้ว ประตูม้วน ปิดสถานี ก็เลื่อนลง




เป็น ภาพที่สวยงาม  สำหรับผม
กว่า จะฝ่าด่าน แต่ละด่าน
หลุดพ้น กล่าวพ้น ออกมาจากประตู สถานี Shin Imamiya บานนี้



หวัง ว่า เรื่องเล่านี้ จะเป็นประโยชน์ สำหรับคนที่ กำลัง หาข้อมูลว่า
บินเที่ยวสุดท้าย สนามบินนานาชิติคันไซ จะไป ทัน รถไฟเที่ยวสุดท้าย หรือไม่



เพี้ยนฝันดี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่