ขอคำปรึกษา เรื่อง แม่พ่อ กับ โลกโซเชียลที่ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว

กระทู้คำถาม
มันเป็นเรื่องในครอบครัวเราเอง ตอนนี้พ่อกับแม่เรามีปัญหา เรื่องคนที่3 ที่มาจากเฟสบุคของแม่ เราคิดไม่ออกจริงๆ ก็เลยอยากถามความคิดเห็นจากเพื่อนๆเพื่อไปช่วยแก้ปัญหา และกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก สมัครมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ

เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เราอายุ 22 ปี่ เรียนอยู่มหาลัยในเมืองกรุง ส่วน ครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดเราก็มีโอกาสกลับบ้าน 2-3เดือน /ครั้ง จำได้ว่าช่วงเราอยู่มหาลัยปี1 ้ราได้สมัครเฟสบุคให้แม่ แกก็เล่นเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง คุยกับกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมเป็นส่วนมากในช่วงปีแรก ต่อมาๆก็เริ่มลงรูปตัวเองบ่อยๆ ทักทายเพื่อนๆในเฟสบ่อยๆ และ 2-3 ปีมานี้ แม่เริ่มรับเพื่อนที่ไม่ใช่คนรู้จัก มีผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน รุ่นน้อง รุ่นพี่บ้าง ทักทายกันแบบผู้ใหญ่ อย่างที่เพื่อนอาจจะเคยเห็นในเฟสบุค       จากนั้นเราเริ่มเห็นแม่โพสบ่อยขึ้นๆ และใครก็ไม่รู้มาทักทาย เราเองก็รู้สึกไม่ชอบเพราะรู้สึกว่ามันไร้สาระ แกเป็นผู้ใหญ่แล้วแทนที่จะมาโพสหรือทำอะไรที่ดูเป็นสาระมากกว่านี้ดีกว่าโพสนั่นนี่ไปวันๆ เราแทบจะไม่อยากเข้าไปดูเลย เพราะไม่ชอบ บางโพสก็มีทั้งเพื่อนผู้ชายเข้ามาทัก แต่โดยส่วนตัวแล้วเราก็รู้สึกไม่ชอบ ก่อนหน้านี้แม่ของเราเป็นคนไม่ค่อยออกสังคมเท่าไหร่ ช่วงหลังๆแกเริ่มเข้าสังคม ทำงานกับหมู้บ้านมากขึ้น และเริ่มมีเฟสบุคเรารู้สึกว่าแม่เราสดใสขึ้น ดูมีชีวิตชีวาขึ้น เราก็ดีใจที่เห็นแม่มีความสุข เราเคยเตือนแม่ไปแล้วครั้งนึงเรื่องการคุยกับเพื่อนในเฟสบุค บอกว่าให้คุยแต่กับคนที่รู้จัก อย่าคุยมั่วเรื่อยเปื่อยและโพสให้ดูเป็นผู้ใหญ่หน่อย แม่ก็โอเค เพราะแม่แคร์ความรู้สึกเรามาก แต่นานๆเข้าก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม เราก็เลยไม่อยากพูดละ เหก็นแกมีความสุขที่เล่นแบบนั้นเพราะมีเพื่อนคุย ไม่เหงา เราก็ยอมรับได้

แต่มาอยู่วันหนึ่งไม่นานมานี้ เราได้รับข้อความจากพ่อ ซึ่งพ่อเราก็เล่นเฟสบุคแต่พ่อเราค่อนข้างจะโพสแต่เรื่องที่เป็นสาระหรือผู้ใหญ่และไม่ได้คุยเล่นกับใคร เราก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องพ่อ พ่อส่งข้อความมาหาเราตั้งแต่ตอนตื่นนอนของวันที่ 26 พ.ย ประมาณ ตี4กว่า พ่อพิมพ์ระบายความรู้สึก ทีละน้อยๆๆๆส่งมา เป็นชั่วโมงๆ ส่งมาเป็นระยะๆจนถึง 6โมงกว่าๆ เพราะแกพิมช้าด้วย  เราตื่นประมาณ 7โมงเช้า (ตอนนั้นอยูหอพัก) เราก็มานั่งอ่านทั้งร้องไห้ เรื่องมีอยู่ประมาณว่า คืนวันที่ 25 คือวันลอยกระทง ตอนกลางคืนมีสายเข้าโทรศัพท์แม่ ที่โทรจากเฟสบุค และพ่อได้รับสายเพราะแม่ไม่อยู่ตรงนั้น ขึ้นชื่อและรูปผู้ชาย พอเขาได้ยินเสียงพ่อ เขาก็ตัดสาย และพ่อก็คิดมาก ว่าเป็นเพื่อนคุยกันทำไมต้องโทรมาด้วย จากนี้พ่อเริ่มระบายกับเรา ว่าทำไมแม่ต้องทำอย่างนั้น คุยกับใครนอกใจพ่อหรอ พ่อทำไรไม่ดีหรือไม่พอรึป่าว พ่อเป็นคนไม่เอาไหนเลยหรอ จากที่พ่อระบายพ่อก็ตัดพ้อว่าตัวเองทำหน้าที่สามีไม่ดีหรือป่าวทำไมแม่ทำอย่างนั้น พ่อไม่ไหว พ่อเสียใจมาก พ่อบอกว่าพ่อจะเข้มแข็ง เพื่อลูกทั้ง 2 คน แต่ตอนนี้พ่อหมดศรัทธากับแม่แล้ว แต่พ่อจะทำตรงนี้เพื่อลูก

จากที่เราได้อ่านข้อความพ่อเราร้องไห้ทั้งน้ำตา เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าแม่คุยอะไรแบบนั้นและเราก็ไม่ชอบ แต่ตอนนี้พ่อเรารู้และพ่อเราไม่ไหว เราก็เลยต้องทำอะไรสักอย่าง เราเสียใจเราอดทนได้ แต่พ่อเราเสียใจเราไม่ไหว เราก็ได้แต่ให้กำลังใจพ่อ บอกรักพ่อ บอกว่าหนูจะแก้ปัญหาเอง หนูจะคุยกับแม่เอง พ่อไม่ต้องทำอะไร พ่อใจเย็นๆ พ่อก็ตัดพ้อมาเรื่อยๆ แล้วหลังจากนั้นเราปรึกษาน้องสาว เล่าเหตุการณืให้ฟังว่าเป็นยังไงๆ น้องเราบอกว่า ให้เคลียร์กับแม่เลย ถ้างั้นจบไม่ดีแน่ๆ ตอนแรกเราไม่อยากเล่าให้น้องฟัง กลัวว่าน้องจะไม่เข้าใจอย่างเรา แต่เราไม่ไหวเราอยากให้น้องรับรู้และแก้ไขช่วยกันบอกแม่

แล้วช่วงเย็นๆเรากลับถึงหอพักเราก็พิมพ์ข้อความยาวๆ ทั้งความรู้สึกเรา ความรู้สึกพ่อ กับน้องเป็นยังไง ประมาณว่า สิ่งที่แม่ทำตอนนี้ ถ้าหนูรู้คนเดียวหนูรับได้ หนูเข้าใจว่าแม่มีความสุข เพราะก่อนหน้านี้แม่ไม่สดใสเหมือนตอนนี้ แต่ตอนนี้เรื่องมันไปกันใหญ่แล้วหนุไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ และตอนนี้พ่อเสียใจมาก พ่อร้องไห้มากๆ หนูไม่ไหว หนูก็เลย อยากบอกแม่ ให้เลิกคุยอะไรแบบนั้นกับคนที่ไม่รู้จัก คุยได้นะแค่กับเพื่อนที่เป็นผู้หญิงหรือเพื่อนที่รู้จักกันจริงๆ เพราะคนอื่นๆที่คุยเขาก็แค่คุยเล่นๆ ไม่ได้มีอะไรเลย เขาอาจจะทำให้แม่สบายใจเป็นบางเวลา แต่ความเป็นจริงแม่ควรกลับเข้าสู้โลกความเป็นจริง และไม่อยากให้แม่โพสอะไรที่เล่นๆเหมือนเด็กๆ ถ้าโพสหรือจะเล่นก็ให้สมวัยหน่อย เช่นไปประชุม หรือมีงาน ไม่ใช่นึกจะโพสก็โพสอะไรเหมือนวัยรุ่น ขนาดน้องที่ไม่รู้อะไรมันยังรู้สึกว่าแม่ติดเฟสมากเกินไป และตอนนี้พ่อไม้โอเคมากๆ ให้แม่ลองคิดกลับกันดูนะ ถ้าพ่อทำแบบนั้น คุยกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ เม้นกับคนนั้นคนนี้ที ใส่ใจเขา แคร์เขามากไป แม่จะรู้สึกยังไง เราพูดกับแม่ประมาณนี้

และแม่ก็ยอมรับทุกอย่างว่าแม่อาจจะปรับตัวเองให้ดีขึ้น แม่ไม่อยากเสียพ่อไป พ่อไม่เคยทำอะไรให้แม่ทุกข์ใจเลย และแม่ก็บอกว่า อย่าให้เราคิดมาก แม่กลัวลูกคิดมากแล้วเสียการเรียน ที่แม่คุยๆกับเพื่อนหรือเม้นเยอะๆเพราะเพื่อนในเฟสส่วนใหญ่ของแม่เขาก็เล่นกันเม้นกันแบบนี้บ่อยๆก็เลยทำให้แม่คิดว่าเป็นเรื่องปกติ และมาถึงวันที่ 27 พ่อก็ยังน้อยใจอยู่ไม่ได้คุยกันเลยกับแม่ แม่ก็ไม่รู้จะเริ่มคุยกับพ่อยังไงดี แม่บอกว่าถ้าพูดๆก็เหมือนยิ่งแก้ตัว แม่ก็เลยปรึกษาเรา เราก็บอกแม่ไปว่า ไม่ต้องทำอะไร ตอนนี้พ่อโกรธพ่อก็ใจร้อนและไม่คุยธรรมดา เดี๋ยวพ่อใจเย็นกว่านี้พ่อคงดีขึ้น ส่วนแม่ เราบอกแม่ว่าไม่ต้องพูดอะไรแค่เล่นเท่าที่สมควรและทำให้พ่อเห็นว่าแม่ยังรักและแคร์เขากว่าใครๆ การกระทำสำคัยที่สุด  

จากนั้นมากทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นๆๆ พ่อก็กลับมาเป็นแปกติ คุยกันเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เรากลับบ้านช่วงวันหยุดยาว เราก็เห็นพ่อกับแม่เป็นปกติดี แล้วเรื่องเกิดขึ้นอีกครั้งมื่อคืนวันที่ 7 ธ.ค. ช่วงกลางคืน แต่แม่เล่าให้เราฟังตอนวันที่ 8ธ.ค ตอนเช้า ตอนนี้พ่อไปทำงาน น้องสาวเราไป รร. เราอยู่บ้านกับแม่ กับ ตา แม่เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อคืนวันที่ 5 ธ.ค มีคนนั้น โทรเข้ามาและส่งข้อความมาว่า แม่เริ่มออกห่าง ไม่สนใจเขา และตอนนั้นแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะแม่ไม่อยากคุยแล้วแต่เขายังตื้ออยู่ แม่ก็เลยตัดสินใจเล่าให้พ่อฟัง ว่าเขาโทรมาขู่ว่าทำไมไม่ยอมคุย ทำไมตีตัวออกห่าง แม่ก็อธิบายคนนั้นไปว่า ตอนนี้ครอบครัวมีปัญหา จะไม่คุยแล้ว จะเลือกครอบครัว ส่วนคนนั้นก็ไม่ยอม บอกว่าจะมาเคลียร์ เขาอยู่ภาคใต้ เขาจะขึ้นมาเคลียร์ ซึ่งบ้านเราอยู่ภาคอีสาน แม่ก็ใจไม่ดี กลัวเขาจะมาทำร้าย แม่เล่าให้พ่อฟังพ่อก็เริ่มใจร้อน บอกให้แม่เปลี่ยนเบอร์ บล๊อกเฟส แม่ก็บล๊อกเฟส แต่เขาก็ยังโทรมาเบอร์มือถืออีก แล้วแม่ก็เลยให้พ่อคุย ต่างคนต่างใจร้อน คนนั้นก็บอกว่าจะไปเคลียร์ พ่อเราก็ท้าว่ามาเลย เคลียร์ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ใช้อารมณ์โมโห วางสายแล้วแม่บอกว่า ไม่อยากให้พ่อคุยแบบนั้นเพราะกลัวว่าเขาจะเอาจริง พ่อบอกว่าเอาก็เอา ตายก็ตาย แล้วตอนนี้แม่กลัวว่า ถ้าคนนั้นเอาจริงกลัวความปลอดภัยของพ่อ เพราะเขาคนนั้นบอกว่า โกรธพ่อมากที่ไปด่าเขา คนอื่นเขาไม่ทำอะไรหรอก แต่เขาไม่ยอมเรื่องพ่อ แล้วช่วงเข้าก็โทรมาอีกเพราะแม่ยังไม่เปลี่ยนเบอร์แม่ก็คุยให้เราฟัง แม่พยายามใจเย็นเกลี้ยกล่อมให้คนนั้นไม่ยุ่งกับครอบครัวอีก แต่เขาไม่ยอม คุยแล้วคุยอีกเขาก็ไม่ยอม แม่ก็เลยบอกว่าถ้ายังไม่ยอมอยู่ดีๆ แม่จะแจ้งความ เขาก็บอกว่าแจ้งเลย แม่ก็เลยปรึกษาเราว่าจะทำยังไงดี แม่ก็ไม่อยากคุยแล้ว แต่ยิ่งเงียบใส่ เขายิ่งโกรธกลัวว่าเขาจะเอาจริง แม่กลัวความปลอดภัยของพ่อ เราก็คิดไม่ออกไม่รู้จะทำยังไง อยากให้เลิกคุยไปเลย คือบล๊อกทุกอย่าง เปลี่ยนเบอร์ แต่ถ้ามันโกรธเอาจริง เขาก็รู้ว่าอยู่ จังหวัดไหนแถวไหน แต่อาจจะไม่รู้ที่อยู่จริงๆ เพราะในเฟสก็มีการเชคอินบ้างกลัวเขามาทำร้ายครอบครัว และถ้าคุยต่อแม่บอกว่าจะพยายามเกลี้ยกล่อมเขาให้ใจเย็น แต่มันก็ไม่โอเคป่ะ ที่ยังคุยอยู่และถ้าพ่อรู้พ่อจะว่าไงที่ยังไม่เลิกติดต่อ ตอนนี้เราก็เลยให้แม่บล๊อกเฟสเขา และถอดซิมนั้นออก .......แต่ก็กังวลอยู่ หรือเราคิดมากไป แม้ราก็กลัวเขาเอาจริง ส่วนพ่อบอกว่ามาเลย ตายก็ตาย เราก็เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆว่า เราควรจะทำยังไง T__T
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่