แชร์ประสบการณ์: อยากพูด อยากสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เริ่มต้นยังไง ฝึกอย่างไร?

กระทู้สนทนา
แชร์ประสบการณ์: อยากพูด อยากสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เริ่มต้นยังไง ฝึกอย่างไร?

เคยรู้สึกไหมว่า เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งหลายปี ตั้งแต่ประถม มัธยม จนมหาวิทยาลัย ก็ยังสื่อสารไม่ค่อยได้ ถ้าต้องคุยกับฝรั่งด้วยแล้วความมั่นใจยิ่งถดถอย? --เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกแบบนั้นมาก่อน แต่มาวันนี้อยากจะแบ่งปันประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาของเราให้เป็นแนวทางและสร้างกำลังใจให้กับทุกคนที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษ ให้ประสบความสำเร็จ และสื่อสารได้อย่างมั่นใจ

อยากพูด/ฟัง สื่อสาร ภาษาอังกฤษ ได้ เริ่มต้นยังไงดี?

ข้อที่1...ถามตัวเองว่าเคยคิดแบบนี้ไหม?
1.1 ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย ถ้าชอบก็เรียนสายภาษา/เอกภาษาไปแล้ว
1.2 ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เราหรอก
1.3 ไม่กล้าพูด สำเนียงไม่ดี กลัวพูดผิดไวยากรณ์ กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ
1.4 ภาษาอังกฤษยากเกินไปสำหรับเรา
1.5 ไม่รู้จะฝึกไปทำไม ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตจริง

ถ้าหากคำตอบคือ "เคยคิดแบบนี้" เกือบทุกข้อ^_^  สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ....

อันดับแรกเลย...เราต้อง "เปลี่ยนวิธีคิดใหม่" หรือ "เปลี่ยนทัศนคติ"นั่นเอง อันนี้สำคัญสุดเลย เพราะว่าถ้าเราเปลี่ยนวิธีคิด มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนชีวิตของเรา เพราะความคิดจะนำไปสู่การปฏิบัติ

1.1(ความคิดเดิม)-ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย ถ้าชอบก็เรียนเอกภาษาไปแล้ว
(ความคิดใหม่)- ไม่ต้องเรียนสายภาษา/หรือเอกอังกฤษก็เก่งได้ ถ้าเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เก่งกว่าคนที่เขาจบเอกนี้มา มันคงเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมากๆ

บางครั้งในชีวิตเราอาจจะมีสิ่งที่เราไม่ชอบแต่เราจำเป็นต้องทำ...ถ้าเรามองว่ามันจำเป็นและสำคัญ มันจะเป็นแรงกระตุ้นให้เราเริ่มมาสนใจที่ฝึกฝนตนเอง บางคนเก่งภาษาอังกฤษเพราะต้องใช้ในการทำงานหรือสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน บางคนเก่งเพราะเห็นว่ามันสำคัญมันทำให้ชีวิตและการงานก้าวหน้าขึ้น
โลกเราหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกขณะ ถ้าเราหยุดพัฒนาตนเองหรือไม่พัฒนาตน จะมีอีกหลายคนที่นำหน้าเราไปแล้วและเราจะเป็นคนที่ยืนอยู่สุดท้ายโดยไม่รู้ตัว...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง

1.2(ความคิดเดิม)-ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เราหรอก
(ความคิดใหม่)-เพราะว่าในชีวิตปัจจุบันเราไม่ได้สื่อสารแต่กับพ่อกับแม่เราน่ะสิ เราจะมัวแต่รักภาษาเดียวคือภาษาไทยไม่สนใจภาษาอื่นไม่ได้แล้ว😄 ปัจจุบันมีทั้งคนต่างชาติต่างภาษา หรือแม้แต่คนที่มีชาติเดียวกันกับเราเขาสื่อสารภาษาอังกฤษกันเยอะแล้ว แม้แต่ที่โรงเรียนก็ยังต้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ มันเป็นภาษาที่คนทั้งโลกเขาใช้สื่อสารกัน...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง

1.3 (ความคิดเดิม)-ไม่กล้าพูด สำเนียงไม่ดี กลัวพูดผิดไวยากรณ์ กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ
(ความคิดใหม่)-แม้ว่ามันอาจจะผิดบ้าง กล้าที่จะพูดเพื่อให้รู้ ดีกว่าไม่พูดแล้วทำให้ไม่รู้อะไรเลย /ผิดเป็นครู
จริงๆแล้วเวลาเราพูดภาษาอังกฤษ ชาวต่างชาติเขาเข้าใจว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาหลักของเรา และเขาเองก็เคยได้ยินสำเนียงภาษาอังกฤษแบบต่างๆมาแล้ว ถ้าเราจะพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงแบบไทยก็ไม่เห็นจะเป็นไร จะให้เป๊ะๆเหมือนเจ้าของภาษาได้อย่างไร แม้เวลาฝรั่งเขาพูดภาษาไทยของเรา เขาก็มีพูดผิดและปนสำเนียงของเขาเลย เราก็ยังเข้าใจ / เราอาจจะพูดผิดไวยากรณ์บ้างก็เพราะว่ามันไม่ใช่ภาษาหลักของเราก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไม่กล้าพูดเลยเรายิ่งไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด ถ้าเราสามารถพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการบอกก็ถือว่าเราสื่อสารได้สำเร็จ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ว่าที่พูดไปมันผิดเราก็จะได้แก้ไขและจำได้ยิ่งขึ้น (ผิดเป็นครู) /ไม่มีใครหัวเราะหรอก ...คนที่เขาพูดเก่งๆเขาก็คงผิดมาเยอะแล้วเลยจำได้เยอะกว่าเรา ดังนั้นเลิกกลัว เลิกกังวล...ต้องกล้าที่จะพูด/ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง

1.4(ความคิดเดิม)-ภาษาอังกฤษยากเกินไปสำหรับเรา
(ความคิดใหม่)-มันคงไม่ยากจนเกินความสามารถของเราหรอก

อย่าพึ่งลดทอนกำลังใจของตนเองว่ามันยากเกินไป ต้องคิดว่าถ้ามันยากเกินความสามารถของมนุษย์ก็คงจะไม่มีใครพูดได้เลย แต่ถ้ามันง่ายจนเกินไปทุกคนก็คงจะพูดได้...ที่มันยากก็คือทำอย่างไรเราจึงจะเปลี่ยนความคิดของเราได้และหันไปศึกษามันอย่างจริงจัง อย่าพึ่งยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นหรือยอมแพ้ระหว่างทาง...ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ทุกอย่างจะชำนาญได้ต้องอาศัยการฝึกฝนทั้งนั้น ดังนั้นเราต้องให้กำลังใจตนเอง อย่าพึ่งท้อแท้ค่ะ

1.5 (ความคิดเดิม)-ไม่รู้จะฝึกไปทำไม ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตจริง
(ความคิดใหม่) - รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม..
จริงๆแล้วมีเหตุผลมากมายที่เราควรหันมาสนใจภาษาอังกฤษ เพราะว่าเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกันทั่วโลก ถ้าเราเรียนหนังสืออยู่เราก็ต้องได้เรียนวิชานี้ ถ้าเราพึ่งเรียนจบไปสมัครทำงาน มันย่อมเป็นการดีที่เรามีทักษะด้านภาษา ถ้าเราต้องเดินทางไปต่างประเทศแล้วเรารู้ภาษาสากลนี้ก็ย่อมเป็นผลดีกับเรา ถ้าเราเป็นพ่อค้าแม่ค้า เมื่อมีชาวต่างชาติมาซื้อของเราสามารถสื่อสารได้ก็ย่อมดี หรือถ้าเราเป็นพ่อเป็นแม่ เรารู้ภาษาอังกฤษ มันจะช่วยให้เราประหยัดเงินทองค่าเรียนพิเศษภาษาอังกฤษของลูกเราได้อย่างมากเลยเพราะเราสอนเองได้พูดสื่อสารกันที่บ้านตลอด ทุกวันนี้แม้เราไม่ได้ไปต่างประเทศแต่ก็มีชาวต่างประเทศเข้ามาประเทศเรา เราต้องตระหนักว่ามันสำคัญและเราจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

หลายคนเมื่อสำรวจตัวเองดังที่กล่าวแล้วและเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว มีแรงบันดาลใจ ขั้นตอนต่อไปคือ "ลงมือฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ"

เรียนที่ไหน ฝึกยังไงถึงจะฟัง พูด เป็นและคล่อง?

1) ถ้าเราพอมีพื้นฐานอยู่บ้างแล้ว อ่านออก เขียนได้ พอสร้างประโยคง่ายๆได้ สามารถเรียนด้วยตัวเอง โดยอ่านจากหนังสือ ค้นหาและดาวน์โหลดบทเรียนฟรีจากอินเตอร์เน็ต มีเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นคลังความรู้ มีวิดิโอตาม YouTube ให้เราได้ฝึกการฟัง แล้วเราก็ฝึกฝนการพูดด้วยการพูดตาม เมื่อฝึกบ่อยๆก็จะชำนาญ
เรียนฟรีด้วยตัวเอง (ไม่ต้องเสียเงิน/แต่ต้องขยันและมีวินัย ในการฝึกฝนตนเองให้มาก)
2)ถ้าพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่มีหรือแทบจะไม่มีเลย อ่านไม่ออก ฟังก็ไม่รู้เรื่องสร้างประโยคไม่เป็น ถ้าอยู่ในขั้นนี้อาจจะต้องเริ่มฝึกจากการสนทนาคือฟังให้รู้เรื่องก่อน อาจหาบทเรียนฟรีหรือหาที่เรียนที่สอนเน้นการสนทนา มีคนคอยแนะนำ หรือให้คำปรึกษา เวลาเราสงสัยหรือมีคำถาม เมื่อพอมีพื้นฐานบ้างแล้วค่อยศึกษาด้วยตนเอง

ปัจจุบันมีสถาบันสอนภาษาอังกฤษเยอะที่รับสอนและให้คำปรึกษามีทั้งแบบไปเรียนที่สถาบันหรือสอนออนไลน์ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นหรือหลายหมื่น แต่สุดท้ายแล้ว การเรียนที่ประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่ที่ตัวเราเป็นหลัก⭐️⭐️⭐️

ปัจจุบันมีสื่อออนไลน์ฟรีมากมายให้เราได้ฝึกเรียนรู้ภาษา มีทั้งครูไทยครูชาวต่างชาติ ที่สอนสนุกและน่าสนใจ และน่าจดจำ ทำให้เราจะได้ฝึกฟังสำเนียงชาวต่างชาติได้โดยตรงด้วยค่ะ

(อ่านต่อ....ประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ของเจ้าของกระทู้ค่ะ...)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่