.....ตอบคุณ demi-angel "เมื่อไหร่ คนไทยจะเลิกแบ่งสีเสื้อ?”.....

กระทู้คำถาม
http://ppantip.com/topic/34532352

ลึกๆ ในใจของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ว่าเสื้อสีไหนๆ ก็ถามอย่างเดียวกันกับคุณ “เมื่อไหร่จะเลิกเสียที?” มันบั่นทอนและทำลายล้างโครงสร้างของสังคมไทยไปแทบจะทุกอณูแล้ว  ความสัมพันธ์เล็กๆ ระหว่างเพื่อน  ครูกับอาจารย์  ฆราวาสกับพระสงฆ์  ลามไปจนถึงสถาบันสูงสุด   ผมมองโดยส่วนตัว  ว่าตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังยืนหยัดในสิ่งที่เห็นตรงกันข้ามอยู่อย่างแข็งขันก็จะยังคงอึมครึมกันอยู่อย่างนี้กันต่อไป



การ “โกง”  ไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ที่พึ่งเกิดในยุคของทักษิณ   ทั้งก่อนหน้านี้เป็นร้อยๆ ปี/และหลังหน้านี้ หรือแม้แต่ปัจจุบัน ณ ชั่วโมงนี้การโกงก็ยังดำรงอยู่   ที่พูดตรงนี้ไม่ใช่ว่าเห็นดีเห็นงามกับการโกงอะไร   ที่พูดก็เพราะรู้สึกเสื่อมศรัทธาต่อกลุ่มคนที่อ้างและใช้การ “โกง” เป็นอาวุธประหัตประหารคนอื่นในขณะที่ตัวเองก็ไม่ต่างกันเลย     ถ้าหากคนไทย “บางส่วน” ยังฝังจิตฝังใจว่า “การโกง” เป็นปรากฏการณ์ “เกิดๆ ดับๆ” คือเริ่มเกิดขึ้นในยุคทักษิณ  แล้วยุคพลเอกสรยุทธ์การโกงก็หายไป   แต่ก็ย้อนกลับมามาใหม่อีกในยุคสมชาย   แล้วจู่ๆ ก็หายต๋อมไปในยุคอภิสิทธิ์   แต่แล้วก็ย้อนกลับมาอีกในยุคยิ่งลักษณ์   แล้วก็หายไปอีกในยุคปัจจุบัน ??   หากเห็นการโกงเกิดๆ ดับๆ เช่นนี้ประตูแห่งการปรองดองก็ยิ่งจะแคบลงๆ



อย่างไรก็แล้วแต่   การโกงเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ข้ออ้างที่ฝ่ายหนึ่งประโคมข่าวให้กับแฟนคลับอีกฝ่ายหนึ่งเกลียดชังแฟนคลับของอีกฝ่าย   ยังมีอะไรอีกหลายส่วนที่เป็นปัจจัยให้คนไทยต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่าย   เช่นว่า ความยุติธรรม/อยุติธรรม   ความอิจฉาริษยา  และสำคัญที่สุดคือการไม่เคารพกติกา   ใครหรือฝ่ายไหนทำอย่างไร?  ก็รู้กันดีทั้งสองฝ่าย

คุณ demi-angle บอกว่า
เราคนนึงยอมรับ ว่าเมื่อก่อนเคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตอนแรกเป็นทั้งเหลือง เพราะคิดว่าทักษิณโกง
ต่อมาเป็นแดง พอเริ่มเห็นว่าเหลืองไม่เข้าท่า
พอ รบ.ปู ออก พรบ.บ้าๆ นั่น เราก็เลิกฝักใฝ่การเมืองแบบจริงๆ จังๆ เพราะเราตาสว่างแล้ว


เรื่อง “โกง” ผมได้อธิบายไปแล้วข้างบน   ทักษิณโกงจริงหรือไม่จริงก็ให้เป็นดุลยพินิจของแต่ละคน   แต่ที่ผมอยากจะร่วมแสดงความเห็นของผมด้วย   ซึ่งเชื่อว่าทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงอาจจะไม่เห็นด้วยกับผมเลยก็คือ  เรื่อง “พรบ. บ้าๆ นั่น” ที่คุณเอ่ยถึง


ตอนพรบ. สุดซอยออกมา   ผมก็ผิดหวังอย่างมาก  ล็อคอินดังๆ ในห้องนี้ที่เป็นคนเสื้อแดงก็ผิดหวัง  เอาเป็นว่า...ไม่ใช่เฉพาะเสื้อเหลืองหรือหลากสีหรอกนะที่ผิดหวัง   เสื้อแดงอย่างผมและหลายๆ คนผิดหวังอย่างแรง........แต่เมื่อเวลาผ่านไปๆ ไม่กี่เดือนผ่านมานี่เอง   ผมเริ่มรู้สึกว่าความแตกแยกของคนไทยมันลึกลงไปเรื่อยๆ   เกี่ยวโยงเอาแทบทุกสถาบันเข้าไปอยู่ในวังวนแห่งการแตกแยกตรงนี้(ย้ำว่าทุกสถาบัน)  การปฏิวัติแม้นำมาซึ่งความเรียบร้อย   แต่ก็เป็นความเรียบร้อยบนพื้นผิวหากแต่ลึกลึงไปความแตกแยกยังคงอยู่     พูดแบบไม่อ้อมค้อมก็แล้วกันนะครับเพราะพิมพ์มายาวแล้ว  ตอนนี้  ในสถานการณ์ที่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์  ผมชักเริ่มจะเห็นด้วยกับพรบ. นิรโทษฯ    ในฐานะคนเสื้อแดง  แม้อยากจะเห็นคุณอภิสิทธิ์และสุเทพได้รับโทษจากการปราบชุมนุมที่ทำให้คนไทยด้วยกันเสียชีวิตมากมายนั้นขนาดไหน   ผมคิดไปในทางธรรมว่า  กรรมคงจะตามสนองและลงโทษเขาเองสักวัน    เช่นเดียวกันกับคุณทักษิณและคุณยิ่งลักษณ์  ถ้าผิดจริงๆ หลักฐานและการลงโทษก็คงจะตามมาแน่นอน   ไม่มีใครหนีบ่วงกรรมพ้นผมคิดอย่างนี้    พรบ. นิรโทษ ก็เป็นการให้อภัยทางกฏหมาย   ส่วนใครทำกรรมอันใดไว้ก็จะได้รับผลของเขา   ณ ตอนนี้ทั้งผมและคุณต่างก็ไม่แน่ใจว่าใครตาสว่าง    คุณมองว่าเป็นพรบ. บ้าๆ   ส่วนผมตอนนี้ผมกลับมองตรงข้าม(และอาจจะตรงข้ามกับทั้งคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงหลายคนด้วย)



สมัยผมเรียนชั้นประถม....ในตำราเรียนภาษาไทยเขาเอานิทานชาดกเรื่อง “ฑีฆาวุกุมาร” บรรจุเข้าในตำราด้วย    ฑีฑาวุทำทุกวิถีทางที่จะ “ล้างแค้น” ให้พ่อที่ถูกฆ่าตาย   เขาพยายามอยู่หลายปีในที่สุดก็ได้เข้าไปรับใช้ศรัตรูผู้ซึ่งฆ่าพ่อของตัวเอง   เขาเป็นที่ไว้วางใจมาก...วันหนึ่งเขาออกไปล่าสัตว์ด้วยกัน   ศรัตรูคนที่ฆ่าพ่อเขาเหนื่อยล้าแล้วขอหลับบนตักของเขา.....นั่นเป็นโอกาสทองที่เขารอคอยและเพียรพยายามมาเป็นสิบๆ ปี  ศรัตรูนอนหลับสนิทอยู่บนตัก   เขาเงื้อพระขรรค์จะแทงเสียให้ตาย...สุดท้าย  เขาก็ฉุกคิดว่า  ถ้าเกิดฆ่าเขาตายเสียแล้ว  ลูกเขาก็คงจะย้อนกลับมาฆ่าเรา  และในอนาคต “เวร” ก็จะถูกผูกและจอง “เวร” กันไปเรื่อย   สู้ระงับ “เวร” ไว้เสียตรงนี้....เขาให้อภัยศรัตรูผู้ซึ่งกำลังนอนอยู่บนตักของเขา    เป็นนิทานสอนใจ......เรื่องการให้อภัยแล้วโยงเข้าหาพรบ. นิรโทษของคุณยิ่งลักษณ์(เสี่ยงให้ทั้งฝ่ายเหลืองและฝ่ายแดงด่าผมเล่นๆ เท่านั้นเอง)

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่