สำหรับคนที่อยากแต่งงานในงบที่ควบคุมได้(หรอออ)

สวัสดีค่ะ งานแต่งของ จขกท พึ่งผ่านไปไม่นาน แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง  งานแต่งที่เราจัดเป็นงานเล็กๆ ค่ะ จัดกันเอง เชิญเฉพาะคนสนิท เลยสามารถคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในหลักหมื่นได้ โดยที่พิธีก็ยังครบถ้วนสมบูรณ์ค่ะ แต่ถึงค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่หลักหมื่น ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ดีนะคะ ถ้าเทียบกับขนาดงานที่ถูกจัดขึ้น ยังดีที่ทั้งเราและเจ้าบ่าวก็ยังพอมีเชื้อของคนที่ชอบ D.I.Y. อยู่บ้าง ของบางอย่างเลยทำเองได้ เลยไม่ต้องไปเสียเงินกับอะไรที่ไม่จำเป็นเยอะนักค่ะ เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลยนะคะ

ในงานแต่งของเรา ทั้งเราและเจ้าบ่าวคุยกันไว้ว่าจะมีพิธีเช้าพร้อมทั้งเลี้ยงโต๊ะจีนตอนเที่ยงรวบไปเลยทีเดียวค่ะ ไม่มีงานเย็น (แต่ถึงยังงั้นตอนเย็นเราก็พาเพื่อนๆ ไปสังสรรค์ร้องคาราโอเกะกันสนุกสนานพอเป็นพิธีค่ะ) เมื่อคุยกันแล้วก็หาฤกษ์หายามและสำรวจราคาแพ็คเกจถ่ายรูปพรีเวดดิ้งค่ะ เราทั้งคู่ได้เลือกร้านไว้หลายที่ เรียกได้ว่าเข้าออกแทบทุกร้านในจังหวัดเลยค่ะ ใช้เวลากับการหาร้านถ่ายพรีเวดดิ้งมากที่สุดแล้ว เนื่องด้วยเราจัดงานระยะเวลากระชั้นชิดมาก มีเวลาแค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น ข้อจำกัดของเราเลยเยอะ สุดท้ายจึงมาได้ร้านที่ถูกใจและสามารถรับมือกับข้อจำกัดของเราได้ในราคา 14,400 บาทค่ะ (สิ่งที่ได้คือ ถ่าย outdoor และ indoor ได้รูปกรอปหลุยส์ขนาดต่างกัน 2 รูป ได้รูปตั้งโต๊ะพร้อมกรอบ 5 รูป ได้ไฟล์รูปปรับสีทั้งหมด และไฟล์รีทัช 5 รูป และชุดวันจริง 1 คู่) ไฟล์รูปถ่ายพรีเวดดิ้งทั้งหมด เราเอามารวมกับรูปถ่ายเล่นของเราแล้วทำเป็น presentation แบบง่ายๆ ค่ะ ทำกันเอง เลือกกันเอง สนุกดีนะคะ

ส่วนการ์ดงานแต่งก็ทำกันเองค่ะ เจ้าบ่าวพอทำ Photoshop ได้อยู่บ้าง เลยจัดการทำการ์ดตามแบบที่ต้องการ แล้วก็ไปร้านอัดรูป เราทำการ์ดเชิญทั้งหมด 100 ใบ ราคาใบละ 4 บาทค่ะ ซองก็ซื้อที่ร้านเครื่องเขียน 100 ซองก็ 120 บาทนะจ๊ะ ส่วนของชำร่วยเราก็ทำเองอีกนั่นแหล่ะค่ะ เราไปเดินหาซื้อขวดโหลเล็กๆ เพื่อเอามาใส่น้ำผึ้งทำเป็นของชำร่วยในจตุจักรค่ะ (ในจตุจักรมีแบบสำเร็จรูปขายนะคะ แต่เราอยากทำเองมากกว่า) ตอนแรกก็ว่าจะเอาผ้ากระสอบคลุมฝาขวดแล้วมัดด้วยเชือกป่าน แต่กลายเป็นว่าขวดที่เราเลือกมามันเล็กไปใช้เชือกมัดแล้วไม่สวยค่ะ ก็เลยปรับไอเดียนิดหน่อย เอาขวดโหลมาแต่งให้เหมือนขวดยาสามัญประจำบ้าน โดยการติดสติ๊กเกอร์เป็นฉลากยาค่ะ ค่าขวดโหล 100 ขวด ราคา 450 บาท และค่าสติ๊กเกอร์ติดขวดอีก 90 บาท (ซื้อสติ๊กเกอร์มาเหลือเฟือมากค่ะ 50 แผ่น ใช้ไปแค่ 3 เอง) เท่านี้ก็ได้แล้วค่ะ ของชำร่วยราคาไม่แพง



ของรับไหว้ของเรา ตามที่ผู้ใหญ่บอกมานะคะว่าของรับไหว้จะต้องเป็นผ้า เราคิดว่าพวกผ้าเช็ดมือหรือผ้าขนหนูมันเล็กไปค่ะ อยากได้ผ้าผืนใหญ่ๆ เลยมาลงเอยที่ผ้าห่มขนนุ่มๆ ค่ะ ยิ่งใกล้หน้าหนาวด้วย ให้ผ้าห่มขนนุ่มๆ คงได้ใช้ประโยชน์กันแน่นอน เราเลยไปซื้อผ้าห่มที่โรงเกลือค่ะ ราคาถูกกว่าผ้ารับไหว้ตามร้าน wedding ซะอีก แถมยังมีซองกระเป๋าใส่ให้ด้วย ซื้อทั้งหมด 30 ผืน ราคาผืนละ 80 บาทค่ะ ผู้ใหญ่หลายท่านชอบมากกกกก บอกว่าของรับไหว้เราใช้ประโยชน์ได้ แถมยังนุ่มนิ่มมากๆ เสียอีกด้วยนะคะ

ลืมบอกไปค่ะ งานแต่งเราจัดที่บ้านนะคะ เลยไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องสถานที่ค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ต้องตกแต่งสถานที่ใช้สวยงามเนอะ จขกท เลือกใช้ฟางเป็นพร็อบจัดสถานที่ค่ะ  พอดีพอมี connection กับชาวนาอยู่บ้าง ก็เลยติดต่อของซื้อฟางจากเค้าช่วงที่เราสั่งซื้อเป็นช่วงที่เค้าเริ่มเก็บเกี่ยวไปนานแล้วค่ะ ทำให้ราคาฟางมัดนึงแพงกว่าปกติเพราะฟางเริ่มหายาก แล้วยังต้องให้เค้าขนมาส่งที่บ้านด้วย ก็เลยต้องเสีย 2 ต่อ ทั้งค่าฟางและค่ารถ จขกท สั่งซื้อฟางมา 30 มัด มัดละ 40 บาท รวมค่ารถด้วย ทั้งหมดราคา 1700 บาท จัดวางให้สวยงาม เอาแคร่ (มีอยู่แล้ว) มาวาง แล้วก็เอาร่มขายของมาพ่นสีขาว เอาผ้ามุ้งมามัดโยงไว้สวยๆ ได้อารมณ์บ้านทุ่งมากๆ ค่ะ



Backdrop หลังตั่งหลั่งน้ำสังข์ก็ทำกันเองอีกนั่นแหล่ะค่ะ จขกท เอาผ้าม่านที่มีอยู่แล้วมากั้น แล้วใช้โฟมตัดเป็นซุ้มโค้งๆ ไปติดด้านบนของม่าน เอาดอกกุหลาบที่ทำขึ้นเองจากทิชชู่มาติดโฟม พ่นสีนิดหน่อยให้มีสีสันสวยงาม เอากระดาษสีเขียวมาทำใบติดกับลวดแล้วเอาฟลอร่าเทปพัน ทำให้เป็นก้านดอกแล้วพันให้เลื้อยๆ ไปตามซุ้มค่ะ (อุปกรณ์ทั้งหมดมีอยู่แล้วนะคะ จขกท ไม่ได้ซื้อจ้า) ส่วนป้ายโฟมติดด้านหลัง อันนี้จขกท ไม่สามารถจริงๆ ค่ะ ต้องเสียเงินจ้าง ได้ป้ายทั้งหมด 4 ป้าย ราคา 2000 บาท (สามป้ายที่เหลือเป็นป้ายบอกทางมาบ้านงานค่ะ)


ตั่งน้ำสังข์ อุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ในพิธี หายืมได้จากที่วัดนะคะ ตอนเอาไปคืนก็บริจาคค่าบำรุงไปตามศรัทธาค่ะ จขกท บริจาคไป 1000 บาท ส่วนดอกไม้รองน้ำสังข์ก็สั่งให้ร้านดอกไม้ทำให้ค่ะ รวมค่าพวงมาลัยงานแต่ง ดอกไม้ไหว้พระพุทธและพระสงฆ์ ทั้งหมด 2000 บาทค่ะ ส่วนซองใส่ถวายพระจัดชุดดอกไม้ธูปเทียนทั้งหมด 9 รูป ตกอยู่ที่ 350 บาทต่อรูป รวมซองถวายพระพุทธด้วยนะคะ เป็นเงิน 3500 บาท

ทีนี้มาถึงเรื่องอาหารกันบ้างนะคะ เนื่องด้วยเราจัดงานตอนเช้านะคะ เรากลัวว่าแขกจะหิ้วท้องรอ ก็จะมีของว่างเป็นขนมเค้ก กาแฟ และโอวัลตินสำเร็จรูปด้วยค่ะ ราคาทั้งหมดจะอยู่ที่คร่าวๆ นะคะ 2000 บาท และมีค่าน้ำแข็งถังใหญ่อีก 240 บาท จขกท เลือกร้านอาหารที่รับจัดโต๊ะจีนนอกสถานที่ ราคาโต๊ะละ 1400 บาท สั่งมา 12 โต๊ะค่ะ รวมโต๊ะสำหรับพระฉันแล้วนะคะ ที่สั่งโต๊ะมาแค่นี้เพราะ จขกท แจกการ์ดไม่หมดค่ะ แจกไปแค่ 40 ใบ เองนะคะ แต่โต๊ะก็เกือบไม่พอแน่ะค่ะ เวลาแจกการ์ด แจกไปเท่าไหร่ให้คูณสองไว้เลยนะคะ ไม่งั้นจำนวนโต๊ะไม่พอแน่ๆ ค่าอาหารและค่าขนส่งโต๊ะและเก้าอี้ทั้งหมด 17300 บาท และค่าเช่าเต็นท์อีก 1000 บาทค่ะ
ส่วนเรื่องค่าจิปาถะนะคะ (สามารถตัดออกได้ ไม่จำเป็นค่ะ) แบ่งเป็นค่าจัดขบวนขันหมาก 9 คู่ 7000 บาท ค่าช่างแต่งหน้า 2000 บาท ค่าช่างกล้องไม่เสียค่ะ (ถ่ายกันเองสนุกกว่า จริงๆ ก็อยากจะประหยัดด้วยค่ะ) และค่าของจุกจิกตกแต่งสถานที่ (สมุดเขียนคำอวยพรทำเอง กล่องใส่ซองทำเอง) อยู่ที่ราวๆ 2000 บาทค่ะ อ่อ แล้วก็ยังมีค่าเช่าห้องคาราโอเกะอีก 4 ชั่วโมงรวมค่าอาหารเลี้ยงเพื่อนๆ อยู่ที่ 10000 บาทค่ะ





สรุปกันเลยดีกว่านะคะ
Pre-wedding 14,400 บาท
การ์ด+ของชำร่วย+ของรับไหว้ 3,460 บาท
ตกแต่งสถานที่(ฟาง) + ป้าย 3,700 บาท
บริจาคค่าเช่ายืมตั่งหลั่งน้ำสังข์+พานดอกไม้+ซองถวายพระ 6,500 บาท
ค่าของว่าง+ค่าโต๊ะจีนเที่ยง+ค่าเต็นท์ 20,540 บาท
ค่าจิปาถะ 21,000 บาท
รวมทั้งสิ้น 69,600 บาทค่ะ
ค่าใช้จ่ายจำนวนนี้สามารถจัดงานแต่งเก๋ๆ ได้ครบถ้วนสมบูรณ์เลยนะคะ จริงๆ แล้วตัว จขกท เองวางงบไว้ไม่เกิน 50,000 บาทค่ะ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ มันก็มีค่านู่นค่านี่เข้ามา แล้วทุกอย่างล้วนจำเป็นทั้งนั้น งบก็เลยบานปลายอย่างที่เห็น ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้บานเกินกว่าที่คาดไว้เท่าไหร่นักค่ะ
จขกท ก็หวังว่ากระทู้นี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับคู่รักที่กำลังจะแต่งงานบ้างไม่มากก็น้อยแหล่ะเนอะ อย่างที่รู้กันแหล่ะค่ะว่าการจัดงานแต่งซักงานมันเหนื่อยและค่าใช้จ่ายเยอะขนาดไหน แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เมื่อวันนั้นของเรามาถึง มันก็คือความสุขของเราแหล่ะค่ะ จริงไหมคะ ^^




จากลากันด้วยภาพนี้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่