เวลาคุนรู้สึกอึดอัด และถูกกดดันมากๆ คุณมีความอดทนในการรับมือมากแค่ไหน??

เราก้อไม่ขอพูดไรมาก ไม่ต้องแนะนำตัว เอาเป็นว่า เราเปนมนุษย์เงินเดือนคนนึง ที่ไม่ได้มีชีวิตติดหรู ไม่ใช่คุนหนูไฮโซ เงินเดือนก้อไม่ได้มากเท่าไร เอาตรงๆ ไม่เคยพอใช้เลยสักเดือน เราจบป.ตรี แต่เงินเดือนตัดนู้นนี่นั่น ก้อเหลือแค่เก้าพันนิดๆ แถมถามว่า ทำไมไม่หางานใหม่ที่เงินเดือนเยอะๆ เราพึ่งเรียนจบใหม่ๆ อีกอย่างยังไม่อยากย้ายไปไหน อยากอยู่บ้านดูแลคนในบ้าน เกบเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้สักปี สองปีก่อน แล้วตั้งใจว่าจะหางานใหม่ แต่ชีวิตยิ้มก้อไม่ได้เปนไปอย่างที่วาดฝัน ช่วงชีวิตที่ทำงานแรกๆ ใครก้อว่าดี ไอนู่นก้อดี นี่ก้อดี ดีไปหมด เราก้อว่างั้น เพราะแรกๆนิสัยส่วนลึกของแต่ละคนยังไม่ออกมาไง เลยไม่สามารถที่จะไปตั้งอคติกับใครได้ ซึ่งเราก้อเปนคนที่อะไรก้อได้ ใครจะยังไงก้อได้ ไม่ค่อยต่อปากต่อคำกับใคร (ถ้าทนไม่ได้จิงๆ) ทำไมอะหรอ ก้อเพราะเราสำเนียกตัวเองไง เราเจียมตัว เตือนตัวเองตลอดว่า เรามาทีหลัง พึ่งจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ทำงานอะไรเลย ซึ่งที่นี่ก้อดันเปนที่แรกซะด้วย เราคิดเสมอว่า ถ้าเราจิงใจกับใคร เราก้อจะได้รับความจิงใจกลับมา (โลกสวยมากก เราอ่อนหัด มองโลกแง่ดี ป่าวหรอก คนอย่างเราเค้าเรียกว่าซื่อ ซื่อบื้ออออ จนโง่เลยล่ะ) อย่างที่บอกตั้งแต่แรก เราจบป.ตรี เพราะฉะนั้นหน้าที่การงานของเราก้อค่อนข้างจะดีนิดนึง เอาง่ายๆ คือมีระดับอะ แต่ๆๆๆๆๆๆ ท่านเจ้าคุนเอ้ยยย ก้อไอ่เพราะวุฒิการศึกษากับระดับตำแหน่ง นี่ล่ะเจ้าข้าเอ้ยยยย ที่เปนประเด็นอยู่ทุกวันนี้ (คิดตามนะค่ะ เอาใหม่ๆ เราพึ่งจบป.ตรี ไม่มีประสบการณ์การทำงานที่ไหน แต่มีตำแหน่งในระดับหนึ่ง) นั่นแหละค่ะ น่าจะเปนจุดเกิดของปันหาทั้งหมด เรามาทีหลัง แต่มาอยู่ในระดับตำแหน่งที่เหนือกว่า (ซึ่งไม่ได้สูงกว่าอะไรเลย) เข้าเรื่องเลยน่ะ ก้อคือ เราก้อไม่ใช่คนเก่งอะไร ออกจะขี้เกียจซะด้วยซ้ำ แต่เวลาที่ได้รับมอบหมายงาน ถึงแม้วว่าเราจะไม่เคยทำเลย ไม่เคยผ่านตา เปนงานแรก แต่เราก้อพยายามทำให้มันจนเสร็จ ไม่ได้จะบอกว่าเราเก่งน่ะ เราแค่กัวเค้าไล่ออก กัวจะเสียประวัติ เพราะที่นี่คือที่ทำงานที่แรก เราพยายามเรียนรู้งานจากผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน แรกๆก้อผ่านไปด้วยดี แต่พอผ่านโปรนี่สิ ชีวิตยิ่งกว่าตกนรกทั้งเป็นซะอีก เรานึกถึงตอนเด็กๆที่ร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน นี่เลยค่ะชีวิตเราตอนนี้เลย เราไม่อยากลืมตาตื่นมาตอนเช้า เพราะเราไม่อยากไปทำงาน แต่ชีวิตจิง ยิ้มเลือกไม่ได้เลย เราต้องตื่นทุกเช้า กัดฟันไปทำงานทุกวัน บางครั้งก้อทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แต่งานที่ได้รับมอบหมายต้องเสร็จ เราพยายามไม่สนใจคนรอบข้าง นอกจากหน้าที่ของเรา แต่คุนๆๆๆๆๆๆค่ะ งานทุกงาน ใช่ว่าจะทำคนเดียวเสร็จได้ งานบางงานเปนงานลูทีน ที่ต้องอาศัยความร่วมมือของทีมงาน เราแบกหน้าไปขอความร่วมมือจากทีมงาน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ มองเราด้วยสายตาดูถูก ทำปากเบ้ แล้วพูดว่า "อืมๆๆ เอาวางไว้นั่นแระ เดวดูเอง" สลัดเอ้ยยยยยย นี่ถ้าตรูทำคนเดียว ตรูไม่ง้อหรอกว้อยยย แล้วอะไรอีก อ่าาา ก้อแบบหลอกด่าเรามั้งล่ะ เอาเปรียบบเรา ดูถูกเราทุกอย่าง หาว่าเราทำอวดดี เคยมีน่ะ มีบางครั้งแกล้งเราจนเราต้องอับอายขายขี้หน้าเพื่อนร่วมงานด้วยกัน คือ "เราไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไร เค้าก้อเลยไล่เราให้ไปตายแล้วเกิดใหม่" อร้ายยยยย เหี้ยมมม แรงไปป่าวว่ะ พูดแบบนี้ เราหน้าเหวอไปสิครัช บางครั้งแกล้งกันแรงไป เราต้องแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ ไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง จนเพื่อนเราเองก้อทนไม่ไหว บอกให้เราลาออก เราก้อบอกเพื่อนว่าไม่เปนไร เราทนได้ จนเวลาผ่านแล้ว ผ่านเล่า เราก้อมีเรื่องชวนเครียดไม่เว้นแต่ละวัน ทางออกที่ดีทีสุดคือเล่าให้เพื่อนสนิทในกลุ่มฟัง เพื่อนเราก้อดีน่ะ น่ารักทุกคน รับฟังปันหาของเราทุกเรื่อง ด่าเรามั้งล่ะว่าจะทนไปถึงไหน ใช้ให้ไปลาออกมั้งล่ะ แต่สุดท้าย ก้อเคารพในการตัดสินใจของเรากันทุกคน จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนครบปี เราก้อเจอแต่เรื่องเดิมๆ ตลอดทั้งปี มีเพื่อนเปนที่ระบายตลอดทั้งปีเช่นกัน สุดท้าย เราก้อทนแรงกดดันไม่ไหว ไปยื่นใบลาออกทันที แต่มันไม่เปนอย่างใจต้องการเลยสักอย่าง เราอยากออกเพราะอยากหางานใหม่ อยากได้สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีกว่านี้ อยากมีเพื่อนร่วมงานที่ดี ไม่ใช่จ้องจะกัด และกลั่นแกล้งกันทุกวันแบบนี้ ผู้บังคับบัญชาเรียกคุย แล้วให้ปรับอารมณ์เราใหม่ อย่างที่บอกตั้งแต่แรก เราอะไรก้อได้ เค้าบิ้วเรา ไม่ให้เราออก เราก้อโง่เนาะ เชื่อเค้า อดทนทำต่อ มันก้อดีขึ้นน่ะ ดีขึ้นแค่ช่วงแรกๆอีกเหมือนเดิม พอเรื่องที่เราจะออกเริ่มซา ปัญหาก้อเริ่มเข้ามาทันที แต่ทีนี้น่ะสิ มันหนักกว่าเก่า เราไม่รู้ว่าเราไปทำอะไรให้กับเค้า เค้าถึงได้จงเกลียดจงชังเราได้ขนาดนี้ มันเปนเรื่องเดิมๆ เรื่องวาจา กิริยา มารยาท ดูถูก เหยียดหยาบ กดดันเราทุกทางจิงๆ เราเหนื่อย เราเครียด เราคิดมาก เราไม่อยากไปทำงาน จะเล่าให้เพื่อนฟังอีก ก้อเปนเรื่องเดิมๆ กับคนๆเดิม ก้อเกรงใจเพื่อนมัน ที่ต้องมาฟังอะไรซ้ำๆซากๆ เหมือนดูหนังม้วนเดิม ดูซ้ำแล้วเปนร้อยๆรอบ แต่ไม่จบสักที จะเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง มันก้อเปนเรื่องเด็กๆ ไร้สาระ ไม่อยากทำให้ท่านไม่สบายใจไปกับเราด้วย ก้อเลยเลือกที่จะเกบไว้ เกบไว้คนเดียวแบบนี้ สะสมเข้าทุกวัน (ที่สะสมอ่ะ ไม่ใช่สมบัติล้ำค่าน่ะ แต่มันเปนความรู้สึกของเรา ที่ยิ้มโครตจะอึดอัด กดดัน และเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ) เราเก็บกดมากๆ เครียดมากๆ ไม่ได้เล่า ไม่ได้ระบายให้ใครที่ไหนฟัง เรากัวว่าวันนึงมันจะระเบิดออกมา และสิ่งที่กัวไปมากกว่านั้น เรากัวว่าก่อนที่มันจะระเบิด เส้นเลือดในสมองเราอาจจะแตกก่อนน่ะซิ  
เคยเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง เพื่อระบายความอึดอัดบางส่วน พระเจ้าาาา เช้ามาาารู้กันทั้งบริษัท สลัดเอ้ยยยย สังคมภายนอก มีใครไว้ใจได้มั้ง บอกเลย ไม่มี  พลาดที่เรา เราน่าจะเล่าให้เพื่อนเราฟัง ถึงจะโดนมันด่ามั้ง บ่นมั้ง ไม่รับฟังมั้ง แต่เราเชื่อว่ามันรักเรา มันอยู่ข้างเราเสมอ ไม่ว่าเราจะเปนยังไง เราไม่น่าเล่าให้เพื่อนที่ทำงานเลย ตอนเล่า ใครๆเค้าก้ออยากฟัง เรื่องของคนอื่นนิ รีบเผือกกันเชียว ทำเปนรับฟัง ให้คำปรึกษา ปลอบโยน ยังงี้ยังงั้น สุดท้าย พอเราหันหลังให้ ก้อเอาเราไปเผาให้แผนกอื่นฟัง จนยิ้มทีนี้มีคนปลอบเราทั้งบริษัทเลยจ้าาาาาาาา คือว่าตรูชอบหราาาาาา สลัดผักแก้วเอ้ยยย บทเรียนเลยจ้าา บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันนั้นเราไม่กล้าที่จะเล่าอะไรให้คนที่ทำงานฟังอีกเลย ปากไวยิ่งกว่าจรวดซะอีก แถมใส่ไข่ไปด้วยย โถๆๆๆ ชีวิตตรู น่าสมเพชจิงๆๆ แล้วยังไง แล้วเราเอาไงกับชีวิตต่อ ก้อพอได้ระบาย หายเครียด มีคนรับฟัง ตื่นเช้ามาเราก้อไปทำหน้าที่ของเราเหมือนเดิม จนเพื่อนเรามันเอือมระอากับเรา มันบอกเราว่า "เราอดทนยิ่งกว่าอูฐในทะเลทรายซะอีก" เห้ออออ เราก้อได้อยากจะทนสักหน่อย แต่เพราะเรามีหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ เรามีหนี้สินพะรุงพะรัง ตั้งแต่เรียนจบ และอีกมากมายหลายอย่าง สาทะยายไม่หมด เอาเปนว่า ถ้าเราได้งานใหม่ที่ดีกว่า เงินเดือนมากกว่า สามารถพอที่จะชำระหนี้สินต่อเดือนได้ และมีเหลือใช้ในแต่ละเดือน หรืออาจจะสอบงานราชการติดที่ไหนสักที่ เราก้อคงจะไม่อดทนกับเพื่อนร่วมงานห่วยแตกแบบนี้ต่อไปอีกแน่นอน........


โล่งงง ยิ้มพ่นน้ำหมาก ระบายออกไปซะบ้างง จะได้ไม่บ้าตาย นี่เปนแค่น้ำจิ้ม ทีเด็ดมีอีกเพียบบ
ขอบคุนพันทิปที่มีหน้ากระดานไว้ให้เขียนระบายความอึดอัดภายในใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่