"ทริปสูตรสำเร็จ" Tokyo-Kawaguchiko กิน ช้อป เที่ยว 4 วันทำไมจะทำไม่ได้

[CR] "ทริปสูตรสำเร็จ" Tokyo-Kawaguchiko กิน ช้อป เที่ยว 4 วันทำไมจะทำไม่ได้

กระทู้รีวิว

เที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง เที่ยวภูเขา เที่ยวญี่ปุ่น สายการบิน

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนครับว่า ทริปนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของผมกับแฟน ความรู้เกี่ยวกับประเทศนี้ของผมเป็นศูนย์! ได้อากู๋กับPantipนี่ละครับเป็นฐานข้อมูล ทริปนี้ไม่ซีเรียสเรื่องค่าใช้จ่าย อยากเที่ยวแบบสนุกให้เต็มที่ ไม่ชะโงกทัวร์ สบายๆและไม่หลง หลักการวางแผนอาจจะมีผิดบ้าง เสียค่าเดินทางเกินความจำเป็นบ้าง ก็ถือว่าแชร์เป็นประสบการณ์ เผื่อมือใหม่จะนำไปปรับใช้ก็ไม่ว่ากัน(จะพยายามลงรายละเอียดให้ได้มากที่สุดครับ) ภาพถ่ายทั้งหมดในกระทู้นี้มาจากกล้องมือถือ Note3 ชัดบ้างเบลอบ้างต้องขออภัย
ต้องขอขอบคุณและขออนุญาติแปะลิงค์ที่คอยเป็นไกด์ไลน์ในการเดินทางครั้งนี้(ผมไม่หลงก็เพราะพวกเขานี่ละครับ^^)
เพี้ยนออกทริป

ทริปนี้ผมเลือกไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งแต่ 24 - 29 พ.ย. 58 (รวม 6 วัน 5 คืน) เดินทางกับสายการบิน Thai AirAsia X
ขาไป 24 Nov 2015 (23:45)(XJ 600) Don Mueang International Airport(T1) - Narita International Airport(T2)(08:00)ถึงก่อนเวลา 15 นาที
ขากลับ 29 Nov 2015 (09:15)(XJ 601) Narita International Airport(T2) - Don Mueang International Airport(T1)(14:05)

รายละเอียดแผนการเดินทางในครั้งนี้ แบ่งเที่ยวเป็นโซนครับ
WESTERN TOKYO
1.SHINJUKU
2.KAWAGUCHIKO > พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี > ขึ้นกระเช้าชมวิวยอดเข้าคะชิคะชิ
3.HARAJUKU > ขอพรศาลเจ้าเมจิ
4.SHIBUYA
5.ROPPONGI > ชมวิวโตเกียวยามค่ำคืนที่ Tokyo City View ตึกโมริทาวน์เวอร์
EASTERN TOKYO
6.IMPERIAL PALACE > สะพานแว่นตา
7.ASAKUSA > วัดเซ็นโซจิ > ร้านข้าวหน้าปลาไหลในตำนาน"Irokawa" > ชมฟองเบียร์ตึกASAHI
8.TOKYO SKY TREE
9.UENO > ช้อปของเล่นที่ตึก Yamashiroya > ช้อปปิ้งตลาดAmeyoko+ตึกม่วง
10.SHINAGAWA > บุฟเฟ่ต์ขาปูสุดหรูที่ "HAPUNA" Luxe Dining @Prince Hotel Shinagawa
11.TOKYO DISNEYLAND

ด้านล่างเป็นแพลนคร่าวๆที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกครับ

ตารางค่าใช้จ่ายที่ปรับแล้วก่อนจะบิน สุดท้ายก็ยังต้องปรับอยู่ดีที่โน่นตามสภาพอากาศและเวลาที่มีครับ

ถึงวันเดินทางเราก็มารอเช็คอินกันที่เคาน์เตอร์ 4 สนามบินดอนเมืองครับ เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารเต็มลำแอบเห็นว่ามีเด็กอยู่สองสามคน แต่เราจะปลอดภัยเพราะผมจอง Quiet Zone แต่ดันมีผู้ชายนอนกรน! เม่าตกใจ

เสียงดังมากกกกกกกกกก หลับๆตื่นๆกันไปยันเช้า
เม่าตาสว่าง

คืนนี้คุณปารค์จะพาเราไปโตเกียว^^

ประมาณตีสีครึ่ง(เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชม.) ฟ้าเริ่มสว่าง เห็นเมฆแล้วก็ถอดใจ อดเห็นวิวฟูจิจากบนนี้แน่นอน เผื่อใครยังไม่ทราบขาไปนั่งฝั่งซ้าย ขากลับนั่งขวาจะเห็นวิวฟูจิจากบนเครื่องครับ

เรามาถึงสนามบินนาริตะเวลา 7:45น.(ตามเวลาญี่ปุ่น) ข้อดีของที่นั่งโซนเงียบก็ตรงเวลาออกจากเครื่อง(ได้ออกก่อนครับเพราะมันใกล้ประตู) จากนั้นก็ตรงดิ่งทำเวลาไปที่Immigration ห้องนงห้องน้ำไม่เข้า กลัวต่อแถวยาว ปั้มตราประทับ รับกระเป๋า ผ่านด่านศุลกากรขาเข้าเรียบร้อย เราก็รีบลงไปชั้นล่างเพื่อซื้อตั๋ว N'EX ให้ทันเที่ยว 8:53น.ครับ
ลิงค์การนั่ง N'EX ไปชินจูกุ http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/NaritaExpress-to-Shinjuku-Station.html

หน้าเคาน์เตอร์คนขายตั๋วจะถามเราว่าไปลงที่ไหน แบบเที่ยวเดียว(One way)หรือไป-กลับ(Round Trip) โดยผมเลือกแค่ขาไปเท่านั้นครับ จากสนามบินนาริตะ-ชินจูกุ ราคา 2,990 เยนต่อคน(ประมาณ 867 บาท) เพราะต้องการทำเวลา ขากลับนั่งของ Keisei Express(สายสีส้ม ถูกกว่าเยอะและมีวิ่งจนถึง 5 ทุ่ม) ซื้อตั๋วต้องใช้Passportด้วยครับ
KEISEI http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/us/nrt_access/tokkyu.html
JR N'EX http://www.jreast.co.jp/e/nex/tickets.html
ตอนแรกยอมรับว่ายังคงกังวลเรื่องการขึ้นรถไฟภายในญี่ปุ่น เราจะขึ้นถูกขบวนถูกฝั่งรึเปล่า ถึงจะมีเวลาเตรียมตัวนานก็ยังลน ประเดิมด้วย N'EX ซึ่งเบสิคมาก
เพี้ยนไฟลุก

แล้วก็ตรงเวลาแป๊ะ! เหตุผลที่เลือก N'EX เพราะสะดวกอย่างเดียว นั่งยาวๆ จะมีประกาศบอกตลอดทาง ไม่ต้องกลัวลงผิดสถานี แต่เราก็ต้องขึ้นให้ถูกตู้ถูกขบวน เพราะรถไฟจะจอดแยกขบวนกันที่โตเกียว

เรามาถึงสถานีชินจูกุประมาณ 10 โมงครึ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที พอรถไฟเข้าชานเมืองโตเกียวมีละอองฝนประปราย อุณภูมิอยู่ที่ประมาณ 12 องศา หนาววววววว..ตอนลมพัดนี่สุดๆ(อยู่ในขบวนไม่รู้สึก พอออกมาเท่านั้นละ...)
เม่าหนาว

เสื้อมิชลิน ลองจอนเป็นตัวเลือกที่ดีครับ

พอเราออกจากรถไฟ ให้เดินลงไปตั้งหลักด้านล่างสถานีก่อน(ไม่ต้องเลือกทางลง ใกล้ตรงไหนลงตรงนั้น) เพื่อหาทางออกหมายเลข 2 (West Exit) ในสถานีจะมีป้ายบอกทางละเอียดมาก เดินตามไปเรื่อยๆ เพื่อไปรับตั๋วHighway Busที่เราจองล่วงหน้ามาแล้ว หมดห่วงเรื่องรถเต็มไปได้เลย^^
แผนที่การไปทางออก 2 http://www.mu-ku-ra.com/2015/02/Bus-shinjuku-to-kawaguchiko.html
การจองตั๋วรถบัสไปKawaguchiko http://www.mu-ku-ra.com/2015/01/highway-bus-shinjuku-kawaguchiko.html

เข้ามาด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่หนึ่งคน(จะออกตั๋วผ่านเคาน์เตอร์หรือตู๋จำหน่ายก็ได้) เราก็นำใบจองไปแสดงเพื่อชำระเงิน ราคา 1,750 เยนต่อคน(ประมาณ 500 บาท) ส่วนถ้าใครจองขากลับไว้ด้วยและต้องการซื้อตั๋วล่วงหน้า ต้องขึ้นไปที่ชั้นสองของตึกเดียวกันครับ เขาแยกคนละส่วนจะมีทางขึ้นอยู่ด้านนอก ถ้าเราออกตั๋วล่วงหน้าแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเวลาได้อีก เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่ชัวร์(เผื่ออยากอยู่เที่ยวต่อ) ให้ไปจ่ายเงินที่คาวาตอนจะกลับ และเรามีสิทธิ์ที่จะเลื่อนเที่ยวรถได้หนึ่งครั้ง ถ้าไม่เต็มซ่ะก่อนนะครับ(ขากลับส่วนใหญ่จะเต็มทุกที่นั่ง)

รถออกเวาล 12:10น.

จุดขึ้นรถบัสอยู่ด้านข้างที่จำหน่ายตั๋ว จะมีประกาศก่อนรถออก 10 นาที ระหว่างนี้ผมมีเวลาเหลือประมาณชั่วโมง แพลนไว้อีกอย่างเมื่อถึงชินจูกุคือไปกินเทมปุระต้นตำรับแท้ๆจากโตเกียวครับ ที่ร้าน "TENYA" Tempura Tendon Shinjuku Centerville
เพี้ยนกินมาม่า

สาขาที่เราจะไปทานอยู่ที่ตึกCenterville เดินประมาณ 10 นาที จากHighway Bus ร้านจะอยู่ชั้นใต้ดิน มุมซ้ายสุดของตึก หาไม่ยากครับ ดูแผนที่ด้านบนได้เลย

ร้านเทนยะเป็นร้านเทมปุระที่มียอดขายอันดับ 1 ของญี่ปุ่นครับ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ เฉพาะโตเกียวมีมากกว่า 100 สาขา ในประเทศไทยก็เปิดมาได้สักพักทั้ง Siam Square one,เซ็นทรัลบางนา,ลาดพร้าว แต่จากที่ไปทานสาขาในไทยยังสู้ในประเทศเขาไม่ได้ ทั้งวัตถุดิบ และปริมาณ รสชาติใกล้เคียง(คหสต)

เมนูของทางร้านจะมีทั้งแบบเป็นชุด เซ็ทข้าว เซ็ทโซบะ อุด้ง แบบร้อน เย็น เพิ่มเครื่องเคียงไข่ออนเซ็น เต้าหู้ ส่าหร่าย หรือสั่งชามเดี่ยวกุ้งเน้นๆ เทมปุระผักล้วนก็เลือกได้ตามที่ชอบครับ ทุกร้านในญี่ปุ่นเขาจะมีน้ำชาไว้ให้ เติมได้ตลอด ราคาตั้งแต่ 500-1,200 เยน

หอยเชลล์ตัวโตๆ สด นุ่ม แป้งกรอบ ซอสรสกลมกล่อม ทานแล้วไม่เลี่ยนอร่อยมากกก เบ็ดเสร็จมื้อนี้จ่ายไป 1,700 เยนสำหรับ 2 คน(500 บาท)
พอท้องอิ่มเราก็มีแรงลุยต่อ เดินกลับไปขึ้นรถออกเดินทางสู่ Lake Kawaguchiko
เม่าเริงร่า

อย่างที่บอกไว้ครับเรื่องการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่น ทุกอย่างตรงเวลามาก และอีกอย่างที่ประทับใจสุดๆคือความมีระเบียบ ใส่ใจทุกรายละเอียดของคนญี่ปุ่น ทุกป้ายที่รถบัสของเราผ่าน ย้ำว่าทุกป้าย! ถึงไม่มีคนเขาต้องวนไปหยุดรถ ดูซ้ายมองขวา ไม่มีใครแน่ๆถึงออกเดินทางต่อ สุโค่ยยย ถ้าเป็นรถเมล์บ้านเราละ..
เม่าแพนิค

ระหว่างทางใครหลับถือว่าพลาดจริงๆครับ วิวบ้านหลังเล็กหลังน้อยสร้างอยู่ตามเนินตามหุบเขา มีแม่น้ำไหลผ่าน สวยงามมากจริงๆ

นั่งมาได้เกือบสองชั่วโมงเราก็มาถึงสวนสนุก "Fuji-Q Highland" ในวันที่ฟ้าเปิดถึงตรงนี้เราจะมองเห็นคุณฟูจิซังตระหง่านเป็นฉากหลัง แต่วันนี้เมฆลอยต่ำมาก อด! ไปลุ้นเอาวันพรุ่งนี้ ป้ายต่อไป Kawaguchiko Station^^

เรามาถึงสถานีKawaguchiko เกือบๆบ่ายสองครับ ตามแผน1ที่วางไว้คือเราจะไปชมฟูจิที่เจดีย์ Chureito แต่อ่านรีวิวมาว่าเจดีย์ปิดปรับปรุง ตัดไป แผน2 ขึ้นกระเช้าชมเมือง ฟ้าดันปิดซ่ะอีก เม่าโศก

เลยเปลี่ยนแผนเป็นเอาของไปเก็บที่พักก่อน แล้วไปชมพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแทน ซึ่งจะอยู่ระหว่างสถานี16-17 เราต้องนั่งเรโทรบัสสายสีแดงไปประมาณ 10 นาที ราคาประมาณ 300 เยนต่อคน(ประมาณ 90 บาท) ขึ้นไปก่อนค่อยจ่ายเงินตอนลง บนรถจะมีราคาแต่ละสถานี ถ้างงแบบผมก็ยื่นแบงค์พันเยนให้คนขับ บอกว่าขึ้นกี่คน จากสถานีอะไร แล้วเขาจะแลกเงินและทอนมาให้เราเองครับ