700 บาท สำหรับ ทริปง่ายๆในจังหวัดชุมพร ที่หลายคนยังไม่รู้ ว่ามีสถานที่สวยงามเช่นนี้ในชุมพรด้วยหรือ




ป้าเห็นพี่เขียวโพสในกลุ่มจังหวัดชุมพร



จริงๆอาทิตย์นี้จะไปบ้านไร่ ไออรุณ จังหวัดระนอง พอเห็นรูปที่พี่เขียวโพสเท่านั้น พิมข้อความไปสอบถามทันทีว่าขอร่วมแจมทริปกับคนอื่นได้มั๊ยค่ะ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้สอบถามไป ราคาค่าเหมาเรือ ผู้โดยสารประมาน 10 คนอยู่ที่ 4,000บาท ชึ่งป้ามีกันแค่ 2 คน เลยคิดว่าช่วงเทศกาลเช่นนี้น่าจะมีคนให้ร่วมแจมทริป และแล้วโชคก็ช่วยเมื่อพี่เขียวข้อความกลับมาบอกว่า มีครอบครัวนึง 3 คน รวมป้ากับลี่ ก็เป็น 5 คน พี่เขียวขอคิดคนละ 600 ราคาเช่นนี้จัดสิค่ะ รีบตัดสินใจไปทันที มิ๊รอช้า



พี่เขียวสอบถามเพิ่มว่า เอาปูด้วยมั๊ยค่ะ เราจะต้มเผื่อให้ ไปกินบนเกาะ เลยบอกไปว่า ขอสองกิโลค่ะพี่ ตอนนั้นไม่ได้ถามลี่ แต่คิดว่า ต้องไปกะกรู 555 วันที่ออกเดินทางลังเลว่าจะได้ไปหรือไม่ เพราะวันที่ 5 ฝนตกหนักมาก น้ำท่วมหลายที่ในชุมพร แต่เช้าวันที่6 อากาศก็ยังครึ้มๆ ข้อความถามพี่เขียวได้ความว่า มาได้เลย อากาศที่นี้สดใส ขับรถไปทางประทิวเรื่อยๆ ผ่านบ้านแหล่มแท่น ทุ่งชาง ขับไปไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง ทุ่งมหา ต. ที่อยู่ชุมพรมา 40 ปี นี่ไม่เคยได้ยินชื่อ ห้าๆ เพลียตัวเองมาก จนมาถึงบ้านพี่เขียว พี่เขียวบอกว่ามีเพื่อนอีกคนร่วมแจมทริปด้วย น้องเป็นนักดำน้ำลึก ชื่อน้องอ้อ เราก็แบบดีๆ มีคนร่วมทริป 6คน ชึ่งตอนนั้นคุยราคากับพี่เขียวว่าคนละ 600 ไม่รวมปูที่ต้มนะค่ะ ตอนไปกะว่าจะเวะทานก๋วยเตี๋ยวแต่คนเย๊อะเลยรีบมากลัวไม่ทันเวลา พอมาถึงเห็นปู ด้วยความหิว อี4ตัวนี่ ไม่พอยาไส้ ชะนีอ้วนสองคนแน่ สอบถามพี่เขียวหาได้อีกมั๊ยค่ะ ช่วยหาเพิ่มให้น้องหน่อยค่ะ แกน่ารักมาก พี่เขียวรีบโทรสอบถาม ขับรถไปหาปูให้เรา ได้ปูม้าเพิ่มมาอีก 2 กิโล ในใจคิดโอเคร พอยาไส้ แค่พอรองท้องได้ ห้าๆ

และแล้วเมื่อถึงเวลาเรือออก ครอบครัว 3 คน พ่อแม่ลูก กลับไม่ได้ไปกับเรา เพราะลูกสาวไม่สบาย สรุป ทริปนี้จึงมีเรา สามสาว ที่น่ารักกว่านั้นคือ พี่เขียวก็ยังอุสาห์ออกเรือให้เรา ห้าๆ



เริ่มการเดินทาง ออกไปได้สักสิบนาที ไต๋เรือบอกว่า ดูกเลๆๆ ขอ วนกลับไปเอาดุกเลก่อน ตอนแรกป้าก็งง ดุกเลไรว่ะ แกก็ชี้ละบอกว่า นั่นไง ดุกเล ลอยอยู่ดำๆ ไหนว่ะ ดำๆ ไม่เห็นมี แกวนไปใกล้ดุกเลสักพัก เอาสวิงตักขึ้นมาง่ายมาก ในใจคิด เมิงโดนจับง่ายจังว่ะ ตกมาเสร็จแกก็เอามาให้ดู นั่งบนเรือไป มองหน้าดุกไป ห้าๆ ในใจก็คิดสงสาร แต่ก็นะ วิถีชีวิตของชาวบ้าน มันคือวิถีชีวิตของพวกเค้า เมิงไม่ต้องกระเดะมาก ในเมื่อเมิงยังสั่งผัดเผ็ดดุกเลกินอยู่เลย ห้าๆๆ


เรือแล่นไปสักพัก ระหว่างทาง เกาะบริเวณแถบๆนั้น มีพระองค์ใหญ่ๆ หันเข้าเข้าหาทะเล อยู่สองเกาะได้ เท่าที่ป้าสังเกตุเห็น มองดูก็สวยงามและแปลกตาไปอีกแบบ นั่งไปจนเห็น แพลอยๆ พร้อมบ้านไม้เป็นหลังๆ นั่นๆไงจุดหมายของเรา ธนาคารปู บ้านเกาะเตียบ ใช่เลย นี่ไง หมู่บ้านในหนังเรื่องคิดถึงวิทยา ห้าๆ แว็ปแรกที่เห็นคิดแบบนั้นเลย






ธนาคารปู คนต้นคิดชื่อลุงจาง


แกทำมาเพื่ออนุรักษ์พันธ์ปู เอาปูทราย ปูตัวเมียที่มีไข่อยู่ข้างนอก เอามาพักฟื้น ดูแลมันจนโต จากนั้น เราก็ปล่อยลูกปู ลงสู่ทะเล แล้ว เอาแม่มันมากิน ฮ่า นี่คือวิถีชีวิตที่เราไม่ทำลายธรรมาติร้อยเปอเชนต์ เพื่อการดำรงอยู่ต่อไปของปู เป็นการช่วยเหลือธรรมชาติไปในตัว ชึ่งตอนนี้ ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เข้ามาศึกษาและร่วมดูแล เพื่อเป็นแนวทางการเรียนการสอน



ส่วนที่หลายคนสอบถามในกระชัง มีอะไร มีทั้งปลาต่างๆ ปลาช่อนทะเล ปลาปักเป้าเหลี่ยม หอมแมลงภู่ และปู พี่ๆไต๋เรือ เอาปลาสดๆหั่นล่อปลาข่อนตัวเท่าท่อนขา โยนไป นางอิ่มค่ะ ปรากฏว่านางโผล่มาให้เราได้เห็นสองแว็ปแล้วนางก็เงียบ สงบไป ห้าๆ



ส่วนด้านเกาะยอ มีวิวที่สวยงาม


เราสามารถเดินข้ามจากธนาคารปู ไปยังเกาะยอได้ ลุงจางมาทำพื้นที่นำร่องไว้ จากนั้นนักศึกษาจากลาดกระบังมาเทปูนตามไหล่ทางเดินเพื่อให้เราเดินสะดวกขึ้น มีที่พักแวะถ่ายรูปสวยงามหลายจุดมาก เราสามารถเดินเล่นได้รอบเกาะ เกาะเวียงเป็นเกาะที่อยู่ติดๆกัน ทางเกาะยอและธนาคารปู ใช้น้ำจากทางเกาะเวียง ที่เกาะเวียงจะมีน้ำไหลลงมาในถ้ำ เป็นบ่อ และเค้าสูบน้ำข้ามเกาะมาใช้ ในเกาะเวียงเอง มี ถ้ำที่เป็นชากกระดูกโบราณ มีเครื่องใช้โบราณ ป้าขอน้องดิวชึ่งเป็นไกด์บอกว่าพาไปหน่อย น้องดิวบอกไปไม่ได้พี่ มัน.... อืมๆ ไม่ไปก็ได้ฟ่ะ ห้าๆ มีนกอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ต้องถามพี่เขียวก่อนไปพี่เขียวบอกว่าอย่าลืมดูนกนะน้อง ที่แน่ๆพี่เขียวบอกว่า งูเหลือมชุมมาก เพราะป่ายังสมบูรณ์




ชึ่งจริงๆ ถ้าไม่ใช่หน้ามรสุม ทางกรีนนำเที่ยวจะพาเราไปดำน้ำ ดูปาการังหลังเกาะเวียงนี่เอง แถวๆนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหอยมือเสือ ประการังหูช้าง และถ้าดำลึกลงไป มองขึ้นมา เราจะเห็นเป็น หัวใจมหาสมุทร เราสามารถเห็น แสงผ่านช่องของเกาะเป็นรูปหัวใจได้เลย รีบหาคอรส์ลงเรียนดำน้ำแทบไม่ทัน หลังจากที่เราเดินเล่นรอบเกาะ ก็มานั่งกินปู ที่นั่งพักผ่อนที่นี่อะแมชชิ่งมาก นั่งกินปูไป นั่งห้อยขาเห็นน้ำทะเลไป บรรยากาศไม่ต่างกะมัลดีฟ ไม่เคยไปนะ แต่ตรูจินตนาการว่านี่คือมัลดีฟชุมพร ห้าๆ หลังจากนั่งกินพักใหญ่ก็เดินถ่ายรูป และลงเล่นน้ำ แถวๆบริเวณนั้น จริงๆพี่ไต๋บอกว่าจะพาไปเล่นน้ำที่ชายหาดเกาะเวียงด้วย แต่เราเหนื่อย และเห็นว่าเย็นแล้ว แถมน้ำทะเลโคตรเค็ม เลยโบกมือล่า เกาะยอ เกาะเวียง และธนาคารปู พร้อมพี่ๆคนดูแลเกาะ จริงๆก่อนหน้านี้น้องดิวบอกว่าจะพาไปเกาะพระ หรืออะไรเกี่ยวกับพระสักอย่าง แต่เราอยู่จนเย็นจนไม่สามารถเข้าไปได้เพราะน้ำลด ตอผุด เอร๊ยไม่ใช่ อิอิ. ..นั่งเรือไปดูพระอาทิตย์ตกดินไกลๆ สวยงาม คิดถึงหนังเรื่องคิดถึงวิทยาอีกแล้ว ทุกสิ่งที่พิมมา มันบรรยายไม่ได้ ถึงความสวยงามหรืออรรถรสเท่าที่คุณต้องไปสัมผัสมันด้วยตา .... ชุมพรเมืองห้ามพลาด ฉันรักชุมพร. .. . ป้าแนร์


สรุปรายจ่ายนะคะ กลับมาคิดเงินกับพี่เขียวพี่เขียวคิดเงินค่าเรือแค่ คนละ 400 บาท
สวดยอดมาก ไปกัน 3 คน แกคิดคนละ 400 สุดๆจริงๆค่ะ ส่วนค่าปู ปูม้า สองกิโล 450บาท ปูไข่สองกิโล 600บาท หารสามคน ตกคนละ ราว700 บาท โอ๊วโหว ถูก อิ่ม ดีงาม สวย ไม่มีอีกแล้วค่ะ ชุมพรนี่ไงค่ะ ลองไปสัมผัสดู คุณจะรักเมืองนี่ และคนจังหวัดนี้ ฮริ้ววๆ
นี่เบอร์พี่เขียว ใครสนใจติดต่อแกได้เลยค่ะ 081 3963043