ระหว่างคนที่ซื้อ,ไปเที่ยวทุกที่ที่อยากไป แต่ไม่มีเงินเก็บกับคนที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปไหนแต่มีเงินเก็บอันไหนดีกว่ากันคะ

เรามีเพื่อนคนหนึ่งทำงานมีเงินเดือน2หมื่นกว่าๆ เขาเป้นคนที่อยากได้อะไรก็ซื้อ อยากไปเที่ยวไหนก็ไปแต่จะเน้นเที่ยวต่างประัเทศ ฝรั่งเศษเอย อังกฤษเอย เขาไปมาหมดแล้ว แต่ไม่มีเงินเก็บ

แต่เราทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้าน ไม่ค่อยได้ไปไหน ถ้านับเรื่องรายได้ถือว่าเรามีรายได้มากกว่า เรามีเงินเก็บพอประมาณตามประสาคนอายุ23

เราถือคติว่า ขอทำงาน มีเงินเก็บก่อน ถ้าอยากไปไหนค่อยไปในวันที่ตัวเองพอแล้ว ขอให้ตัวเองสบาย ไม่ลำบากตอนแก่ อยากไปแบบสบายชิวๆ มีเงินในกระเป๋าไม่เดือดร้อน ไม่ต้องมาใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เจ็บป่วยมีเงินรักษา เพราะค่ารักษาทุกวันนี้แพงมาก อยากไปไหนค่อยไป

แต่เพื่อนเรา ถือคติว่า จะไปก็รีบไปก่อนที่จะแก่เดี๋ยวไม่มีเเรงเที่ยว เงินหาตอนไหนก็ได้ อยากได้อะไรซื้อไปเถอะ ยิ้มอย่างก

เราเลยอยากถามเพื่อนๆว่าแนวคิดไหนถูกต้องกว่ากันคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เที่ยวจนไม่เหลือเก็บ หรือ ใช้เงินเกินตัว = ไม่ดี เพราะ ถ้าเกิดอะไรฉุกเฉินจะเอาเงินไหนใช้ ชีวิตคนเราไม่ได้ตายเดือนหน้า ปีหน้า นะครับ

คนที่เก็บแต่เงิน ทำแต่งาน จนไม่มีเวลาใช้ตังค์ (  อาจจะไปเที่ยว หรือ ทำ หรือ ซื้ออะไรที่ตนชอบ ) = ไม่ดี เพราะ เงิน ที่เก็บมา มันจะเป็นแค่เศษกระดาษถ้าเอาแต่เก็บ ไม่รู้จักนำมาใช้ ในเวลา และ โอกาสที่เหมาะสม ชีวิตคนเรา ไม่รู้ตายเมื่อไหร่ ดังนั้นจงทำสิ่งที่ตัวเองรัก

สรุป ดีสุดคือเดินทางสายกลาง ทำงานเก็บเงิน ส่วนที่เหลือมาจากเงินออม ก็ นำมาใช้ทำสิ่งที่เรารัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่