ทฤษฎีในปัจจุบันที่ได้ให้คำนิยาม คุณสมบัติ ของแสง ให้เป็นได้ทั่งคลื่นและอนุภาค นั่น เป็นคำนิยามที่ไม่ถูกต้องครับ(ความคิดเห็นส่วนตัวผิดถูกยังไงก็ขออภัย)
จริงๆแล้ว แสงคือ อนุภาคล้วนๆ(มีมวล)ครับ
แต่ เป็นอนุภาคที่มีการเคลื่อนที่เหมือนคลื่น
คือมีการเคลื่อนที่แทรกสอด ไปทุกทิศทางเหมือนคลื่น แต่ ด้วยความที่เป็น อนุภาค(มีมวล)จึงถูกปิดกั่นขัดขวางได้ง่าย เช่น จุดเทียนขึ้นมา1เล่ม  การจะปิดกั่นแสง ให้มืดสนิท นั่นเพียงแค่ หาอะไรที่ทึบแสงมาปิดกั่นก็ ไม่มีทางที่แสงจะผ่านได้แล้ว(สิ่งที่ปิดกั่นจะหนาแน่นหรือจะบางเพียงใดขอให้ทึบแสง แสงก็ผ่านไม่ได้)
และแสงเอง ในเมื่อเป็นอนุภาค(มีมวล)สิ่งใดทำให้เกิดแสง
แสงที่เกิดจากสิ่งนั่นจะเดินทางจากจุดกำเนิดไปด้วยอนุภาคตัวเองไปจนหมดพลังงานที่มี (แสงเหมืนกระสุนปืนที่ยิงออกไป)
ผิดกับคลื่น  คลื่นคือ การสะท้อนรูปแบบจากต้นกำเนิด(กำหนดการสะท้อนด้วยความถี่) โดยที่ต้นกำเนิดไม่ได้เคลื่อนที่ไปด้วยแบบแสง คือให้อนุภาคของตัวกลางสะท้อนจำลองขึ้นมาให้เหมือนต้น ฉบับ
ยกตัวอย่างเช่น คลื่นในน้ำ คลื่นที่วิ่งต่อๆไปนั่น  น้ำต้นกำเนิดคลื่น ไม่ได้วิ่งเป็นลอนคลื่นไปเอง  เพียงแต่ อนุภาคน้ำใกล้เคียง รับพลังงานสะท้อนจำลองรูป คลื่นแทนต่อไปเรื่อยๆจนหมดพลังงาน  หรือ ให้เรานำเครื่องส่งไว้ในกล่องทึบเพียงใด คลื่นก็สามารถ ถ่ายทอด ออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยให้อนุภาคอากาศหรืออื่นๆสะท้อนจำลองแทน และเมื่อมาถึง กล่องทึบแสง อนุภาคกล่องก็สะท้อนจำลองรูปความถี่ออกไปภายนอกให้ อนุภาคนอกกล่อง รับช่วงถ่ายทอดต่อไปจนหมดพลังงาน    คลื่นในอากาศก็เช่นกัน(ถึงแม้จักวาลจะเป็นสุญญากาศแต่ต้องมีตัวกลางที่จะสะท้อนจำลองคลื่นได้ในรูปแบบใด อาจจะเป็นสสารมืด)
คลื่นจึงมีคุณสมบัติทะลุทะลวงได้ ต่อให้เอาสิ่งทึบแสงเพียงใด มาขวางก็ไม่มีผล( แต่ความหนาแน่นของตัวกลางมีผล ที่ความหนาแน่นมีผลเพราะ
เมื่อหน้าแน่นมาก การจะให้อนุภาคตัวกลางสะท้อนจำลองรูปแบบให้เหมือนเดิมจะต้องใช้พลังงานมากตามความหน้าแน่นของตัวกลางนั่นเอง ดังนั่นแล้ว ผมจึงเห็นว่า
แสง ไม่ได้เป็นคลื่นครับ ความเข้าใจผม ถูกผิดอย่างไร อยากจะขอคำชี้แนะเพิ่มเติมจากทุกท่านครับ