อีกแล้วหรือ เมื่อไหร่การก่อการร้ายจะจบสักที
---------------------------
After a regional manhunt, the two perpetrators were killed by police during an exchange of gunfire approximately four hours later. The FBI took over the investigation as
a counter-terrorism investigation due to the equipment used, recent travel to the Middle East, and one of the perpetrators having contacts with Islamist extremist views.
https://en.wikipedia.org/wiki/2015_San_Bernardino_shooting
----------------------------------------------------------
สื่ออเมริกันอ้างแหล่งข่าวทางการสหรัฐระบุ มือปืนหนุ่มมุสลิมเกิดในอเมริกาที่ชวนเมียชาวปากีสถานมากราดยิงกลางปาร์ตี้ฆ่าหมู่เพื่อนร่วมงาน 14 ศพที่แคลิฟอร์เนีย เคยติดต่อกับพวกหัวรุนแรงต้องสงสัยก่อการร้ายทั้งภายในและนอกสหรัฐ แม้ผู้นำสหรัฐยังไม่ชี้ชัดเป็นการก่อการร้ายหรือปัญหาในที่ทำงาน
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐได้รับมอบหน้าที่สอบสวนคดีสังหารหมู่ภายในศูนย์พัฒนาคนพิการที่เมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้ว เอฟบีไอกล่าวเตือนไว้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะโยงว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุปหาแรงจูงใจที่ทำให้ไซเอ็ด ฟารุก วัย 28 ปี และนางทัชฟีน มาลิก ภรรยาชาวปากีสถาน วัย 27 ปี ของเขาก่อเหตุฆ่าคน 14 คน และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 21 คนในครั้งนี้
กระนั้น นิวยอร์กไทมส์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์กฎหมายของสหรัฐหลายนายเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า แม้เอฟบีไอยังไม่ได้ข้อสรุป แต่หน่วยงานนี้กำลังสืบถึงความเป็นไปได้ว่านี่เป็นคดีก่อการร้าย ส่วนซีเอ็นเอ็นอ้างคำกล่าวของพวกเจ้าหน้าที่ว่า ฟารุกเคยติดต่อกับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายหลายคนในต่างแดน และกลายเป็นพวกหัวรุนแรงหลังจากที่เขาพบกับภรรยาคนนี้ที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าอิหม่ามประจำมัสยิดท้องถิ่นที่ฟารุกเข้าร่วมด้วยจะบอกว่าไม่พบวี่แววว่าเขาเป็นพวกหัวรุนแรง
นิวยอร์กไทมส์กล่าวว่า เอฟบีไอพบหลักฐานหลังจากตรวจสอบโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของมือปืนคู่นี้ ว่าฟารุกเคยติดต่อสื่อสารกับพวกหัวสุดโต่งทั้งในและนอกสหรัฐตั้งแต่ 2 ปีก่อน
ส่วนลอสแอนเจลิสไทม์สอ้างคำกล่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางระดับสูงรายหนึ่งว่า ฟารุกได้ติดต่อกับพวกหัวสุดโต่งต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง และมีสิ่งบ่งชี้ด้วยว่าเขาเคยติดต่อสื่อสารกับบุคคลอย่างน้อย 1 ราย ที่ทางการสหรัฐกำลังเฝ้าสอดแนมในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ความสัมพันธ์ระหว่างฟารุกกับบุคคลนี้อาจเป็นระดับผิวเผินก็ได้ แต่การเชื่อมโยงถึงกันก็ชี้ว่าอาจมีรากฐานจากการก่อการร้ายระดับลึกๆ ที่อยู่เบื้องหลังการกราดยิงครั้งนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งได้สั่งให้ลดธงลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยจนถึงวันจันทร์นี้ กล่าวว่า ยังไม่อาจตัดประเด็นการก่อการร้ายทิ้งไปได้ แต่ก็ยังไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นการก่อการร้ายเช่นกัน
"ณ ขณะนี้ เรายังไม่ทราบว่าเหตุการณ์ร้ายแรงนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร" ผู้นำสหรัฐซึ่งได้เรียกร้องให้คองเกรสที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากผ่านกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้น กล่าว "มีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์นี้เกี่ยวโยงกับผู้ก่อการร้าย แต่เราไม่รู้ได้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์นี้เกี่ยวโยงกับปัญหาภายในที่ทำงานเช่นกัน"
เจ้าหน้าที่เปิดเผยแล้วว่า ผู้เสียชีวิต 14 คน เป็นหญิง 6 คน ชาย 8 คน อายุ 26-60 ปี มีเพียง 2 คนในผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานหรือลูกจ้างในสังกัดเดียวกับฟารุก ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น ขณะเกิดเหตุนั้นมีคนอยู่ในงานเลี้ยงราว 80 คน ตำรวจเผยว่าทั้งคู่สาดกระสุนราว 150 นัด ในงานเลี้ยงและระหว่างยิงปะทะตำรวจขณะหลบหนีที่ทำให้พวกเขาถูกวิสามัญฆาตกรรม การตรวจค้นที่พักของทั้งคู่ยังพบกระสุนปืน 5,000 นัด และไปป์บอมบ์ 12 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์การทำระเบิด.
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99
จากฝรั่งเศสถึงคิวอเมริกา เหตุการณ์กราดยิง 14 ศพที่อเมริกาทางการสืบพบว่าเหตุจูงใจมาจาก Islamic terrorism?
---------------------------
After a regional manhunt, the two perpetrators were killed by police during an exchange of gunfire approximately four hours later. The FBI took over the investigation as a counter-terrorism investigation due to the equipment used, recent travel to the Middle East, and one of the perpetrators having contacts with Islamist extremist views.
https://en.wikipedia.org/wiki/2015_San_Bernardino_shooting
----------------------------------------------------------
สื่ออเมริกันอ้างแหล่งข่าวทางการสหรัฐระบุ มือปืนหนุ่มมุสลิมเกิดในอเมริกาที่ชวนเมียชาวปากีสถานมากราดยิงกลางปาร์ตี้ฆ่าหมู่เพื่อนร่วมงาน 14 ศพที่แคลิฟอร์เนีย เคยติดต่อกับพวกหัวรุนแรงต้องสงสัยก่อการร้ายทั้งภายในและนอกสหรัฐ แม้ผู้นำสหรัฐยังไม่ชี้ชัดเป็นการก่อการร้ายหรือปัญหาในที่ทำงาน
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐได้รับมอบหน้าที่สอบสวนคดีสังหารหมู่ภายในศูนย์พัฒนาคนพิการที่เมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้ว เอฟบีไอกล่าวเตือนไว้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะโยงว่าเหตุการณ์นี้เป็นการก่อการร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุปหาแรงจูงใจที่ทำให้ไซเอ็ด ฟารุก วัย 28 ปี และนางทัชฟีน มาลิก ภรรยาชาวปากีสถาน วัย 27 ปี ของเขาก่อเหตุฆ่าคน 14 คน และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 21 คนในครั้งนี้
กระนั้น นิวยอร์กไทมส์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์กฎหมายของสหรัฐหลายนายเมื่อคืนวันพฤหัสบดีว่า แม้เอฟบีไอยังไม่ได้ข้อสรุป แต่หน่วยงานนี้กำลังสืบถึงความเป็นไปได้ว่านี่เป็นคดีก่อการร้าย ส่วนซีเอ็นเอ็นอ้างคำกล่าวของพวกเจ้าหน้าที่ว่า ฟารุกเคยติดต่อกับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายหลายคนในต่างแดน และกลายเป็นพวกหัวรุนแรงหลังจากที่เขาพบกับภรรยาคนนี้ที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าอิหม่ามประจำมัสยิดท้องถิ่นที่ฟารุกเข้าร่วมด้วยจะบอกว่าไม่พบวี่แววว่าเขาเป็นพวกหัวรุนแรง
นิวยอร์กไทมส์กล่าวว่า เอฟบีไอพบหลักฐานหลังจากตรวจสอบโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของมือปืนคู่นี้ ว่าฟารุกเคยติดต่อสื่อสารกับพวกหัวสุดโต่งทั้งในและนอกสหรัฐตั้งแต่ 2 ปีก่อน
ส่วนลอสแอนเจลิสไทม์สอ้างคำกล่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางระดับสูงรายหนึ่งว่า ฟารุกได้ติดต่อกับพวกหัวสุดโต่งต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง และมีสิ่งบ่งชี้ด้วยว่าเขาเคยติดต่อสื่อสารกับบุคคลอย่างน้อย 1 ราย ที่ทางการสหรัฐกำลังเฝ้าสอดแนมในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย ความสัมพันธ์ระหว่างฟารุกกับบุคคลนี้อาจเป็นระดับผิวเผินก็ได้ แต่การเชื่อมโยงถึงกันก็ชี้ว่าอาจมีรากฐานจากการก่อการร้ายระดับลึกๆ ที่อยู่เบื้องหลังการกราดยิงครั้งนี้
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งได้สั่งให้ลดธงลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยจนถึงวันจันทร์นี้ กล่าวว่า ยังไม่อาจตัดประเด็นการก่อการร้ายทิ้งไปได้ แต่ก็ยังไม่ควรด่วนสรุปว่าเป็นการก่อการร้ายเช่นกัน
"ณ ขณะนี้ เรายังไม่ทราบว่าเหตุการณ์ร้ายแรงนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร" ผู้นำสหรัฐซึ่งได้เรียกร้องให้คองเกรสที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากผ่านกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้น กล่าว "มีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์นี้เกี่ยวโยงกับผู้ก่อการร้าย แต่เราไม่รู้ได้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์นี้เกี่ยวโยงกับปัญหาภายในที่ทำงานเช่นกัน"
เจ้าหน้าที่เปิดเผยแล้วว่า ผู้เสียชีวิต 14 คน เป็นหญิง 6 คน ชาย 8 คน อายุ 26-60 ปี มีเพียง 2 คนในผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมงานหรือลูกจ้างในสังกัดเดียวกับฟารุก ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่น ขณะเกิดเหตุนั้นมีคนอยู่ในงานเลี้ยงราว 80 คน ตำรวจเผยว่าทั้งคู่สาดกระสุนราว 150 นัด ในงานเลี้ยงและระหว่างยิงปะทะตำรวจขณะหลบหนีที่ทำให้พวกเขาถูกวิสามัญฆาตกรรม การตรวจค้นที่พักของทั้งคู่ยังพบกระสุนปืน 5,000 นัด และไปป์บอมบ์ 12 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์การทำระเบิด.
http://www.thaipost.net/?q=%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99