[Spoil] รีวิว วิจารณ์ และวิเคราะห์ In the heart of the sea แล้วเพื่อนๆล่ะ เห็นอะไรกันบ้าง นอกจากไปดูวาฬ ??

สองเหตุผลหลักที่ตัดสินใจว่าจะไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะตอนดู trailer หนังครั้งแรก ประทับใจเจ้าวาฬตัวใหญ่ดี ใหญ่มากกกกก เลยจะไปดูเจ้าวาฬให้ได้ (เป็นเหตุผลที่ค่อนข้างจะไร้สาระ) และเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากตำนาน Moby Dick ซะด้วย (อันนี้เหตุผลมีสาระ แหะๆ)

สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Moby Dick เป็นหนังสือนิยายคลาสสิคแต่งโดย Herman Melville เกี่ยวกับกัปตันเอแฮบกับการออกล่าเพื่อล้างแค้นวาฬตัวหนึ่งที่ชื่อ Moby Dick ที่ทำลายเรือและกัดขาของเขาขาด โดยเป็นเรื่องที่เล่าผ่านสายตาของอิชมาเอล หนึ่งในกะลาสีบนเรือ Pequod

ส่วนภาพยนตร์ไม่ได้สร้างจากหนังสือเรื่อง Moby Dick นะ แต่สร้างจากหนังสือ In the heart of the sea ของ Nathaniel Philbrick ที่เล่าเหตุการณ์จริงเกี่ยวกับเรือล่าวาฬ  Essex ที่โดนวาฬหัวทุยโจมตี อันเป็นเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งการเขียนนิยาย Moby Dick อีกทีนึง (อย่าเพิ่งงงนะ)

ถ้าสปอยล์เฉพาะแค่ลำดับเหตุการณ์ในเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ดังต่อไปนี้

สมัยยุค 1800 น้ำมันจากวาฬ (sperm oil) จะนำมาซึ่งแสงสว่างให้แก่มนุษย์ มันจึงเป็นทรัพยากรสำคัญมาก และสามารถสร้างความร่ำรวยได้มหาศาล จึงกลายเป็นอุตสาหกรรมล่าวาฬ

กัปตันจอร์จ พอลลาร์ด (ผู้ขาดประสบการณ์ ทว่าเกิดมาในตระกูลนักล่าวาฬที่มีชื่อเสียง เลยได้มาเป็นกัปตัน) กับต้นหนโอเวน เชส (นักเดินเรือเลือดร้อนผู้มากประสบการณ์ แต่เกิดมาในตระกูลธรรมดา ไม่มีอภิสิทธิ์บรรดาศักดิ์ใดๆ แต่จำยอมเป็นต้นหนให้กัปตันลูกเศรษฐี เพราะพวกนายทุนสัญญาว่า เดินเรือรอบหน้าจะให้เป็นกัปตันแล้วนะ โอเวน รับบทโดย พี่คริสของเรา) ออกเดินทางไปบนเรือ Essex เรือล่าปลาวาฬ(Whaler/Whaleship)เพื่อไปหาน้ำมันวาฬมาให้ได้เต็มลำ สองคนนี้ไม่ลงรอยกันเลยตลอดการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม เจอวาฬน้อยมาก เลยได้น้ำมันน้อยเหลือเกิน จึงตัดสินใจเดินเรือเข้าไปในเขตที่มีวาฬเยอะมาก แต่ก็เป็นเขตที่มีคำเตือนว่า มีวาฬตัวนึงที่พิเศษกว่าตัวอื่นเพราะมัน “เอาคืน” ได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คงเดาได้ไม่ยาก

หลังจากเรือโดนทำลายเละไปแล้ว เหล่าผู้เหลือรอดก็ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือลำเล็กๆ(Whaleboat) ไปติดเกาะแล้วรอคอยเผื่อมีเรือผ่านมา แต่เมื่อพบว่า มีกระดูกคนตายอยู่บนเกาะ แสดงว่า จะไม่มีเรือผ่านมาแถวนี้ พวกเขาส่วนใหญ่จึงออกเดินเรืออีกครั้ง (บางส่วนตัดสินใจอยู่บนเกาะต่อไป) จนไปพบเรือใหญ่ แล้วได้รับการช่วยชีวิตในที่สุด (อันที่จริง หลังเรือโดนทำลายและก่อนไปเจอเรือใหญ่ที่มาช่วยชีวิตในท้ายที่สุด เจ้าวาฬก็ยังมีบทบาทอยู่ เพราะมันยังคอยตามเหล่าลูกเรือในเรือเล็กอยู่ตลอดน่ะซิ!!!)

ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดว่าสนุกและเดินเรื่องเร็ว จังหวะจะโคนดี อย่างพอเริ่มจะน่าเบื่อ ตัวบทก็รีบโยนอะไรมันส์ๆใส่เข้ามาให้คนดูได้สนุกกัน ส่วนตอนที่อืดๆบ้างอย่างตอนลอยเวิ้งว้างกันอยู่ในทะเล ก็พอรับได้เพราะมันเป็นฉากที่จำเป็นต้องใส่เข้ามาจริงๆ

ความตึงเครียดระหว่างกัปตันและต้นหน หนังบรรยายเหมือนตึงเครียดตลอดและมากด้วย แต่คนดูกลับรู้สึกเฉยๆ ฉากแสดงความตึงเครียดมันควรมากกว่านี้นิดนึงนะถ้าจะให้สมกับที่บรรยายไว้ เหมือนใส่มาไม่สุดยังไงไม่รู้

ฉากการผจญภัยในเรือทำได้สนุกฝุดๆ ชอบฉากที่เรือฝ่าเข้าไปในพายุมากๆ เป็นฉากชวนลุ้นที่สำคัญฉากหนึ่งในเรื่อง (พอพูดถึงฉากชวนลุ้น ติดตรงที่ว่า ใจอยากให้ฉากชวนคนดูลุ้นมันเยอะขึ้นกว่านี้หน่อยนะ คือไม่ต้องอลังการทุกรอบก็ได้ แต่ให้มันมีได้ลุ้นบางอย่างมากกว่านี้หน่อยอ่ะ เพราะฉากชวนลุ้นที่มี ถ้าไม่นับตอนฝ่าพายุ ก็มาแบบสั้นเกินไป มาเร็วเคลมเร็วมากๆ แต่คือเข้าใจว่า หนังเค้ามาสายดราม่า ไม่ใช่แนวตลาดจ้า เลยรับได้ที่เค้าใส่ฉากแบบนั้นมาไม่มากเท่าไหร่) ส่วนงานด้านเอฟเฟ็คต์ก็อลังการงานสร้างคุ้มเงินคนดูดีค่ะ โดยรวมให้ B+ ค่ะ

ตั้งแต่ในหนังสือเรื่อง Moby Dick แล้วที่เจ้าวาฬเป็นสัญลักษณ์ใช้แทนหลายสิ่ง ไปจนถึงพระเจ้า แต่ส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่า ภาพยนตร์ไม่ได้เล่นกับแง่มุมนั้นนะ หรือถ้าจะให้พยายามมองว่าเล่น ก็ไม่มากนักอยู่ดี

แต่เจ้าวาฬในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น "ตัวแทนของธรรมชาติ" มากกว่า เหมือนเป็นภาพยนตร์ที่แสดงถึงการฟาดฟันกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติมากกว่า โดยมนุษย์ออกไล่ล่าและฆ่าวาฬ(สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก) เพื่อเอา Sperm Oil มาใช้เป็นพลังงาน ทำให้โลกสว่างไสว
แต่พอดูจบ เหมือนหลายคนบนเรือก็มีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่ด้วย คือออกล่าวาฬเพื่อสนองความต้องการเอาชนะธรรมชาติ ความต้องการเหนือกว่าธรรมชาติ นั่นเอง

ถ้ามองให้ลึกกว่านั้นยังมีเรื่องเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนอีกด้วย เช่น กัปตันพอลลาร์ดออกเดินทางเพื่อเติมเต็มความคาดหวังของครอบครัว และสานต่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนักล่าวาฬที่โด่งดังของตนให้คงอยู่สืบไป ต้นหนโอเวน เชส ออกเดินทางเพื่อหาเงินเพราะต้องการยกระดับทางสังคมให้ตนเองและครอบครัว ไหนจะมีปมที่พ่อของเขาเป็นนักฝันที่ไปไม่ถึงฝัน ทำให้เชสผู้ลูกต้องการประสบความสำเร็จให้ได้อีก ส่วนเด็กหนุ่มโทมัส ฮิคเคอร์สัน เป็นหนุ่มน้อยที่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว และสนองความต้องการอยากผจญภัยของตนเอง

หนังมีฉากไล่ล่าวาฬให้เห็นอยู่สองฉากด้วยกัน เป็นฉากที่ทำได้สนุกดี และแสดงให้เห็นความโหดร้ายของมนุษย์ผ่าน “ลาวาสีเลือด” และ “ละอองเลือด”(วาฬที่กำลังจะตายเวลาพ่นน้ำจากรูบนหัว น้ำที่ออกมาจะมีเลือดปนอยู่ด้วย กลายเป็นพ่นละอองเลือดออกมาในอากาศนั่นเอง) โดยฉากละอองเลือดที่ลอยมาเปรอะเต็มหน้าเหล่าลูกเรือเหมือนจะสื่อถึงความโหดร้ายของมนุษย์ เหมือนโดนวาฬตะโกนใส่หน้าว่า พวกแกคือฆาตกร เห็นได้จากพอทุกคนโห่ร้องด้วยความดีใจ

แต่พอเจอละอองสีเลือดเข้าไป แล้วกล้องจับที่ใบหน้าของลูกเรือบางคน จะเห็นเลยว่า สำหรับบางคนพอเจอ “การตราหน้า” เข้าไป ก็รู้สึกแย่รู้สึกผิดเหมือนกัน จากนั้น กล้องก็แพนกว้างเจตนาเพื่อจับให้เห็นภาพ “ลาวาสีเลือด” บนน้ำทะเลที่ควรจะเป็นสีฟ้าสดใส แล้วบรรยากาศตอนนั้นก็ดูหม่นหมองลงในทันที ก่อนที่จะตัดไปเป็นฉากกลางคืน ตอนแสดงกรรมวิธีเอาน้ำมันวาฬออกจากตัววาฬต่อเลย

"ศาสนา"

ถ้าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านศาสนาอยู่บ้างในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การอ้างอิงว่าวาฬเป็น Monster ที่ต้องไล่ล่า เพื่อนำมาซึ่งแสงสว่างให้มนุษย์ กำจัดความมืดให้หมดสิ้นไป (อ้างไปนั้น) แล้วยังมีการขอพระเจ้าช่วยให้ล่าอสูรร้ายได้สำเร็จด้วย อาจเรียกการกระทำเหล่านั้นว่า เป็นการอ้างเหตุผลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตัวเอง(อย่าลืมว่า มนุษย์มีความสามารถในการเสาะหาเหตุผลเพื่อนำมาอธิบายสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของตัวเองเสมอมาโดยตลอด) โดยในที่นี้ ในกรณีนี้ เครื่องมือที่นำมาใช้ก็คือ “ศาสนา” นั่นเอง โดยอุปโลกกันไปว่า วาฬเป็นอสูรร้าย ครอบครองสิ่งที่ทำให้เกิดไฟได้ มนุษย์ต้องทนอยู่ในความมืดมิด(สัญลักษณ์ของความชั่วร้าย/ด้านมืด/ฝ่ายอธรรม) เว้นเสียแต่ว่า มนุษย์จะออกไปกำจัดปีศาจร้าย แล้วนำมาซึ่งแสงสว่าง(สัญลักษณ์ของความดี/ฝ่ายธรรมะ)ในท้ายที่สุด

มีบางอย่างเกี่ยวกับกรณี Monster ในเรื่องนี้ที่ทำให้นึกถึงประเด็นการต้องการเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ผ่านคำพูดของตัวละคร Henry Wu ใน Jurassic World ที่พูดว่า “Monster is a relative term. To a canary, a cat is a monster. We're just used to being the cat.” ด้วยเหตุผลแบบในประโยคนี้หรือเปล่า มนุษย์จึงออกล่าวาฬ เพราะมนุษย์ไม่อยากเป็น canary ที่ต้องหวาดกลัว cat/monster มนุษย์ยอมไม่ได้ (แรกสุดใครจะไปรู้ว่าในตัวปลาวาฬมีน้ำมันวาฬที่เอาไปใช้เป็นพลังงานได้ แสดงว่า แรกสุดมนุษย์ต้องล่าวาฬด้วยเหตุผลอื่น)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่