[2015] JAPAN TRIP 23 OCT – 31 OCT :: TOKYO – SENDAI – FUKUSHIMA
Day1) 23th:  NARITA Airport → SAWARA → UENO

ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลง ขอเริ่มเขียนเลยล่ะกันค่ะ

หลังจากที่จองตั๋วล่วงหน้าไว้ครึ่งค่อนปี ในที่สุดวันเดินทางก็มาถึง
22 ตุลาคม เวลา 23.45 สายการบินแอร์เอเชียได้พาเราเดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น

ในเช้าวันที่ 23 ตุลาคม หลังจากผ่านตม. และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
ก็เดินไปฝากกระเป๋าที่จุดรับฝากกระเป๋า (Baggage Storage) ของสนามบิน (แอร์เอเชียจะลงที่ Narita Terminal 2)
ซึ่งมีจุดฝากกระเป๋า 2 จุด คือ ชั้นผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งอยู่ชั้น 1 และชั้นผู้โดยสารขาออก ซึ่งอยู่ชั้น 3

ด้วยความอ่อนด้อยด้านภาษา ทำให้เข้าใจผิดกันเล็กน้อยขณะสอบถามทางไป
จึงทำให้ไปฝากกระเป๋าที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นจุดรับฝากสำหรับขาออก
แต่ไม่เป็นไร ฝากได้เหมือนกันเราไม่แคร์ ที่นี่รับฝากทุกขนาดนะคะ
ตอนแรกคิดว่ากระเป๋าขนาดที่ตัวเองเอามา เรียกว่าใหญ่แล้ว (28″)
แต่เค้าคิดให้ราคาใน Size M 520 เยน (ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ เพราะความเร่งรีบและอาการมึนงงยามเช้า)

หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปเที่ยวก่อนจะเข้าโตเกียวกันเลย
สำหรับวันแรก จขกท. ได้วางแผนไว้ว่าจะไป ซาวาระ (SAWARA) เมืองหนึ่งของจังหวัดจิบะ
ซึ่งถูกเรียกว่า “little Edo”


เราเดินทางออกจากสนามบินนาริตะ ด้วยรถไฟ JR Sobu/Narita LineRapid for ZUSHI (9 นาที)
และลงที่สถานี NARITA จากนั้นเดินขึ้นบันไดมาเปลี่ยนชานชลา เป็นชานชลาหมายเลข 5
ซึ่งจะพาเราไปสู่ สถานี SAWARA ด้วยรถไฟ JR Narita Line for CHOSHI (29 นาที) ค่ะ
[ตารางรถไฟ และเวลา เช็คได้ที่ http://www.hyperdia.com]



ระหว่างทางก็นั่งชิลๆ ถ่ายรูปไร่นา บ้านเรือน และทิวทัศน์กันไปยาวๆ ราวครึ่งชั่วโมง



และแล้วเราก็มาถึง สถานีซาวาระ (SAWARA) สถานีที่คนไม่เยอะ แต่ก็ไม่น้อย
ส่วนใหญ่จะสูงวัย ไม่ก็นักเรียนวัยใส



เมื่อออกมาหน้าสถานีซาวาระแล้ว ก็เริ่มต้นเดินทางไปจุดที่เค้าเรียกว่า “Little Edo” กันเลย
วิธีไปก็ไม่ได้ยากเย็น แต่กันเดินยาวๆ พร้อมกินบรรยากาศไปเรื่อยๆ สักพักก็ถึง

เริ่มจากหน้าสถานีซาวาระ ให้เดินตรงข้ามถนนที่น้องนักเรียน 3 คนจากภาพด้านบนอยู่มา
จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ จนเจอ  Tourist Information Center จึงเลี้ยวซ้าย
(เลี้ยวปุ๊บจะมีร้านขนมปังแลดูน่ากิน และร้านอาหารอยู่) จากนั้นก็เดินตรงไปจนสุดถนน

เมื่อเดินไปจนสุดถนน จึงเลี้ยวซ้ายอีกที

พอเลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเจอกับวิวแนวๆนี้
(ซึ่งตอนที่ไป ด้านขวากำลังก่อสร้างอยู่ เลยไม่กล้าใช้มันบอกทิศกลัวจะสร้างเสร็จ ปุ๊บพากันงงเลยทีนี้)

พอเดินไปเจอทางรถไฟให้หันขวา จะเจอทางเดินเลียบทางรถไฟอยู่ (ตามภาพด้านล่าง)


จากนั้นให้ข้ามถนนไป แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ จนเจอสี่แยกเล็กๆ (มีร้านเบเกอรี่อยู่ด้านขวาของฝั่งตรงข้าม)
ให้เดินข้ามถนน และเดินตรงไปเรื่อยอีก จากจุดนี้ ถือว่าเราได้เข้ามาสู่ ส่วนของ Little Edo แล้ว

อะไรจะทำให้เรารู้ว่าเข้า โซน Little Edo ไม่ยากเลยจ้า เห็นวิวแบบภาพด้านล่าง
ก็แสดงว่าถึงแล้วแน่นอน จุดเด่นในการสังเกต คือ มีคลอง มีเรือ มีสะพาน มีบ้านแบบสมัยก่อน

และที่สำคัญ มาแถวนี้ต้องเจอเหล่าคุณลุงจิตรกร นั่งวาดรูป อยู่ตามจุดต่างๆ ไล่ไปตามริมคลองสายนี้




ที่นี่ยังดูเหมือนจะเป็นที่ๆพาเด็กน้อยมาทัศนศึกษาด้วย เพราะวันนั้นเจอหลายขบวนเลยทีเดียว


มื้อเที่ยงก็พักเบรคด้วย โซบะเซ็ต จากการสื่อสารด้วยศาสตร์แห่งการจิ้ม



หลังจากเดินเล่นจนหน่ำใจแล้ว ก็เดินทางกลับนาริตะ รับกระเป๋า และมุ่งหน้าสู่ที่พักย่านอูเอโนะ
ด้วยรถไฟสาย Keisei Skyliner ในราคา 2470 เยน ถึงโตเกียวง่ายๆ แบบสบายๆ ในเวลา 41 นาที ตามที่เขาการันตีเอาไว้


ถึงที่พัก วางกระเป๋า แล้วออกไปเดินเล่นตลาด Ameyoko เพียงแค่ข้ามสะพานลอยจากหน้าที่พัก
แล้วเดินตรงไปฝั่งตรงข้าม ทิศ 11 นาฬิกา จากบันไดเลื่อนที่ขึ้นมา ก็พร้อมหาของอร่อยใส่ท้อง และตามเก็บของที่คนฝากซื้อกันได้แล้ว





จบวันแรกแบบใสๆ ภาพรวมวันนี้ก็คือ เดินเล่นชิลๆกับบรรยากาศเมืองเก่า อร่อยแบบรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ^^

PS. จขกท. พักที่ Ueno Touganeya Hotel ซึ่งเป็น Business Hotel ขนาดห้องขนาดข้างเล็กตามแบบฉบับโตเกียว
แต่ข้อดี ถึง ดีมากคือใกล้รถไฟทั้ง JR / Metro และมีทั้งลิฟ / บันไดเลื่อนให้ใช้บริการด้วย (บันไดเลื่อนเหมือนจะเปิดถึงแค่ 22.00)
ไม่ได้ถ่ายรูปห้องมานะคะ เพราะเห็นว่ามีคนเขียนไว้เยอะแล้ว และสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของทางโรงแรมได้เลย http://www.tougane-h.com/e/%5D

ขอจบกระทู้แรกไปแบบเงียบๆ และจะรีบกลับมาเขียนต่อในวันต่อๆไปค่ะ