เที่ยวกุกกุฏนคร (ลำปาง) แบบเร่งรีบ#1 เส้นทางตึกเก่าและสถานีรถไฟลำปาง
http://ppantip.com/topic/34507234

เที่ยวกุกกุฏนคร (ลำปาง) แบบเร่งรีบ#2 วัดศรีรองเมือง ศิลปะพม่าที่สวยงามเท่าที่ผมเคยเห็น
http://ppantip.com/topic/34515027

เที่ยวกุกกุฏนคร (ลำปาง) แบบเร่งรีบ#3 วัดศรีชุม วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย (เขาว่าแบบนั้น) ศิลปะที่ถูกไฟไหม้
http://ppantip.com/topic/34515320



“วัดปงสนุก” แห่งเขลางค์นคร ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่พึ่งได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ จากชุมชน-รัฐ

ข้อมูลจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000136421

เป็นวัดสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด (ว่าจะไปเที่ยวใหม่) ที่พี่จุกพาไป อยู่นอกเมืองไปไม่ไกล และดูเหมือนคนจะไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่



วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO โดยมีดร.ริชาร์ด อิงเกิลฮาร์ท” ที่ปรึกษาอาวุโสในผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านวัฒนธรรมประจำองค์การยูเนสโก เป็นผู้ถวายรางวัล
       

เดิมวัดปงสนุกมีชื่อเรียกถึง 4 ชื่อ ได้แก่วัดศรีจอมไคล-วัดเชียงภูมิ-วัดดอนแก้ว–วัดพะยาว

จากประวัติศาสตร์พบว่า เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ช่วงปี พ.ศ.2346 ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่า และได้กวาดต้อนชาวเชียงแสนซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่าลงมายังลำปาง ชาวปงสนุกเชียงแสน และชาวพะยาว จึงได้ ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน
       
       ราว พ.ศ.2386 เจ้าหลวงมหาวงศ์ได้ไปฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นใหม่ ครูบาอินทจักรพระอุปัชฌาย์ของครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี ได้นำชาวพะยาว (พะเยา) อพยพกลับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมกลับ และได้มาตั้งรกรากอยู่กับชาวบ้านปงสนุก ตั้งแต่นั้นมาชื่อวัดและหมู่บ้านจึงเหลือเพียง “ปงสนุก” เพียงชื่อเดียว
       
       ต่อมา จึงได้มีการแบ่งวัดเป็นวัดปงสนุกด้านเหนือและวัดปงสนุกด้านใต้ เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2429 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากการซ่อมพระเจดีย์ สร้างฉัตร ก่อซุ้มประตูโขง วิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากในสมัยก่อนทั้งเจ้านายชั้นสูงและประชาชนทั่วไป เมื่อมีเคราะห์ ต่างก็จะพากันมาสะเดาะเคราะห์ ณ วิหารแห่งนี้ทั้งสิ้น

วัดมีการสร้างที่แปลกผมไม่ค่อยเห็น คือทำเป็นเนินดิน ด้านบนก็จะมีวิหาร เสาหงส์ เจดีย์ และพระนอน

เราเที่ยวทางฝั่งวัดปงสนุกใต้ก่อน

บันไดทางขึ้นซุ้มประตูโขง ที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของวัดอีกอย่างหนึ่ง


ด้านข้างจะเห็นชัดว่าทำเป็นเนินดินขึ้นไป


ลาดลายบันไดทางขึ้น


ด้านบนขึ้นมาซ้ายมือก็จะเป็นองค์เจดีย์

พระเจดีย์ มีอายุเก่าแก่เท่าๆกับดอยสุเทพ ที่จังหวัดเชียงใหม่ คือกว่า 500 ปี วิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่รวบรวมไว้ทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวของประเทศก็ว่าได้ เริ่มทรุดโทรมลงตามกาลเวลา ประกอบกับช่วงปี พ.ศ.2548 มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ คนไทย และกลุ่มนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้ามาค้นคว้าหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของวัดจำนวนมาก ทำให้ทางวัดปงสนุกได้ตัดสินใจส่งเรื่องให้กรมศิลปากรพิจารณา เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
       


ถัดจากเจดีย์คือ วิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์




ฝั่งตรงข้ามวิหาร จะมีเสาหงส์ตั้งอยู่




ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 4 องค์หันหลังชนกัน เป็นพระพุทธรูปสีทิศ เหมือนๆ ที่วัดภูมินทร์ จ.น่าน  








ที่มุมของเสาวิหาร มีไม้ประดับอีกชั้น


ผมเรียกไม่ถูก




ถัดจากวิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์
มาทางด้านหลัง มีวิหารพระนอน อยู่














เดินออกมาถ่ายรูปวิหาร 12 ราศี อีกครั้ง








ลวดลายเก่ายังมีอยู่






สักพักมีชาวบ้านที่ช่วยดูแลวัดขึ้นมาที่วิหารใกล้ๆตู้บริจาค สรุปว่ามีการงัดตู้บริจาค เพราะเมื่อคืนมีงานถึงสี่ทุ่ม


คนเราก็หาเงินกันง่าย ไม่ดูถูกผิด


ชมด้านบนเสร็จเดินลงบันไดทางด้านซ้ายมือ ไปวัดปงสนุกเหนือซึ่งเป็นบริเวณติดกัน





เดินลงมาตามทาง ที่วัดปงสนุกเหนือจะเป็นที่เก็บของเก่า ต่างๆ ที่เห็นอาคารด้านซ้ายมือ เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องใช้ในพิธีกรรมทางพุทธศาสนา


ปัจจุบัน “วัดปงสนุก” ได้กลายเป็นแหล่งรวมของสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มากมาย อาทิ พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฎ เขียนเรื่องพระเวนสันดรบนผ้าและกระดาษสา หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาดใหญ่ในสมัยรัชกาลที่6 ซึ่งทางวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์




------------------------------------------------

อาคารด้านขาว พิพิธภัณฑ์ดพระธัมม์ แบบต่างๆ






























---------------------------------------------------



นอกจากนี้ยังพบว่า วัดปงสนุก เป็นสถานที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองเสาแรกของลำปาง ก่อนจะนำไปประดิษฐาน ณ บริเวณศาลากลาง(หลังเก่า) ในปัจจุบันด้วย





วัดปงสนุกเป็นอีกวัดที่น่าสนใน แนะนำให้ไปเยี่ยมชมครับ เนื่องจากเวลาผมมีจำกัด เลยรูปถ่ายรูปรีบเดินทางต่อ ต่อไปจะรีวิว ทริปเดินป่า ม่อนคลุย-ม่อนทูเล ครับ เป็นทริปที่วิวทะเลหมอกสวยมากๆ

---------------------------------------------------------------------------------