ก่อนที่จะมาแชร์เคล็ดไม่ลับการเริ่มต้นจัดเตรียมงานแต่งงาน เราขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวทุกคนก่อนนะคะ ที่ประสบความสำเร็จในการเดินลงมาจากบนยอดเขาน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ แต่แอบสงสัยกันไหมคะ ว่าพวกเราพากันถึงจุดนี้ได้ยังไง?!? บางคนอาจจะต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็น 10 ปี กว่าจะประสบความสำเร็จ หรือบางคนก็อาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่ฤดูก็มาถึงจุดนี้ในเวลาที่เหมาะสม หรือ Timing นั่นเอง แต่ไม่ว่าจะผ่านประสบการณ์แบบไหนมา พวกเราต่างก็เดินทางมาถึงจุดนี้กันแล้วค่ะ หลายๆ คนก็เริ่มเหลียวซ้ายแลขวา พร้อมกับคำถามที่ว่า “แล้วฉันจะเริ่มต้นจากตรงไหนดีล่ะเนี่ย?” วันนี้เรามีขั้นตอนสำคัญ 5 ขั้นตอน มาแบ่งปันเพื่อนๆ เพื่อเป็นแนวทางในการเริ่มต้นที่ดีกันค่ะ
1. พูดคุยสอบถามถึงความพร้อมของทั้งสองฝ่ายเพื่อกำหนดช่วงเวลาที่จะจัดงานแต่งกันก่อนค่ะ อย่างน้อยเราจะได้รู้ว่าเรามีเวลาเตรียมตัวอีกกี่เดือน เพราะถ้างานแต่งยิ่งใหญ่โตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นเท่านั้นค่ะ
2. บางคู่จะถือเรื่องฤกษ์ยามเป็นหลักค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวของคนจีน พอได้ช่วงเวลาคร่าวๆ ตามข้อ 1 แล้ว ค่อยไปปรึกษาหมอดูหรือผู้รู้ เพื่อให้ได้ทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวกค่ะ
3. กำหนดขนาดของงานและงบประมาณในการจัดงานค่ะ เพราะถ้าเราทราบขนาดและงบประมาณในการจัดงานแต่งแล้วล่ะก็ ขั้นตอนต่อไปก็ไม่ยากแล้วค่ะ เพราะเราจะมีขอบเขตคร่าวๆ ไว้แล้ว และเพื่อเป็นการป้องกันงบประมาณบานปลายด้วยค่ะ
4. จัดทำรายการเรียงลำดับความสำคัญว่าเราจะต้องทำอะไรก่อนหลัง เช่น การจองสถานที่ ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า และวงดนตรี เพราะยิ่งถ้ามีเป็นบุคคลที่ผลงานดีมีคุณภาพแล้วล่ะก็ ยิ่งเป็นที่ต้องการของบ่าวสาวคู่อื่นๆ ด้วยเช่นกันค่ะ บางรายถึงกับต้องจองข้ามปีกันเลยทีเดียว
5. เตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อม ขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจเราไปซะทุกเรื่อง เพราะฉะนั้น เราจะต้องมองโลกในแง่บวกและมีสติค่ะ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเสียสุขภาพจิต หงุดหงิดและไม่สวยค่ะ บางทีอาจจะพาลทะเลาะกับคุณว่าที่เจ้าบ่าวเลยก็ได้นะคะ
อย่าลืมนะคะ ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ความสุขระหว่างทางและชีวิตหลังแต่งงานนั้นสำคัญกว่าเยอะค่ะ ขอให้คุณว่าที่เจ้าสาวทุกคนมีความสุขในการเตรียมงานแต่งงานกันนะคะ
5 ขั้นตอนสำคัญก่อนเตรียมจัดงานแต่งงาน
1. พูดคุยสอบถามถึงความพร้อมของทั้งสองฝ่ายเพื่อกำหนดช่วงเวลาที่จะจัดงานแต่งกันก่อนค่ะ อย่างน้อยเราจะได้รู้ว่าเรามีเวลาเตรียมตัวอีกกี่เดือน เพราะถ้างานแต่งยิ่งใหญ่โตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นเท่านั้นค่ะ
2. บางคู่จะถือเรื่องฤกษ์ยามเป็นหลักค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวของคนจีน พอได้ช่วงเวลาคร่าวๆ ตามข้อ 1 แล้ว ค่อยไปปรึกษาหมอดูหรือผู้รู้ เพื่อให้ได้ทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวกค่ะ
3. กำหนดขนาดของงานและงบประมาณในการจัดงานค่ะ เพราะถ้าเราทราบขนาดและงบประมาณในการจัดงานแต่งแล้วล่ะก็ ขั้นตอนต่อไปก็ไม่ยากแล้วค่ะ เพราะเราจะมีขอบเขตคร่าวๆ ไว้แล้ว และเพื่อเป็นการป้องกันงบประมาณบานปลายด้วยค่ะ
4. จัดทำรายการเรียงลำดับความสำคัญว่าเราจะต้องทำอะไรก่อนหลัง เช่น การจองสถานที่ ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า และวงดนตรี เพราะยิ่งถ้ามีเป็นบุคคลที่ผลงานดีมีคุณภาพแล้วล่ะก็ ยิ่งเป็นที่ต้องการของบ่าวสาวคู่อื่นๆ ด้วยเช่นกันค่ะ บางรายถึงกับต้องจองข้ามปีกันเลยทีเดียว
5. เตรียมตัวและเตรียมใจให้พร้อม ขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจเราไปซะทุกเรื่อง เพราะฉะนั้น เราจะต้องมองโลกในแง่บวกและมีสติค่ะ ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเสียสุขภาพจิต หงุดหงิดและไม่สวยค่ะ บางทีอาจจะพาลทะเลาะกับคุณว่าที่เจ้าบ่าวเลยก็ได้นะคะ
อย่าลืมนะคะ ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ความสุขระหว่างทางและชีวิตหลังแต่งงานนั้นสำคัญกว่าเยอะค่ะ ขอให้คุณว่าที่เจ้าสาวทุกคนมีความสุขในการเตรียมงานแต่งงานกันนะคะ