** รีวิวนี้ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวและความเห็นส่วนตัวที่เกิดจากความชอบ ความพึงพอใจในสินค้าของผมเองนะครับ **

แต่ก่อนใช้ BB ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ iPhone 4 เพราะแรกจับประทับใจกับจอที่คมและสีสันที่สดมากๆ ใช้ไป 2 ปีก็ต้องขายเพราะตั้งแต่อัพ iOS จาก iOS4 เป็น iOS 6 เครื่องอืด code code เหมือนโดนแกล้งจาก Tim Cook เลยหมั่นไส้ลอง Android ซะหน่อยเลยมาตกลงปลงใจกับ LG G2 ที่ spec ประทับใจผมมากในตอนนั้น และการย้ายปุ่ม hard key ไปไว้ข้างหลังบวกกับ knock on นั้นเวิร์กมากๆ ก็ใช้มา 2 ปีเต็ม เริ่มอืดและเริ่มมีปัญหากับ knock on ที่มักเปิดเองในกระเป๋ากางเกงเลยชักอยากกลับไปใช้เครื่องที่มีปุ่มเปิดปิดข้างเครื่องแทน ไหนๆจะเปลี่ยนก็อยากให้มันมีอะไรที่ถือแล้วรู้สึกมันเท่ห์ โจทย์นี้มาลงตัวกับ Sony Xperia Z5 ที่เพิ่งเปิดตัวพอดี เห็นสีเขียวแล้วชอบมาก สวยสุดๆ เลยลองดู spec แล้วก็โอเค ผมเน้นมือถือที่เป็น brand ตลาด ฟังเพลงเพราะ เครื่องสวย จอแสดงผลสวย โดยที่เรื่องการถ่ายรูปผมก็เน้นนะ แต่ไม่ใช่อันดับต้นๆเลย เพราะเท่าที่มือถือระดับราคา 18XXX ขึ้นไปส่วนใหญ่ทำได้พอแล้วสำหรับผม เพราะถ้าอยากได้รูปดีมากๆ ผมเลือกพกกล้องแบบจริงจังดีกว่าครับ นักถ่ายภาพส่วนใหญ่คงเข้าใจอารมณ์ว่ามันต่างกันมากโข

ผมไม่สน Z5 Premium เลยเพราะ ใหญ่เกินครับ และไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่จอแสดงผล 4K ซึ่งอย่างมากผมคงได้ใช้แค่ Full HD ครับ จอ Triluminos ที่ให้มาใน Z5 นั้นก็ดูน่าเชื่อถือสำหรับผมแล้ว คงไม่ต้องมองอะไรที่ละเอียดมากเกินแต่แยกแยะไม่ออกในระดับ 4K

ผมคงเหมือนรีวิวแบบพล่ามไปเรื่อยๆ แต่จะเน้นว่าชอบและไม่ชอบอะไรเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ใช้ Android บน LG G2 มาสองปี บวกกับ iOS มาสองปี (จริงๆ แฟนก็ใช้ iPhone 6 อยู่ก็มีเล่นๆ อยู่ครับ)

1. Body เรื่องแรกก็โดนผมไปเต็มๆ ส่วนตัวแล้วความเป็นบอดี้โลหะจะให้ความรู้สึก premium สำหรับผมเสมอ แต่จากที่ใช้ iPhone นั้นตกทีเดียว ยับเยินครับ แต่กับ LG G2 ถึงมีรอย ก็รู้สึกเฉยๆ เพราะมันไม่ได้ premium อะไรมากมาย แต่กับ Z5 แล้ว ผมก็ยังชอบความเป็นโลหะที่มันดูเนี๊ยบมากสำหรับงานประกอบ ตอนซื้อผมต้องตรวจสอบบอดี้ก่อน และมีโอกาสตรวจสอบ 3 เครื่อง (เพราะสาเหตุของลำโพง เดี๋ยวจะบอกว่าอะไรครับ) ทั้ง 3 เครื่อง เนี๊ยบเหมือนกันหมด บอดี้หลังมีกระจกด้านหุ้มอยู่ ถ้าทำตกแนวตั้งแล้วไม่ใส่เคสไว้คงมีร้องไห้นะครับ ผมลังเลระหว่างสีเท่ากับสีเขียว มันสวยมากๆทั้งคู่ แต่ก็จัดสีเขียวนะ เพราะมันแปลกตา ไม่ค่อยมียี่ห้อไหนทำ นานๆ ซื้อทีเอาที่แตกต่างบ้าง แล้วก็รู้สึกดีที่ซื้อสีนี้มาครับ

มีข้อด้อยนึงที่หลายคนพูดกันคือถ้าไม่นับขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้วแล้ว พื้นที่ที่เหลือของตัวเครื่องค่อนข้างเยอะเกินไป ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดยาวเกินกว่าที่ควรจะเป็นไปสักหน่อย แทนที่พื้นที่ว่างๆ ใต้จอจะทำปุ่ม soft key แยกมาเลยกลับไม่ทำอะไรกับพื้นที่ตรงนี้

2. จอแสดงผล ผมไม่ลงรายละเอียดเรื่องเทคนิคมากมายนะครับ กลัวจะเงิบเอา เอาเป็นว่าเอาแบบที่ผมเห็นและรู้สึกละกันนะ จอ Triluminos ชื่อมันดูขลังเมื่อมันอยู่ภายใต้ยี่ห้อ Sony บอกตามตรง ผมก็ไม่ได้ทึ่งกับ TV Sony อะไรมากมายในช่วงหลังๆมานี่ แต่สำหรับมือถือแล้วมันดู Sony ตั้งใจกับ Smart Phone มากกว่า อย่างที่บอกครับ Full HD สำหรับผมมันพอแล้ว ถึงมันจะผ่านมานานแล้ว พอจะซื้อเครื่องใหม่ก็ยังย่ำอยู่กับ Full HD แต่ผมก็ประทับใจอยู่นะ เพราะผมชอบสีสันสดๆ จอสว่างเมื่ออยู่กลางแจ้งแดดจ้าๆ แสดงผลคมชัด ผมก็พอแล้ว ทีนี้พอเอามาเทียบกับ LG G2 ที่เป็นจอ IPS Full HD บางมุมผมกลับชอบ LG มากกว่า แต่บางมุมผมก็ชอบ Sony มากกว่า แต่มันไม่ต่างกันมาก ดูจากรูปที่ผมถ่ายด้วย iPhone 6 มาให้ดู





รูปซ้ายคือจาก Sony Xperia Z5 รูปขวาคือจาก LG G2 ผมเปิด brightness 100% ทั้งคู่ และถ่ายโดยไม่ปรับอะไร WB ก็ไม่ได้ปรับ ถ่ายใน frame เดียวกัน shot เดียวกัน การทดลองแบบนี้ดูยากครับ เพราะยังไม่เทียบเท่ากับการมองของจริง แต่พอจะเป็นนัยๆ ได้ว่ามันต่างกันไหม? ยังไง?

จากรูปจะเห็นว่า LG จะสดกว่า แต่ Sony จะสว่างกว่า แต่ตอนผมมองตาเปล่า Sony Z5 นั้น สดกว่าครับ แต่ไม่ต่างกันมาก เรียกได้ว่าถ้าใครถือ LG G2 อยู่แล้วมาเทียบว่าใครจอดีกว่ากัน แทบจะกินกันไม่ลงนะครับ

3. ความสะดวกในการใช้งานทั่วๆ ไป เรื่องนี้ก็สำคัญมันมีทั้งเรื่องการใช้งานจากปุ่มกด hard key และการใช้งานจาก software ของเครื่องเอง ผมพูดรวมๆ ละกันนะ

ผมเองอยากเปลี่ยนการใช้งานปุ่ม power จากหลังเครื่องมาอยู่ข้างเครื่องอีกครั้ง เพราะมันสะดวกกว่า และผมเริ่มไม่ไหวกับ knock on ขอ LG อย่างที่บอกไปแล้ว แต่เดิมปุ่ม power ของ Sony จะเป็นกลมๆ นูนขึ้นมา แต่พอเป็น Z5 เปลี่ยนเป็นเรียบๆ แบนๆ เพราะมันใช้อ่านลายนิ้วมือไปด้วยในตัว ส่วนตัวผมเอง ผมชอบปุ่ม power แบบ iPhone มากกว่า กดง่าย ทนทาน และการกดด้วยนิ้วชี้มันดูถนัดกว่า (ผมถนัดขวา) แต่กดด้วยนิ้วโป้งก็ไม่ได้แย่กว่ามากนัก แต่ประเด็นคือปุ่มกดของ Z5 มันไม่นูน มันแบบราบทำให้หลายครั้งผมกดไม่ลง แต่ปุ่มก็นิ่มมากนะครับ แต่มันกดยากในบางมุม ยิ่งใส่ case ยิ่งเพิ่มหลุมทำให้กดยากขึ้นไปอีก ถึงปุ่มจะนิ่มมาก แต่มันก็ทำให้รู้สึกว่ามันจะทนทานรึเปล่า กลัวเหมือนกันครับว่าไม่นานก็พัง ยิ่ง Sony เพิ่งเริ่มทำปุ่มแบบนี้ด้วยเลยไม่มีสถิติบ่งบอก

ทีนี้ผมชอบ function fingerprint มาก Z5 อ่านอยู่ที่ปุ่ม power เลยทำให้เวลากดเปิดเครื่องก็เท่ากับอ่านลายนิ้วมือไปด้วยเลย เครื่องอ่านลายนิ้วมือเร็วมากๆ นะ แต่ตอนสอนให้เครื่องจำลายนิ้วมือ พยายามกดหลายๆมุมของนิ้วให้มากที่สุดนะครับ มันจะได้จำได้หลายมุม เพราะบางครั้งเราไม่ได้กดลงไปเต็มนิ้วเครื่องจะได้จำได้ไปด้วย

สำหรับ knock on บน LG ใครที่ชอบ function นี้ Z5 ก็มีมาให้นะ ก็กดที่หน้าจอสองครั้งรัวๆ ก็เปิดหน้าจอขึ้นมา แต่ไม่มีกดสองครั้งเพื่อปิดหน้าจอนะ ผมใช้แล้วจะบอกว่าใส่ในกระเป๋ากางเกงก็ยังคงเปิดเองอยู่บ่อยๆ เลยต้องปิด function นี้ไป อยากถนอมปุ่ม power ซะหน่อยเลยไม่ได้ใช้เลย

ปุ่ม volume กับ camera Sony วางตำแหน่งได้ไม่ดีเลย มันดูเกะกะเวลาถือทั้งใช้งานทั่วไปและตอนโทร มันอยู่ต่ำเกิน จะกดเพิ่มลดเสียงก็ไม่ถนัดเท่าไหร่ เห็นเมืองนอกก็บ่นเรื่องนี้กันเหมือนกัน

การดึงถาด sim card & SD card ไม่ต้องใช้เข็มทิ่ม อันนี้ชอบมาก เพราะทั้ง iPhone และ G2 ต้องใช้เข็ม บางครั้งต้องควานหาอะไรมาทิ่ม ไม่ค่อยชอบ แต่ Sony ใช้เล็บดึงถาดออกมาได้เลย ง่าย สะดวก อันนี้ชอบ (Z5 ใช้ Nano sim นะครับ เป็นมีรุ่น 2 sim ด้วยแต่เป็นเครื่องหิ้วมาบุญครอง)

ทีนี้พูดถึงตอนใช้งาน Software ของเครื่อง แรกๆ ผมไม่คุ้นเลย UI ของ Sony จะต่างจาก LG ไปบ้าง รวมๆแล้ว การใช้งานพวก launcher หรือการใช้ status bar เพื่อกด shortcut อะไรพวกนี้ LG จะทำได้ง่ายและครอบคลุมกว่า มากกกก เช่นการรูด status bar ลงเพื่อเรียกดูปุ่ม shortcut ต่างๆ ใน Z5 ผมต้องดึง 2 จังหวะ ในขณะที่ G2 ผมดึงปรื๊ดเดียวเลย ปุ่มต่างๆ ใน G2 ถ้าผมกดค้างก็จะเข้าไปในการตั้งค่าได้เลย เช่นกดค้างที่ WiFi ก็จะเข้าเมนูตั้งค่า WiFi เลย แต่ Z5 ทำไม่ได้ กดค้างแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต้องกดเข้าไปที่ setting ก่อน shortcut บน G2 ผมค่อนข้างตั้งได้ครอบคลุมเท่าที่จะใช้แต่พอเป็น Z5 มันมีจำกัดได้ไม่เกิน 10 shortcut มั้ง

การกด capture หน้าจอ หรือ Screenshot นั้นยังคงทำได้ด้วยการกด power และ volume - พร้อมกัน เหมือนกันทั้ง G2 และ Z5 แต่ Z5 ถ้าผมกดปุ่ม power ค้างไว้ 1 วิจะมีมาให้เลือกว่าจะ capture หน้าจอ หรือจะ record เป็น video ได้เลย สะดวกดี

ทุกเช้าเมื่อผมตื่นและเปิด Wifi หรือ Mobile data network ใหม่ๆ G2 จะค่อนข้างช้ากว่าจะ sync ข้อมูลพวก mail, facebook, line, etc. เสร็จ แต่พอเป็น Z5 กดเปิดปุ๊บแทบจะ notify ทุกอย่างในทันที เร็วมาก

การใช้งาน contact และการโทร ผมยังชอบ G2 มากกว่า เพราะทุกอย่างจบที่โปรแกรมเดียวกัน เช่นการโทร, contact, call log ทุกอย่างมี tab ให้กดเปลี่ยนเมนูเลย แต่ของ Z5 จะทำปุมแยกจากกัน มันดูไม่คล่องตัวเท่าไหร่ แต่ใช้ๆไปก็ชินเอง อันนี้ไม่ถือว่าเป็นปัญหามากนัก ผมเจอ bug นึงคือการค้นหา contact ภาษาไทยแบบใส่คำที่อยู่ระหว่างชื่อไม่เจอ เช่นมี contact ชื่อ "ร้านป้าย..." ผมค้นหาคำว่า "ป้าย" มันหาไม่เจอ

ในหน้า App ต่างๆ ของ G2 สามารถเลื่อนไปหน้าสุดท้ายหรือหน้าถัดไปได้ แต่ Z5 ต้องเริ่มจากหน้าแรกไปเรื่อยๆ จนหน้าสุดท้าย แต่ผมยังไม่ลองพวก launcher จาก 3rd party เลยไม่รู้ว่าจะดีกว่าไหม แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบอะไรหลักๆ ที่ไม่ได้มากับเครื่อง

สิ่งหนึ่งที่ Sony ไม่เคยพัฒนาเลย (อ่านมาจากเว็บเมืองนอก) คือเรื่อง Badge Notification ใน launcher ของตัวเอง กล่าวคือโดยทั่วไปเวลามี notification เช่นมีคนส่ง line มา ที่หน้า launcher หรือที่ icon Line จะมีวงกลมพร้อมตัวเลขบอกที่มุมว่ามีกี่ notification แล้ว แต่ launcher ของ Z5 ไม่มีนะ มีแต่แจ้งเตือนบนแถบ status bar แล้วต้องเข้าไปดูเอาเอง แต่เห็นบอกว่า 3rd party launcher มี badge บอก

4. ลำโพง อันนี้เด็ด เพราะผมไม่ต้องเอาตูดเครื่องมาแนบหูแล้ว เพราะเป็นอีกยี่ห้อที่ทำลำโพงหน้าคู่ออกมา เวลาฟังอะไรก็ไม่ต้องคอยเอาอะไรมาป้องที่ตูดเครื่อง มันออกมาตรงๆ เลย ดีครับ เพราะเวลาเราดูอะไรหรือเล่นอะไร เสียงมันจะออกมาทิศทางที่ควรจะเป็น

แต่

ลำโพง Z5 มันเบามากๆ ไม่ดังอย่างที่มันควรจะเป็นลำโพงคู่ แถมตอนซื้อผมลอง 3 เครื่องเพราะลำโพงสองเครื่องแรกมันดังไม่เท่ากัน คือด้านบนดังกว่าด้านล่าง ผมเทียบโดยฟังจากเครื่องเดโมที่ร้านและเครื่องที่แกะกล่องด้วยเพลงเดียวกัน มันต่างกันชัดเจน ใครจะซื้อต้องเช็คเรื่องลำโพงให้ดีครับ และทำใจไว้ด้วยว่ามันไม่ได้ดังกระหึ่มอะไรมากมาย เสียงที่ได้ก็แบนๆ ผมเองไม่ได้เทียบกับ Boom Sound ของ HTC แต่ดูท่ารายนั้นคงจะดีกว่ามาก

อีกเรื่องที่ต้องทำใจคือ Ringtone ผมปรับยังไง enhance เสียงของเพลง mp3 ที่เอามาตั้ง ringtone ให้ดังแล้ว ปรับเสียงที่เครื่องจนสุดแล้ว มันไม่ดังอ่ะครับ เทียบกับ G2 ผมปรับเสียงแค่ 75% ก็ดังเกินไปแล้ว แต่บน Z5 ตั้งไว้ 100% ก็เบากว่ามากๆๆๆๆๆ ปัญหานี้ก็เห็นเป็นกันทั่วโลก ไม่รู้เพราะเรื่องกันน้ำกันฝุ่นรึเปล่าถึงเป็นแบบนี้ อันนี้รับไม่ค่อยได้ครับ แต่ซื้อมาแล้วก็ต้องรับกันไป แต่ผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นซื้อมาจะเป็นเหมือนกันรึเปล่านะ

5. ฟังเพลง อันนี้ประเด็นหลักที่ผมเลือกเลย เพราะมันเล่น Hi Res ได้ และ hardware การฟังเพลง Sony ก็มีชื่อเสียงมานาน เลยรู้สึกสนใจมากๆ พอฟังแล้วขนาดใช้หูฟังไม่ได้เทพอะไรมากมาย เสียงที่ได้นั้นแน่นมากๆ เทียบกับ G2, iPhone4 ที่เคยใช้แล้ว Z5 คือตัวจริงสำหรับผมนะ เวลาฟังมันได้มิติดี การปรับแต่งก็ทำได้ทั้ง Equalizer, ClearAudio+ หรือการใช้ DSEE HX ที่มันจะอัพเกรดไฟล์เพลงให้ใกล้เคียง Hi-Res ให้มากที่สุด ผมลองดูผมว่ามันเวิร์กนะ ใครชอบฟังเพลง Z5 น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ

6. ความร้อน ประเด็นยอดฮิตเพราะ Z5 ใช้ Snapdragon 810 ที่ขึ้นชื่อเรื่องร้อน แต่หลายคนคงได้เห็นมาแล้วว่า Z5 มีการเพิ่ม heat sink สองตัวเข้ามา เท่าที่ใช้งานถ้าใช้อะไรที่ประมวลผลเยอะๆ เช่นดูหนัง เล่นเกม และโดยเฉพาะถ่ายรูปถ่ายวีดีโอ เครื่องจะร้อนมากๆๆๆๆ ร้อนแบบนิ้วแตะมีสะดุ้ง เพราะฉะนั้นเรื่องความร้อน Z5 มีแน่นอน ไม่ต้องลุ้น

แต่ แต่ แต่

พอมันร้อนมากแต่เพราะมี heat sink ระบายความร้อน 2 ตัว เครื่องเย็นลงเร็วมากๆ เช่นกัน สำหรับผมแล้วผมไม่รู้สึกแย่อะไรเลยกับเรื่องความร้อน เพราะเท่าที่ใช้ iPhone4, G2 มามันก็เคยร้อนมากๆ แล้วก็เย็นไป เท่าที่ใช้ Z5 มันร้อนมากกว่าก็จริง แต่ทำงานปกติดี และระบายความร้อนได้เร็วครับ