สวัสดีคะเพื่อนๆทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ลิต้าเขียน ถ้าหากมีสิ่งใดที่ขาดตกบกพร่อง
และรูปอาจไม่สวย อาจเก็บภาพบางอย่างมาไม่หมด ต้องขออภัยด้วยนะคะ

การเที่ยวครั้งนี้เริ่มมาจากว่า ลิต้านั่งเล่นเฟสอยู่ และเห็นราคาตั๋วจากเว็บนึง ไปฮ่องกง ไม่แพงมาก โทรหาเพื่อนก็จองเลยไม่คิดเยอะ บินเดือนหน้าแล้วทำไงดี เราก็ไปหาที่เที่ยวที่อยากไป หาวิธีไปที่พัก ลิต้าเองก็ค่อนข้างจะลำบากในการเตรียมตัว เพราะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฮ่องกงเลย และกลัวอะไรหลายๆอย่างที่จะต้องเจอแบบไม่คาดฝัน555  แต่เอาหละไปก็ไป ลุยย!!!

    ลิต้าจะรวมทุกอย่างที่ลิต้าเที่ยวเองในครั้งนี้ อธิบายให้ทุกคนเห็นภาพมากขึ้นแบบว่าไปเองนี่ได้สบายมาก และบอกราคาค่าใช้จ่ายทุกอย่างด้วยนะคะ เผื่อเพื่อนๆจะได้เตรียมเงินไปถูก และคำนวนเงินที่เหลือไว้ช็อปได้อย่างสบายๆ
และที่บอกว่าสตรอง คือขาคะ55555 เราจะเดินไปนั่นมานี่เยอะมากๆ เพื่อนๆควรเตรียมรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบายที่สุดมาเที่ยวนะคะ

    การเดินทางไปฮ่องกงครั้งนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดตกคนละประมาณ 9900บาท (ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ,โรงแรม2คืน,ค่าเดินทางโดยใช้Octopus Card,ค่าอาหาร7มื้อ+ขนม,กระเช้าขึ้นนองปิง,ซิมเน็ท4G One2free) ราคานี้สำหรับลิต้าโอเคแล้ว กับการจองตั๋วและเตรียมตัวก่อนไปแค่1เดือน แต่ถ้าใครไปได้ถูกกว่านี้ แนะนำได้นะคะ

    การเดินทางเราใช้บริการของไทยแอร์เอเชีย บินคุ้ม...คุณภาพครบ ไป-กลับอยู่ที่ราคา 5463บาท
ขาไปเที่ยวบินที่ FD508 ออกจากดอนเมือง6.45 ถึงสนามบินฮ่องกง10.15 ก็ไม่ทราบเหมือนกันคะ ว่าราคาไปเท่าไหร่กลับเท่าไหร่ เพราะจองผ่าน www.expedia.co.th
(ราคานี้ไม่รวมโหลดกระเป๋านะคะ เพราะคิดว่า3วันเสื้อผ้าเราไม่เยอะใส่ชิวๆ ส่วนพวกของเหลวหาขวดที่ไม่เกิน100ml.มาใช้คะ
ทางสายการบินอนุญาติให้นำสัมภาระขึ้นเครื่องคนละไม่เกิน7kgสบายมากคะ)

    ส่วนโรงแรมลิต้าเลือกนอนที่MK Hotelโรงแรม3ดาว อยู่ที่มงก๊กคะ คืนละ1730บาท นอน2คืน 3460บาทคะ นอนกัน2คนก็ตก คนละ1730บาท  และที่ตั้งโรงแรมนี้ก็สะดวกในการเดินทาง ห้องไม่ใหญ่แต่ความสะอาดถือว่าโอเคคะ
    
    ก่อนไปลิต้าได้ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้านองปิงแบบธรรมดา ราคาใบละ 630บาท  และซิมเน็ท 4G สำหรับ Iphone 6plusต้องใช้ซิมนาโนราคา 500บาทคะ จาก www.hongkongpackage.net วิธีสั่งซื้อก็แค่ส่งเมลว่าต้องการอะไรบ้าง เค้าจะตอบเมลส่งราคามาให้คะ เราก็โอนเงินไปตามที่เค้าบอก พร้อมส่งชื่อที่อยู่ไป ไม่เกิน3วันก็ได้รับของแล้ว ง่ายมากๆคะ

    เริ่มวันแรกกันเลย สนามบินฮ่องกง - Citigate Outlet – กระเช้านองปิง - มงก๊ก – เลดี้มาเก็ต – กลับโรงแรม

6.45 น. เครื่องออกจากสนามบินดอนเมือง เย้ๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ2ชั่วโมงคร่ึงคะ ก่อนที่จะถึงพนักงานต้อนรับบนเครื่องเค้าก็จะเดินแจก ใบให้กรอกเพื่อยื่นให้เจ้าหน้าที่ตอนตรวจคนเข้าเมืองคะ ถึงสนามบินฮ่องกง 10.15น.พอดีๆเลย

พอถึงลิต้าก็เอ๋อเลยทีนี้ ทำไงต่อ ดูคนอื่นเดินก็เดินตามป้าย ที่เขียนว่าImmigrationอย่างเดียว

พอถึงที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้าช่องVisitorเท่านั้นนะคะ ถึงคิวเราก็ Say Hello! กับเจ้าหน้าที่ (ซึ่งหน้านิ่งมาก) ลิต้าก็ยื่นพาสปอทพร้อมใบที่ได้รับบนเครื่องให้กับเจ้าหน้าที่ไปคะ ยืนอยู่ตรงนั้นสักครู่สบตาเขา สำหรับลิต้าเค้าไม่ถามอะไรนะคะ แต่ถ้าเค้าถามก็ตอบไปตามที่เค้าถามคะ (ควรเตรียมสำเนาการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใบรับรองการทำงาน ไปด้วยนะคะ เผื่อเค้าขอดู) สักพักเค้าก็ยื่นพาสปอทพร้อมสำเนาใบที่เรายื่นให้เขาเมื่อสักครู่กลับมาคะ เก็บสำเนาใบตวรจคนเข้าเมืองไว้ด้วยนะคะ เพื่อยื่นกับเจ้าหน้าที่ตอนออกนอกประเทศอีกที

    ออกมาแล้วก็จะเจอที่รับกระเป๋า สำหรับคนที่โหลดกระเป๋าก็ดูที่หน้าจอคะว่าเที่ยวบินเรา กระเป๋าจะะออกที่ช่องไหน
แต่ลิต้าไม่ได้โหลด ก็เดินออกมาได้เลยคะ

    ออกมาสู่โถงภายนอกแล้วจะเจอ Hongkong Tourism Board อันดับแรก
อย่าลืมหยิบแผ่นพับแผนที่ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มาเผื่อไว้ดูด้วยนะคะ

        พอออกมาให้เราตามป้ายที่เขียนว่าTo Cityอย่างเดียวเลยคะ เดินตามทางก็จะเจอ Train Ticket ของ MTR ก็แวะซื้อ Octopus Card ราคาใบละ 150HKD โดย 100HKD จะเป็นมูลค่าในบัตรส่วน 50HKD ก็เงินค่ามัดจำในบัตรคะ
เมื่อเราคืนบัตรก็จะได้เงินคืน แต่แนะนำให้เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปก็ได้คะ


        จากนั้นก็เดินตามทางไปคะที่เขียนว่า To City และต่อมาเป็นป้าย BUS จนมาถึงทางออก ก็จะเจอป้ายนี้เป็นแผนผังที่จอดรถ BUS


        เราต้องไปขึ้นสายS1เพื่อไปCItygate Outlet หรือสถานี MTR Tung Chung  ก็เดินไปขึ้นตามป้ายเลยคะ พอถึงที่ป้ายรถ ก็ต่อแถวขึ้นรถคะ พอขึ้นรถก็แตะ Octopus Card ด้านข้างคนขับ(จะถ่ายสาธิตพอดีคนต่อเยอะเลยได้ภาพนี้มา><)  ค่ารถ 3.5HKDตลอดสาย พอลงก็ไม่ต้องแตะลงนะคะ เมื่อเดินขึ้นมาบนรถก็จะมีที่วางกระเป๋าเดินทางบริเวณหลังคนขับสามารถวางได้เลยคะ เราก็ไปหาที่นั่ง
แนะนำว่าให้นั่งชั้นบน วิวดีมากๆเลย


        นั่งจนสุดสายเลยคะ 5-10นาที ก็ถึง Bus Terminal ที่ติดกับ Citygate Outlet เลยคะ เดินเข้าห้างได้เลย
เดินเล่นในห้าง Shopping ได้ตามใจชอบเลยคะ ของที่นี่ถูกกว่าประเทศไทย ทุกแบรนด์ มี food republic ด้วยนะคะ
สำหรับลิต้ามื้อแรกฝากท้องไว้กับ Mcdonald's ราคาถูกกว่าประเทศไทยมากๆ หลายอย่างเลย เช่น Mcfish ราคาแค่ 10HKDเท่ากับ 40กว่าบาทเอง เทียบกับเมืองไทยชิ้นละ 89บาทคะ สรุปมื้อนี้กิน2คน32HKD ตกคนละ16HKDคะ

ขอบคุณนายแบบทานMcด้วยคะ หึหึ

พอเดินเล่น อิ่มท้องแล้วเราก็เริ่มเที่ยวกันเลยคะ ที่แรกคือ NongPing360

การมาก็เดินจาก Citigate Outletมาได้คะ ใกล้มากๆ  ลิต้าได้ซื้อตั๋วกระเช้าไว้แล้วตั้งแต่เมื่องไทย
อันนี้ต้องขอบอกเลยว่าพลาดมากที่ไม่ศึกษาให้ดีก่อน ว่าห้ามมานองปิงเสาอาทิตย์ช่วงบ่ายเด็ดขาด
ขนาดมีตั๋วแล้ว ได้เข้าช่องพิเศษคือช่อง Agent Ticket Vocher ที่สามารถตรงไปช่อง12-15ได้เลย
ก็ยังยืนรอคิว3ช.ม.ขานี่แข็งเลยค่า แนะนำให้มาช่วงเช้า วันธรรมดาเลยคะ
พอถึงตู้ช่อง12-15 เค้าก็จะเปลี่ยนตั๋วที่ซื้อมาจากไทยเป็นตั๋วจริงให้เรา สำหรับลิต้าซื้อตั๋วธรรมดาก็เดินเข้าไปต่อคิวที่ช่องธรรมดา
สำหรับใครที่ซื้อแบบคริสตัล ก็เข้าแถวช่องคริสตัลคะ ตั๋วจะแพงกว่า แต่คนน้อยกว่า
เท่ากลับว่าได้ขึ้นเร็วกว่าเราคะ วิวก็จะได้เห็นด้านล่างด้วยเพราะพื้นกระเช้าเป็นกระจกใส

        หลังจากรอคิวแล้วก็ได้ขึ้นสักทีคะ ขึ้นมาแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ วิวสวยมากๆ
ไม่รอช้าที่จะเฟสไทม์ไปโชว์คนที่บ้าน บ้าเห่อเสียจริง55  การขึ้นใช้เวลาประมาณ 25นาทีคะ


พอลงกระเช้า ก็ถึงหมู่บ้านนองปิงคะ มีร้านค้ามากมาย ตลอดทางเดินขึ้นไปไว้พระใหญ่ สำหรับลิต้าขึ้นไปก็เกือบ 6โมงเย็นแล้ว เลยเดินแค่ถึงทางเข้าพระใหญ่คะ  เพราะกลัวว่าจะต้องรอคิวนานเหมือนตอนขามา พอเดินกลับ ก็เป็นไปตามคาดคะ รอ3ชมเท่าขามาเลย


ตอนกลับมืดแล้วไม่เห็นวิวเลยคะ ลมแรงหนาวมาก กลับมาอย่างหมดแรง555


        พอถึงก็เดินไปขึ้นสถานีรถไฟ MTR เพื่อเข้าโรงแรมกันคะ ขึ้น MTR Tung Chung (สายสีส้ม)  ไปลงสถานี Lai King (ไร่ขิงปะ) เพื่อเปลี่ยนสายไปขึ้น (สายสีแดง) ฝั่งไป ทางสถานี Mei Foo ปลายทาง Central เพื่อไปลงสถานี Yau Ma Tei ทางออกA1  
(ค่ารถไฟคนละ16.5HKD) แต่ตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้วเราเลยแวะทานข้าวเย็นกันก่อนคะ ไปร้านบะหมี่เสฉวนรสจัดกัน
ร้าน Delicious Noodles ออก MTR ทางออกC  เลี้ยวขวาเดินตามถนนนาธานเรื่อยๆ เมื่อพบ4แยกใหญ่แรกให้เลี้ยวขวา เข้าถนน Public Square Street (1) จากนั้นเดินไปอีกนิดจะเจอสนามบาส (2) เดินผ่านสนามบาสไปจะเจอทางม้าลายข้ามถนนเล็ก (3) เดินอีกสักพักนึงก็จะพบร้านอยู่ขวามือ (4) เข้าไปในร้านและบอกจำนวนคนได้เลยคะ เค้าก็จะหาโต๊ะให้เรา


เข้ามาในร้านเมนูภาษาจีนล้วนคะ deadairอยู่สักพัก  สรุปใช้วิธีจิ้มรูปเอาคะ555 สักพักบะหมี่ชามใหญ่มากสุดแสนจะน่ากินก็มาเสริฟคะ

รสชาติอาจจะแปลกสำหรับคนไทยเรา มีกลิ่นหอมเครื่องเทศ มีรสเผ็ดร้อนนิดหน่อย รวมๆแล้วถือว่าอร่อยคะ บะหมี่ชามละ 32HKD บวก Cokeกระป๋องละ 12HKD มื้อนี้ทั้งหมดก็รวม 44HKDคะ

ออกจาก ร้านเดินออกมาเจอถนนนาธานเหมือนเดิม แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปประมาณ 700 เมตร เกือบๆ ถึง MRT Mongkok แล้ว โรงแรมอยู่ในซอยซ้ายมือ  ตรงเข้ามาจะเจอโรงแรม MK Hotel ซอยของโรงแรมจะอยู่ก่อนถึง Soy street   (ไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมนะคะ ตอนนั้นเพลียมากอยากจะรีบขึ้นห้อง ขออนุญาตยืมรูปจากในเน็ตมาแปะให้เพื่อนๆดูคะ)

ถึงโรงแรมแล้ว ทำการ Checkin แค่ยื่นพาสปอทให้พนักงาน เค้าก็จะนำไปถ่ายเอกสารคะ แล้วเค้าก็เขียนบิล ให้เราเซ็นชื่อเข้าพัก จากนั้นก็จะเก็บตังเรา500HKDเพื่อเป็นการมัดจำไว้ เวลา Check outเค้าก็จะคืนให้คะ อย่าลืมเก็บใบเสร็จที่เค้าให้มาเพื่อรับเงินคืนด้วยนะคะ  

เก็บของนั่งพักสักครู่ เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็ออกมาลุยต่อเลย ไปเลดี้มาเก็ตกัน!!! ลิต้าใส่คอกระเช้าสุดสวยมาด้วยคะ ตอนนั้นเพลียแล้ว ไปเดินเล่นชิวๆ ก็หาอะไรที่ใส่สบายสุดๆ สรุปมาเป็นตัวนี้คะ ^^

วิธีไปจากโรงแรมนะคะ เดินออกมาที่ถนนนาธาน เลี้ยวซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกใหญ่ ที่เค้าข้ามถนนกัน ก็ข้ามถนนมาเลยคะ
เดินทะลุเข้าซอยมากก็จะมาของกิน ของขายเยอะมากเต็มถนนไปหมด เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ เลดี้มาเก็ตจะอยู่ในซอย Tung Choi คะ
ถ้าเห็นว่ามีขายของเยอะคล้ายๆซอยสำเพ็งบ้านเรา ก็เดินเข้าไปเลยคะ มีของขายเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกของฝาก
พอเค้าเห็นคนไทยหรือนักท่องเที่ยว คนขายจะคิดว่า"หมูมาแว้ววว!!" ถ้าเราไม่ต่อเค้าจะต้มเราจนเปื่อยเลยคะ555
แนะนำให้ต่อราคาลงมา50%-60%จากที่คนขายบอกยังไงก็ได้คะ
ลิต้าสนใจเสื้อกันหนาวตัวนึง คนขายบอก230HKD คิดในใจ พันกว่าบาท โอ้วว ซื้อแบรนด์ในห้างมั้ย ลิต้าก็เดินออกมาคะ เค้าตะโกนมาว่าทูฮันเดรทๆ 200ละเราก็ไม่สน เดินมาจับแขนบอก วันซิคตี้ๆ 160แล้ว แม่เจ้า ลิต้าก็ใจไปแล้ว เดินออกมาอีก ผ่านมา4ล็อคแล้ว เสียงลอยมาว่าวันฮันเดรท เข้าหูปุ๊บ!! ละก็หายไป เราก็ยืนดิด 5วินาที โอเคเดินกลับไป สรุปได้มา 100HKD
ถูกกว่าเดิมเยอะมาก เพื่อนๆอย่าลืมต่อนะคะ

เดินเล่นไปเรื่อยๆระหว่างทางเจอวาฟเฟิลฮ่องกงของจริง ชื่อร้าน Wang Jin Tea House แวะซื้อทานสักหน่อย ชิ้นละ 16HKD พอได้กัดคำแรกจะบอกว่า  วาฟเฟิลฮ่องกงที่ไทยอร่อยกว่าเยอะมาก  ด้วยความที่เค้าทำไว้จนเย็นกัดไปนี่เหนียวเลยครัช รสชาติที่ไทยดีกว่าแถมเลือกไส้ได้ตามใจชอบ ส่วนของที่นี่ไม่มีใส่นะคะ  แต่อาจจะอร่อยสำหรับชาวฮ่องกง อันนี้คิดว่าแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลแล้วกันคะ

เราก็เดินเล่นไปเรื่อยๆจนหมดแรง แล้วก็ลากขากลับโรงแรมทางเดิม
เดี๋ยวมาต่อวันที่2นะคะ