สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาติมารีวิว Wiko Fever SmartPhone สัญชาติฝรั่งเศส
ขอบอกล่วงหน้าก่อนเลยนะครับว่ารีวิวนี้ ไม่ใช่การแกะกล่องครับ ผมจะมาพูดถึงการใช้งานจริงเลยครับ เนื่องจากว่าการแกะกล่องมีคนทำไว้เยอะแล้ว
และส่วนตัวผมเองตอนจะซื้อ หาข้อมูลไม่ได้เลย เพราะมีแต่แกะกล่องๆ ฉะนั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยครับ
ข้อมูลละเอียดให้ดูจากลิ้งค์นี้นะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://th-th.wikomobile.com/m1014-Wiko
ข้อมูลคร่าวๆครับ
NETWORK : 4G LTE 800/1800/2100/2600 MHz H+/3G+/3G WCDMA 850/900/2100 MHz GSM/GPRS/EDGE 850/900/1800/1900 MHz
DATA SEGMENT : FDD-LTE Cat. 4, DL 150 Mbps, UL 50 Mbps
OPERATING SYSTEM : Android™ 5.1 (Lollipop)
PROCESSOR : Octa-Core 1.3 GHz, Cortex A-53
DESIGN : Touch screen
SIM CARD : 2 Micro SIM
AVAILABLE COLORS : White/Gold, Black Grey
SIZE : 148x73.8x8.3 mm
WEIGHT : 143 g (with battery)
BATTERY : 2900 mAh Li-Po
STAND-BY TIME : Up to 216h
TALK TIME : Up to 21.7h (2G), Up to 16.2h (3G)
ROM : 16 GB
RAM : 3 GB
EXTERNAL MEMORY : Micro SD up to 64 GB
ACCELEROMETER : Yes
MAGNETIC SENSOR : Yes
PROXIMITY SENSOR : Yes
LIGHT SENSOR : Yes
SAR VALUE : Head: 0.236W/Kg, Body: 0.573 W/Kg
The SAR (Specific Absorption Rate) for mobile phones quantifies the user’s maximum level of exposure to electromagnetic waves when used next to the ear. European regulations dictate that the SAR does not exceed 2 W/kg
สิ่งแรกๆที่ผมอยากรู้เกี่ยวกับเจ้าตัวนี้คือเรื่องของ Gesture หรือการใช้งานอัจฉริยะครับ
จริงๆมีให้ใช้เยอะพอสมควรเลยครับ แต่ในส่วนนี้เวลาไปลองที่ร้านมือถือเขาจะชอบ Lock Setting เอาไว้ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปดูได้
แต่ก็เห็นใจครับเผื่อมีคนมือบอนไปปรับแล้วล็อคเครื่องเขาก็คงแย่
มีคลิบการลองเข้าใช้งานซึ่งในคลิบแรกนี้อาจจะมีจอหรือเป็นเส้นพร่าๆบ้างเพราะผมลืมถอด Filter CPL
เป็นความสับเพร่าของผมเอง ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้
คลิบแรก (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
คลิบสองเพิ่มเติมจากคลิบแรกนิดหน่อยครับ (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
เพิ่มเติม WHITE BALANCE : Auto, Incandescent, Daylight, Fluorescent, Cloudy
ทีนี้เรามาพูดเรื่องภาพที่ได้ครับ กล้องในสเปคบอกว่า 13 Megapixels ถ่ายเวลากลางวันพอได้ครับ แต่กลางคืนนี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ Auto Focus ทำงานได้ไม่เร็วและไม่แม่นยำเท่าใดนัก กล้องหน้า 5 Megapixels + Selfie flash กล้องหน้ามีแฟลชด้วยครับอันนี้เป็นของแปลก เพราะยังไม่เห็นมี Smartphone เจ้าไหนมีแฟลชกล้องหน้าเลยครับ มีภาพตัวอย่างมานิดหน่อยครับจากกล้องหน้า
ภาพถ่ายกลางคืนตอนลองถ่ายผมเปิดแฟลชด้วยครับ โดยปกติเวลาเปิดแฟลช มันจะหยุดการเคลื่อนไหวของแบบได้ระดับนึง แต่จากการทดสอบคือหยุดไม่ได้เลยครับ กดถ่ายแล้วหลุดตลอดเลยครับเรียกว่าถ่ายกลางคืนนี่แทบพึ่งพาไม่ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Wiko Fever 4G ครับ
ภาพถ่ายเวลากลางคืน (ต้องมือนิ่งมากๆถึงจะเข้าครับ ภาพแรกโฟกัสแล้วแต่ไม่เข้า
ภาพสองถ่ายในห้องนอนเอามือพิงโต๊ะเลยพอจะนิ่งแต่เหมือนไม่ชัดเท่าที่ควรครับ)
ภาพจากกล้องหน้า ฟรุ้งฟริ้งได้สามระดับไปลองกันเองที่ร้านนะครับ ส่วนนี้เขาไม่ล็อค(ขออนุญาติโมเสคหน้าผมเองนะครับ)
ไม่เปิดแฟลชกล้องหน้า
เปิดแฟลชกล้องหน้า ตาพร่ากันเลย
ทีนี้มาพูดถึง Video กันบ้างครับ เฉกเช่นเดียวกับภาพนิ่งครับ กลางวันพอใช้ได้ กลางคืนนี่ไม่ไหวครับ
โดยที่ในสเปคบอกว่า VIDEO RECORDER : 1080p@30fps
ตัวอย่างภาพถ่ายวิดีโอตอนกลางวัน (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
ตัวอย่างภาพถ่ายวิดีโอตอนกลางคืน (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
สรุปแล้วเป็น
SmartPhone หน้าใหม่ในบ้านเราที่ราคากับสเปคคุ้มค่ามากครับ การใช้งานเท่าที่ลองนี่โอเคมากครับ การใช้งานไม่มีปัญหาใดๆลื่นไหลมากครับ
กล้องพึ่งพายามค่ำคืนไม่ค่อยจะได้
ราคาไม่แพงผมซื้อมาราคา 6,990 บาท แถมเมม 8G รองรับ OTG และรองรับ 4G ด้วยครับ
ผมเป็นคนใช้มือถือจนพังแล้วถึงเปลี่ยนครับ หวังว่า Wiko Fever 4G จะอยู่กับผมได้เกิน2ปีนะครับ ทีนี้เรามาว่าข้อเสียเท่าที่ผมเจอบ้างนะครับ
- จอเรืองแสงที่เป็นจุดขายบอกเลยว่า มันไม่เรืองแสงครับ เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าสีขาวจะเรืองดีกว่าสีดำครับ
- Font ไม่สามารถเปลี่ยนหรือปรับแต่งได้ (ต้องRoot เครื่องถึงจะทำได้ ถ้าไม่มีความรู้และความชำนาญไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะหลุดประกันทันที!) แต่เท่าที่ผมตรวจสอบข้อมูลพบว่า OS ใหม่ๆของ Android หลายตัวไม่สามารถเปลี่ยน Font ได้ครับ
- ริงโทนแจ้งเตือนปฏิทินเบามาก เรียกว่าตั้งไว้ยังไงก็ไม่ได้ยิน
- Gesture แตะหน้าขอสองครั้งจอเปิดทำงานดีมากครับ มากเกินจนปลดล็อคในกระเป๋าผมและโทรLineไปหาเพื่อนผมมาแล้วครับ (ประชัน)
- มือชื้นๆจะกด แตะจอสองครั้งเพื่อเข้าเข้าใช้งานไม่ค่อยได้ครับ (อันนี้ OPPO ทำได้ดีกว่าเยอะครับมือเปียกๆพี่แกะยังแตะเปิดเครื่องได้เลย)
- กล้องไม่จำการตั้งค่าล่าสุด เช่นถ้าเราตั้งว่าให้โชว์จุดตัดเก้าช่องหรือ Grid Mode พอเราออกกล้องแล้วเข้าใหม่ก็ต้องเข้ามาตั้งค่าส่วนนี้ใหม่เสมอครับ
- เวลาวาดนิ้วเป็นวงกลมเพื่อเปิดไฟฉาย เราจะเข้าไปในแอพไฟฉายเพื่อปิดไม่ได้ครับ วิธีแก้คือต้องกดล็อคหน้าจอแล้ววาดมือเป็นวงกลมอีกครั้งเพื่อปิดมัน (ซะงั้น) แต่!! ถ้าเปิดจากไฟแอพไฟฉายโดยตรงจะสามารถกดเปิดปิดได้ปกติครับ เออ เป็นงั้นไป
- กล้องโฟกัสช้าและไม่แม่นยำ เปิดแฟลชไม่สามารถ Stop Motion ได้เลย
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ ติดตามบทความดีๆของผมได้ที่ Bloggang ของผมนะครับ ข้างๆชื่อผมเองครับ
[CR] รีวิว Mini Wiko Fever 4G SmartPhone สัญชาติฝรั่งเศส
ขอบอกล่วงหน้าก่อนเลยนะครับว่ารีวิวนี้ ไม่ใช่การแกะกล่องครับ ผมจะมาพูดถึงการใช้งานจริงเลยครับ เนื่องจากว่าการแกะกล่องมีคนทำไว้เยอะแล้ว
และส่วนตัวผมเองตอนจะซื้อ หาข้อมูลไม่ได้เลย เพราะมีแต่แกะกล่องๆ ฉะนั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยครับ
ข้อมูลละเอียดให้ดูจากลิ้งค์นี้นะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อมูลคร่าวๆครับ
NETWORK : 4G LTE 800/1800/2100/2600 MHz H+/3G+/3G WCDMA 850/900/2100 MHz GSM/GPRS/EDGE 850/900/1800/1900 MHz
DATA SEGMENT : FDD-LTE Cat. 4, DL 150 Mbps, UL 50 Mbps
OPERATING SYSTEM : Android™ 5.1 (Lollipop)
PROCESSOR : Octa-Core 1.3 GHz, Cortex A-53
DESIGN : Touch screen
SIM CARD : 2 Micro SIM
AVAILABLE COLORS : White/Gold, Black Grey
SIZE : 148x73.8x8.3 mm
WEIGHT : 143 g (with battery)
BATTERY : 2900 mAh Li-Po
STAND-BY TIME : Up to 216h
TALK TIME : Up to 21.7h (2G), Up to 16.2h (3G)
ROM : 16 GB
RAM : 3 GB
EXTERNAL MEMORY : Micro SD up to 64 GB
ACCELEROMETER : Yes
MAGNETIC SENSOR : Yes
PROXIMITY SENSOR : Yes
LIGHT SENSOR : Yes
SAR VALUE : Head: 0.236W/Kg, Body: 0.573 W/Kg
The SAR (Specific Absorption Rate) for mobile phones quantifies the user’s maximum level of exposure to electromagnetic waves when used next to the ear. European regulations dictate that the SAR does not exceed 2 W/kg
สิ่งแรกๆที่ผมอยากรู้เกี่ยวกับเจ้าตัวนี้คือเรื่องของ Gesture หรือการใช้งานอัจฉริยะครับ
จริงๆมีให้ใช้เยอะพอสมควรเลยครับ แต่ในส่วนนี้เวลาไปลองที่ร้านมือถือเขาจะชอบ Lock Setting เอาไว้ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปดูได้
แต่ก็เห็นใจครับเผื่อมีคนมือบอนไปปรับแล้วล็อคเครื่องเขาก็คงแย่
มีคลิบการลองเข้าใช้งานซึ่งในคลิบแรกนี้อาจจะมีจอหรือเป็นเส้นพร่าๆบ้างเพราะผมลืมถอด Filter CPL
เป็นความสับเพร่าของผมเอง ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้
คลิบแรก (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
คลิบสองเพิ่มเติมจากคลิบแรกนิดหน่อยครับ (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
เพิ่มเติม WHITE BALANCE : Auto, Incandescent, Daylight, Fluorescent, Cloudy
ทีนี้เรามาพูดเรื่องภาพที่ได้ครับ กล้องในสเปคบอกว่า 13 Megapixels ถ่ายเวลากลางวันพอได้ครับ แต่กลางคืนนี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ Auto Focus ทำงานได้ไม่เร็วและไม่แม่นยำเท่าใดนัก กล้องหน้า 5 Megapixels + Selfie flash กล้องหน้ามีแฟลชด้วยครับอันนี้เป็นของแปลก เพราะยังไม่เห็นมี Smartphone เจ้าไหนมีแฟลชกล้องหน้าเลยครับ มีภาพตัวอย่างมานิดหน่อยครับจากกล้องหน้า
ภาพถ่ายกลางคืนตอนลองถ่ายผมเปิดแฟลชด้วยครับ โดยปกติเวลาเปิดแฟลช มันจะหยุดการเคลื่อนไหวของแบบได้ระดับนึง แต่จากการทดสอบคือหยุดไม่ได้เลยครับ กดถ่ายแล้วหลุดตลอดเลยครับเรียกว่าถ่ายกลางคืนนี่แทบพึ่งพาไม่ได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Wiko Fever 4G ครับ
ภาพถ่ายเวลากลางคืน (ต้องมือนิ่งมากๆถึงจะเข้าครับ ภาพแรกโฟกัสแล้วแต่ไม่เข้า
ภาพสองถ่ายในห้องนอนเอามือพิงโต๊ะเลยพอจะนิ่งแต่เหมือนไม่ชัดเท่าที่ควรครับ)
ภาพจากกล้องหน้า ฟรุ้งฟริ้งได้สามระดับไปลองกันเองที่ร้านนะครับ ส่วนนี้เขาไม่ล็อค(ขออนุญาติโมเสคหน้าผมเองนะครับ)
ไม่เปิดแฟลชกล้องหน้า
เปิดแฟลชกล้องหน้า ตาพร่ากันเลย
ทีนี้มาพูดถึง Video กันบ้างครับ เฉกเช่นเดียวกับภาพนิ่งครับ กลางวันพอใช้ได้ กลางคืนนี่ไม่ไหวครับ
โดยที่ในสเปคบอกว่า VIDEO RECORDER : 1080p@30fps
ตัวอย่างภาพถ่ายวิดีโอตอนกลางวัน (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
ตัวอย่างภาพถ่ายวิดีโอตอนกลางคืน (ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p)
สรุปแล้วเป็น
SmartPhone หน้าใหม่ในบ้านเราที่ราคากับสเปคคุ้มค่ามากครับ การใช้งานเท่าที่ลองนี่โอเคมากครับ การใช้งานไม่มีปัญหาใดๆลื่นไหลมากครับ
กล้องพึ่งพายามค่ำคืนไม่ค่อยจะได้
ราคาไม่แพงผมซื้อมาราคา 6,990 บาท แถมเมม 8G รองรับ OTG และรองรับ 4G ด้วยครับ
ผมเป็นคนใช้มือถือจนพังแล้วถึงเปลี่ยนครับ หวังว่า Wiko Fever 4G จะอยู่กับผมได้เกิน2ปีนะครับ ทีนี้เรามาว่าข้อเสียเท่าที่ผมเจอบ้างนะครับ
- จอเรืองแสงที่เป็นจุดขายบอกเลยว่า มันไม่เรืองแสงครับ เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าสีขาวจะเรืองดีกว่าสีดำครับ
- Font ไม่สามารถเปลี่ยนหรือปรับแต่งได้ (ต้องRoot เครื่องถึงจะทำได้ ถ้าไม่มีความรู้และความชำนาญไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะหลุดประกันทันที!) แต่เท่าที่ผมตรวจสอบข้อมูลพบว่า OS ใหม่ๆของ Android หลายตัวไม่สามารถเปลี่ยน Font ได้ครับ
- ริงโทนแจ้งเตือนปฏิทินเบามาก เรียกว่าตั้งไว้ยังไงก็ไม่ได้ยิน
- Gesture แตะหน้าขอสองครั้งจอเปิดทำงานดีมากครับ มากเกินจนปลดล็อคในกระเป๋าผมและโทรLineไปหาเพื่อนผมมาแล้วครับ (ประชัน)
- มือชื้นๆจะกด แตะจอสองครั้งเพื่อเข้าเข้าใช้งานไม่ค่อยได้ครับ (อันนี้ OPPO ทำได้ดีกว่าเยอะครับมือเปียกๆพี่แกะยังแตะเปิดเครื่องได้เลย)
- กล้องไม่จำการตั้งค่าล่าสุด เช่นถ้าเราตั้งว่าให้โชว์จุดตัดเก้าช่องหรือ Grid Mode พอเราออกกล้องแล้วเข้าใหม่ก็ต้องเข้ามาตั้งค่าส่วนนี้ใหม่เสมอครับ
- เวลาวาดนิ้วเป็นวงกลมเพื่อเปิดไฟฉาย เราจะเข้าไปในแอพไฟฉายเพื่อปิดไม่ได้ครับ วิธีแก้คือต้องกดล็อคหน้าจอแล้ววาดมือเป็นวงกลมอีกครั้งเพื่อปิดมัน (ซะงั้น) แต่!! ถ้าเปิดจากไฟแอพไฟฉายโดยตรงจะสามารถกดเปิดปิดได้ปกติครับ เออ เป็นงั้นไป
- กล้องโฟกัสช้าและไม่แม่นยำ เปิดแฟลชไม่สามารถ Stop Motion ได้เลย
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ ติดตามบทความดีๆของผมได้ที่ Bloggang ของผมนะครับ ข้างๆชื่อผมเองครับ