Bonjour สวัสดีคะ ช่วงนี้เห็นคนรอบๆตัวเริ่มสนใจทุน Franco-Thai และก่อนหน้านี้มีหลายๆคนที่รู้จักแอบมาถามและมาปรึกษาเรื่องการเรื่องต่อฝรั่งเศสกับเรา กระทู้นี้เราเลยคิดว่าเราควรจะแบ่งปันส่วนหนึ่งของความคิด ความเป็นอยู่ ของนักเรียนไทยคนนึงที่ตัดสินใจมาเรียนป.โทที่ฝรั่งเศส
**ข้อควรรู้ของเรา**
-ที่บ้านเราญาติพี่น้องคนอื่นจบตรี/โทจากอังกฤษและจบจากมหาลัยชั้นนำเช่นกัน ดังนั้นเราพยายามแสดงข้อดีข้อเสียของประเทศฝรั่งเศสในมุมมองที่แตกต่างออกไป เรารับรู้และยอมรับทั้งสองด้าน(ติและติงได้ตามสบายคะ)
-เราเรียนbusiness schoolเป็นมหาลัยเอกชน ค่าเทอมถูกกว่าอังกฤษนิดหน่อย ค่าครองชีพน่าจะแพงกว่า แต่ค่าภาษีสังคมของเราแทบจะไม่มี(คนไทยที่เรียนด้วยกันทั้งโรงเรียนมีไม่ถึง 15คน) เราแต่งตัวตามเด็กฝรังทั่วไปไม่ได้หวือหวา ไม่จำเป็นต้องสอยของใช่ฟุ่มเฟือยอย่างที่เราเคยอยู่ในไทย
-เราเป็นนักเรียนป.ตรีเกรดปานกลางคะ ไม่ได้เป็นคนเก่งและไม่มีความเชี่ยวชาญด้านใดเป็นพิเศษ
ทำไมถึงเลือกเรียนฝรั่งเศส ในมุมมองของเรา?
มีหลายคนแอบมาถามมาปรึกษากับเราหลังจากที่เราอัพรูปการใช้ชีวิตการเป็นนักเรียนป.โท ที่นี่ซึ่งหาแหล่งข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส ได้น้อยมาก(เทียบกับอังกฤษนะ) เราชอบอ่าน articles จับฉ่าย มั่วซั่วไปเรื่อยซึ่งทำให้เราเลือกเรียนที่นี่
อันดับแรก
ฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกเป็นประเทศแรกๆ ในการปฏิวัติและการพัฒนาสิ่งต่างๆ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าความคิดริเริ่มและการพัฒนาสิ่งประดิษย์ต่างๆเหมาะกับคนรุ่นgen Y อย่างเรา (หราาา!) เรื่องปรัญชา กฎหมายต่างๆ และการปฎิวัติ ประเทศฝรั่งเศสล้วนมีความสำคัญมากๆเช่นกัน
อันดับสอง
ทำไมประเทศในกลุ่มยุโรปค่าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐถูกจัง กลุ่มประเทศเหล่านี้เน้นให้คนในชาติได้มีโอกาศทางการศึกษาและได้เรียนรู้เพื่อนำความรู้มาใช้พัฒนาประเทศ ที่สำคัญทุกคนมีโอกาศได้รับการศึกษาเท่าๆกันไม่ว่าจะเป็นคนชาติใดก็ตาม แสดงว่าการศึกษาคือรากฐานที่สำคัญ และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ทุกคนยินดีที่จะเรียนทำให้การเรียนในฝรั่งเศสของเรามีเพื่อน ฝรั่งเศสเยอะ (มหาลัยรัฐในเมืองมี2แห่ง ยังไม่รวม ของเอกชน) ค่าเรียนป.โท มหาลัยรัฐบาลที่นี่ ราคาไม่สูงมาก หากคุณไปเรียนคุณก็ยังเจอเพื่อนฝรั่งเศสเยอะอยู่เช่นกัน mobility freedom ของคนในสหภาพยุโรป ทำให้ชาติเพื่อนบ้านตัดสินใจมาเรียนในฝรั่งเศส คุณจะได้เจอเพื่อนจาก เบลเยี่ยม หรือที่อื่นๆ
อันดับที่สาม
โอกาสในการได้ฝึกงาน(ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราเองจะหาได้ที่ไหน) อันนี้เฉพาะมหาลัย จะเจอได้ตาม ecole หรือง่ายๆคือโรงเรียนเอกชน (พวก business school) ทำให้เรามีโอกาส สร้าง profileของเราขึ้นมา ไม่ใช่แค่เรียนแล้ว ทำ dissertation แล้วจะจบนะ ต้องฝีกงานด้วย!! เราลองเปิดเจอ careers ตามบริษัทดังๆเช่น lvmh จะมีrequirement ที่ต้องการเด็กจาก ecole มากกว่า ดังนั้นเราอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาส มากกว่าคนอื่น เราได้พูดคุยกับเพื่อนฝรั่งเศสและค้นพบว่า บางคนแค่ฝึกงานอย่างเดียวได้ไป 1,200ต่อเดือน และตอนนี้กำลังหาที่ฝึกงานที่อื่นอยู่และอาจจะเรียกขั้นต่ำ 1,500ยูโรต่อเดือน แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกลค่ะ ที่นี่ก็มีค่าแรกขั้นต่ำเช่นกัน โดยส่วนมากเค้าจะให้เงินค่าฝึกงานขั้นต่ำประมาณ 500ยูโรต่อเดือน (ถ้าไม่ผิดพลาดประการใด) แต่มีบวกค่าเดินทางให้นิดหน่อยนะคะ และที่นี่การฝึกงานคือการทำงานจริงๆคะ คุณคือส่วนหนึ่งขององกรณ์ การจ่ายเงินของเค้า เค้าคาดหวังผลงานของคุณเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพรอคุณอยู่
อันดับที่สี่
การเรียนโรงเรียนอินเตอร์ในประเทศที่มีภาษาตัวเองเป็นภาษาประจำชาติ แสดงว่าบุคลากรที่มาสอนนั้นอาจจะไม่ใช่คนท้องถิ่น ทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษ แต่คนละสำเนียงและสำเนียงที่แตกต่างกันไป มีเพื่อนจากหลายๆเชื้อชาติ เพื่อนฝรั่งเศสก้อเยอะ หูนี่ต้องกระดิกให้ไป ไม่งั้นเม้าส์กับเพื่อนไม่รอด ดังนั้นเราจึงชอบความหลากหลายของการใช้ของภาษา เรามาเรียนที่นี่เพื่อนที่เราสามารถแชร์ความคิดเห็นต่างๆได้อยากสะดวกใจเป็นคนฝรั่งเศส เม็กซิกัน โคลัมเบียน และ คนไต้หวัน (ที่ฝรั่งเศสการจะเป็นเพื่อน แบบ BFF/ mes amis นี่ยากนะคะ เค้าจะแทนกันแบบ นี่classmateชั้น นี่ colleague ชั้น) ที่สำคัญที่เราเคยเจอมากับตัวคือ การทำงานจริงๆ(เรามีประสบการณ์การทำงานกับ บริษัท multination company) เจ้านายเรามีทั้ง อเมริกา อินเดีย ฝรั่งเศส เพื่อนร่วมงานมี จีน-สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และอื่นๆ
อันดับสุดท้าย
สร้างความแตกต่างและขายความแตกต่างให้กับตัวเอง เราโชคดีที่พ่อกับแม่สนับสนุนความคิดและเคารพในการตัดสินใจของเรา เรามีคนให้ความรู้เชิงวิชาการและสังคมหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นเราจึงเป็นคนแสวงหาความแปลกให้กับตัวเอง หลายๆคนต้องการที่ยืนในสังคมที่ยืนในด้านธุรกิจ เราก็เช่นกัน เราต้องการสิ่งเหล่านั้นเพื่อเป็นบันไดในการต่อยอดความคิดและธุรกิจของเรา(มโน) การที่จะบรรลุถึงสิ่งที่เราคาดหวังได้ เราควรมีมุมมองในหลายๆรูปแบบ เราไม่มันใจว่าสิ่งที่เราเลือกไปในอนาคตมันจะหันไปทิศทางไหน แต่เราเลือกที่จะเดินไปกับมัน เดินไปกับความแตกต่างที่เราเลือกคะ
เราอยากให้คนที่กำลังมองหาที่เรียนต่อเพื่ออนาคตตัวเองหรือเพื่ออะไรก็ตาม ถามใจตัวเองดูกว่าว่าสิ่งที่เราเลือกมันดีที่สุดสำหรับแล้วหรือยัง คนที่เรียนจบมาโดยส่วนใหญ่เค้าเดินไปในทิศทางไหน ใช่ทิศทางที่เราอยากเดินหรือป่าว สิ่งที่เรามีและติดตัวมาสามารถผลักดันอนาคตของเราได้มั้ย?
ท้ายที่สุดนี่สำหรับคนที่มองหาประเทศอื่นที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ตัดสินใจให้ดีนะคะ หาข้อดี ข้อเสีย บางคนอยากสมัครทุนไป ทุนเรียนฟรี หรือค่าเรียนถูก แต่ลืมไปหรือป่าว บางที่ที่เรียนฟรีเป็นหน่วยงานหรือองค์กรของรัฐบาล มีการพูดการใช้ภาษาราชการเป็นของตัวเอง คุณพูดภาษาเขาได้ถึงระดับไหน? ตรองดีดีก่อนะคะ แต่ถ้ามั่นใจเต็มที่แล้วเราก็สนับสนุนคะ ภาษาเป็นแค่อุปสรรค์เล็กๆถ้าใจคุณพร้อมอย่าไปกังวล
[Review] เหตุผล5ข้อที่ทำให้เราเก็บกระเป๋าแล้วมาเรียนป.โทที่ฝรั่งเศส "รอดไม่รอดว่ากัน"
**ข้อควรรู้ของเรา**
-ที่บ้านเราญาติพี่น้องคนอื่นจบตรี/โทจากอังกฤษและจบจากมหาลัยชั้นนำเช่นกัน ดังนั้นเราพยายามแสดงข้อดีข้อเสียของประเทศฝรั่งเศสในมุมมองที่แตกต่างออกไป เรารับรู้และยอมรับทั้งสองด้าน(ติและติงได้ตามสบายคะ)
-เราเรียนbusiness schoolเป็นมหาลัยเอกชน ค่าเทอมถูกกว่าอังกฤษนิดหน่อย ค่าครองชีพน่าจะแพงกว่า แต่ค่าภาษีสังคมของเราแทบจะไม่มี(คนไทยที่เรียนด้วยกันทั้งโรงเรียนมีไม่ถึง 15คน) เราแต่งตัวตามเด็กฝรังทั่วไปไม่ได้หวือหวา ไม่จำเป็นต้องสอยของใช่ฟุ่มเฟือยอย่างที่เราเคยอยู่ในไทย
-เราเป็นนักเรียนป.ตรีเกรดปานกลางคะ ไม่ได้เป็นคนเก่งและไม่มีความเชี่ยวชาญด้านใดเป็นพิเศษ
ทำไมถึงเลือกเรียนฝรั่งเศส ในมุมมองของเรา?
มีหลายคนแอบมาถามมาปรึกษากับเราหลังจากที่เราอัพรูปการใช้ชีวิตการเป็นนักเรียนป.โท ที่นี่ซึ่งหาแหล่งข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส ได้น้อยมาก(เทียบกับอังกฤษนะ) เราชอบอ่าน articles จับฉ่าย มั่วซั่วไปเรื่อยซึ่งทำให้เราเลือกเรียนที่นี่
อันดับแรก
ฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกเป็นประเทศแรกๆ ในการปฏิวัติและการพัฒนาสิ่งต่างๆ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าความคิดริเริ่มและการพัฒนาสิ่งประดิษย์ต่างๆเหมาะกับคนรุ่นgen Y อย่างเรา (หราาา!) เรื่องปรัญชา กฎหมายต่างๆ และการปฎิวัติ ประเทศฝรั่งเศสล้วนมีความสำคัญมากๆเช่นกัน
อันดับสอง
ทำไมประเทศในกลุ่มยุโรปค่าเรียนมหาวิทยาลัยรัฐถูกจัง กลุ่มประเทศเหล่านี้เน้นให้คนในชาติได้มีโอกาศทางการศึกษาและได้เรียนรู้เพื่อนำความรู้มาใช้พัฒนาประเทศ ที่สำคัญทุกคนมีโอกาศได้รับการศึกษาเท่าๆกันไม่ว่าจะเป็นคนชาติใดก็ตาม แสดงว่าการศึกษาคือรากฐานที่สำคัญ และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ทุกคนยินดีที่จะเรียนทำให้การเรียนในฝรั่งเศสของเรามีเพื่อน ฝรั่งเศสเยอะ (มหาลัยรัฐในเมืองมี2แห่ง ยังไม่รวม ของเอกชน) ค่าเรียนป.โท มหาลัยรัฐบาลที่นี่ ราคาไม่สูงมาก หากคุณไปเรียนคุณก็ยังเจอเพื่อนฝรั่งเศสเยอะอยู่เช่นกัน mobility freedom ของคนในสหภาพยุโรป ทำให้ชาติเพื่อนบ้านตัดสินใจมาเรียนในฝรั่งเศส คุณจะได้เจอเพื่อนจาก เบลเยี่ยม หรือที่อื่นๆ
อันดับที่สาม
โอกาสในการได้ฝึกงาน(ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราเองจะหาได้ที่ไหน) อันนี้เฉพาะมหาลัย จะเจอได้ตาม ecole หรือง่ายๆคือโรงเรียนเอกชน (พวก business school) ทำให้เรามีโอกาส สร้าง profileของเราขึ้นมา ไม่ใช่แค่เรียนแล้ว ทำ dissertation แล้วจะจบนะ ต้องฝีกงานด้วย!! เราลองเปิดเจอ careers ตามบริษัทดังๆเช่น lvmh จะมีrequirement ที่ต้องการเด็กจาก ecole มากกว่า ดังนั้นเราอยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาส มากกว่าคนอื่น เราได้พูดคุยกับเพื่อนฝรั่งเศสและค้นพบว่า บางคนแค่ฝึกงานอย่างเดียวได้ไป 1,200ต่อเดือน และตอนนี้กำลังหาที่ฝึกงานที่อื่นอยู่และอาจจะเรียกขั้นต่ำ 1,500ยูโรต่อเดือน แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกลค่ะ ที่นี่ก็มีค่าแรกขั้นต่ำเช่นกัน โดยส่วนมากเค้าจะให้เงินค่าฝึกงานขั้นต่ำประมาณ 500ยูโรต่อเดือน (ถ้าไม่ผิดพลาดประการใด) แต่มีบวกค่าเดินทางให้นิดหน่อยนะคะ และที่นี่การฝึกงานคือการทำงานจริงๆคะ คุณคือส่วนหนึ่งขององกรณ์ การจ่ายเงินของเค้า เค้าคาดหวังผลงานของคุณเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพรอคุณอยู่
อันดับที่สี่
การเรียนโรงเรียนอินเตอร์ในประเทศที่มีภาษาตัวเองเป็นภาษาประจำชาติ แสดงว่าบุคลากรที่มาสอนนั้นอาจจะไม่ใช่คนท้องถิ่น ทำให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษ แต่คนละสำเนียงและสำเนียงที่แตกต่างกันไป มีเพื่อนจากหลายๆเชื้อชาติ เพื่อนฝรั่งเศสก้อเยอะ หูนี่ต้องกระดิกให้ไป ไม่งั้นเม้าส์กับเพื่อนไม่รอด ดังนั้นเราจึงชอบความหลากหลายของการใช้ของภาษา เรามาเรียนที่นี่เพื่อนที่เราสามารถแชร์ความคิดเห็นต่างๆได้อยากสะดวกใจเป็นคนฝรั่งเศส เม็กซิกัน โคลัมเบียน และ คนไต้หวัน (ที่ฝรั่งเศสการจะเป็นเพื่อน แบบ BFF/ mes amis นี่ยากนะคะ เค้าจะแทนกันแบบ นี่classmateชั้น นี่ colleague ชั้น) ที่สำคัญที่เราเคยเจอมากับตัวคือ การทำงานจริงๆ(เรามีประสบการณ์การทำงานกับ บริษัท multination company) เจ้านายเรามีทั้ง อเมริกา อินเดีย ฝรั่งเศส เพื่อนร่วมงานมี จีน-สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และอื่นๆ
อันดับสุดท้าย
สร้างความแตกต่างและขายความแตกต่างให้กับตัวเอง เราโชคดีที่พ่อกับแม่สนับสนุนความคิดและเคารพในการตัดสินใจของเรา เรามีคนให้ความรู้เชิงวิชาการและสังคมหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นเราจึงเป็นคนแสวงหาความแปลกให้กับตัวเอง หลายๆคนต้องการที่ยืนในสังคมที่ยืนในด้านธุรกิจ เราก็เช่นกัน เราต้องการสิ่งเหล่านั้นเพื่อเป็นบันไดในการต่อยอดความคิดและธุรกิจของเรา(มโน) การที่จะบรรลุถึงสิ่งที่เราคาดหวังได้ เราควรมีมุมมองในหลายๆรูปแบบ เราไม่มันใจว่าสิ่งที่เราเลือกไปในอนาคตมันจะหันไปทิศทางไหน แต่เราเลือกที่จะเดินไปกับมัน เดินไปกับความแตกต่างที่เราเลือกคะ
เราอยากให้คนที่กำลังมองหาที่เรียนต่อเพื่ออนาคตตัวเองหรือเพื่ออะไรก็ตาม ถามใจตัวเองดูกว่าว่าสิ่งที่เราเลือกมันดีที่สุดสำหรับแล้วหรือยัง คนที่เรียนจบมาโดยส่วนใหญ่เค้าเดินไปในทิศทางไหน ใช่ทิศทางที่เราอยากเดินหรือป่าว สิ่งที่เรามีและติดตัวมาสามารถผลักดันอนาคตของเราได้มั้ย?
ท้ายที่สุดนี่สำหรับคนที่มองหาประเทศอื่นที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ตัดสินใจให้ดีนะคะ หาข้อดี ข้อเสีย บางคนอยากสมัครทุนไป ทุนเรียนฟรี หรือค่าเรียนถูก แต่ลืมไปหรือป่าว บางที่ที่เรียนฟรีเป็นหน่วยงานหรือองค์กรของรัฐบาล มีการพูดการใช้ภาษาราชการเป็นของตัวเอง คุณพูดภาษาเขาได้ถึงระดับไหน? ตรองดีดีก่อนะคะ แต่ถ้ามั่นใจเต็มที่แล้วเราก็สนับสนุนคะ ภาษาเป็นแค่อุปสรรค์เล็กๆถ้าใจคุณพร้อมอย่าไปกังวล