หลังจาก สุพรีม-ชลบุรี-อีเทค บุกไปพ่ายต่อ บางกอกกล๊าส วีซี 2-3 เซ็ต ในการเเข่งขัน วอลเลย์บอล ไทยเเลนด์ลีก ประจำปี 2559 เลกเเรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานสโมสร สุพรีมฯ เผยว่าทางสโมสรฯ ได้เตรียมทำหนังสือร้องเรียนส่งไปยัง ฝ่ายจัดการเเข่งขันฯ เนื่องจากต้องการทักท้วงการทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน ในเกมดังกล่าว
นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล เผยว่า ตนเองไม่ได้หวังว่าจะต้องมีการเปลี่ยนเเปลงผลการเเข่งขันหรือเเข่งกันใหม่ เเต่อยากถามหาความชัดเจนและถูกต้องจากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในเกมดังกล่าวเท่านั้น ในเมื่อทุกฝ่ายต้องการให้ ไทยเเลนด์ลีก พัฒนาสู่ความเป็นมืออาชีพเเบบเต็มตัว ทีมเราก็พยายามพัฒนาหลายๆ อย่างไปเป็นทีมอาชีพเช่นกัน เเต่ทำไมการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินกลับเหมือนเดิม หรือว่าเราต้องจ้าง ผู้ตัดสินต่างประเทศ มาทำหน้าที่ในเกมใหญ่ เหมือนที่เคยทำกันใน ฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก
"ผมยอมรับได้ที่เเพ้ บางกอกกล๊าส เพราะว่าพวกเขาเป็นทีมที่เเข็งเเกร่ง เเต่ผมเสียความรู้สึกกับการทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน เเละระบบวีดีโอชาเล้นท์ เพราะว่ามันค่อนข้างจะไม่มีมาตรฐาน และดูเหมือนกับว่าทางผู้ตัดสินเองก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องกติกาในการใช้วีดีโอชาเล้นท์ ซึ่งถ้ายังเป็นเเบบนี้ต่อไป จะต้องมีปัญหาและความขัดแย้งในเกมเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน" ประธานสโมสร สุพรีมฯ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับจังหวะปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างเซ็ต 5 ขณะที่ บางกอกกล๊าส ขึ้นนำ สุพรีมฯ 7-6 คะแนน ผู้เล่นทีมบางกอกกล๊าส ตีบอลออกไปทางด้านหลังสนาม และผู้กำกับเส้นยกธงส่งสัญญาณว่าลูกออก รวมทั้งผู้ตัดสินก็ส่งสัญญาณว่าเป็นแต้มของทางสุพรีมไปแล้ว แต่ทางกัปตันทีมบางกอกกล๊าส ร้องขอใช้สิทธิ์ดูภาพช้าผ่านวีดีโอชาเลนจ์ เพื่อให้ผู้ตัดสินตรวจสอบภาพช้าในจุดที่บอลตกพื้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการดูวีดีโอชาเล้นท์นั้น ทางผู้ตัดสินกลับยอมให้เจ้าหน้าที่ของทีมบางกอกกล๊าส จำนวน 2 คน เข้าร่วมดูวีดีโอชาเล้นท์ด้วย ซึ่งตรงนี้ทางทีมมองว่าเป็นการปล่อยให้มีการกดดันการตัดสินหรือไม่ โดยถ้าหากฝ่ายจัดการแข่งขันแจ้งกลับมาว่า การกระทำในกรณีนี้ไม่ผิดกติกา ทางทีมก็คงต้องเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปรักษาสิทธิ์ในนัดต่อๆ ไปเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ จังหวะดังกล่าว วีดีโอชาเล้นท์ ก็ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ลง หรือ ออก ซึ่งตามกติกาเเล้ว กรณีที่วีดีโอชาเล้นท์ไม่ชัดเจน ให้ถือว่าการชาเล้นท์ไม่ประสบความสำเร็จ เเละต้องกลับมายึดตามคำตัดสินเดิมของ ผู้ตัดสิน คือเป็นลูกออก แต่ว่า ผู้ตัดสินที่ 1 กลับเปลี่ยนคำตัดสินเเละสั่งให้เล่นคะแนนนั้นใหม่อีกครั้ง
จาก...
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1449043138
สุพรีม วีซี เตรียมส่งหนังสือร้องเรียน หลังไม่พอใจการทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน ในเกมบุกพ่าย บางกอกกล๊าส
หลังจาก สุพรีม-ชลบุรี-อีเทค บุกไปพ่ายต่อ บางกอกกล๊าส วีซี 2-3 เซ็ต ในการเเข่งขัน วอลเลย์บอล ไทยเเลนด์ลีก ประจำปี 2559 เลกเเรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานสโมสร สุพรีมฯ เผยว่าทางสโมสรฯ ได้เตรียมทำหนังสือร้องเรียนส่งไปยัง ฝ่ายจัดการเเข่งขันฯ เนื่องจากต้องการทักท้วงการทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน ในเกมดังกล่าว
นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล เผยว่า ตนเองไม่ได้หวังว่าจะต้องมีการเปลี่ยนเเปลงผลการเเข่งขันหรือเเข่งกันใหม่ เเต่อยากถามหาความชัดเจนและถูกต้องจากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในเกมดังกล่าวเท่านั้น ในเมื่อทุกฝ่ายต้องการให้ ไทยเเลนด์ลีก พัฒนาสู่ความเป็นมืออาชีพเเบบเต็มตัว ทีมเราก็พยายามพัฒนาหลายๆ อย่างไปเป็นทีมอาชีพเช่นกัน เเต่ทำไมการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินกลับเหมือนเดิม หรือว่าเราต้องจ้าง ผู้ตัดสินต่างประเทศ มาทำหน้าที่ในเกมใหญ่ เหมือนที่เคยทำกันใน ฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก
"ผมยอมรับได้ที่เเพ้ บางกอกกล๊าส เพราะว่าพวกเขาเป็นทีมที่เเข็งเเกร่ง เเต่ผมเสียความรู้สึกกับการทำหน้าที่ของ ผู้ตัดสิน เเละระบบวีดีโอชาเล้นท์ เพราะว่ามันค่อนข้างจะไม่มีมาตรฐาน และดูเหมือนกับว่าทางผู้ตัดสินเองก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องกติกาในการใช้วีดีโอชาเล้นท์ ซึ่งถ้ายังเป็นเเบบนี้ต่อไป จะต้องมีปัญหาและความขัดแย้งในเกมเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน" ประธานสโมสร สุพรีมฯ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับจังหวะปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างเซ็ต 5 ขณะที่ บางกอกกล๊าส ขึ้นนำ สุพรีมฯ 7-6 คะแนน ผู้เล่นทีมบางกอกกล๊าส ตีบอลออกไปทางด้านหลังสนาม และผู้กำกับเส้นยกธงส่งสัญญาณว่าลูกออก รวมทั้งผู้ตัดสินก็ส่งสัญญาณว่าเป็นแต้มของทางสุพรีมไปแล้ว แต่ทางกัปตันทีมบางกอกกล๊าส ร้องขอใช้สิทธิ์ดูภาพช้าผ่านวีดีโอชาเลนจ์ เพื่อให้ผู้ตัดสินตรวจสอบภาพช้าในจุดที่บอลตกพื้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการดูวีดีโอชาเล้นท์นั้น ทางผู้ตัดสินกลับยอมให้เจ้าหน้าที่ของทีมบางกอกกล๊าส จำนวน 2 คน เข้าร่วมดูวีดีโอชาเล้นท์ด้วย ซึ่งตรงนี้ทางทีมมองว่าเป็นการปล่อยให้มีการกดดันการตัดสินหรือไม่ โดยถ้าหากฝ่ายจัดการแข่งขันแจ้งกลับมาว่า การกระทำในกรณีนี้ไม่ผิดกติกา ทางทีมก็คงต้องเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าไปรักษาสิทธิ์ในนัดต่อๆ ไปเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ จังหวะดังกล่าว วีดีโอชาเล้นท์ ก็ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ลง หรือ ออก ซึ่งตามกติกาเเล้ว กรณีที่วีดีโอชาเล้นท์ไม่ชัดเจน ให้ถือว่าการชาเล้นท์ไม่ประสบความสำเร็จ เเละต้องกลับมายึดตามคำตัดสินเดิมของ ผู้ตัดสิน คือเป็นลูกออก แต่ว่า ผู้ตัดสินที่ 1 กลับเปลี่ยนคำตัดสินเเละสั่งให้เล่นคะแนนนั้นใหม่อีกครั้ง
จาก...http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1449043138