รีวิวนี้เกิดจากน้องสะใภ้คลอดหลานคนแรกของครอบครัวเรา
เราเลยไปเยี่ยมหลานที่บ้านของน้องชาย
ด้วยความที่น้องชายของเราเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก ของฝากของรับขวัญเจ้าตัวน้อยจึงมีเยอะตามไปด้วย
มากจนน้องชายบอกว่าแบ่งให้เราเอาไปใช้บ้างก็ได้ งานรับของฟรีจึงบังเกิด
และของที่เราขอแบ่งหลานมาใช้ก็คือเซ็ตกระเช้าเบบี้มายด์
ทำไมต้องเป็นกระเช้านี้
เพราะเราเคยคุยกับเพื่อนสนิทแล้วเพื่อนเล่าให้ฟังว่าบ้านแฟนเค้าใช้แล้วบอกว่าดี เราเลยอยากลอง
แต่พอกลับมาถามเพื่อนจริงๆ ปรากฏว่าเป็นคนละตัวกัน
บ้านแฟนเพื่อนใช้รุ่นสีเขียว (เรียกรุ่นอะไรจำไม่ได้แฮะ)
แต่ตัวที่เราขอมาเป็นรุ่น Healthi Plus สีน้ำเงินเหมือนจะเป็นตัวใหม่ เพิ่งเห็นจากโฆษณาทีวีเมื่อวานนี้
พอใช้ไปใช้มา เออ ของฟรี เอ้ย! ของมันก็ดีแฮะเลยบังเกิดรีวิวนี้ขึ้น
ที่เราเอามาใช้ก็มีเจลอาบน้ำ โลชั่นทาตัว และแป้ง ครบเซ็ตตามประสายกมาทั่งกระเช้า
(ขออภัยนะคะที่ไม่มีรูปตอนเป็นกระเช้า เพราะว่าทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะมารีวิว)
เริ่มจากเจลอาบน้ำ เราเอามาใช้สลับกับครีมอาบน้ำของเราที่ยังเหลืออยู่
ด้วยความที่เราเป็นคนที่ผิวตัวแห้งถึงแห้งมาก แต่ไม่เคยใช้เจลอาบน้ำมาก่อน
คิดเองมาตลอดว่าใช้ครีมอาบน้ำจะทำให้ผิวนุ่ม และชุ่มชื่นมากกว่าใช้เจล
ตอนใช้ครั้งแรกเลยรู้สึกไม่คุ้นเพราะเจลอาบน้ำฟองไม่ค่อยเยอะ
แถมตอนล้างมันยังลื่นๆ เหมือนล้างไม่หมด
เราเลยล้างนานอาบน้ำนานกว่าปกติ
แต่พอเช็ดตัวเสร็จเท่านั่นแหละ รู้สึกเลยว่าผิวมันชุ่มๆ ไม่ตึงๆ เหมือนตอนใช้ครีมอาบน้ำ
แล้วแบบมีบางวันที่เราขี้เกียจทาโลชั่น เราก็รู้สึกนะว่าผิวมันก็ไม่แห้งไม่ตึง หลังๆ มาเลยติดใจ
เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะ Avocado Oil ที่เค้าใส่มา
ไปมาเราว่าใช้เจลอาบน้ำมันเหมาะกับคนผิวแห้งแบบเรามากกว่าใช้ครีมอาบน้ำนะคะ
อ้อ...ที่ปลื้มอีกอย่างคือ Anti-Bacteridช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
และยังผ่านการทดสอบ Hypo Allergenic จากแพทย์ผิวหนังที่ทำให้โอกาสเกิดการแพ้น้อยกว่าปกติ
อย่างว่าค่ะ เด็กใช้ได้ดี ผู้ใหญ่ของเราก็ยังใช้ได้อีกด้วย
ตัวต่อมาก็เป็นโลชั่นทาตัว
อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่าผิวเราแห้งถึงแห้งมาก
แต่เดิมเราทา Jergensเฉพาะกลางคืนเพราะเนื้อโลชั่นคล้ายครีมมีความข้นสูงทาแล้วเปิดแอร์นอน
หลังอาบน้ำตอนเช้าไม่เคยทาเพราะ Jergensเราว่ามันเหนอะไปสำหรับตอนกลางวัน (เราไม่ได้อยู่ห้องแอร์ในช่วงกลางวัน)
เราเลยลองเอาโลชั่นเบบี้มายด์มาทาหลังอาบน้ำตอนเช้า
รู้สึกว่าโอเคเลย ไม่เหนอะ ซึมเข้าผิวค่อนข้างดีทีเดียว
แถมกลิ่นยังหอมอ่อนๆ แบบเด็กๆ เหมือนอุ้มหลานอยู่ตลอดเวลา 55555
ลองไปอ่านด้านหลังขวดเค้าระบุว่า
"เสริมความแข็งแรงให้ผิวด้วย Abyssinian oil ที่มี Natural Triple Omega
ช่วยคงน้ำหล่อเลี้ยงผิว และ Avocado oil ที่ช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้น"
กลิ่นที่ว่าหอมอ่อนๆ เราเลยคิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นอะโวคาโดมั้งนะ
สรุปตั้งแต่ใช้ Babi Mild Healthi Plus มาทาผิวตอนกลางวัน
ผิวตัวแห้งๆ ของเราชุ่มชื่นขึ้นพอสมควรเลยเลยเป็นอีกทางเลือกที่ใช้เพิ่มในเวลากลางวัน
พอใช้มาสักพักรู้สึกผิวเรานุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น เพราะบำรุงได้ทั้งเช้า และก่อนนอนเลยทีเดียว
ตัวสุดท้ายคือแป้งเด็ก
ปกติแล้วจะใช้ทาตัว หลังจากทาครีมที่ตัวเพื่อไม่ให้ผิวรู้สึกเหนอะ
หรือบางทีเราเอามาใช้ทาหน้าในวันที่อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน
ทาครีมบำรุง ทากันแดดเสร็จ ก็ทาหน้า
มันก็ดีนะใช้ทาหน้าในวันที่พักหน้าก็ไม่ทำให้คนผิวหน้าแบบผิวผสมอย่างเราเกิดอาการสิวอุดตันใดๆ
ถือว่าโอเคแล้วสำหรับเรา
ทั้งหมดนี้เป็นรีวิวแรกในวันที่เราว่างงานไม่มีอะไรทำเลยลองมาหัดทำรีวิว
ผิดพลาดอย่างไรขออภัยไว้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ป.ล. ไม่รู้เราคิดไปเองหรือเปล่านะ
แต่วันไหนที่เราทาโลชั่นเบบี้มายด์ Healti Plus ตัวนี้
เรารู้สึกว่ายุงไม่กัดเราเลยอ่ะ (ปกติเราเป็นคนถูกยุงรุมทำร้ายตลอด)
[CR][SR] Review Babi Mild Healthi Plus ผลิตภัณฑ์ของเด็กที่ผู้ใหญ่ก็ใช้ได้
เราเลยไปเยี่ยมหลานที่บ้านของน้องชาย
ด้วยความที่น้องชายของเราเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก ของฝากของรับขวัญเจ้าตัวน้อยจึงมีเยอะตามไปด้วย
มากจนน้องชายบอกว่าแบ่งให้เราเอาไปใช้บ้างก็ได้ งานรับของฟรีจึงบังเกิด
และของที่เราขอแบ่งหลานมาใช้ก็คือเซ็ตกระเช้าเบบี้มายด์
ทำไมต้องเป็นกระเช้านี้
เพราะเราเคยคุยกับเพื่อนสนิทแล้วเพื่อนเล่าให้ฟังว่าบ้านแฟนเค้าใช้แล้วบอกว่าดี เราเลยอยากลอง
แต่พอกลับมาถามเพื่อนจริงๆ ปรากฏว่าเป็นคนละตัวกัน
บ้านแฟนเพื่อนใช้รุ่นสีเขียว (เรียกรุ่นอะไรจำไม่ได้แฮะ)
แต่ตัวที่เราขอมาเป็นรุ่น Healthi Plus สีน้ำเงินเหมือนจะเป็นตัวใหม่ เพิ่งเห็นจากโฆษณาทีวีเมื่อวานนี้
พอใช้ไปใช้มา เออ ของฟรี เอ้ย! ของมันก็ดีแฮะเลยบังเกิดรีวิวนี้ขึ้น
ที่เราเอามาใช้ก็มีเจลอาบน้ำ โลชั่นทาตัว และแป้ง ครบเซ็ตตามประสายกมาทั่งกระเช้า
(ขออภัยนะคะที่ไม่มีรูปตอนเป็นกระเช้า เพราะว่าทีแรกไม่ได้ตั้งใจจะมารีวิว)
เริ่มจากเจลอาบน้ำ เราเอามาใช้สลับกับครีมอาบน้ำของเราที่ยังเหลืออยู่
ด้วยความที่เราเป็นคนที่ผิวตัวแห้งถึงแห้งมาก แต่ไม่เคยใช้เจลอาบน้ำมาก่อน
คิดเองมาตลอดว่าใช้ครีมอาบน้ำจะทำให้ผิวนุ่ม และชุ่มชื่นมากกว่าใช้เจล
ตอนใช้ครั้งแรกเลยรู้สึกไม่คุ้นเพราะเจลอาบน้ำฟองไม่ค่อยเยอะ
แถมตอนล้างมันยังลื่นๆ เหมือนล้างไม่หมด
เราเลยล้างนานอาบน้ำนานกว่าปกติ
แต่พอเช็ดตัวเสร็จเท่านั่นแหละ รู้สึกเลยว่าผิวมันชุ่มๆ ไม่ตึงๆ เหมือนตอนใช้ครีมอาบน้ำ
แล้วแบบมีบางวันที่เราขี้เกียจทาโลชั่น เราก็รู้สึกนะว่าผิวมันก็ไม่แห้งไม่ตึง หลังๆ มาเลยติดใจ
เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะ Avocado Oil ที่เค้าใส่มา
ไปมาเราว่าใช้เจลอาบน้ำมันเหมาะกับคนผิวแห้งแบบเรามากกว่าใช้ครีมอาบน้ำนะคะ
อ้อ...ที่ปลื้มอีกอย่างคือ Anti-Bacteridช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
และยังผ่านการทดสอบ Hypo Allergenic จากแพทย์ผิวหนังที่ทำให้โอกาสเกิดการแพ้น้อยกว่าปกติ
อย่างว่าค่ะ เด็กใช้ได้ดี ผู้ใหญ่ของเราก็ยังใช้ได้อีกด้วย
ตัวต่อมาก็เป็นโลชั่นทาตัว
อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่าผิวเราแห้งถึงแห้งมาก
แต่เดิมเราทา Jergensเฉพาะกลางคืนเพราะเนื้อโลชั่นคล้ายครีมมีความข้นสูงทาแล้วเปิดแอร์นอน
หลังอาบน้ำตอนเช้าไม่เคยทาเพราะ Jergensเราว่ามันเหนอะไปสำหรับตอนกลางวัน (เราไม่ได้อยู่ห้องแอร์ในช่วงกลางวัน)
เราเลยลองเอาโลชั่นเบบี้มายด์มาทาหลังอาบน้ำตอนเช้า
รู้สึกว่าโอเคเลย ไม่เหนอะ ซึมเข้าผิวค่อนข้างดีทีเดียว
แถมกลิ่นยังหอมอ่อนๆ แบบเด็กๆ เหมือนอุ้มหลานอยู่ตลอดเวลา 55555
ลองไปอ่านด้านหลังขวดเค้าระบุว่า
"เสริมความแข็งแรงให้ผิวด้วย Abyssinian oil ที่มี Natural Triple Omega
ช่วยคงน้ำหล่อเลี้ยงผิว และ Avocado oil ที่ช่วยเพิ่มและรักษาความชุ่มชื้น"
กลิ่นที่ว่าหอมอ่อนๆ เราเลยคิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นอะโวคาโดมั้งนะ
สรุปตั้งแต่ใช้ Babi Mild Healthi Plus มาทาผิวตอนกลางวัน
ผิวตัวแห้งๆ ของเราชุ่มชื่นขึ้นพอสมควรเลยเลยเป็นอีกทางเลือกที่ใช้เพิ่มในเวลากลางวัน
พอใช้มาสักพักรู้สึกผิวเรานุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น เพราะบำรุงได้ทั้งเช้า และก่อนนอนเลยทีเดียว
ตัวสุดท้ายคือแป้งเด็ก
ปกติแล้วจะใช้ทาตัว หลังจากทาครีมที่ตัวเพื่อไม่ให้ผิวรู้สึกเหนอะ
หรือบางทีเราเอามาใช้ทาหน้าในวันที่อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน
ทาครีมบำรุง ทากันแดดเสร็จ ก็ทาหน้า
มันก็ดีนะใช้ทาหน้าในวันที่พักหน้าก็ไม่ทำให้คนผิวหน้าแบบผิวผสมอย่างเราเกิดอาการสิวอุดตันใดๆ
ถือว่าโอเคแล้วสำหรับเรา
ทั้งหมดนี้เป็นรีวิวแรกในวันที่เราว่างงานไม่มีอะไรทำเลยลองมาหัดทำรีวิว
ผิดพลาดอย่างไรขออภัยไว้ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ป.ล. ไม่รู้เราคิดไปเองหรือเปล่านะ
แต่วันไหนที่เราทาโลชั่นเบบี้มายด์ Healti Plus ตัวนี้
เรารู้สึกว่ายุงไม่กัดเราเลยอ่ะ (ปกติเราเป็นคนถูกยุงรุมทำร้ายตลอด)
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว