วันนี้ผมอยากนำวิธีที่ผมใช้ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับเรื่องการเงินอย่างง่ายมาแนะนำให้เพื่อนๆได้นำไปประยุกต์ใช้กัน(ถ้าคิดว่าดีนะ ฮา(และพอดีไม่ได้ยืนยันตัวตน ก็เลยตั้งเป็นกระทู้คำถาม)) หากเราเป็นคนนึงที่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่ได้ขอเงินจากพ่อแม่หรือใครคนอื่น(ยกเว้นนายจ้างเรา) ไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทอง เริ่มต้นชีวิตจากศูนย์ เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาทั่วไป ก็ย่อมมีการประหยัดเงินออมกันบ้าง หากผิดพลาดอะไรผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ขอเริ่มหัวข้อแรกกันเลย
1. คำนวณรายรับทั้งหมด
คุณอาจเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ทางเดียว หรืออาจจะมีรายได้จากการรับฟรีแลนซ์เพิ่ม ขายของเพิ่ม หรืออยากอื่น ผมก็อยากให้รวมเงินเป็นรายรับยอดรวมทั้งหมด ยกตัวอย่าง ผมมีเงินเดือน 20,000 บาท เพียงทางเดียว (หักประกันสังคม 750 บาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก 5%(500 บาท) รวมเป็น 1,250 บาท) รวมรายรับทั้งหมด คือ 20,000-1,250 = 18,750 บาท
2. นำเงินมาเก็บเป็นเงินออม
หากคุณไม่สนใจก็สามารถข้ามหัวข้อนี้ได้เลยครับ แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนและต้องการออมเงินอยู่แล้ว ก็อาจจะมีพวกบัญชีซื้อขายหุ้น กองทุนรวม สลากออมสิน หรือหวย(ฮาา) ก็ตัดออกจากรายรับเลยครับ ให้กลายเป็นเงินคงเหลือที่จะต้องใช้จ่าย ตรงส่วนนี้เราจะเก็บไว้ที่จำนวนเงินออมของเรา สมมติว่าของผมออมไว้ในบัญชีหุ้นเดือนละ 4,000 บาท และหักเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5% เป็นเดือนละ 1,000 บาท รวมเป็น 5,000 บาท (จริงๆกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็นับเป็นเงินออมนะครับ นำมารวมได้เลย พอวันหนึ่งคุณลาออกจากบริษัทหรือกรณีอื่นๆ ตรงส่วนนี้เราก็จะได้คืน แถมจะได้เงินสมทบด้วย ถ้าเข้าเงื่อนไขของทางกองทุนเค้านะครับ)
3. การจัดการค่าใช้จ่าย
เริ่มจากแบ่งเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนก่อน แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายประจำวัน(ค่าอาหาร) ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง สินค้าอุปโภคบริโภค ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต เที่ยวแฮงค์เอาท์ ค่าบัตรเครดิตเป็นต้น เมื่อแยกประเภทของค่าใช้จ่ายได้แล้ว ผมจะแนะนวิธีการประหยัดกันครับ
3.1 ค่าอาหารรายวัน >>>ยกตัวอย่างผมจะกำหนดไว้ที่เฉลี่ยมื้อละ 35 บาท(30-40บาท) แต่บางที่อาจมีที่ประหยัดกว่าผมก็ได้นะครับ หรืออาจทำกินเองยิ่งประหยัดไปอีก ส่วนผมกินที่โรงอาหารของที่ทำงาน เสาร์อาทิตย์ก็กินแถวที่พัก รวมกินขนมเล็กๆน้อยๆวันละ 40 บาท รวมเดือนนึงใช้จ่ายค่าอาหาร [(35บาท x 3มื้อ) + 40 บาท] x 30วัน เท่ากับ 4350 หากเทียบกับการกินในห้าง ฟู๊ดคอร์ททั้งหมด สมมติว่าราคาในห้างเฉลี่ย50บาท เดือนนึงจะประหยัดได้ (50-35บาท) x (3มื้อ) x (30วัน) เท่ากับ 1,350 บาท
3.2 ค่าที่อยู่อาศัย >>>หากใครได้พักที่บ้านตนเองไม่มีรายจ่ายส่วนนี้ก็สบายไป ส่วนผมเป็นเด็กต่างจังหวัดต้องเช่าอาศัยหอพักอยู่ ก็พยายามหาที่พักที่ราคาเหมาะสม ใกล้ที่ทำงาน หาอาหารการกินสะดวก สิ่งแวดล้อมดี สนนราคารายเดือน รวมค่าน้ำไฟเดือนละ 4,500 บาท สำหรับการเช่าคอนโดหรือที่พักราคาแพง ความเห็นผม ผมแนะนำว่าหากทำงานที่เดิมหรือใกล้เคียงในระยะยาว(มากกว่า10-20ปี)ควรผ่อนหรือซื้อไปเลย เพราะเงินค่าเช่ามันจะสูญเปล่า แต่เงินที่เราผ่อนมันจะทำให้เรากลายเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยนั้นด้วย
3.3 ค่าเดินทาง >>>สำหรับผมเคยเดินทางโดยรถไฟฟ้า โดยซื้อตั๋วรถแบบเหมาจ่าย(ที่พักกับที่ทำงานห่างกันไกล) รายเดือน ตกเดือนละ 1,400 บาท แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน(เสี่ยงอยู่เหมือนกัน) จ่ายค่าน้ำมัน ตกเดือนละประมาณ 500 บาท ประหยัดไป 900 บาท
3.4 สินค้าอุปโภคบริโภค >>>คืออะไร? ก็พวกสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู เครื่องสำอางครับ อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวผมนะ ปกติพวกทางบิ้กซี โลตัส ทอปส์ มักจะมีสินค้าลดราคาทุกๆอาทิตย์ หรือสองอาทิตย์ ผมเดินทางผ่านบ่อยอยู่แล้ว หรือบางทีก็ดูจากตามหนังสือพิมพ์ ไม่ก็หน้าเว็บไซค์ของห้างเลยก็จะบอกว่าสินค้าลดราคามีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างสินค้าลดราคาที่ผมมักได้บ่อยๆนะครับ(ส่วนลดนะ) แชมพู 30 บาท ยาสีฟัน 20 บาท ผงซักฟอก 40 บาท โฟมล้างหน้า 25 บาท กาแฟ 20 บาท สบู่ 10 บาท คือในส่วนนี้รวมๆเฉลี่ยเดือนนึงผมจะประหยัดได้ประมาณ 200 บาทเลยครับ
3.5 ค่าโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต >>>ของผมขอรวมกันเลยนะครับ เพราะผมอาศัยอยู่หอพักมีอินเตอร์เน็ตเรียบร้อย สำหรับแพ็คเกจโปรโมชั่นของมือถือผมเลือกโปรที่ประหยัดที่สุด (เน็ต 750MB โทร100นาทีก็พอแล้ว เพราะผมไม่ค่อยเล่นพวกโซเชี่ยลบ่อยอยู่แล้ว) ค่าใช้จ่ายจะตกประมาณเดือนละ 350 บาทครับ จะประหยัดกว่าค่าโปรโมทชั่นเฉลี่ยที่ผมเห็นเพื่อนๆใช้กันคือเดือนละ 599 บาท (รวมVAT จะตกประมาณ 642 บาท) ประหยัดได้เกือบ 300 บาทต่อเดือน
3.6 ค่าประกันสังคม หักภาษีเงินได้ >>>ส่วนนี้หากเป็นมนุษย์เงินเดือนก็น่าจะโดนหักทุกคนอยู่แล้วนะครับ น่าจะเท่ากันที่ 750 บาท ส่วนภาษีก็แล้วแต่ฐานเงินเดือนครับ แต่หากนำเงินไปซื้อกองทุนทั้งหลายตามข้อกำหนด หรืออื่นๆก็จะได้ค่าลดหย่อนภาษีคืนด้วยนะครับ
3.7 ค่าบัตรเครดิต >>>อันนี้ผมยังไม่เคยมีครับ แต่สำหรับผมก็ไม่แนะนำให้ใช้สักเท่าไร ถ้าไม่จำเป็นต้องเอาเงินในอนาคตมาใช้ เพราะมันจะสร้างภาระทางการเงินให้คุณ เว้นแต่หากคุณมีระเบียบวินัยทางการเงินดีมากๆก็แล้วแต่เลยครับ
3.8 ค่าแฮงค์เอาท์ >>>หากคุณก็มีชีวิตที่รักความสนุกสนานก็คงมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ผมเผื่อไว้ประมาณ 1,500 บาทครับ ยิ่งเที่ยวน้อย ยิ่งประหยัดครับ
ผมคิดว่าน่าจะหมดเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วนะครับ เมื่อนำมาคำนวณกันก็จะได้ตามรูปข้างล่างนะครับ (พอดีลงรูปไม่ได้ แหะๆ)
http://2.bp.blogspot.com/-7XejIWMV4Uo/VlxWh7sdSmI/AAAAAAAAAH4/vEIgqc7N02Y/s1600/dsg.jpg
สรุป คือ รายได้ทั้งหมด 20,000 บาท รายจ่ายทั้งหมดประมาณ 12,750 บาท เงินออมทั้งหมด 5,000 บาท จะมีเงินเหลือเพียวๆ 2,250 บาท หากยิ่งเที่ยวน้อยก็ยิ่งประหยัดลงไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอดแบบสุดๆนะครับ บางทีเราก็ควรให้รางวัลตัวเองกันบ้าง เราจะได้มีความสุขครับ
การทำแบบนี้ถ้าเราทำตามที่วางแผนทางการเงินไว้ ก็จะเห็นภาพชัดเจนว่ารายจ่ายของเราไปอยู่ที่ไหน มีรายรับ เงินออม เงินคงเหลือเท่าไร ยิ่งหากมีวินัยทางการเงินที่ดี และขยันทำมาหากิน หาความรู้เพื่อสร้างทรัพย์สินให้ได้มากมายในอนาคต ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นครับ
หากใครมีวิธีที่ดีกว่านี้มาแชร์กันครับ เพื่อเงินออมไว้ทำตามความฝันของเรา และจะได้เป็นอิสระทางการเงินกันทุกคน ขอขอบคุณมากที่อุตส่าห์ลากยาวอ่านจนจบ หากไม่ดีไม่ถูกใจก็ขออภัยด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้แจกไฟล์ที่ผมใช้ทำรายรับรายจ่าย เพื่อเงินออมไว้ด้วยครับ
https://www.dropbox.com/s/3lqvjozann50qbn/Income-Expense.xlsx?dl=0
**แก้ไขข้อความครั้งที่ 1** แก้ไขลิงค์เรียบร้อยแล้วนะครับ ขอขอบคุณทุกคนที่สนใจนะครับ หวังว่าครั้งต่อไป จะนำเสนอข้อมูลให้ดีกว่าด้วยครับ
**แก้ไขข้อความครั้งที่ 2** ฝากบล็อคของผมไว้ด้วยนะครับ ร่วมแบ่งปันความรู้กันได้ ตามนี้เลยครับ
http://0tomillion.blogspot.com/
ขอแนะนำการใช้จ่ายเงินและการออมเงิน(อย่างง่าย)สำหรับมนุษย์เงินเดือน มีแจกไฟล์ EXCEL ด้วย
1. คำนวณรายรับทั้งหมด
คุณอาจเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ทางเดียว หรืออาจจะมีรายได้จากการรับฟรีแลนซ์เพิ่ม ขายของเพิ่ม หรืออยากอื่น ผมก็อยากให้รวมเงินเป็นรายรับยอดรวมทั้งหมด ยกตัวอย่าง ผมมีเงินเดือน 20,000 บาท เพียงทางเดียว (หักประกันสังคม 750 บาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีก 5%(500 บาท) รวมเป็น 1,250 บาท) รวมรายรับทั้งหมด คือ 20,000-1,250 = 18,750 บาท
2. นำเงินมาเก็บเป็นเงินออม
หากคุณไม่สนใจก็สามารถข้ามหัวข้อนี้ได้เลยครับ แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนและต้องการออมเงินอยู่แล้ว ก็อาจจะมีพวกบัญชีซื้อขายหุ้น กองทุนรวม สลากออมสิน หรือหวย(ฮาา) ก็ตัดออกจากรายรับเลยครับ ให้กลายเป็นเงินคงเหลือที่จะต้องใช้จ่าย ตรงส่วนนี้เราจะเก็บไว้ที่จำนวนเงินออมของเรา สมมติว่าของผมออมไว้ในบัญชีหุ้นเดือนละ 4,000 บาท และหักเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5% เป็นเดือนละ 1,000 บาท รวมเป็น 5,000 บาท (จริงๆกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก็นับเป็นเงินออมนะครับ นำมารวมได้เลย พอวันหนึ่งคุณลาออกจากบริษัทหรือกรณีอื่นๆ ตรงส่วนนี้เราก็จะได้คืน แถมจะได้เงินสมทบด้วย ถ้าเข้าเงื่อนไขของทางกองทุนเค้านะครับ)
3. การจัดการค่าใช้จ่าย
เริ่มจากแบ่งเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนก่อน แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายประจำวัน(ค่าอาหาร) ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง สินค้าอุปโภคบริโภค ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต เที่ยวแฮงค์เอาท์ ค่าบัตรเครดิตเป็นต้น เมื่อแยกประเภทของค่าใช้จ่ายได้แล้ว ผมจะแนะนวิธีการประหยัดกันครับ
3.1 ค่าอาหารรายวัน >>>ยกตัวอย่างผมจะกำหนดไว้ที่เฉลี่ยมื้อละ 35 บาท(30-40บาท) แต่บางที่อาจมีที่ประหยัดกว่าผมก็ได้นะครับ หรืออาจทำกินเองยิ่งประหยัดไปอีก ส่วนผมกินที่โรงอาหารของที่ทำงาน เสาร์อาทิตย์ก็กินแถวที่พัก รวมกินขนมเล็กๆน้อยๆวันละ 40 บาท รวมเดือนนึงใช้จ่ายค่าอาหาร [(35บาท x 3มื้อ) + 40 บาท] x 30วัน เท่ากับ 4350 หากเทียบกับการกินในห้าง ฟู๊ดคอร์ททั้งหมด สมมติว่าราคาในห้างเฉลี่ย50บาท เดือนนึงจะประหยัดได้ (50-35บาท) x (3มื้อ) x (30วัน) เท่ากับ 1,350 บาท
3.2 ค่าที่อยู่อาศัย >>>หากใครได้พักที่บ้านตนเองไม่มีรายจ่ายส่วนนี้ก็สบายไป ส่วนผมเป็นเด็กต่างจังหวัดต้องเช่าอาศัยหอพักอยู่ ก็พยายามหาที่พักที่ราคาเหมาะสม ใกล้ที่ทำงาน หาอาหารการกินสะดวก สิ่งแวดล้อมดี สนนราคารายเดือน รวมค่าน้ำไฟเดือนละ 4,500 บาท สำหรับการเช่าคอนโดหรือที่พักราคาแพง ความเห็นผม ผมแนะนำว่าหากทำงานที่เดิมหรือใกล้เคียงในระยะยาว(มากกว่า10-20ปี)ควรผ่อนหรือซื้อไปเลย เพราะเงินค่าเช่ามันจะสูญเปล่า แต่เงินที่เราผ่อนมันจะทำให้เรากลายเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยนั้นด้วย
3.3 ค่าเดินทาง >>>สำหรับผมเคยเดินทางโดยรถไฟฟ้า โดยซื้อตั๋วรถแบบเหมาจ่าย(ที่พักกับที่ทำงานห่างกันไกล) รายเดือน ตกเดือนละ 1,400 บาท แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน(เสี่ยงอยู่เหมือนกัน) จ่ายค่าน้ำมัน ตกเดือนละประมาณ 500 บาท ประหยัดไป 900 บาท
3.4 สินค้าอุปโภคบริโภค >>>คืออะไร? ก็พวกสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู เครื่องสำอางครับ อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวผมนะ ปกติพวกทางบิ้กซี โลตัส ทอปส์ มักจะมีสินค้าลดราคาทุกๆอาทิตย์ หรือสองอาทิตย์ ผมเดินทางผ่านบ่อยอยู่แล้ว หรือบางทีก็ดูจากตามหนังสือพิมพ์ ไม่ก็หน้าเว็บไซค์ของห้างเลยก็จะบอกว่าสินค้าลดราคามีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างสินค้าลดราคาที่ผมมักได้บ่อยๆนะครับ(ส่วนลดนะ) แชมพู 30 บาท ยาสีฟัน 20 บาท ผงซักฟอก 40 บาท โฟมล้างหน้า 25 บาท กาแฟ 20 บาท สบู่ 10 บาท คือในส่วนนี้รวมๆเฉลี่ยเดือนนึงผมจะประหยัดได้ประมาณ 200 บาทเลยครับ
3.5 ค่าโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต >>>ของผมขอรวมกันเลยนะครับ เพราะผมอาศัยอยู่หอพักมีอินเตอร์เน็ตเรียบร้อย สำหรับแพ็คเกจโปรโมชั่นของมือถือผมเลือกโปรที่ประหยัดที่สุด (เน็ต 750MB โทร100นาทีก็พอแล้ว เพราะผมไม่ค่อยเล่นพวกโซเชี่ยลบ่อยอยู่แล้ว) ค่าใช้จ่ายจะตกประมาณเดือนละ 350 บาทครับ จะประหยัดกว่าค่าโปรโมทชั่นเฉลี่ยที่ผมเห็นเพื่อนๆใช้กันคือเดือนละ 599 บาท (รวมVAT จะตกประมาณ 642 บาท) ประหยัดได้เกือบ 300 บาทต่อเดือน
3.6 ค่าประกันสังคม หักภาษีเงินได้ >>>ส่วนนี้หากเป็นมนุษย์เงินเดือนก็น่าจะโดนหักทุกคนอยู่แล้วนะครับ น่าจะเท่ากันที่ 750 บาท ส่วนภาษีก็แล้วแต่ฐานเงินเดือนครับ แต่หากนำเงินไปซื้อกองทุนทั้งหลายตามข้อกำหนด หรืออื่นๆก็จะได้ค่าลดหย่อนภาษีคืนด้วยนะครับ
3.7 ค่าบัตรเครดิต >>>อันนี้ผมยังไม่เคยมีครับ แต่สำหรับผมก็ไม่แนะนำให้ใช้สักเท่าไร ถ้าไม่จำเป็นต้องเอาเงินในอนาคตมาใช้ เพราะมันจะสร้างภาระทางการเงินให้คุณ เว้นแต่หากคุณมีระเบียบวินัยทางการเงินดีมากๆก็แล้วแต่เลยครับ
3.8 ค่าแฮงค์เอาท์ >>>หากคุณก็มีชีวิตที่รักความสนุกสนานก็คงมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ผมเผื่อไว้ประมาณ 1,500 บาทครับ ยิ่งเที่ยวน้อย ยิ่งประหยัดครับ
ผมคิดว่าน่าจะหมดเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วนะครับ เมื่อนำมาคำนวณกันก็จะได้ตามรูปข้างล่างนะครับ (พอดีลงรูปไม่ได้ แหะๆ)
http://2.bp.blogspot.com/-7XejIWMV4Uo/VlxWh7sdSmI/AAAAAAAAAH4/vEIgqc7N02Y/s1600/dsg.jpg
สรุป คือ รายได้ทั้งหมด 20,000 บาท รายจ่ายทั้งหมดประมาณ 12,750 บาท เงินออมทั้งหมด 5,000 บาท จะมีเงินเหลือเพียวๆ 2,250 บาท หากยิ่งเที่ยวน้อยก็ยิ่งประหยัดลงไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอดแบบสุดๆนะครับ บางทีเราก็ควรให้รางวัลตัวเองกันบ้าง เราจะได้มีความสุขครับ
การทำแบบนี้ถ้าเราทำตามที่วางแผนทางการเงินไว้ ก็จะเห็นภาพชัดเจนว่ารายจ่ายของเราไปอยู่ที่ไหน มีรายรับ เงินออม เงินคงเหลือเท่าไร ยิ่งหากมีวินัยทางการเงินที่ดี และขยันทำมาหากิน หาความรู้เพื่อสร้างทรัพย์สินให้ได้มากมายในอนาคต ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้นครับ
หากใครมีวิธีที่ดีกว่านี้มาแชร์กันครับ เพื่อเงินออมไว้ทำตามความฝันของเรา และจะได้เป็นอิสระทางการเงินกันทุกคน ขอขอบคุณมากที่อุตส่าห์ลากยาวอ่านจนจบ หากไม่ดีไม่ถูกใจก็ขออภัยด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้แจกไฟล์ที่ผมใช้ทำรายรับรายจ่าย เพื่อเงินออมไว้ด้วยครับ
https://www.dropbox.com/s/3lqvjozann50qbn/Income-Expense.xlsx?dl=0
**แก้ไขข้อความครั้งที่ 1** แก้ไขลิงค์เรียบร้อยแล้วนะครับ ขอขอบคุณทุกคนที่สนใจนะครับ หวังว่าครั้งต่อไป จะนำเสนอข้อมูลให้ดีกว่าด้วยครับ
**แก้ไขข้อความครั้งที่ 2** ฝากบล็อคของผมไว้ด้วยนะครับ ร่วมแบ่งปันความรู้กันได้ ตามนี้เลยครับ http://0tomillion.blogspot.com/