ระหว่างถนัดมือซ้าย กับ ถนัดมือขวา ถนัดข้างไหนดีกว่ากัน ?
คนเราก็มาก็เกิดมาก็ต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เมื่อเริ่มหัดเขียนหนังสือคนส่วนใหญ่มักจะถูกให้เขียนด้วยมือขวา เพราะคนส่วนใหญ่มักจะถนัดขวากันเป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งก็มีส่วนน้อยที่ถนัดมือซ้าย โดยมีสิ่งสำคัญคือ เปรียบเทียบ ถนัดซ้าย หรือ ถนัดขวา แบบไหนดีกว่ากัน ระบบประสาทสั่งงาน ที่รับคำสั่งมาจากสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาของคนเรา ให้มีปฏิสัมพันธ์กับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งนี้สมองของคนเราแบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่
สมองซีกซ้าย [ Left cerebral hemisphere]
ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายซีกขวา และเรื่องที่เกี่ยวกับ
1.สติปัญญาแบบเหตุผล
2.ตัวเลข
3.การคิดแบบนามธรรม
4.การคิดเป็นเส้นตรง
5.การวิเคราะห์
6.ไม่ใช้การจินตนาการ
7.การคิดแบบต่อเนื่องตามลำดับ
8.วัตถุวิสัย
9.คำพูด
สมองซีกขวา [Right cerebral hemisphere]
ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายซีกซ้าย และเรื่องที่เกี่ยวกับ 1. สหัชญาน(ไม่เกี่ยวกับเหตุผล) 2.การอุปมาอุปมัย, 3.การคิดแบบรูปธรรม, 4. การคิดอิสระไม่เป็นเส้นตรง, เห็นภาพทั้งหมด, 5.การสังเคราะห์, 6.การใช้จินตนาการ, 7. การคิดไม่เป็นไปตามลำดับ มีความหลากหลายเชื่อมต่อหลายมุม หรือมีมิติสัมพันธ์, 8.อัตวิสัย, 9.สิ่งที่ไม่ต้องใช้คำพูด, เห็นเป็นภาพ
สมองน้อย [Cerebellum]
ทำหน้าที่การทรงตัว การประสานงานของกล้ามเนื้อ
ก้านสมอง [Brain stem]
เป็นทางผ่านของเส้นประสาทที่นำคำสั่งจากสมองไปยังร่างกาย นอกจากนั้นยังควบคุมการหายใจ ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ
จากข้อมูลข้างต้น คนที่ถนัดด้านซ้าย ก็จะได้เปรียบเริ่องการพัฒนาสมองซีกขวาได้ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับการสร้างจินตนาการ หรือสร้างจินตภาพ ซึ่งจะได้เปรียบในเรื่องของความคิดที่เป็นอิสระไม่ต้องใช้เหตุผล
คนมีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนที่ถนัดมือซ้ายนั้น มีการพัฒนาสมองซีกขวา เพราะใช้สติปัญญาความคิดสร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันเมื่อมีดีก็ต้องมีด้อย เพราะถ้าหากเป็นนักกีฬาแล้ว เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่หนียวแน่น อดทนในการเล่นเกมที่ต้องใช้ระยะเวลานานๆ ผลจากการใช้สมองซีกขวาที่เริ่มอ่อนล้า การตีลูกที่เคยแม่นยำด้วยการมโนภาพ ก็จะมีอาการตีลูกเสียให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง อีกประการหนึ่งร่างกายด้านซ้ายของคนเรานั้น ตามปกติเป็นที่ตั้งของหัวใจ การเคลื่อนไหวออกกำลังสำหรับคนที่ถนัดมือซ้าย จึงเป็นไปได้ว่ามีผลทำให้หัวใจที่อยู่ด้านเดียวกันได้รับการกระทบกระเทือนมากกว่า เป็นผลทำให้หัวใจต้องทำงานหนัก เหนื่อยง่ายเร็วกว่า และหากเล่นกีฬาแบบหนักๆไปนานๆน่าจะมีผลเรื่องแก่เร็ว และผลกระทบทางสมองอีกด้วย ซึ่งเรามักจะเห็นกันบ่อยๆว่า นักกีฬามวยที่มีชื่อเสียงมักถนัดมือซ้าย แต่เป็นโรคทางสมอง นอกจากนี้ในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ในการเล่นจะต่างจากคนที่ถนัดมือขวา โดยมักจะแสดงอาการดีใจ เสียใจ หรือแสดงความโกรธ ก้าวร้าวออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักกีฬาแถบยุโรปหรืออเมริกาส่วนใหญ่นั้นจะถนัดมือซ้าย

สำหรับคนที่ถนัดด้านขวาก็จะมีการพัฒนาสัมพันธ์กับสมองซีกซ้าย เพราะใช้สั่งงานบ่อย จึงพบได้บ่อยๆว่า นักกีฬามือขวาจะควบคุมอุปกรณ์การเล่นได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะกีฬาประเภทแร็กเกต เช่นแบดมินตัน เทนนิสนั้น ในการเล่นจะต้องมีการกะระยะ ทิศทาง ตำแหน่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสมองซีกซ้ายจะสั่งงานเกี่ยวกับการคาดคะเนต่างๆ การคำนวณกะระยะ ในการแข่งขันที่ยาวนาน ซึ่งต้องใช้สมาธิ ความอดทน และใช้พลังงาน คนมือขวาคงได้เปรียบที่หัวใจไม่ได้อยู่ด้านขวามือ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นแนวคิดในการพัฒนาสมองทั้งสองซีกให้ใช้งานผสานกันได้อย่างเหมาะสมในการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆในการดำเนินชีวิตทั่วไป ซึ่งหากทำได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมีมากกว่าคนที่ฝึกการใช้สมองเพียงซีกเดียวอย่างแน่นอน
ดูเพิ่มเติม
v
v
v
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.rsubba.com/
ระหว่างถนัดมือซ้าย กับ ถนัดมือขวา ถนัดข้างไหนดีกว่ากัน ?
คนเราก็มาก็เกิดมาก็ต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว เมื่อเริ่มหัดเขียนหนังสือคนส่วนใหญ่มักจะถูกให้เขียนด้วยมือขวา เพราะคนส่วนใหญ่มักจะถนัดขวากันเป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งก็มีส่วนน้อยที่ถนัดมือซ้าย โดยมีสิ่งสำคัญคือ เปรียบเทียบ ถนัดซ้าย หรือ ถนัดขวา แบบไหนดีกว่ากัน ระบบประสาทสั่งงาน ที่รับคำสั่งมาจากสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาของคนเรา ให้มีปฏิสัมพันธ์กับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทั้งนี้สมองของคนเราแบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่
สมองซีกซ้าย [ Left cerebral hemisphere]
ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายซีกขวา และเรื่องที่เกี่ยวกับ
1.สติปัญญาแบบเหตุผล
2.ตัวเลข
3.การคิดแบบนามธรรม
4.การคิดเป็นเส้นตรง
5.การวิเคราะห์
6.ไม่ใช้การจินตนาการ
7.การคิดแบบต่อเนื่องตามลำดับ
8.วัตถุวิสัย
9.คำพูด
สมองซีกขวา [Right cerebral hemisphere]
ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายซีกซ้าย และเรื่องที่เกี่ยวกับ 1. สหัชญาน(ไม่เกี่ยวกับเหตุผล) 2.การอุปมาอุปมัย, 3.การคิดแบบรูปธรรม, 4. การคิดอิสระไม่เป็นเส้นตรง, เห็นภาพทั้งหมด, 5.การสังเคราะห์, 6.การใช้จินตนาการ, 7. การคิดไม่เป็นไปตามลำดับ มีความหลากหลายเชื่อมต่อหลายมุม หรือมีมิติสัมพันธ์, 8.อัตวิสัย, 9.สิ่งที่ไม่ต้องใช้คำพูด, เห็นเป็นภาพ
สมองน้อย [Cerebellum]
ทำหน้าที่การทรงตัว การประสานงานของกล้ามเนื้อ
ก้านสมอง [Brain stem]
เป็นทางผ่านของเส้นประสาทที่นำคำสั่งจากสมองไปยังร่างกาย นอกจากนั้นยังควบคุมการหายใจ ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ
จากข้อมูลข้างต้น คนที่ถนัดด้านซ้าย ก็จะได้เปรียบเริ่องการพัฒนาสมองซีกขวาได้ดีกว่า จึงเหมาะสำหรับการสร้างจินตนาการ หรือสร้างจินตภาพ ซึ่งจะได้เปรียบในเรื่องของความคิดที่เป็นอิสระไม่ต้องใช้เหตุผล
คนมีชื่อเสียงระดับโลกหลายคนที่ถนัดมือซ้ายนั้น มีการพัฒนาสมองซีกขวา เพราะใช้สติปัญญาความคิดสร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันเมื่อมีดีก็ต้องมีด้อย เพราะถ้าหากเป็นนักกีฬาแล้ว เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่หนียวแน่น อดทนในการเล่นเกมที่ต้องใช้ระยะเวลานานๆ ผลจากการใช้สมองซีกขวาที่เริ่มอ่อนล้า การตีลูกที่เคยแม่นยำด้วยการมโนภาพ ก็จะมีอาการตีลูกเสียให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง อีกประการหนึ่งร่างกายด้านซ้ายของคนเรานั้น ตามปกติเป็นที่ตั้งของหัวใจ การเคลื่อนไหวออกกำลังสำหรับคนที่ถนัดมือซ้าย จึงเป็นไปได้ว่ามีผลทำให้หัวใจที่อยู่ด้านเดียวกันได้รับการกระทบกระเทือนมากกว่า เป็นผลทำให้หัวใจต้องทำงานหนัก เหนื่อยง่ายเร็วกว่า และหากเล่นกีฬาแบบหนักๆไปนานๆน่าจะมีผลเรื่องแก่เร็ว และผลกระทบทางสมองอีกด้วย ซึ่งเรามักจะเห็นกันบ่อยๆว่า นักกีฬามวยที่มีชื่อเสียงมักถนัดมือซ้าย แต่เป็นโรคทางสมอง นอกจากนี้ในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ในการเล่นจะต่างจากคนที่ถนัดมือขวา โดยมักจะแสดงอาการดีใจ เสียใจ หรือแสดงความโกรธ ก้าวร้าวออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักกีฬาแถบยุโรปหรืออเมริกาส่วนใหญ่นั้นจะถนัดมือซ้าย
สำหรับคนที่ถนัดด้านขวาก็จะมีการพัฒนาสัมพันธ์กับสมองซีกซ้าย เพราะใช้สั่งงานบ่อย จึงพบได้บ่อยๆว่า นักกีฬามือขวาจะควบคุมอุปกรณ์การเล่นได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะกีฬาประเภทแร็กเกต เช่นแบดมินตัน เทนนิสนั้น ในการเล่นจะต้องมีการกะระยะ ทิศทาง ตำแหน่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสมองซีกซ้ายจะสั่งงานเกี่ยวกับการคาดคะเนต่างๆ การคำนวณกะระยะ ในการแข่งขันที่ยาวนาน ซึ่งต้องใช้สมาธิ ความอดทน และใช้พลังงาน คนมือขวาคงได้เปรียบที่หัวใจไม่ได้อยู่ด้านขวามือ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ น่าจะเป็นแนวคิดในการพัฒนาสมองทั้งสองซีกให้ใช้งานผสานกันได้อย่างเหมาะสมในการทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆในการดำเนินชีวิตทั่วไป ซึ่งหากทำได้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมีมากกว่าคนที่ฝึกการใช้สมองเพียงซีกเดียวอย่างแน่นอน
ดูเพิ่มเติม
v
v
v
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้