กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผมปรารถนาเอาไว้ว่าจะตั้งกระทู้ที่แชร์ แบ่งปัน แลกเปลี่ยน ข้อคิดในเชิงพุทธศาสนา วันละ1กระทู้ จนถึงวันเกิดของผม ขอความร่วมมือในการตอบกระทู้อย่างสร้างสรรด้วยครับ
เมื่อวานนี้ผมเขียนเรื่องอาม่า วันนี้ผมจะมาต่อเรื่องคุณย่าแท้ๆของผมเองซึ่งมันออกจะเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำอธิบายไม่ได้ซักหน่อย
ในหมู่สังคญาติของผมนั้นฝั่งพ่อแบ่งเป็น2สายคือ ฝั่งปู่แท้ๆกับฝั่งย่าแท้ๆ ฝั่งปู่เป็นตระกูลเศรษฐีที่ดิน ทำสวนทำนา มีที่ดินหลายร้อยไร่ภาษี (ทางเหนือ คำว่าไร่ หมายถึงแปลงนาที่ล้อมรอบด้วยคันนาเป็นสี่เหลี่ยม เรียกว่า1ไร่ ส่วนไร่ที่เราๆท่านๆใช้บอกปริมาณที่ดินนั้นเรียกว่าไร่ภาษี) ซึ่งสมัยก่อนพ่อบอกว่าตระกูลผมถือว่ารวยแต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วเพราะลูกหลานเยอะ แบ่งกันเป็นทอดๆ ก็เหลือคนละไม่เท่าไหร่ ซ้ำยังเป็นที่นาขายไปก็ไม่ได้ราคา ส่วนฝั่งย่าผมเป็นพ่อค้า ทำมาค้าขาย คือเป็นเจ้าของตลาด ทำให้สายนี้เก่งค้าขาย ซึ่งทั้ง2สายนั้นไม่ถูกกัน
ปู่แท้ๆของผมนั้นเป็นคนแหกคอกคือ แกทำมาค้าขายเก่งเจอกับย่าผมแล้วแต่งงานกัน ทำมาค้าขายจนร่ำรวยเรียกว่า ซื้อบ้านได้2-3หลังและซื้อที่นาได้ แต่ปู่ของผมก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยโรคประจำตระกูลฝั่งพ่อ คือมะเร็งปอด (ฝั่งแม่ผมมีโรคประจำตระกูลคือ โรคตับอันเนื่องมาจากสุรา) พ่อบอกว่า ปู่มีเงินถึงขนาดเอาตัวเองไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ พอเสียก็มีเงินคนศพกลับ แล้วซื้อที่ในวัดดังของเชียงใหม่ไปไว้กระดูกอีกต่างหาก
ทำให้ย่าผมต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง และอีกสิ่งที่ติดมากับตระกูลสายย่าคือ เป็นนักพนัน พ่อบอกว่าย่าค้าขายเก่งจนขนาดที่ว่า เอาแค่เงินกำไรจากการขายสินค้าในแต่ละวันไปเล่นไพ่ได้ โดยไม่กระทบกับเศรษฐกิจในครอบครัว ตอนเด็กๆย่าแท้ๆของผมก็เอาผมไปเลี้ยงในวงไพ่มาแล้ว
ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้รู้ว่าย่าของผมนั้น ก็ขายของอย่างเดียว ยิ่งช่วงวัดมีงานอะไรยิ่งขายของได้มาก ทำให้ย่าของผมได้แต่ฝากเงินไปทำบุญ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนบ่ายวันหนึ่งย่าผมหลับไป ฝันว่าได้ไปสวรรค์ ในฝันนั้น มีเทวดามาแนะนำว่านี่คือวิมาณของย่าผม เพราะทำบุญให้วัดทั้งโบสถ์ วิหาร ศาลา มากมาย แต่ในฝันนั้นย่าผมรู้สึกหิวขึ้นมา เลยขอกินข้าว เทวดานั้นบอกว่า ย่าผมไม่มีข้าว เพราะไม่เคยทำบุญด้วยอาหารเลย มีแต่เกลือถุงหนึ่ง พอตื่นมาย่าผมสงสัยว่า ทำไมถึงมีเกลือแค่ถุงเดียว สรุปคือ วันหนึ่งที่มีการทำแกงถวายวัด มีคนมาขอซื้อเกลือ1ถุงแต่ไม่มีเงิน ย่าผมก็เลยให้ฟรีบอกว่าใหห้ถือว่าช่วยทำบุญ พอคิดได้แบบนั้น ตั้งแต่นั้นมาย่าผมนอกจากจะทำบุยด้วยปัจจัยแล้วยังถวายอาหารแก่พระสงฆ์เสมอ
ปัจจุบันย่าผมก็ตายมาหลายปีแล้ว ด้วยโรคประจำตระกูลคือมะเร็งปอด เพราะสมัยก่อน ชอบสูบยาเส้นแบบพื้นเมืองมาก และมีเรื่องน่าสังเวชอย่างหนึ่งคือ ตอนที่แกเสีย มีแค่แม่ผม ที่ย่าผมไม่ชอบขี้หน้าที่สุดในหมู่สะใภ้มาคอยดูแลและอาบน้ำศพให้ ส่วนลูกๆและสะใภ้คนอื่นกลับไม่อยู่เลยซักคนในตอนนั้น
เรื่องของคุณย่า
เมื่อวานนี้ผมเขียนเรื่องอาม่า วันนี้ผมจะมาต่อเรื่องคุณย่าแท้ๆของผมเองซึ่งมันออกจะเป็นเรื่องลึกลับที่หาคำอธิบายไม่ได้ซักหน่อย
ในหมู่สังคญาติของผมนั้นฝั่งพ่อแบ่งเป็น2สายคือ ฝั่งปู่แท้ๆกับฝั่งย่าแท้ๆ ฝั่งปู่เป็นตระกูลเศรษฐีที่ดิน ทำสวนทำนา มีที่ดินหลายร้อยไร่ภาษี (ทางเหนือ คำว่าไร่ หมายถึงแปลงนาที่ล้อมรอบด้วยคันนาเป็นสี่เหลี่ยม เรียกว่า1ไร่ ส่วนไร่ที่เราๆท่านๆใช้บอกปริมาณที่ดินนั้นเรียกว่าไร่ภาษี) ซึ่งสมัยก่อนพ่อบอกว่าตระกูลผมถือว่ารวยแต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วเพราะลูกหลานเยอะ แบ่งกันเป็นทอดๆ ก็เหลือคนละไม่เท่าไหร่ ซ้ำยังเป็นที่นาขายไปก็ไม่ได้ราคา ส่วนฝั่งย่าผมเป็นพ่อค้า ทำมาค้าขาย คือเป็นเจ้าของตลาด ทำให้สายนี้เก่งค้าขาย ซึ่งทั้ง2สายนั้นไม่ถูกกัน
ปู่แท้ๆของผมนั้นเป็นคนแหกคอกคือ แกทำมาค้าขายเก่งเจอกับย่าผมแล้วแต่งงานกัน ทำมาค้าขายจนร่ำรวยเรียกว่า ซื้อบ้านได้2-3หลังและซื้อที่นาได้ แต่ปู่ของผมก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยโรคประจำตระกูลฝั่งพ่อ คือมะเร็งปอด (ฝั่งแม่ผมมีโรคประจำตระกูลคือ โรคตับอันเนื่องมาจากสุรา) พ่อบอกว่า ปู่มีเงินถึงขนาดเอาตัวเองไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ พอเสียก็มีเงินคนศพกลับ แล้วซื้อที่ในวัดดังของเชียงใหม่ไปไว้กระดูกอีกต่างหาก
ทำให้ย่าผมต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง และอีกสิ่งที่ติดมากับตระกูลสายย่าคือ เป็นนักพนัน พ่อบอกว่าย่าค้าขายเก่งจนขนาดที่ว่า เอาแค่เงินกำไรจากการขายสินค้าในแต่ละวันไปเล่นไพ่ได้ โดยไม่กระทบกับเศรษฐกิจในครอบครัว ตอนเด็กๆย่าแท้ๆของผมก็เอาผมไปเลี้ยงในวงไพ่มาแล้ว
ด้วยเหตุผลที่ว่าทำให้รู้ว่าย่าของผมนั้น ก็ขายของอย่างเดียว ยิ่งช่วงวัดมีงานอะไรยิ่งขายของได้มาก ทำให้ย่าของผมได้แต่ฝากเงินไปทำบุญ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนบ่ายวันหนึ่งย่าผมหลับไป ฝันว่าได้ไปสวรรค์ ในฝันนั้น มีเทวดามาแนะนำว่านี่คือวิมาณของย่าผม เพราะทำบุญให้วัดทั้งโบสถ์ วิหาร ศาลา มากมาย แต่ในฝันนั้นย่าผมรู้สึกหิวขึ้นมา เลยขอกินข้าว เทวดานั้นบอกว่า ย่าผมไม่มีข้าว เพราะไม่เคยทำบุญด้วยอาหารเลย มีแต่เกลือถุงหนึ่ง พอตื่นมาย่าผมสงสัยว่า ทำไมถึงมีเกลือแค่ถุงเดียว สรุปคือ วันหนึ่งที่มีการทำแกงถวายวัด มีคนมาขอซื้อเกลือ1ถุงแต่ไม่มีเงิน ย่าผมก็เลยให้ฟรีบอกว่าใหห้ถือว่าช่วยทำบุญ พอคิดได้แบบนั้น ตั้งแต่นั้นมาย่าผมนอกจากจะทำบุยด้วยปัจจัยแล้วยังถวายอาหารแก่พระสงฆ์เสมอ
ปัจจุบันย่าผมก็ตายมาหลายปีแล้ว ด้วยโรคประจำตระกูลคือมะเร็งปอด เพราะสมัยก่อน ชอบสูบยาเส้นแบบพื้นเมืองมาก และมีเรื่องน่าสังเวชอย่างหนึ่งคือ ตอนที่แกเสีย มีแค่แม่ผม ที่ย่าผมไม่ชอบขี้หน้าที่สุดในหมู่สะใภ้มาคอยดูแลและอาบน้ำศพให้ ส่วนลูกๆและสะใภ้คนอื่นกลับไม่อยู่เลยซักคนในตอนนั้น