ทำไมทุกวันนี้ ดร. (ด๊อกเตอร์) ถึงจบกันง่ายจัง เกลื่อนไปหมด

กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักทุกท่านครับ
         สืบเนื่องมาจากผมจบ ป.ตรีใหม่ๆ ก็ยังมีเรื่องสงสัยครับ ผมเรียนสาขา การแสดง เลยอาจจะมีมุมมองที่แปลกๆหากไม่ถูกใจต้องขออภัยด้วยนะครับ

ประเด็นคือว่า
         ผมเรียนมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ผมจบมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3นิดๆ ช่วงที่ผมเรียนผมได้มีโอกาสเข้าเรียนกับผู้สอนที่สอนผมในวิชาอื่น เช่น คอมพิวเตอร์ , แล็บเคมี, และการแสดง ซึ่งมี ดร.มาสอนผมทุกครั้งที่เขาสอนผมนั้นมีเรื่องที่ผม คาใจ

เริ่มจาก ดร.ท่านแรก ผมเรียนกับท่านวิชา คอมพิวเตอร์... ระหว่างที่ผมเรียนผมก็เรียนกับเครื่องฝั่ง Windows ธรรมดา แต่ อ.ท่านใช้แม็คบุ้คแอร์ และทุกครั้งที่ท่านสอนท่านจะให้ผมเซ็ทโปรเจคเตอร์ให้ตลอด ผมก็ถามว่าทำไมอาจารย์ไม่ใช้เครื่องธรรมดาครับเข้ากับบรรยากาศแล็บในห้องเรียนท่านก็ มองค้อนๆพร้อมแสดงท่าทาง แบบคนมีภูมิปัญญาสูงก็ว่าได้ครับ "ถ้าผมถนัดแม๊คอินทอช แลล้วไปทำเครื่องแบบนั้น ก็เก้ๆกังๆสิครับผมเรียนมาก็ใช้แม็คตลอด" ผมก็ตอบท่านว่า "เข้าใจแล้วครับ"  แล้วทุกครั้งผมก็ต้องรีบมาเซ็ทเครื่องให้ท่าน ผมนะใช้เป็นเพราะพ่อผมมีแล็บคอมไว้ทำงานกิจการร้านรูปถ่ายแห่งหนึ่งครับ และถ้าวันไหนผมไม่ได้มาเรียน วันนั้น อ.จะแจกชีท แล้วให้ทำลงสมุด บอก นศ.ว่าโปรเจคเตอร์หลอดหมดอายุกลัวเสียสายตา ผมก็มีบางโอกาสที่เพื่อนนำมาเล่าแล้วขำกันนะครับ อย่างเช่นเรียนโปรแกรมเพจว่า MS.Word บ้าง ตอนเขามาสอนห้องแล็บ Mac เขาก็มั่นใจเต็มคำว่าให้นศ.เปิด Powerpoint ซึ่ง 80% หาไม่เจอเพราะห้องแล็บลงไว้แค่ Keynote ประเด็นนี้ ไม่ทราบว่าจบ ดร.มาได้ไงมั่วมาก แถมเถียงแบบพวก ซูเปอร์อีโก้ มากๆ

ท่านที่2 สอนวิชาภาษา อ.ท่านนี้น่ารักดี มาตีสนิทผมในช่วงหนึ่งที่ผมสอบโทอิคได้ 7xx ครับ ชวนทานข้าวทุกวันและผมก็สนิทไปพักนึง อ.จบ ดร.มาจากสถาบันที่มีประวัติยาวนาน แถวๆที่มีรถไฟฟ้า BTS ทะลุโซน Tokyo อ.ท่านนี้เขาจะเฟรนด์ลี่ครับ ทุกครั้งที่มี นศ.ทำวิทยานิพน หรือโปรเจ็คทุกอย่างท่านจะเรียกผมไปที่สำนักคณะ จากนั้นก็จ้างให้ผมตรวจความถูกต้องการใช้ภาษาอังกฤษที่บทคัดย่อ และที่อื่นๆ ทุกครั้งผมจะได้การทำงานที่ภาษาใต้เรียกว่า "ออกปาก" ภาษากลางก็คง "ขอความช่วยเหลือ" หรือง่ายๆ งานการกุศลงานฟรี แต่ผมก็ยินดีทำนะครับถ้าผมไม่สืบทราบภายหลังว่าท่าน นำที่ผมตรวจไปเรียกค่าตรวจและแก้ไขความถูกต้องกับรุ่นพี่ และเพื่อนคนอื่นเป็นรายเล่มละ 200 บาท แต่กระนั้น มีงานวิชาการขึ้น ทางสำนักโดนเล่น เรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ ถามว่าเล่นอย่างไร ก็ท่านอ.ดร. ได้ให้ผมทำให้แต่ผมไม่ได้อ่านสไกฟ์ และผมป่วย ท่านเลยทำเองพร้อมติดไว้บนเวทีเรียบร้อย  ทางอธิการแย้งมาว่า "ภาษาอังกฤษง่ายๆทำไมมันแย่แบบนี้" ผมโดนเพื่อนๆขำกันทุกคนว่า อ.ท่านนั้นบอกว่าผมเองที่เขียนให้เขาไปทำป้ายมาแปะ ผมเคืองมาก ภายหลังผมก็เลยมาลองใจท่านดูด้วยการเอาคำยากๆมาเนียนแกล้งทำเป็นอ่านไม่ออกครับ รู้ไหม ท่านมั่วกว่าผมอีก ประเด็นนี้จึงอยากถามว่าการเป็น ดร.หรือผู้สำเร็จปริญญาเอก เรียกว่าสูงสุดในปริญญา ภาษาอังกฤษน่าจะสำคัญนะครับ แต่ไฉนเลย กลับมั่วๆซั่วมากมาย หรือเราคิดเองก็ไม่ทราบเกล้า

ท่านที่3 จบปริญญาตรจากสถาบันเอกชนย่านบางเขน จบป.โทก็เช่นกัน จากนั้นมาสอนผมที่มหาลัยช่วงนั้นท่านเรียน ป.เอกอยู่ที่ มหาลัยรัฐชื่อดังครับ ระหว่างเรียนท่านก็คงมาสอนผมที่มหาลัย ระหว่างสอนท่านก็เที่ยวดูถูกสถาบันการศึกษาอื่นเช่น แถวบางเขน แถวร่มเกล้า แถวสะพานใหม่ โดยเฉพาะบางเขนที่ท่านจบมา สารพัดความแย่ยำ ท่านเล่าหมด เรียกว่าดูถูกสถาบันเอกชนก็ว่าได้ แต่ท่านคงไม่รู้ว่าผมก็ทราบ ว่าทุกคนก็ทราบว่าท่านจบจากที่นั่น แต่ก็ยังคงดูถูกคนอื่นว่าตนเองเรียนสถาบันดีเลิศหรูหะรา นินทาเจ้านายสารพัดให้ นศ.ฟังแต่นั้นก็ยังไม่เท่ากับการที่เขา  ไม่ได้เรื่องเลยในสายตาผมโดยเฉพาะ กรณีการสอนคอมพิวเตอร์ในการตัดต่องานของเขา สอนได้แย่มากไม่น่าจะเรียน ดร.ได้ ใช้ภาษาอังกฤษได้ห่วยแตกมาก ผมยังติดใจคำว่าห้องทำงานที่ท่านใช้คำว่า Working Room บนวิดีโอนำเสนอ อ.ท่านอยู่คณะวิทย์คอมฯ แต่ไม่รู้ข่าวสารวิทยาการอะไรเลย วันๆนั่งเล่าแต่เรื่องที่เขาได้สอบเข้ามาเรียนที่มหาลัยรัฐแห่งนั้น อ.ท่านนั้นไม่รู้เรื่องท่านนี้โง่มาก ดูถูกคนอื่น จนเขาจบการศึกษา ได้มี ดร.นำหน้า ประเด็นนี้อยากทราบว่า สภาอนุมัติจบได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้งุๆปลาๆ มาสอนเด็กก็ไม่ตั้งใจ วิทยาการไม่ก้าวไกลแล้วจะพัฒนาใครได้

สรุปครับ ดร.ประเทศไทยสมัยนี้ เกลื่อนตลาดมาก มุมมองที่ผมเจอรอบข้าง "ไม่มีคุณภาพ" ถามว่าไม่มีอย่างไร ขณะนี้ผมกำลังเรียนอยู่เรื่องนี้ดูปีนเกลียวสำหรับผมไปสักนิดที่จะกล้ามาวิจารณ์คนที่จบระดับสูงกว่า แต่ผมว่าสิทธิ์ที่ผมควรจะได้รับความรู้ ไม่ใช่เพียงแค่จ้าง ดร.มาสอนผม ไม่ทราบว่าการจบ ดร. ต้องเก่งแค่เรื่องเดียวที่ลงเรียนแค่นั้นหรือ แล้วภาษาละอย่างน้อยภาษาอังกฤษเนี่ยไม่จำเป็นเลยหรือ ""ผมไม่รู้จริงๆว่าดร.ในความหมายคนอื่นเป็นอย่างไร แต่สำำหรับผมต้องเก่งจริงๆและต้องรอบรู้ และต้องมีความก้าหน้าศึกษาเทคโนโลยีและเรื่องสมัยใหม่อยู่เสมอ"" ไม่ใช่ผลิตบันฑิต เพื่อผลรายได้ของมหาวิทยาลัยเพื่อ รายได้ แค่นั้น เพราะประเทศต้องการบัณฑิตที่พัฒนาประเทศ ไม่ใชแค่นำคำ ดร. มาประดับบารมี ฝากสักนิด

เพราะผมนั้น สงสาร  ดร. ท่านที่ตั้งใจเรียน ตั้งใจศึกษา ตรากตรำเพื่อให้ตนเองเป็นผุ้มีความรู้มาพัฒนาประเทศอย่างจริงใจตั้งใจแบบเหนื่อยยากครับ

จะด่าผมก็ได้ แต่ผมคิดงี้จริงๆ  ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่