วันที่ 26 พย.58 เวลา 14.00 น.
จขกท. อยู่บ้านกำลังทำความสะอาดกรงน้องหมา
ได้ยินเสียงเครื่องจักรที่รั้ว เข้าใจว่าคนสวนของบริษัทที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งกำลังตัดหญ้า
จู่ๆ ก็เห็นควันสีขาวพุ่งข้ามกำแพงเข้ามาอย่างเร็ว
ตกใจรีบวิ่งไปดูพ่ออายุ 80 ปีที่นั่งอยู่ในบ้าน
ควันที่เห็น คือ การพ่นยาฉีดยุงจำนวนมาก มากขนาดเป็นกลุ่มควันสีขาวเต็มทางเดินไปหมด
ด้วยความเป็นห่วงหมาก็รีบวิ่งกลับมาดู กับแม่บ้าน
แต่ย้ายน้องหมา 10 ตัวไม่ทันค่ะ
ควันลอยมาเต็มแล้ว
จึงต้องวิ่งกลับมาที่บ้านของพ่อ
ก็เห็นกลุ่มควันกำลังเดินทางจากฝั่งสวนของบริษัทยา
กำลังพุ่งเข้ามาในบ้านแล้ว
ตามรูปที่เห็น
แป๊บเดียวเต็มบ้าน ซึ่งจขกท. กลั้นหายใจได้เป็นพักๆ
เลยมีโอกาสดมยาเข้าไปด้วย
รู้สึกโกรธมาก เพราะข้างบ้านเป็นบริษัทที่ชอบฉีดยากำจัดแมลง ก่อนที่จัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีทุกครั้ง
เคยเจรจาแล้วว่าขอให้แจ้งก่อนที่จะฉีด เพราะที่บ้านมีผู้สูงอายุคือ คุณพ่อและคุณแม่วัย 80 ปี และมีสัตว์เลี้ยงคือน้องหมาหลายตัว
ที่บ้านไม่ได้อยู่ห้องแอร์ตลอดเวลาเหมือนกับที่บริษัท
และบริเวณสวนก็ไม่ได้มีคนของบริษัทมาเดิน นอกจากพนักงานพ่นยาที่สวมชุดป้องกันตั้งแต่หัวจรดเท้า
คุยไปก็เท่านั้น จขกท. ต้องคอยสังเกตและระมัดระวังเอง
เลยโทรไปที่บริษัท ปรากฏว่าทางบริษัทปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ แต่ทางสาธารณสุขเป็นผู้เข้ามาพ่นยากำจัดยุงลาย เพื่อป้องกันการระบาดของไข้เลือดออก
จขกท.โทรไปที่เทศบาล ทาง จนท.สาธารณสุขแจ้งว่าไม่ได้มีการส่งพนักงานมาพ่นยาแต่อย่างใด คาดว่าบริษัทดังกล่าวจะจ้างเอกชนมาทำการเอง
โมโหมากๆ เลย ปรึกษากับน้องที่เป็นตำรวจว่าควรทำยังไง เขาเลยว่าจะมาตรวจดูให้ในวันรุ่งขึ้น
แต่วันศุกร์ 27 พย. มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโทรมาแจ้งว่าบอกผิด เป็นคนของสาธารณสุขที่เข้าไปฉีดพ่นยา เพราะมีการแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออก
มาให้ข้อมูลผิดๆ อย่างนี้ได้ไงคะ แล้วไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะพ่นยาด้วย โกรธจนไฟลุกเลยค่ะ
เลยขอเบอร์หัวหน้างานที่รับผิดชอบตรงจุดนี้ เขาก็ไม่ให้
แต่จะโทรกลับมาคุย
สักพักมีการโทรมา ขอโทษ และพูดว่าเจ้าหน้าที่ไปฉีดยากันยุงผิดที่ เพราะคนป่วยอยู่ในตำบลถัดไป
แล้วไง บ้าน จขกท.โดนเต็มๆ หลายนาทีเลย แค่คำขอโทษจากมือถือนี่นะ
เขาขอตรวจสอบอีกครั้งกับพนักงานก่อน
สี่โมงเย็น หัวหน้างานโทรมา บอกว่าทางเราได้ประชาสัมพันธ์ก่อนพ่นยากำจัดยุงลายแล้ว และเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องพ่นยาตรงนี้
พูดวนไปวนมาอยู่แค่นี้ค่ะ
ดิฉันไม่ได้ยินเสียงประกาศใดๆ ทั้งสิ้น เด็กที่บ้านและเพื่อนบ้านด้านหน้า ด้านซ้าย ก็ยืนยันว่าไม่ได้ยิน
พูดยังไงก็บอกอย่างเดิมว่า แจ้งแล้ว และเพื่อป้องกันไข้เลือดออก วนหลายรอบ
เลยบอกน้องตำรวจว่าไม่ต้องไปเจรจาแล้วกับบริษัทข้างบ้าน เพราะทางหน่วยงานราชการทำเอง
และบังเอิญมาลงบ้านดิฉันเต็มๆ
เกิดเหตุการณ์แบบนี้ควรดำเนินการอย่างไร
วันที่ 26 พย.58 เวลา 14.00 น.
จขกท. อยู่บ้านกำลังทำความสะอาดกรงน้องหมา
ได้ยินเสียงเครื่องจักรที่รั้ว เข้าใจว่าคนสวนของบริษัทที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งกำลังตัดหญ้า
จู่ๆ ก็เห็นควันสีขาวพุ่งข้ามกำแพงเข้ามาอย่างเร็ว
ตกใจรีบวิ่งไปดูพ่ออายุ 80 ปีที่นั่งอยู่ในบ้าน
ควันที่เห็น คือ การพ่นยาฉีดยุงจำนวนมาก มากขนาดเป็นกลุ่มควันสีขาวเต็มทางเดินไปหมด
ด้วยความเป็นห่วงหมาก็รีบวิ่งกลับมาดู กับแม่บ้าน
แต่ย้ายน้องหมา 10 ตัวไม่ทันค่ะ
ควันลอยมาเต็มแล้ว
จึงต้องวิ่งกลับมาที่บ้านของพ่อ
ก็เห็นกลุ่มควันกำลังเดินทางจากฝั่งสวนของบริษัทยา
กำลังพุ่งเข้ามาในบ้านแล้ว
ตามรูปที่เห็น
แป๊บเดียวเต็มบ้าน ซึ่งจขกท. กลั้นหายใจได้เป็นพักๆ
เลยมีโอกาสดมยาเข้าไปด้วย
รู้สึกโกรธมาก เพราะข้างบ้านเป็นบริษัทที่ชอบฉีดยากำจัดแมลง ก่อนที่จัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีทุกครั้ง
เคยเจรจาแล้วว่าขอให้แจ้งก่อนที่จะฉีด เพราะที่บ้านมีผู้สูงอายุคือ คุณพ่อและคุณแม่วัย 80 ปี และมีสัตว์เลี้ยงคือน้องหมาหลายตัว
ที่บ้านไม่ได้อยู่ห้องแอร์ตลอดเวลาเหมือนกับที่บริษัท
และบริเวณสวนก็ไม่ได้มีคนของบริษัทมาเดิน นอกจากพนักงานพ่นยาที่สวมชุดป้องกันตั้งแต่หัวจรดเท้า
คุยไปก็เท่านั้น จขกท. ต้องคอยสังเกตและระมัดระวังเอง
เลยโทรไปที่บริษัท ปรากฏว่าทางบริษัทปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ แต่ทางสาธารณสุขเป็นผู้เข้ามาพ่นยากำจัดยุงลาย เพื่อป้องกันการระบาดของไข้เลือดออก
จขกท.โทรไปที่เทศบาล ทาง จนท.สาธารณสุขแจ้งว่าไม่ได้มีการส่งพนักงานมาพ่นยาแต่อย่างใด คาดว่าบริษัทดังกล่าวจะจ้างเอกชนมาทำการเอง
โมโหมากๆ เลย ปรึกษากับน้องที่เป็นตำรวจว่าควรทำยังไง เขาเลยว่าจะมาตรวจดูให้ในวันรุ่งขึ้น
แต่วันศุกร์ 27 พย. มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโทรมาแจ้งว่าบอกผิด เป็นคนของสาธารณสุขที่เข้าไปฉีดพ่นยา เพราะมีการแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออก
มาให้ข้อมูลผิดๆ อย่างนี้ได้ไงคะ แล้วไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะพ่นยาด้วย โกรธจนไฟลุกเลยค่ะ
เลยขอเบอร์หัวหน้างานที่รับผิดชอบตรงจุดนี้ เขาก็ไม่ให้
แต่จะโทรกลับมาคุย
สักพักมีการโทรมา ขอโทษ และพูดว่าเจ้าหน้าที่ไปฉีดยากันยุงผิดที่ เพราะคนป่วยอยู่ในตำบลถัดไป
แล้วไง บ้าน จขกท.โดนเต็มๆ หลายนาทีเลย แค่คำขอโทษจากมือถือนี่นะ
เขาขอตรวจสอบอีกครั้งกับพนักงานก่อน
สี่โมงเย็น หัวหน้างานโทรมา บอกว่าทางเราได้ประชาสัมพันธ์ก่อนพ่นยากำจัดยุงลายแล้ว และเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องพ่นยาตรงนี้
พูดวนไปวนมาอยู่แค่นี้ค่ะ
ดิฉันไม่ได้ยินเสียงประกาศใดๆ ทั้งสิ้น เด็กที่บ้านและเพื่อนบ้านด้านหน้า ด้านซ้าย ก็ยืนยันว่าไม่ได้ยิน
พูดยังไงก็บอกอย่างเดิมว่า แจ้งแล้ว และเพื่อป้องกันไข้เลือดออก วนหลายรอบ
เลยบอกน้องตำรวจว่าไม่ต้องไปเจรจาแล้วกับบริษัทข้างบ้าน เพราะทางหน่วยงานราชการทำเอง
และบังเอิญมาลงบ้านดิฉันเต็มๆ